All About Japan

8 ทิวทัศน์ที่ห้ามพลาดในฮอกไกโด

สวน สวนสาธารณะ เกาะ หอคอยชมวิว ธีมปาร์ค ดอกไม้ ชนบทญี่ปุ่น รู้ลึกเรื่องญี่ปุ่น เทศกาลฤดูร้อน รีสอร์ท Sapporo Hokkaido
8 ทิวทัศน์ที่ห้ามพลาดในฮอกไกโด

ฮอกไกโด ดินแดนแห่งทุ่งดอกไม้ ทิวทัศน์ที่คุณไม่สามารถหาได้ในเกาะฮอนชู คุณสามารถพบเห็นดอกไม้ได้แทบทุกหนทุกแห่ง ฤดูใบไม้ผลิคือทิวลิป ฤดูร้อนคือลาเวนเดอร์ ฤดูใบไม้ร่วงคือดอกคอสมอส นอกจากทิวทัศน์ตามธรรมชาติแล้ว ยังมีสวนและฟาร์มต่างๆที่ถูกจัดมาอย่างงดงาม รวมไปถึงการจัดนิทรรศการดอกไม้ประดิษฐ์ การชมดอกไม้จึงเป็นสิ่งที่ห้ามพลาดอย่างยิ่งเมื่อมาเยือนฮอกไกโด

เนินชมวิวโมโมอิวะบนเกาะเรบุน (Rebun)

เนินชมวิวโมโมอิวะบนเกาะเรบุน (Rebun)

เนินแห่งนี้ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเรบุน (Rebun) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่ออย่างมากด้านการชมดอกไม้ จนถูกขนานนามว่าเกาะสวรรค์ทุ่งดอกไม้ ที่แห่งนี้มีดอกไม้นานาพันธ์กว่า 300 ชนิด และมีดอกไม้ที่มีอยู่เพียงที่เดียวในญี่ปุ่นอย่างดอกเรบุนอะสึโมริโซ เรบุนคินบะอิโซ ฯลฯ ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นดอกไม้สงวนไปเรียบร้อย ตลอดทางเดินจะมีแท่นชมวิวที่จัดเตรียมไว้ให้ และในวันที่อากาศดีคุณจะเห็นภูเขาริชิริ (Mt. Rishiri) อยู่เบื้องหลังทุ่งดอกไม้แห่งนี้

- www.rebun-island.jp (อังกฤษ)

สวนลิลลี่ อนซุฮารุคะยามะ (Otaru)

สวนลิลลี่ อนซุฮารุคะยามะ (Otaru)

ใครที่เคยมาเล่นสกีที่โอตารุอาจจะจินตนาการไม่ออกก็เป็นได้ว่าลานสกีแห่งนี้พอหิมะละลายแล้วจะกลับกลายเป็นทุ่งดอกลิลลี่ที่งดงามได้ถึงขนาดนี้ เมื่อขึ้นไปบนยอดเขา คุณจะได้เห็นดอกลิลลี่บานสะพรั่ง รวมไปถึงทิวทัศน์ของอ่าวอิชิคาริยาวไปจนถึงเมืองซัปโปโร เรียกว่าที่นี่เป็นสวนดอกไม้ลอยฟ้าก็ว่าได้

สวนชิจิคุ (Obihiro)

สวนชิจิคุ (Obihiro)

บริเวณใจกลางทุ่งโทะคะจิเฮยะ (Tokachiheiya)ในเมืองโอบิฮิโระ (Obihiro) มีสวนชิจิคุ สถานที่ที่สะพรั่งไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ จนเกิดเป็นเส้นทางที่ถูกปกคลุมไปด้วยดอกไม้ จุดขายของสวนแห่งนี้คือ สวนที่จัดตามธีมต่างๆได้อย่างน่าสนใจอย่าง สวนสไตล์อังกฤษ หรือสระบัวที่เหมือนหลุดมาจากภาพวาดของโมเนต์ สวนแห่งนี้ยังเปิดให้บริการเป็นเวลานานเกือบตลอดทั้งปี ทำให้คุณสามารถแวะมาเมื่อไรก็ได้ตามที่ต้องการ

เนินเขาเซรุบุโนะโอะกะ(Kamikawa)

เนินเขาเซรุบุโนะโอะกะ(Kamikawa)

เมืองบิเอ (Biei) เป็นเมืองแห่งดอกไม้ที่มีจุดขายคือเนินเขาเซรุบุโนะโอะกะ(Zerubu no Oka) ซึ่งเต็มไปด้วยดอกไม้สีสันสดใสไม่ว่าจะเป็นดอกซัลเวีย ดอกพิทูเนีย หรือดอกแมร์รี่โกลด์ จนผู้คนพากันเรียกทุ่งแห่งนี้ว่า “งานผ้าลายดอกไม้” คุณสามารถเดินชมบรรยากาศชิวๆได้ หรือหากต้องการความความสะดวกสบาย ก็สามารถเสียค่าบริการเพิ่มเพื่อใช้บริการรถชมวิวได้ สวนแห่งนี้สามารถเข้าชมได้ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม

ฟาร์มลาเวนเดอร์โทมิตะ (Kamikawa)

ฟาร์มลาเวนเดอร์โทมิตะ (Kamikawa)

เมืองพูดถึงเมืองฟุราโนะแล้ว คนญี่ปุ่นทุกคนจะต้องคิดถึงดอกลาเวนเดอร์เป็นอันดับแรก แม้ว่าจะมีช่วงเวลาผลิบานสั้นๆคือตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคมเท่านั้น แต่กลับได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างล้นหลาม จนในหนึ่งปีมีผู้แวะมาเยี่ยมชมมากกว่าหนึ่งล้านคน ทุ่งดอกไม้สีม่วงยาวไปสุดลูกหูลูกตา ซึ่งนอกจากดอกลาเวนเดอร์แล้วยังมีดอกคอสมอส และดาห์เลียอีกด้วย ที่ไม่น่าเชื่อยื่งไปกว่านั้นคือสวนแห่งนี้ไม่ต้องเสียค่าเข้าชมแม้แต่เยนเดียว เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดในการชมดอกไม้

สวนสาธารณะสุซุรัน เนินแห่งสายลม(Sapporo)

สวนสาธารณะสุซุรัน เนินแห่งสายลม(Sapporo)

https://www.flickr.com/photos/daita/18035401405

สวนสาธารณะแห่งนี้ขึ้นชื่อในด้านความงามของทุ่งทิวลิปแห่งนี้ตั้งอยู่ในซัปโปโร ในบริเวณสวนหลัก หรือที่เรียกว่า “เนินแห่งสายลม” จะเต็มไปด้วยดอกทิวลิปในฤดูใบไม้ผลิ และดอกคอสมอสในฤดูใบไม้ร่วง นอกจากการชมดอกไม้แล้ว สวนแห่งนี้ยังกลายเป็นลานสกีในฤดูหนาวอีกด้วย

สวนดอกไม้ไดเซ็ทสึโมริ (Kamikawa)

สวนดอกไม้ไดเซ็ทสึโมริ (Kamikawa)

http://img.allabout.co.jp/gm/article/457059/141art.jpg

สวนแห่งนี่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านคามิคาวะ (Kamikawa) ทางตอนเหนือของเทือกเขาไทเซ็ทสึ (Taisetsu) ดอกไม้กว่า 700 สายพันธุ์ผลัดกันบานตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังมีแปลงดอกไม้กลางป่า(Mori no Hanazono) คาเฟ่กลางแจ้ง สถานที่จัดคอนเสิร์ตอย่าง “ห้องรับแขกกลางป่า”(Mori no Geihinkan) และที่ห้ามพลาดอย่างเด็ดขาดคือเนินที่สุดแสนจะสะดุดตาอย่าง Dress Garden KANTE หากใครไม่ได้ไปลองขึ้นดูเรียกว่ายังมาไม่ถึงสวนแห่งนี้เลยล่ะ

สวนสาธารณะยูริกาฮาระ (Sapporo)

สวนสาธารณะยูริกาฮาระ (Sapporo)

http://photozou.jp/photo/show/150113/9248232

สวนสาธารณะแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือจากใจกลางเมืองซัปโปโร สวนแห่งนี้มีดอกลิลลี่กว่า 100 สายพันธุ์เป็นจุดขาย นอกจากลิลลี่ก็ยังมีดอกไม้สีสันสดใสอย่าง ทิวลิป กุหลาบ ไลแลค ดาห์เรีย และอื่นๆ ประดับเรียงรายอยู่ตลอดทาง ยิ่งไปกว่านั้นทางสวนยังมีการเตรียม “รถไฟลิลลี่”ไว้บริการ รถไฟขบวนนี้จะพาเราเยี่ยมชมวิวทิวทัศน์อันงดงามรอบๆสวน แต่จะต้องเสียค่าบริการเพิ่ม หรือหากใครที่อยากจะค่อยๆเดินชม ถ่ายรูปด้วยตัวเอง ก็สามารถเดินเข้ามาในสวนนี้ได้โดยไม่ต้องเสียค่าเข้าหรือค่าบริการใดๆทั้งสิ้น

know-before-you-go