ในศตวรรษที่ 18 ฝรั่งเศสได้เข้ายึดเกาะของสเปนที่ขณะนั้นอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษและได้รู้จักซอสชนิดหนึ่งซึ่งใช้กินกับสเต็ก ด้วยรสชาติที่อร่อยถูกใจ จึงนำกลับไปฝรั่งเศสและให้ชื่อว่า ซอสมาออน (Mahónnaise) ตามชื่อของเกาะนั้น และเรียกผันจนกลายเป็น มายองเนส (Mayonnaise) ที่เรารู้จักกันทุกวันนี้ค่ะ

หลังจากมายองเนสเกิดขึ้นมาประมาณ 160 ปี ชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งในอเมริกานามว่า โทอิจิโร่ นะคะชิมะ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทคิวพี (ที่ผลิตมายองเนสและน้ำสลัดที่เรารู้จักกันดีนั่นเอง) ก็ได้ค้นพบความอร่อยของมายองเนสที่ชาวอเมริกันใช้กินกับสลัด ก่อนจะนำกลับมาที่ญี่ปุ่นค่ะ

เมื่อกลับมาประเทศญี่ปุ่น นายนะคะชิมะ ได้ผลิตมายองเนสขายครั้งแรกในปี 1924 โดยมายองเนสที่ผลิตนั้นใช้ไข่แดงเป็นส่วนผสมมากกว่าของอเมริกาถึงสองเท่า ทำให้มายองเนสของญี่ปุ่นมีรสชาติเข้มข้นเป็นเอกลักษณ์ และพัฒนาบรรจุภัณฑ์จากขวดแก้วเป็นขวดพลาสติกนิ่มเหมือนหลอดบีบใช้สะดวก

ด้วยความที่มายองเนสได้รับความนิยมมาก จึงมีการกำหนดให้วันที่ 1 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันมายองเนส เหตุผลที่ใช้เดือนมีนาคมเพราะเป็นเดือนที่เริ่มผลิตมายองเนสครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นค่ะ และปัจจุบันทางบริษัทได้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์ชื่อว่า มาโยเทระสึ (マヨテラス) อยู่ที่โตเกียว ให้เข้าชมฟรี (แต่จำกัดจำนวนผู้เข้าชมต่อวัน) มีกิจกรรมให้ผู้เยี่ยมชมร่วมสนุกมากมายเช่น การปรุงอาหาร นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟและร้านของฝาก Kewpie Shop มีผลิตภัณฑ์มาสคอตตัวคิวพีจำหน่ายมากมาย อย่างเช่น ขนม เครื่องเขียน และตุ๊กตาค่ะ

มายองเนสที่นิยมทานกับขนมปังนั้นคนญี่ปุ่นใช้ในการปรุงอาหาร ทำสลัด ไม่ก็เป็นซอสจิ้มอาหารตามชอบด้วยนะคะ จึงมีรสชาติและรูปแบบผลิตภัณฑ์อื่นอีกนอกจากมายองเนสรสดั้งเดิมที่คนส่วนใหญ่รู้จักอย่าง คิวพี มายองเนส และ เพียว ซีเล็คท์ ของอายิโนะโตะ (Ajinomoto) ค่ะ อย่างเช่น

1. Kewpie Defe และ pure select saralear ซองเขียว ช่วยลดคอเลสเตอรอล
2. Kewpie Zero Non Cholesterol ไร้คอเลสเตอรอลและมีแคลอรี่น้อยกว่าธรรมดา 50%
3. Kewpie Half มีแคลอรี่น้อยกว่าแบบธรรมดา 50%
4. Pure Select Kokuuma มีแคลอรี่น้อยกว่าธรรมดาถึง 65%
5. Kewpie Light มีแคลอรี่น้อยกว่าธรรมดาถึง 80%
6. Kewpie Pan Koubou มานองเนสผสมเครื่องปรุงและส่วนผสมต่างๆสำหรับทาขนมปัง
7. Kewpie Dipping Sauce มายองเนสสำหรับจิ้มผักสลัดรสชาติต่างๆในรูปแบบถ้วยพร้อมรับประทาน
8. Kewpie Karashi Mayonnaise มายองเนสผสมคาราชิ(มัสตาร์ดญี่ปุ่น)

ด้วยรสชาติที่เข้มข้นแต่ละมุนลิ้นของมายองเนสญี่ปุ่น จะจิ้มผัก เนื้อสัตว์ หรือรับประทานกับอะไรก็อร่อยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ข้าว ขนม และผักต่างๆ อย่างในรูปก็มี

- สลัดมันฝรั่งคลุกมายองเนสใส่ไข่ปลาเมนไตโกะ
- ข้าวห่อไข่โดยผสมมายองเนสในไข่เพื่อให้นุ่มมีรสชาติ
- หมูสับทอดที่ปรุงด้วยมานองเนสแทนการใส่ไข่เพื่อให้จับก้อน
- หมูผัดกิมจิที่ใส่มายองเนสเพื่อให้มีรสชาติละมุนแต่ยังคงความเข้มข้น
- สลัดผัดสดใส่ปูอัดที่ปรุสรสด้วยมายองเนสอย่างเดียวก็อร่อยล้ำ
- ขนมปังปิ้งทาด้วยไข่ปลาเมนไตโกะผสมมายองเนส

นอกจากเมนูตามกล่าวแล้ว ยังมีเมนูอื่นๆอีกมากมายนับไม่ถ้วนเลยนะคะ

ข้าวปั้นไส้ทูน่ามายองเนส (ツナマヨ) คนไทยต้องแปลกใจแน่นอนค่ะ ปกติเราเคยกินแต่แซนด์วิชทูน่า ไม่เคยกินกับข้าว หลายคนก็ชอบ หลายคนก็ไม่ขอชิมนะคะ แต่นี่เป็นเมนูหลักยอดนิยมของคนญี่ปุ่นเลยค่ะ นอกจากข้าวปั้นที่ใส่มายองเนสแล้วยังมีซูชิด้วยนะคะ เช่น ซูชิปลาแซลมอนและหอมใหญ่ กับ ซูชิม้วนไส้สลัดค่ะ

อาหารที่ทานกับซอสญี่ปุ่นหลายอย่างใส่มายองเนสด้วยก็อร่อยเข้ากันค่ะ อย่าง โอโคโนมิยากิ, ทาโกะยากิ, ยากิโซบะ และพวกเมนูชุบเกล็ดขนมปังทอดก็ด้วยนะคะ สำหรับมายองเนสที่ทานคู่กันก็ตามชอบเลยค่ะ จะเป็นรสดั้งเดิม รสคาราชิ หรือเมนไตโกะ ไม่ก็วาซาบิก็ได้ค่ะ

สลัดมันฝรั่งบด (ポテトサラダ) แม้ว่ามายองเนสญี่ปุ่นจะใช้ทำอาหารได้หลากหลาย แต่ที่ใช้มายองเนสปรุงเยอะและบ่อยสุดน่าจะเป็นจานนี้ค่ะ สลัดมันฝรั่งบด ซึ่งเป็นสลัดที่คนญี่ปุ่นนิยมรับประทานสูงสุดในญี่ปุ่น และยังมีสลัดชนิดอื่นๆ ที่ใส่มานองเนสด้วยนะคะ เช่น สลัดฟักทองบด สลัดมันเทศ สลัดโกโบ้ (พืชชนิดหนึ่งของญี่ปุ่น ใช้ส่วนรากมาปรุงอาหาร) สลัดมะกะโรนี และสลัดสปาเกตตี้ค่ะ

สูตร หมักหมูนุ่มชาบูชาบู
หมูเมื่อผ่านความร้อนแล้ว รสของมายองเนสจะหมดไป คงไว้แต่ความนุ่มอร่อยค่ะ

ส่วนผสม
1. เนื้อหมู 250 กรัม
2. มายองเนส 1 ช้อนโต๊ะ
3. สาเก 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
ผสมทั้งหมดแล้วหมักไว้อย่างน้อย 15 นาที แล้วนำไปปรุงอาหารตามชอบ

สูตร เทมปุระกรอบนาน
มายองเนสจะช่วยให้แป้งคลายน้ำออกมาขณะทอด ทำให้ได้แป้งที่กรอบ แถมสูตรนี้ไม่ต้องใส่ไข่ ทั้งประหยัดและอร่อยด้วยค่ะ

ส่วนผสม
1. มายองเนส 1 ช้อนโต๊ะ
2. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 4 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำเปล่า 5 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
ผสมมายองเนสกับแป้งแล้วใส่น้ำ ตีให้เข้ากัน นำไปชุปผักหรือเนื้อสัตว์ทอดได้ประมาณ 2 ถ้วยตวง

ขวดบีบซอส ปากฝาขวดมีขนาดเล็กกว่าฝาของขวดมายองเนส ทำให้ซอสที่บีบออกมามีเส้นเล็กเป็นสายสวยงาม ทั้งยังใช้วาดรูปเขียนลายตกแต่งอาหารได้ด้วยนะคะ

ถาดเก็บขวดมายองเนส ด้วยลักษณะขวดมายองเนสที่เป็นพลาสติกนิ่มเหมือนหลอดบีบง่าย จึงสามารถบีบใช้ได้หมดขวด แม้จะเหลือก้นขวดก็วางคว่ำได้ไม่มีล้ม โดยใช้ถาดหลุมพลาสติกที่ออกแบบมาเพื่อขวดมายองเนสโดยเฉพาะค่ะ

คนญี่ปุ่นบางคนชอบมายองเนสมากๆค่ะ ไม่ว่าเราจะตั้งใจปรุงอาหารแค่ไหน เค้าก็ใส่มายองเนสกินด้วยทุกจาน ใส่แบบไม่ยั้งเลยนะคะ อย่างข้าวหน้าเนื้อ(กิวด้ง) ก็ใส่จนมองไม่เห็นชิ้นเนื้อ คนกินบอกอร่อย แต่คนทำนี่แอบค้อนในใจ เรื่องเล่านี้มีออกรายการทีวีวาไรตี้ ตอนดูก็ขำๆค่ะ แต่ถ้าเจอกับตัวเอง คงขำไม่ออกแน่นอนค่ะ

สำหรับท่านใดที่ชอบอาหารญี่ปุ่น ลองหาซื้อมายองเนสมาติดตู้เย็นไว้สักขวด รับรองว่าคุ้มมากค่ะ ที่ญี่ปุ่น ขนาด 300-350 กรัม ราคาประมาณ 250 เยน (75 บาท) ซึ่งไม่ต่างจากไทยมากนัก แต่มายองเนสที่ผลิตในญี่ปุ่นมีรสหวานน้อยกว่าค่ะ ส่วนตัวใช้ คิวพี มายองเนส ฮาฟ(ฝาขาว) ซึ่งมีส่วนผสมของน้ำตาล ต่างจากรสดั้งเดิม(ฝาแดง)ที่ไม่ผสมน้ำตาลค่ะ