หากลองเดินตลาดตอนเช้าหรือร้านขายของริมทางในโทโฮคุ จะมีงานฝีมือที่ใช้ความพิถีพิถันในการทำเรียงรายอยู่เต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นชิ้นงานศิลปะแบบพื้นเมือง อย่างแก้วสาเกที่ทำโดยการเป่าแก้ว ฟิกเกอร์ม้าที่แกะสลักด้วยมือ ยาวาตะอุมะ ถุงย้อมสีที่เกิดจากการทอขึ้นอย่างประณีต และ เครื่องเคลือบ เพนท์สีอย่างบรรจง ซึ่งหลายๆอย่างล้วนแล้วแต่งดงามจนไม่กล้าจะนำไปใช้ สินค้าแทบทุกชิ้นจะสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมของท้องถิ่นแห่งนั้น เรียกได้ว่าสินค้าทุกชิ้นหล่อหลอมขึ้นมาจากประวัติศาสตร์ และเทคนิคที่สืบทอดต่อกันมาหลายร้อยปี

นักท่องเที่ยวยังสามารถทดลองทำเองได้อีกด้วย ผู้เขียนได้ลองทำนันบุเซมเบ้ แครกเกอร์ที่ทำจากแม่พิมพ์เหล็กหล่อ การแกะสลักผลไม้ของตัวเองที่ไว้ใช้ประดับบนพาเฟ่ต์สุดคาวาอี้ การใช้ความพยายามอย่างมากในการทอชิ้นงานตามผู้เชี่ยวชาญ การทดลองเล่นคาบุกิโดยใส่ชุดคอสตูมเหมือนของจริง การฝึกตีกลองไทโกะสำหรับแสดงในเทศกาล และอื่นๆ

จากประสบการณ์แล้ว ผู้เขียนเชื่อว่าชาวโทโฮคุมีความกระตือรือร้นที่จะแบ่งปันวัฒนธรรมให้กะบผู้มาเยือน และยังมีความใจเย็นในการสอนอีกด้วย

ถึงตอนนี้ผู้เขียนก็ได้พูดถึงโทโฮคุในภาพรวมไปบ้างแล้ว แต่ที่ๆจะไม่พูดเจาะจงถึงไม่ได้เลยคือมัทสึชิมะ หนึ่งในสามสถานที่ๆ(ว่ากันว่า)มีทัศนียภาพงดงามที่สุดของญี่ปุ่น โดยสามารถเดินทางไปได้โดยการนั่งรถไฟจากเซนไดไปไม่ไกล เกาะมัทสึชิมะที่อยู่บริเวณชายฝั่งของจังหวัดมิยากิ เป็นสถานที่ที่สามารถแวะเที่ยวชมได้ตลอดปี โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิ

คุณสามารถเที่ยวโดยขึ้นเรือเฟอร์รี่ทัวร์จากมัทสึชิมะหรือเมืองชิโอกามะที่อยู่ใกล้ๆ เหมาะสำหรับคนที่ชอบชมวิวในบรรยากาศสบายๆ ลมเย็นๆ ในราคาเพียง 1,500 เยนเท่านั้น

นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารซีฟู้ดบนเกาะมัทสึชิมะอีกด้วย ทั้งหอยนางรมย่าง ซาชิมิปลาทูน่า และราเมงซีฟู้ด สำหรับใครที่ชอบซอฟท์ครีมก็อย่าลืมลิ้มลองซอฟท์ครีมซุนดะของที่นี่ (ซุนดะคือครีมที่ทำจากถั่วแระบด) หลังจากอิ่มท้องแล้ว หากยังมีเวลาสามารถแวะร้านของที่ระลึกและร้านสาเกได้

สิ่งที่เตะตาอีกอย่างหนึ่งบนเกาะแห่งนี้คือสิ่งก่อสร้างทางศาสนาอย่างวัดซุยกันจิ ถ้าคุณเหนื่อยจากการเดินทางก็สามารถแวะค้างคืนที่โรงแรมบนเกาะได้ ซึ่งผู้เขียนจะกล่าวถึงในข้อต่อไป....

เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นประเทศเกาะที่เต็มไปด้วยภูเขาไฟหลายลูก จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีออนเซ็นกระจายอยู่หลายแห่งทั่วประเทศ และแน่นอนว่าที่โทโฮคุก็มีออนเซ็นที่มีชื่อเสียงอยู่หลายแห่ง ซึ่งมักจะมาพร้อมกับโรงแรมห้าดาวหรือเรียวกังชั้นเลิศ ให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม โรงอาบน้ำเป็นสถานที่ที่เราได้แช่น้ำผ่อนคลาย แต่รู้ไหมว่าการแช่น้ำในออนเซ็น โดยเฉพาะออนเซ็นกลางแจ้งซึ่งมีส่วนผสมของแร่ธาตุนั้นยอดเยี่ยมยิ่งกว่า

การแช่น้ำในออนเซ็นที่ญี่ปุ่นมีมารยาทในออนเซ็นที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม ใครที่เข้าเป็นครั้งแรกอาจจะตกใจหน่อยๆ แต่หากชินแล้วคุณก็จะสามารถสนุกสนานกับการแช่ออนเซ็นได้อย่างเต็มอิ่ม นับเป็นสถานที่ที่ใช้เฮฮาสังสรรค์กับเพื่อน หรือดื่มด่ำกับธรรมชาติได้อย่างคุ้มค่า ถ้าหากแช่แล้วรู้สึกร้อนเกินไปก็ให้ขึ้นมาจากบ่อ รอให้ตัวเย็นลงแล้วค่อยกลับลงไปแช่ใหม่ ที่ออนเซ็นบางแห่งอย่างทาคิโนะยุในเมืองไอซึวากามัตสึ มีเบียร์และซอฟท์ครีมให้กินหลังขึ้นจากออนเซ็น เรียกได้ว่าฟินสุดๆ

ในที่สุดก็มาถึงหัวข้อที่ทุกคนรอคอยนั่นก็คือ...อาหาร!!

อาหารญี่ปุ่นขึ้นชื่อในเรื่องของความอร่อยอย่างเรียบง่าย และยังดีต่อสุขภาพ อาหารที่โทโฮคุนั้นจะสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณ ความพิถีพิถันในการปรุง รวมไปถึงการสรรหาวัตถุดิบตั้งแต่การเก็บผักผลไม้ รวมถึงการจับปลา กุ้ง หอย ซึ่งต้องใช้ความพยายามและความอดทนสูงมาก

นอกจากนี้แต่ละเมืองยังมีอาหารประจำท้องถิ่นเป็นของตัวเอง อาทิเช่น เซนเบ้จิรุ ซึ่งทำจากการผสมผสานของซุปฮาจิโนะเฮะ กับ นัมบุเซนเบ้ และผักชนิดต่างๆ

ความเหนียวนุ่มของคิริทันโปะโมจิ ความกรุบกรอบของทงคัตสึ ข้าวหมูทอดราดซอสมิโสะ ลิ้นวัวย่าง และขนมหวานท้องถิ่นอีกมากมาย ล้วนแต่มีให้ลิ้มลองที่โทโฮคุ

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ปิดท้ายมื้ออาหารด้วย คราฟต์เบียร์ วิสกี้พื้นเมือง หรือสาเกรสเลิศ

ผู้เขียนได้แต่หวังว่าหากมีโอกาส ครั้งหน้าอยากมาทำงานที่ได้บริหารกระเพาะแบบนี้อีกก็คงดี

ซากุระในโทโฮคุ เป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ผู้คนมากมายเดินทางไปยังโทโฮคุในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (และน่าจะเป็นเหตุผลสำคัญที่สุดในการมาเที่ยวญี่ปุ่นในฤดูใบไม้ผลิ) จุดเด่นของซากุระในโทโฮคุคือจะผลิบานช้ากว่าภูมิภาคอื่นทางตอนใต้ เป็นอีกตัวเลือกที่ดีสำหรับคนต้องการชมซากุระที่ผลิบานเต็มที่

ฮิโตเมะเซ็มบงซากุระ (แปลว่า"ทิวแถวซากุระพันต้น")ในจังหวัดมิยากิ สถานที่ที่ซากุระเรียงรายอยู่ริมแม่น้ำกว่า 1,200 ต้น และยังมีภูเขาปกคลุมด้วยหิมะอยู่เบื้องหลัง

สวนฮานามิยามะในฟุกุชิมะ สถานที่ที่เหมาะสมในการไฮกิ้ง พลางชมความงามขแงซากุระและดอกไม้นานาพันธุ์

ลานว่างและสวนบริเวณรอบๆปราสาทของโทโฮคุมักรายล้อมไปด้วยต้นซากุระ อย่างในปราสาทฮิโรซากิเป็นต้น ดอกไม้และปราสาทที่มาอยู่รวมกัน เกิดเป็นทัศนียภาพที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่น่าหลงใหล

ไม่ว่าจะขับรถไปตามทางหลวง หรือนั่งรถไฟ หากมองออกไปก็จะเห็นซากุระขึ้นเรียงรายอยู่บนเนินและในสวนเล็กๆเต็มไปหมด แม้แต่ในบ้านคนท้องถิ่น สำหรับใครที่ต้องการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชมซากุระนั้น ที่โทโฮคุก็เป็นอีกหนึ่งที่ๆไม่ควรพลาด