สูตร “ปังโกะยากิ” ปลาแซลมอนทอดผงชีส
![สูตร “ปังโกะยากิ” ปลาแซลมอนทอดผงชีส](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/860/auto/global-aaj-front/article/2019/06/5d0f9a56d079d_5d0f9a507065a_1863660718.jpeg)
อาหารอิตาเลียนในประเทศญี่ปุ่น
![อาหารอิตาเลียนในประเทศญี่ปุ่น](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2019/06/5d0f797924cdb_5d0f77ec65e7c_1380067430.jpeg)
อาหารอิตาเลียนได้เข้ามาประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ยุคสมัยเมจิ (ค.ศ. 1868 - ค.ศ. 1912) ในปลายสมัย มีบันทึกการนำเข้าเส้นมะกะโรนีเป็นหลักฐานอย่างแน่ชัด และในจังหวัดนีงาตะ มีร้านอาหารอิตาเลียนที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นที่ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ.1880 ด้วยค่ะ อย่างไรก็ตาม ณ เวลานั้นคนญี่ปุ่นทั่วไปก็ยังไม่รู้จักอาหารอิตาเลียนกันนะคะ จนกระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง อดีตทหารอิตาลีได้แต่งงานกับคนญี่ปุ่นและเปิดร้านอาหารอิตาเลียน เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้พิซซ่าและพาสต้าได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ประมาณปี ค.ศ.1970 เป็นต้นไปค่ะ
อาหารอิตาเลียนสไตล์ญี่ปุ่น
![อาหารอิตาเลียนสไตล์ญี่ปุ่น](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2019/06/5d0f83a51ba03_5d0f8373919ed_1319979293.jpeg)
อาหารอิตาเลียนที่นิยมไม่ได้มีแค่พิซซ่าและสปาเกตตี้นะคะ ยังมีอาหารที่คนญี่ปุ่นมักทำกินเองในครัวเรือน เช่น “รีซอตโต” (ภาษาอิตาลี่ : Risotto) ข้าวต้มกับน้ำซุปทะเลแบบอิตาเลียนใส่ชีส และ “กราแตง” (ภาษาอิตาลี : Gratinato) พาสต้าอบชีสที่โรยด้วยเกล็ดขนมปัง ซึ่ง 2 อย่างนี้ มีชื่อเรียกเหมือนกับที่ไทยค่ะ หลายคนจึงคุ้นหูหรือเคยชิมกันมาบ้าง แต่สูตรอาหารอิตาเลียนที่เรานำมาแนะนำในครั้งนี้ ไม่ได้เรียกตรงตัวมาจากภาษาอิตาลีนะคะ เป็นเมนูที่ใช้ภาษาญี่ปุ่น มีชื่อเรียกตามขั้นตอนการทำว่า “ปังโกะยากิ” หลายคนจึงไม่คิดว่าเป็นอาหารฝรั่งค่ะ อีกทั้งส่วนผสมและวิธีทำก็ดัดแปลงมาให้ถูกปากคนญี่ปุ่น เป็น ”อาหารอิตาเลียนสไตล์ญี่ปุ่น” ค่ะ
“ปังโกะยากิ”คืออะไร
![“ปังโกะยากิ”คืออะไร](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2019/06/5d12336dc3a04_5d12330732726_1483930412.jpeg)
“ปังโกะ” คือ เกล็ดขนมปัง ส่วนคำว่า “ยากิ” แปลว่า ย่างหรืออบ ดังนั้นอาหารจานนี้ต้องมีส่วนผสมของเกล็ดขนมปังและมีวิธีทำด้วยการอบ แต่เราจะใช้กระทะแบนย่างนะคะ ใส่น้ำมันด้วยเล็กน้อย แบบนี้คนญี่ปุ่นเรียกว่าย่างก็ไม่แปลกค่ะ เพราะเวลาคนญี่ปุ่นทอดปลาด้วยกระทะที่เคลือบด้วยน้ำมันเล็กน้อยก็เรียกว่า ”ยากิ” หรือย่างเช่นกันค่ะ
“ปังโกะยากิ” เป็นชื่อเรียกย่อมาจาก “โคโซปังโกะยากิ” (香草パン粉焼き) คำว่า ”โคโซ” คือ เครื่องเทศ ค่ะ เมนูนี้ภาษาอิตาลี่ คือ “Impanato” อ่านว่า อิม-ปา-นา-โต ทอดกับปลาแซลมอน เรียกว่า “Salmone Impanato” แน่นอนว่าคนญี่ปุ่นทั่วไปไม่ใช้คำนี่กันค่ะ อาจจะมีพบเห็นได้บ้างในเมนูของร้านอาหารอิตาเลียนหรูๆ มีคำอ่านภาษาญี่ปุ่นเขียนว่า インパナート (อิมปานาโตะ) ค่ะ
วิธีทำอิมปานาโต จะใช้เกล็ดขนมปังผสมเครื่องเทศโรยบนอาหารทะเลแล้วนำไปอบ ถ้าเรานำไปทอดก็จะกรอบมากกว่า ดั่งขั้นตอนการทำ”ปังโกะยากิ”สูตรนี้ค่ะ มีวิธีทำคล้ายกับหมูทอดทงคัตสึ ต่างกันแค่ส่วนผสมของปังโกะที่มีเครื่องเทศผสม และปริมาณน้ำมันที่ใช้ทอดค่ะ
สูตร ปลาแซลมอนทอดผงชีส
![สูตร ปลาแซลมอนทอดผงชีส](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2019/06/5d12336e967df_5d12333882e4c_669491314.jpeg)
ปลาแซลมอนทอดผงชีส ภาษาญี่ปุ่นคือ “สะเก โนะ ปังโกะยากิ” (鮭のパン粉焼き) หรือ “สะเก โนะ โคโซปังโกะยากิ” (鮭の香草パン粉焼き) เรียกได้ทั้งสองแบบค่ะ บ้างก็เรียกแบบอื่น ขึ้นอยู่กับส่วนผสมที่ใช้ค่ะ อย่างใส่ผงโหระพาฝรั่ง(เบเซิ่ล) ก็จะเรียกว่า “บาจิรุ ปังโกะยากิ” เป็นต้น โดยรวมแล้วทุกชื่อมีคำว่า “ปังโกะยากิ” เลยขอใช่ชื่อนี้เรียกแบบสั้นๆนะคะ จะได้จำกันง่ายค่ะ
ส่วนผสม
1. ปลาแซลมอนหมักเกลือ (อะมะชิโอะ/甘塩) 3 ชิ้น
หรือใช้ปลาแซลมอนสด นำมาโรยเกลือป่น พักไว้ 10-15 นาที
2. พริกไทย เล็กน้อย
3. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 3 ช้อนโต๊ะ
4. ไข่ไก่ 1 ฟอง
5. โคโซปังโกะ
- เกล็ดขนมปัง 5 ช้อนโต๊ะ
- ชีสผง (พาเมซาน) 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
- พาร์สลีย์แห้ง 1+1/2 ช้อนชา
6. น้ำมันมะกอก 5 ช้อนโต๊ะ
7. ผักเคียง ตามชอบ
วิธีทำ
![วิธีทำ](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2019/06/5d1237628dc7a_5d12374402da7_658708053.jpeg)
1. ต้มน้ำเดือด เพื่อใช้ล้างปลา ไม่ให้ปลาคาวและยังขอดเกล็ดปลาได้ง่าย
![](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2019/06/5d1377e205856_5d137768254a6_1488508307.jpeg)
2. วางชิ้นปลาบนตะแกรง เอาด้านหนังขึ้น ราดน้ำร้อนจัดลงไปบนหนังปลา
![](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2019/06/5d1377e2e3c85_5d1377a27e182_1609712837.jpeg)
3. ใช้ช้อนขูดเกล็ดปลาออกให้หมด เพราะส่วนของเกล็ดปลาทำให้อาหารคาว
![](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2019/06/5d1377e3e1ae9_5d1377cf75fc8_727646487.jpeg)
4. ล้างให้สะอาดแล้วหั่นครึ่ง
![](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2019/06/5d1383d5328c1_5d1383861447f_927296810.jpeg)
5. ใช้ทิชชู่ทำครัวซับน้ำให้หมดทีละชิ้น พักไว้
![](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2019/06/5d13841cabcfe_5d13840d7a9a3_506565280.jpeg)
6. เตรียมส่วนผสมของโคโซปังโกะ (เกล็ดขนมปัง+ผงชีส+พาร์สลีย์) ใครชอบเครื่องเทศชนิดอื่นก็ใส่ได้ตามชอบค่ะ โดยลดอัตราส่วนของพาร์สลีย์
![](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2019/06/5d138b75be71d_5d138b320a0b3_537437056.jpeg)
7. ผสมโคโซปังโกะให้เข้ากัน พักไว้
![](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2019/06/5d138b769c747_5d138b6b0504a_356244818.jpeg)
8. ปลาแซลมอนที่เราล้างไว้นั้น โรยพริกไทยเล็กน้อย
หากใช้ปลาแซลมอนสด (ไม่ต้องต้มน้ำร้อนล้างในขั้นตอน1-4) ให้ล้างขอดเกล็ดเหมือนปลาทั่วไป ล้างจนสะอาดก่อนแล่เป็นชิ้น แล้วนำมาหมักเกลือพริกไทย 10-15 นาที
![](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2019/06/5d1390165a09b_5d138f1b34413_93154704.jpeg)
9. คลุกแป้งสาลีเอนกประสงค์ให้ทั่วชิ้นปลา บางๆ
![](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2019/06/5d1390173f77b_5d138fb62a823_1890884312.jpeg)
10. ตีไข่ไก่ใส่จานไว้ เตรียมคลุกกับปลาแซลมอน ทีละชิ้น
![](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2019/06/5d139097c0105_5d1390613c681_948651820.jpeg)
11. เมื่อชุบปลาแซลมอนกับไข่แล้ว เตรียมคลุกโคโซปังโกะ ทีละชิ้น โดยใช้มือซ้ายหยิบปลามาใส่ในโคโซปังโกะ แล้วใช้มือขวาโกยโคโซปังโกะคลุกให้ทั่วชิ้นปลา (มือซ้าย-หยิบปลาฝั่งซ้าย / มือขาว-หยิบปลาที่คลุกปังโกะแล้ว)
![](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2019/06/5d1390e10cd17_5d1390d0eebac_1281932267.jpeg)
12. เมื่อคลุกโคโซปังโกะแล้วก็เตรียมทอดค่ะ
![](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2019/06/5d157727a08a8_5d1576e4b5fd3_170282599.jpeg)
13. ตั้งกระทะ ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันมะกอกเพียงเล็กน้อย
![](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2019/06/5d157a3788c80_5d1579e2c1360_146666894.jpeg)
14. ใส่ปลาลงทอด เอาด้านหนังลงก่อน
![](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2019/06/5d157a386ce4e_5d157a098fb17_1127764460.jpeg)
15. ทอดจนสุกกรอบทั่วทุกด้าน ก็ตักขึ้นใส่จานได้เลยค่ะ
จัดเสิร์ฟ
![จัดเสิร์ฟ](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2019/06/5d157a39644d7_5d1578bb49609_107011473.jpeg)
จัดใส่จานละ 2 ชิ้น แล้ววางผักสลัดไว้ด้านข้าง สำหรับจานนี้ใช้สลัดเบบี้ลีฟกับมะเขือเทศจิ๋ว พร้อมน้ำสลัดอิตาเลียน เสิร์ฟคู่กับซุปหอมใหญ่ค่ะ
![](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2019/06/5d157a3a3509c_5d1579557f4a4_1614001958.jpeg)
การเสิร์ฟแบบญี่ปุ่น ให้จัดเป็นชุด ตักข้าวญี่ปุ่นใส่ถ้วย พร้อมวางตะเกียบไว้ด้านหน้าค่ะ
ทำเมนูอื่นได้หลากหลาย
![ทำเมนูอื่นได้หลากหลาย](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2019/06/5d157a3b059a3_5d15775d6c602_849448048.jpeg)
ส่วนผสมของโคโซปังโกะ สามารถนำไปคลุกกับเนื้อสัตว์หรือผักอื่นๆได้หลากหลาย เช่น ชุบหมูสันนอก ชุบเนื้อไก่ เห็ดหอมสด เป็นต้น
![](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2019/06/5d157a3bb06c1_5d1577dacbe69_526144238.jpeg)
หากทำไว้เยอะ ทอดไม่หมด ก็ใส่ถุง ไล่อากาศออกให้หมด แช่แข็งเก็บไว้ได้ค่ะ สะดวกมาก พอหิวเมื่อไร นำออกมาทอดได้เลยค่ะ
![](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2019/06/5d157a3c6a6a1_5d15788a8fada_348961236.jpeg)
สำหรับใครที่มาญี่ปุ่นแล้วอยากชิมเมนูนี้ หากินได้ยากค่ะ ตามร้านอาหารอิตาเลียนสไตล์ญี่ปุ่น บรรยากาศอบอุ่นแบบครอบครัว (แฟมิลี่เรสเตอร์รองท์) หรือร้านขายกับข้าวบริเวณชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้า ก็ไม่ค่อยมีขายนะคะ
ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตมีขายแบบชุบผงสำเร็จวางขายตรงแผงปลาสด ต้องซื้อไปทอดเองค่ะ หรือจะซื้อผงโคโซปังโกะปรุงสำเร็จ(香草パン粉焼き/Kōsō panko-yaki) ที่วางขายอยู่ใกล้ๆกัน ติดไม้ติดมือกลับไปก็ดีไม่น้อยค่ะ
![](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2019/06/5d157a3d393db_5d157819beff6_35627181.jpeg)
“ปังโกะยากิ” หรือ “โคโซปังโกะยากิ” เป็นอาหารที่คนญี่ปุ่นนิยม อยากให้เพื่อนๆได้รู้จักและลองทำกินกันนะคะ