พักที่โรงแรมในเมืองออนเซ็นเบปปุ→ นั่ง Kyushu Odan Tokkyu ไปสถานี Aso (2 ชั่วโมง) → เที่ยวชมรอบภูเขาไฟอาโซ → เดินทางไปพักที่โรงแรมในเมืองออนเซ็นอุจิโนะมากิ

Tips
• สถานี JR Aso เป็นสถานีเล็กๆ แต่เป็นสถานีทางผ่านไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เมื่ออกจากสถานีแล้ว ให้หาที่ขึ้นรถบัสทางฝั่งซ้ายมือ
• รถบัสจากสถานี Aso มีประมาณชั่วโมงละคัน ควรวางแผนให้ดีก่อนเดินทางมา
• ถ้าต้องการไปปล่องภูเขาไฟนาคาดาเกะ บริเวณใจกลางของภูเขาไฟอะโซ ให้นั่งรถบัส 35 นาทีจากสถานี Aso ไปสถานี Asosan Nishi (ทางไปต่อ Asosan Ropeway) อย่างไรก็ตามการเดินทางเข้าไปปล่องภูเขาไฟได้ไม่ได้นั้นยังขึ้นอยู่กับ สภาพของภูเขาไฟด้วย ถ้าไม่มั่นใจว่าจะสามารถเข้าได้หรือไม่ ขอแนะนำให้เช็คข้อมูลล่าสุดที่นี่
• แม้ว่าการเดินขึ้นไปจะใช้เวลาเพียง 30 นาที แต่เราขอแนะนำหนทางที่ดีกว่าคือการนั่ง Asosan Ropeway ขึ้นไปที่ปากปล่องภูเขาไฟ เพื่อประหยัดพลังงาน รวมทั้งยังสามารถชมวิวสวยๆได้อย่างไม่ต้องเหนื่อยหอบอีกด้วย
• สามารถเช็คข้อมูลเกี่ยวกับบริการรถบัสที่ลิงค์ด้านล่าง

คุมาโมโตะขึ้นชื่อในเรื่องของสภาพภูมิประเทศที่รายล้อมไปด้วยภูเขา และหนึ่งในนั้นที่ขึ้นชื่อที่สุดก็คือภูเขาไฟอะโซ ภูเขาแห่งนี้มีแอ่งปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่เกิดจากปรากฎการณ์ภูเขาไฟระเบิดเมื่อ 90,000-30,000 ปีก่อนในปัจจุบันก็ยังเป็นภูเขาไฟมีพลัง ที่สามารถปะทุได้ทุกเมื่อ และคุมาโมโตะก็ยังถูกกล่าวขานว่าเป็น"ดินแดนแห่งไฟ"

หุบเขาคิคุจิที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของภูเขาไฟอะโซ มีป่าเมเปิ้ลที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดงในช่วงฤดูใบไม้ร่วง นอกจากนี้การที่ในคุมาโมโตะเกิดการปะทุของภูเขาไฟบ่อย ทำให้เกิดน้ำพุร้อน หรือออนเซ็นในพื้นที่มากขึ้นตามไปด้วย คุณยังสามารถหาหมู่บ้านน้ำพุร้อนแบบญี่ปุ่นแท้ๆได้ในบริเวณภูเขาไฟอะโซอีกด้วย สำหรับใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์แช่น้ำพุร้อนแบบคลาสสิกสามารถแวะไปที่ออนเซ็นคุโรซาวะที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของภูเขาอะโซ

คุซะเซนริเป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ไพศาล มีขนาดยาวประมาณ 2 กม. อยู่ทางบริเวณตะวันตกของปล่องภูเขาไฟ มีร้านอาหารมากมายรวมถึง เป็นจุดพักชมวิวที่สามารถเห็นได้ทั้งทุ่งหญ้าและปากปล่องภูเขาไฟในเวลาเดียวกัน

*เนื่องจากบริเวณดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ที่อาจเกิดการปะทุของภูเขาไฟได้ง่าย โปรดติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับเส้นทางการเดินทางที่ลิงค์ด้านล่าง

1. สวนสัตว์ Cuddly Dominion
สวนสัตว์ที่คุณจะได้พบกับสัตว์กว่า 100 สายพันธุ์ รวมถึงโชว์การแสดงของสัตว์มากมาย โดยมีจุดขายคือการที่เราสามารถเข้าไปใกล้ชิดกับสัตว์รวมถึงจับตัวได้ด้วย และถ้าหากคุณอยากเติมสีสันให้กับทริปของคุณละก็เราขอแนะนำการชมวิวแบบพาโนราม่าไปกับทัวร์เฮลิคอปเตอร์ ซึ่งสามารถขึ้นได้จากสวนสัตว์ เป็นทัวร์ที่เหมาะสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่

ที่อยู่: 2163 Kurokawa, Aso City, Kumamoto Prefecture
การเดินทาง: เดิน 25 นาทีจากสถานี Aso หรือนั่งแท็กซี่ 5 นาที


2. ย่านการค้ามอนเซนมาจิ
ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าศาลเจ้าอะโซ ย่านช็อปปิ้งแห่งนี้มีน้ำพุร้อนที่ปะทุขึ้นมาจากบ่อน้ำบาดาล ซึ่งเป็นน้ำที่มีความบริสุทธิ์มาก เชื่อกันว่าหากดื่มจำนำความโชคดีมาสู่ตัว และแน่นอนว่านอกจากน้ำพุร้อนแล้วก็ยังมีร้านค้าน่าสนใจมากมายเรียงรายรอให้คุณแวะเวียนเข้าไป

ที่อยู่: 1859 Miyaji, Ichinomiyamachi, Aso City, Kumamoto Prefecture
การเดินทาง: เดิน 20 นาทีจากสถานี Miyaji


3. ไดคังโบ
ไดคังโบเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดทางตอนเหนือของภูเขาไฟอะโซ จากที่นี่จะสามารถมองเห็นยอดเขาอีกห้าแห่งของเทือกเขาอะโซและคูจู ทิวทัศน์ที่ได้ชื่อว่าเนฮันโซ (ปรินิพพาน) เนื่องจากยอดเขามีลักษณะคล้าย ท่าบรรทมของพระพุทธเจ้า นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองอะโซ รวมถึงช็อปปิ้งของฝากและอาหารก็สามารถทำได้ที่นี่เช่นกัน

ที่อยู่: 2090-8 Yamada, Aso City, Kumamoto Prefecture
การเดินทาง: นั่งแท็กซี่ 30 นาทีจากสถานี Miyaji หรือนั่งรถบัส Sanko ไป Tsuetate แล้วลงที่ Daikanbo Iriguchi (40 นาที)


4. ฟาร์ม El Patio
ฟาร์ม El Patio อยู่ระหว่างทางไปเบปปุ มีพื้นที่กว้างใหญ่กว่า 60 ไร่ เรียกได้ว่าใหญ่ที่สุดในทางตะวันตกของญี่ปุ่น ที่นี่คุณสามารถขี่ม้าชมวิวพาโนราม่า 360 องศาของภูเขาไฟอะโซ ไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้า มีอาหารมากมายให้เลือก ไม่ว่าคุณจะมีประสบการณ์ หรือครั้งแรกก็สามารถสนุกสนานได้ และยังมีร้านอาหาร โรงแรม และสถานที่อำนวยความสะดวกอื่นๆสไตล์อเมริกันอีกมากมาย

ที่อยู่: 2305-1 Sanno, Ichinomiya-machi, Aso City, Kumamoto Prefecture
การเดินทาง: นั่งแท็กซี่ 20 นาทีจากสถานี Miyaji


5. คุสะเซนริ
ทุ่งหญ้าคุสะเซนริ เคยเป็นปากปล่องภูเขาไฟที่ปัจจุบันถูกปกคลุมไปด้วยทุ่งหญ้าเขียวขจี คุณสามารถเห็นม้า และวัววิ่งอยู่ในทุ่งหญ้า และดื่มน้ำจากสระ ที่นี่เป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยม นักท่องเที่ยวสามารถนั่งบนหลังม้าชมวิวอันแสนงดงามของทุ่งหญ้าแห่งนี้

ที่อยู่: Kusasenri-ga-hama, Aso City, Kumamoto Prefecture
การเดินทาง: นั่งแท็กซี่ 30 นาทีจากสถานี Aso นั่งบัส Aso Crater Line bus จากสถานี Aso ไปป้ายรถเมล์ Kusasenri Kazan Hakubutsukan-mae


6. พิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟอะโซ
พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการปะทุของภูเขาไฟ และข้อมูลต่างๆ เป็นศูนย์กลางของการค้นคว้าวิจัย การท่องเที่ยว และวัฒนธรรมของภูเขาอะโซ ถ้าคุณไม่สามารถขึ้นไปเขา ก็สามารถแวะมาที่นี่แทนได้ เช็คเวลาเปิดทำการได้ที่เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)

ที่อยู่: 1930-1 Akamizu, Aso City, Kumamoto Prefecture
การเดินทาง: เหมือนกับคุสะเซนริ

ออนเซ็นอุจิโนะมากิ เป็นหมู่บ้านออนเซ็นที่อยู่ทางตอนเหนือของสถานีอะโซ มีออนเซ็นกลางแจ้งที่สามารถมองเห็นวิวของภูเขาไฟอะโซ หมู่บ้านแห่งนี้เต็มไปด้วยเรียวคังสไตล์ญี่ปุ่น มีการบริการใกล้ชิดและเป็นกันเอง อาหารก็เป็นอาหารเซ้ทสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม หลังจากเหนื่อยจากการเดินทาง เราขอแนะนำให้แวะไปพักผ่อนที่โรงแรม Aso Plaza Hotel!

ที่อยู่: 1287 Uchinomaki, Aso City, Kumamoto Prefecture
การเดินทาง: นั่งแท็กซี่ 10 นาทีจากสถานี Aso

สถานี Aso → นั่งรถบัส Kyushu Odan ไปสถานี Kumamoto (90 นาที) → ทัวร์ Kumamoto (โจไซเอ็น ปราสาทคุมาโมตะ คุมาม่อนสแควร์) → พักที่โรงแรมใน Kumamoto

ซากุระโนะบาบะโจไซเอ็นเป็นสถานที่สำหรับ กิน ดื่ม ช็อป และยังเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมที่อยู่ใกล้ๆปราสาทคุมาโมโตะ ถูกออกแบบมาให้เหมือนเมืองในสมัยเอโดะ (1603-1868) และยังมีอาหารพื้นเมืองของคุมาโมโตะให้เราลิ้มลองกันอีกด้วย ที่สำคัญคุณอาจจะได้เห็นไดเมียว (เหล่าผู้นำทัพในสมัยสงคราม 1467-1590) เดินไปมาในบริเวณนี้อีกด้วย

ที่อยู่: 1-1-1 Ninomaru, Chuo-ku, Kumamoto City, Kumamoto Prefecture
การเดินทาง: นั่งรถราง 15 นาทีจากสถานี Kumamoto ไปป้ายปราสาทคุมาโมโตะ/ซิตี้ฮอลล์ แล้วเดินอีก 7 นาที

หนึ่งใน สามปราสาทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ปราสาทคุมาโมโตะสร้างโดยไดเมียวชื่อคาโต้ คิโยมาสะ ในช่วงปี 1601-1607 สร้างบนเนินที่ชื่อว่ายอดเขาเชาสุ ลานปราสาทมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 5.3 กม. ตัวปราสาทเน้นสีขาวดำสร้างสไตล์โมโมยามะ ปราสาทคุมาโมโตะมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า ปราสาทแปะก๊วยเนื่องจากมีต้นแปะก๊วยจำนวนมากในบริเวณปราสาท เชื่อกันว่าไดเมียวคาโต้ คิโยมาสะเป็นคนลงมือปลูกด้วยตนเอง

เมื่อเข้าไปในปราสาทจะมีซามูไร นินจา และพ่อค้าแม่ค้าจากสมัยเซนโงคุ ภายในปราสาทจะมีการจัดแสดงวัตถุโบราณของเหล่าไดเมียวเจ้าของปราสาท ซึ่งรวมถึงอาวุธด้วยเช่นกัน ภายในปราสาทคุณยังสามารถพบบ่อน้ำ กำแพงหิน คูน้ำล้อมปราสาท และหอคอย

*ปัจจุบันที่ปราสาทแห่งนี้ปิดทำการ แต่คุณสามารถชมตัวปราสาทหลักได้จากนิโนมารุ และศาลเจ้าคาโต้ที่อยู่ใกล้เคียง

ที่อยู่: 1-1 Honmaru, Chuo-ku, Kumamoto City, Kumamoto Prefecture
การเดินทาง: ทางตะวันออกเฉียงเหนือของซากุระโนะบาบะโจไซเอ็น

คุมาม่อนสแควร์เป็นสำนักงานใหญ้ของคุมาม่อน มาสค็อตที่ถูกเลือกให้เป็นมาสค็อตยอดนิยมของญี่ปุ่นในปี 2011 คุมาม่อนเป็นมาสค็อตอย่างเป็นทางการของจังหวัดคุมาโมโตะ ถ้าใครอยากรู้เรื่องของคุมาม่อนละก็ ต้องแวะมาที่นี่เลย!


ที่อยู่: 8-2 Tetori-honcho, Chuo-ku, Kumamoto City, Kumamoto
การเดินทาง: เดิน 8 นาทีไปทางตะวันออกของปราสาทคุมาโมโตะ

ราเม็งคุมาโมโตะ
อาจิเซนราเม็ง ร้านราเม็งที่มีสาขามากมายอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมทั้งประเทศไทยด้วย ร้านราเม็งนี้มีต้นกำเนิดอยุ่ที่คุมาโมโตะ หากใครได้แวะเวียนไป ขอแนะนำให้ไปกินเปรี่ยบเทียบกับของไทย เพียงนั่งรถราง A Line ไปป้าย Shiritsu Taiikukan-mae และเดินไปทางตะวันตกอีก 9 นาที สาขาหลักของอาจิเซ็นราเม็งจะอยู่ทางด้านขวามือของสำนักงานจังหวัดคุมาโมโตะ

ที่อยู่: 6-20-24 Suizenji, Chuo-ku, Kumamoto City, Kumamoto Prefecture


นิวคุสะเซนริ
นิวคุสะเซนริตั้งอยู่ในที่ราบคุสะเซนริ ซึ่งมีทั้งร้านคาเฟ่ ร้านอาหาร และร้านขายของ ที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องของเนื้อวัวแดง หรือ อาคะกิว การเดินทางก็ไม่ยาก เดินเพียงหนึ่งนาทีจากป้ายรถบัส Kusasenri Kazan Hakubutsukan-mae กดที่ลิงค์ด้านบนเพื่อเช็คเวลาทำการและข้อมูลเพิ่มเติม

ที่อยู่: 2391-15 Nagakusa, Aso City, Kumamoto Prefecture


ยามามิฉะยะ (โจไซเอ็น)
บริเวณซากุระโนะบาบะโจไซเอ็น มีร้านขายของขึ้นชื่อประจำท้องถิ่นมากมาย ที่ร้านยามามิฉะยะ คุณสามารถลิ้มลองเมนูทาคาโมริ เด็นกาคุ อาหารพื้นบ้านของชาวนาทางตะวันออกของอะโซ ในเมนูประกอบไปด้วยเผือก เต้าหู้ คันยักขุ และปลาแม่น้ำที่ทาซอสมิโสะพริกไทยเสียบไม้ย่าง

ที่อยู่: 1-14 Ninomaru, Chuo-ku, Kumamoto City, Kumamoto Prefecture