All About Japan

คนญี่ปุ่นดื่มอะไรกัน รู้จักเหล้ายอดนิยม10ชนิด

อาหาร & เครื่องดื่ม บาร์ ร้านเหล้าแบบญี่ปุ่น ลานเบียร์ ร้านไวน์ แอลกอฮอล์ สาเก วิสกี้ เบียร์ โซจู ชูไฮ HighBall เหล้ากลั่น ชา เที่ยวกลางคืน
คนญี่ปุ่นดื่มอะไรกัน รู้จักเหล้ายอดนิยม10ชนิด

ใครกลัวสั่งไม่ถูกมาทางนี้เลย ขอนำประสบการณ์ที่เคยทำงานพิเศษบาร์เครื่องดื่มที่ญี่ปุ่นมาบอกกัน ว่าญี่ปุ่นเค้านิยมดื่มเหล้าอะไรกันบ้างซัก 10 ชนิด เตรียมแก้วรอได้เลย คัมไป!

1. เหล้าสาเก หรือ นิฮงชู (แปลว่าเหล้าญี่ปุ่น)

1.  เหล้าสาเก หรือ นิฮงชู (แปลว่าเหล้าญี่ปุ่น)

ระดับแอลกอฮอล์:10-20%
เหล้าสาเก หรือ ไวน์ข้าว เป็นเหล้าที่หมักโดยใช้ ข้าว น้ำ และหัวเชื้อโคจิ (หรือข้าวมอลต์) เป็นส่วนผสมหลัก ที่จะนำมาหมักเพื่อให้เปลี่ยนสภาพเป็นน้ำตาล จากนั้นนําไปหมักกับยีสต์ จนได้รสชาติเฉพาะตัวซึ่งความเปรี้ยว ความนัว นั้นก็จะขึ้นกับปริมาณสัดส่วนของวัตถุดิบที่ว่ามา

การหมักนิฮงชูนี้ถือเป็นศิลปะเฉพาะตัวอย่างหนึ่งของแต่ละชุมชน จนกลายเป็นอีกหนึ่งสินค้า OTOP ประจำท้องถิ่นที่เรียกว่า Jisake (สาเกท้องถิ่น) ที่ใครไปเมืองไหนก็ต้องหานิฮงชูของเมืองนั้นมาลิ้มลอง โดยปกติคนญี่ปุ่นมักจะเรียกว่านิฮงชูแต่คนต่างชาติจะเรียกว่าสาเก ส่วนวิธีการดื่มก็จะดื่มได้ทั้งแบบร้อน แบบเย็น หรือแบบอุณหภูมิปกติ แล้วมักจะดื่มแบบเพียวๆเน้นๆ เรียกว่าเหล้าที่คู่ควรสำหรับสายแข็งอย่างแท้จริง!

2. โชจู (Shochu) และ อะวาโมริ (Awamori)

2. โชจู (Shochu) และ อะวาโมริ (Awamori)

ระดับแอลกอฮอล์:25-40%
อีกหนึ่งชนิดเครื่องดื่มที่อยากให้สายแข็งลองมาดวลกัน เพราะโชจูคือเหล้าอีกชนิดหนึ่งที่คนญี่ปุ่นดื่มกันมาตั้งแต่อดีตรองจากสาเก แต่มีระดับแอลกอฮอล์สูงกว่าสาเกญี่ปุ่นเป็นเท่าตัว เรียกว่างานนี้ไม่สตรองจริงเป็นต้องคอพับคออ่อนนอนหน้าสถานีรถไฟเป็นแน่

โชจูเป็นเหล้ากลั่นที่ทำมาจาก ข้าว มันเทศ ข้าวสาลี และน้ำตาลอ้อย โดยปกติมักเสิร์ฟแบบใส่น้ำแข็ง โดยผสมกับน้ำ, น้ำผลไม้, น้ำอัดลม

ส่วนอะวาโมริเป็นโชจูของ Okinawa ที่จะมีความแตกต่างจากโชจูปกติก็ตรงที่จะใช้เม็ดข้าวที่เล็กยาวแบบไทยแทนข้าวเม็ดสั้นแบบญี่ปุ่น และใช้หัวเชื้อโคจิมอลต์ดำพื้นเมืองแบบ Okinawa และมักจะเสิร์ฟมาในไห ชอบแบบไหนก็เลือกได้ตามชอบนะจ๊ะ

3. วิสกี้ (Whisky)

3. วิสกี้ (Whisky)

ระดับแอลกอฮอล์:40-43%
แม้จะเป็นเครื่องดื่มที่มีกลิ่นอายของตะวันตกแต่ วิสกี้เครื่องดื่มสีอำพันก็ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น ด้วยความพิถีพิถันในการนำธัญพืชเช่นข้าวบาร์เลย์, ข้าวไรย์, ข้าวโพด และอื่นๆมาหมัก แล้วใช้เอนไซม์จากมอลต์มาเปลี่ยนให้เป็นน้ำตาล ก่อนจะนำมากลั่นออกมาด้วยอุณหภูมิสูง จนได้ออกมาเป็นวิสกี้ที่มีระดับแอลกอฮอล์สูงลิ่วนำหน้าน้ำเมาทุกชนิด แต่ก็มีความน่าหลงใหล นำไปเจือจางกับอะไรก็อร่อย

ส่วนวิธีการดื่มวิสกี้ของคนญี่ปุ่นนั้น ก็จะมีเพียวๆไม่ใส่น้ำแข็ง (straight) วิสกี้ใส่น้ำแข็ง (on the rock) วิสกี้ผสมน้ำและใส่น้ำแข็ง (Mizuwari) วิสกี้ผสมจินและวอดก้า วิสกี้ผสมโซดาและใส่น้ำแข็ง (Haibōru) แบบหลังเป็นที่นิยมดื่มกันมาก โดยเฉพาะคนที่เริ่มต้นมาเดินทางสายนี้ เพราะดื่มง่ายสุดละ

ส่วนใหญ่วิสกี้จะบรรจุในขวดแก้วสุดหรูหรา น่าเอาไปเป็นของฝากหนุ่มๆนัก สามารถสั่งมาดื่มหรือหาซื้อได้ตามร้านอาหารและร้านเหล้าทั่วไป แถมเดี๋ยวนี้เค้ามี Haibōru ขายเป็นกระป๋องแล้วด้วยนะ ระดับแอลกอฮอล์ก็ต่ำลงมาเหลือ 5-7 % ด้วย ใครอยากลองจะได้ไม่ต้องคิดเยอะ ชิมขำๆได้แม่ไม่ว่า (มั้ง)

4.เบียร์ (Beer)

4.เบียร์ (Beer)

ระดับแอลกอฮอล์:4-5.5%
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยอดนิยมในประเทศญี่ปุ่นและทั่วโลก เพราะดื่มง่ายไม่ต้องมีพิธีรีตรองอะไรมาก หากจะเริ่มต้นชนแก้วในวง คนญี่ปุ่นจะเริ่มชนด้วยเบียร์หรือเบียร์สดเสมอๆ เบียร์ของที่ญี่ปุ่นจะมีส่วนผสมหลักคือข้าวบาร์เล่ย์ที่ถูกนำไปหมักจนได้เป็นมอลต์ จากนั้นจึงผสมยีสต์เพื่อเปลี่ยนน้ำตาลในมอลต์เป็นแอลกอฮอลล์จึงได้เป็น ‘เบียร์’

ซึ่งเบียร์แท้นั้นต้องมีมอลต์ในปริมาณที่กำหนด (มีมากกว่า 2 ใน 3 ของวัตถุดิบหลัก) แต่ด้วยภาษีที่ผู้ผลิตต้องเสียแพง ทำให้เบียร์มีราคาสูงตามไปด้วย สำหรับเบียร์ยี่ห้อดังและนิยมดื่มกันบ่อยๆก็จะมี Asahi, Santory, Kirin หรือ Sapporo เป็นต้น

5.ฮัปโปชู (Happoshu)

5.ฮัปโปชู (Happoshu)

https://ja.wikipedia.org/wiki/%E3%83%95%E3%82%A1%E3%82%A4%E3%83%AB:Cans_of_beer_on_Japanese_discount_store.jpg

ระดับแอลกอฮอล์:3-8%
ฮัปโปชูแปลตรงตัวว่า "เหล้าที่มีฟอง" ก็ถือเป็นเบียร์ชนิดหนึ่งที่มีความเอาใจสายอ่อน เพราะฮัปโปชูคือเบียร์ที่ผสมมอลต์อยู่ในปริมาณน้อยกว่า จึงทำให้มีรสชาติที่เบากว่าเบียร์ โดยวัตถุประสงค์ของฮัปโปชูนอกจากจะเป็นการสร้างกลุ่มสินค้าใหม่ๆ ดยเปลี่ยนระดับความเข้มแล้ว ในญี่ปุ่นการที่มีมอลต์น้อยกว่าก็ยังมีผลทางภาษีอีกด้วย ทำให้ฮัปโปชูมีการเก็บภาษีที่ถูกกว่าเบียร์ ฉะนั้นถ้าคุณอยากดื่มเบียร์แต่งบน้อยก็ให้สอยเจ้าฮัปโปชูมาแทนได้เลย

นอกจากนี้ก็ยังมีเบียร์อีกประเภทหนึ่งที่เรียกว่า ฮัปโปเซอิ (Happosei) หรือ Third Beer (เบียร์อันดับที่ 3) เป็นเบียร์ที่ไม่มีส่วนผสมของมอลต์เลย แต่ใช้วัตถุดิบเป็นข้าวโพด ข้าวสาลี ถั่วเหลือง หรือมันฝรั่งในการผลิตแทน เป็นเบียร์รุ่นหลานที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเนื่องจากมีรสชาติของผลไม้หรือรสหวานอื่นๆนอกเหนือจากรสเบียร์ปกติ แถมมีราคาถูกกว่าด้วย อันนี้ น่าจะเหมาะกับสายแบ๊วๆใสๆอย่างเราที่สุดแล้วล่ะ (ถามจริ๊ง...)

  • 1
  • 2
  • 1
  • 2
  • 1
  • 2
know-before-you-go