ใครที่มาญี่ปุ่นส่วนใหญ่ต้องมาลองซอฟท์ครีม (Soft Cream) ซึ่งเป็นไอศกรีมชนิดหนึ่งที่มีรสสัมผัสที่นุ่มเนียนกว่าไอศกรีมทั่วไป แถมมีปริมาณไขมันเพียง 3-6% เท่านั้น ใครที่กลัวอ้วนก็สามารถรับประทานได้ง่าย และในประเทศญี่ปุ่นเองก็มีซอฟท์ครีมจำหน่ายอยู่มากมายทั่วประเทศ แต่ละที่ก็มีเอกลักษณ์และรสชาติที่แตกต่างกันไป โดยรสชาติทั่วไปมักจะเป็นรสนม รสช็อกโกแลต เป็นต้น

แต่สำหรับวันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับซอฟท์ครีมสุดแปลกที่หากใครได้มาเที่ยวญี่ปุ่นล่ะก็ ขอท้าให้ลองสักครั้ง!

เมืองคานาซาว่า (Kanazawa) เป็นแหล่งผลิตทองคำเปลวหลักของประเทศญี่ปุ่น หรือคิดเป็นว่า 98% ของจำนวนทองคำเปลวทั้งหมดในประเทศ เนื่องจากมีสภาพภูมิอากาศที่มีลักษณะเฉพาะจากตำแหน่งที่ตั้งริมชายฝั่งทะเล มีอัตราแสงแดดต่ำ และมีฝนตกมากจนทำให้มีความชื้นสูง ซึ่งเหมาะกับการผลิตทองคำเปลวที่ไม่ชอบอากาศแห้ง เพราะจะทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตได้ง่าย จนทำให้ทองคำเปลวกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของเมืองนี้

ปัจจุบันทางเมืองได้มีการดัดแปลงทองคำเปลวมาใช้กับผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อสร้างจุดขาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง สาเก ไปจนถึงขนมหวานหลากหลายชนิด รวมถึงซอฟท์ครีมที่มีการนำแผ่นทองคำเปลวมาหุ้มไว้อย่างสุดแปลก ซึ่งสามารถหาทานได้ตามจุดท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปราสาทคานาซาว่า (Kanazawa Castle) ไปจนถึงแหล่งผลิตทองคำเปลวดั้งเดิมอย่างย่านโรงน้ำชาฮิงาชิ ชายะ (Higashi Chaya District)

เมืองคุราชิกิ (Kurashiki) จังหวัดโอคายาม่า (Okayama) นั้นเป็นแหล่งเพาะปลูกฝ้ายสำคัญ จนนำมาสู่การเป็นแหล่งผลิตเสื้อผ้าจากฝ้ายที่โด่งดังมากว่า 300 ปี จนกระทั่งวัฒนธรรมกางเกงยีนส์ได้เริ่มเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่น จึงได้มีการคิดค้นวิธีการย้อมสีครามสไตล์ญี่ปุ่นที่เรียกว่า "โซเมะ" (Some) และนำมาใช้กับการผลิตผ้าเดนิมซึ่งนำมาใช้ผลิตกางเกงยีนส์ในเมืองนี้ บวกกับขั้นตอนการผลิตและตัดเย็บที่ประณีต ทำให้ชื่อของเมืองคุราชิกินั้นโด่งดังไปทั่วโลกในฐานะเมืองที่ผลิตกางเกงยีนส์ที่ดีที่สุดในโลก

ด้วยสาเหตุนี้เอง จุดขายหลักของเมืองจึงมักเป็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับเดนิมหรือกางเกงยีนส์ โดยหนึ่งในเมนูสุดแปลกที่จะพบเมื่อเดินไปตามถนนสายเดนิม หรือ Kurashiki Denim Street ภายในเมือง ก็คือซอฟท์ครีมสีเดนิม แต่ไม่กังวลว่ารสชาติจะไม่อร่อย เพราะที่จริงแล้วนั้นตัวซอฟท์ครีมทำมาจากกนมผสมกับบลูเบอร์รี่และเลม่อนโซดา จนทำให้มีสีอมฟ้าคล้ายกับกางเกงยีนส์เท่านั้น

จังหวัดคางาวะ (Kagawa) เป็นแหล่งผลิตเส้นอุด้งที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่น โดยมีจุดเด่นตรงที่มีรสสัมผัสเหนียวนุ่มเป็นเอกลักษณ์ และมีชื่อเรียกเฉพาะว่า "ซานุกิ อุด้ง" (Sanugi Udon) และยังถือเป็นบ้านเกิดของเมนูอุด้งในประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นจังหวัดแรกที่ได้รับการถ่ายทอดเมนูนี้มาจากประเทศจีน ก่อนที่จะแพร่กระจายและเป็นหนึ่งในเมนูที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมไปทั่วประเทศญี่ปุ่น

ภายในตัวเมืองคางาวะนั้นนอกจากจะเต็มไปด้วยร้านขายอุด้งแล้ว บริเวณถนนศาลเจ้าโคโตฮิรากุ (Kotohiragu Shrine) ยังมีร้านขายซอฟท์ครีมอุด้ง ซึ่งมีหน้าตาคล้ายกับเมนูอุด้งจริงๆ โดยใช้ตัวซอฟท์ครีมแทนเส้นอุด้ง และโปะหน้าด้วยโชยุและต้นหอม อาจจะเรียกได้ว่าเป็นการได้กินทั้งอาหารคาวและหวานพร้อมกันในคราวเดียวเลย

นอกจากนี้ ยังมีซอฟท์ครีมอีกประเภทที่มีสีสันพาสเทลก็คือซอฟท์ครีมโออิริ (Oiri Softcream) คือขนมท้องถิ่นลูกกลมเล็กๆ ในจังหวัดคางาวะ เนื้อสัมผัสกรอบและบางเบา และละลายในปาก จึงสามารถรับประทานคู่กับซอฟท์ครีมได้เป็นอย่างดี ใครที่ได้มาเยือนจังหวัดคางาวะล่ะก็ขอแนะนำให้ลองทั้งสองแบบเลย

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจังหวัดคางาวะ

เมื่อพูดถึงฮอกไกโด (Hokkaido) นอกจากจะนึกถึงหิมะและสกีในฤดูหนาวแล้ว ก็ยังมีความสดใสและสีสันของทุ่งดอกไม้ที่สวยงามในฤดูร้อน โดยในฟาร์มดอกไม้ต่างๆ ในเมืองฟุราโนะ เช่นฟาร์มโทมิตะที่หลายคนรู้จักกันดีนอกจากจะมีทุ่งลาเวนเดอร์ที่สวยงามอลังการแล้ว ยังมีมุมจำหน่ายซอฟท์ครีมลาเวนเดอร์ที่มีสีม่วงอ่อน รสสัมผัสนุ่มละมุนลิ้น และหอมกลิ่นดอกลาเวนเดอร์จริงๆ และยังเข้ากับบรรยากาศของฤดูร้อนอย่างที่สุด

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภูมิภาคฮอกไกโด
・รวมจุดชมซากุระในฮอกไกโด
・10 ที่เที่ยวเด่นเดือนเมษายนในฮอกไกโด
・แนะนำ 5 ออนเซ็นบนเกาะฮอกไกโด
・รู้รอบเรื่องซัปโปโรและฮอกไกโด

จังหวัดนากาโน่ (Nagano) เป็นแหล่งปลูกถั่วเหลืองขนาดใหญ่และเป็นหนึ่งในสามจังหวัดที่ผลิตมิโสะมากที่สุดในญี่ปุ่น เมื่อพูดถึงมิโสะแล้ว หลายคนมักจะนึกถึงซุปมิโสะที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างแรก แต่หากมีโอกาสได้มาเยือนโรงงานผลิตมิโสะต่างๆ ภายในเมืองมัตสึโมโตะ (Matsumoto) ซึ่งนอกจากจะได้ชมขั้นตอนการผลิตมิโสะแบบดั้งเดิมแล้ว ยังมีโอกาสได้ชิมหลากหลายเมนูที่มีส่วนผสมของมิโสะอีกด้วย

ไม่ว่าจะเป็นผักดอกมิโสะ น้ำสลัดรสมิโสะ ไปจนถึงซอฟท์ครีมรสมิโสะ ที่อาจฟังดูไม่น่าจะเข้ากันได้ แต่รสชาติเข้มข้นหวานมันบวกกับรสเค็มกำลังดีของมิโสะก็ทำให้หลายคนหลงรักเมนูนี้อย่างไม่น่าเชื่อ

จังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka) นั้นนอกจากจะมีชื่อเสียงในฐานะแหล่งผลิตชาชั้นดีของประเทศญี่ปุ่นแล้ว ยังเป็นแหล่งผลิตวาซาบิอันดับต้นๆ ของประเทศอีกด้วย เนื่องจากวาซาบินั้นเป็นพืชที่ต้องเติบโตในภูมิประเทศที่มีลักษณะเฉพาะมากๆ โดยต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีน้ำบริสุทธิ์ไหลผ่าน และต้องการสภาพแวดล้อมที่ชื้นแฉะและอุณหภูมิที่พอเหมาะ ซึ่งแม้แต่ในจังหวัดชิซุโอกะเองก็มีเพียงไม่กี่เมืองเท่านั้นที่สามารถปลูกวาซาบิได้

หนึ่งในนั้นก็คือเมืองอิซุ (Izu) เมืองตากอากาศชื่อดังที่เต็มไปด้วยอนเซ็นและวิวทะเลที่สวยงาม ที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์วาซาบิให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้ ไปจนถึงมีเมนูสุดแปลกอย่างซอฟท์ครีมรสวาซาบิ ที่ใครหลายคนที่เคยไม่ชอบทานวาซาบิมาก่อน ก็อาจจะยอมเปิดใจได้

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจังหวัดชิซุโอกะ

แม้ว่าหน้าตาภายนอกจะดูเหมือนซอฟท์ครีมทั่วไป แต่ไม่ธรรมดาเพราะมีรสชาติ "โชยุ"โดยซอฟท์ครีมรสโชยุนั้นเกิดจากการคิดค้นของบริษัท Ando Jyozo ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายซอสมิโสะ โชยุ รวมทั้งของดองชื่อดังของจังหวัดอากิตะ (Akita) มีจุดเด่นจากไม่ใช้การสารปรุงแต่งและวิธีการหมักอย่างธรรมชาติแบบดั้งเดิม

หากมีโอกาสได้เดินทางไปชมโรงงานของบริษัทแห่งนี้ ก็จะมีโอกาสได้ชิมซอฟท์ครีมสุดแปลกนี้ที่มีรสชาติและสีซอสโชยุแบบจางๆ รสชาติหวานๆ เค็มๆ ซึ่งกลายมาเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้เดินทางไปลิ้มลองด้วยตัวเองสักครั้ง

รายชื่อบทความที่เกี่ยวข้อง
・7 ไอติมที่...เพี้ยนเกินไป...

ผู้เขียน: ชินพงศ์ มุ่งศิริ
เริ่มต้นทำงานเป็นช่างภาพอิสระหลังเรียนจบ เดินทางไปถ่ายภาพที่ประเทศญี่ปุ่นบ่อยครั้งจนครบทั้ง 4 ฤดูอันสวยงาม และเกือบครบทุกภูมิภาค มีผลงานภาพถ่ายตีพิมพ์ในไกด์บุ๊คระดับโลกอย่าง Lonely Planet ถึง 3 เล่ม คือ Discovery Japan, Japan และ Kyoto รวมถึงเว็บไซต์ท่องเที่ยวชั้นนำอย่าง National Geographic Traveler UK, BBC Travel, Travel+Leisure, TIME และอีกมาก
นอกจากการถ่ายทอดความสวยงามของประเทศญี่ปุ่นผ่านภาพถ่าย ปัจจุบันยังหันมาถ่ายทอดเรื่องราวผ่านทางตัวอักษรทั้งในฐานะนักเขียนและนักแปลควบคู่กันไปอีกด้วย