ตลาดในญี่ปุ่นเรียกว่า โชเท็นไก (แปลว่า ย่านการค้า) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ตั้งแต่อาเมโยโกะที่อุเอโนะ ตลาดคุโรมงที่โอซาก้า ย่านการค้าทานุกิที่ซัปโปโร ทุกที่มีจุดเด่นและเสน่ห์เฉพาะตัวแบบญี่ปุ่น หน้าตาดูแล้วไม่เชิงตลาดสด แต่ก็ไม่คล้ายตลาดตึกแถวแบบไทย

เรียกได้ว่า Shotengai คือตลาดที่ทำให้เรารู้สึกถึงความเป็นญี่ปุ่นแบบอธิบายไม่ถูกจนกว่าจะได้มาชมด้วยตัวเอง นอกจากจะมีข้าวของเครื่องใช้ อาหารการกินต่างๆ ให้ได้เดินช้อปชมชิม หลายที่ก็ยังมีวิถีชีวิตของผู้คนในอีกแง่มุมที่แตกต่างออกไปเห็นอีกด้วย

มาดูกันเถอะ แล้วมาเล่าด้วยนะว่าคุณอยากจะไปที่ไหน?

ตลาดอะเมโยโกะในย่านอุเอโนะ มีที่มาจากการเป็นตลาดมืดในช่วงหลังยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง และจากนั้นก็มีความเปลี่ยนแปลงเรื่อยมาจนกลายเป็นตลาดกลางแจ้งขนาดใหญ่ ที่มีจุดเด่นคือเป็นแหล่งอาหารการกินซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารเช่นอาหารแนวสตรีทฟู้ด ซีฟู้ด ขนมกับอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม เช่น ทาโกะยากิ (Takoyaki), คร็อกเก้ (croquette) ตลอดจนอาหารนานาชาตินอกเหนือจากอาหารญี่ปุ่นก็มีไม่น้อยเลย

ตลอดระยะทางเดินของตลาดที่เป็นทางยาวเกิน 500 เมตรก็มีร้านค้าอื่นๆให้แวะชมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง เสื้อผ้า รองเท้าแฟชั่น กระเป๋า เครื่องประดับ ฝากต่างๆ อีกทั้งยังมีตึกอะเมโยโกะเซ็นเตอร์ที่เป็นแหล่งซื้อสมุนไพรกับเครื่องเทศรวมถึงร้านอาหารสไตล์อิซากายะที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงด้วย นอกจากนี้ซอยอื่นที่แตกสาขาออกไปจากซอยหลัก แม้ในทางเทคนิคจะไม่ได้มีชื่อว่าอะเมโยโกะ แต่เวลาไปเดินจริงๆก็รู้สึกเหมือนเป็นตลาดเดียวกัน เรียกว่ามีอะไรให้ชมมากขึ้นไปอีก เป็นหนึ่งในที่เที่ยวที่คนไทยใช้เวลาเดินมากที่สุดแห่งนึง

เวลาทำการ : 10.00-19.00 น.

การเดินทาง : จากสถานี Ueno หรือ Okachimachi ถึงทันที (ตลาดอะเมโยโกะเป็นถนนยาวจากสถานี Ueno ไปจนถึงสถานี Okachimachi)

ตลาดคุโรมง เป็นตลาดเก่าแก่และมีชื่อเสียงในโอซาก้าซึ่งเริ่มก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1902 ปัจจุบันได้รับการขนานนามว่าครัวของโอซาก้า เนื่องจากมีความโดดเด่นในเรื่องเป็นแหล่งวัตถุดิบที่ทั้งสดและมีให้เลือกมากมายจากร้านค้านับร้อย ไม่ว่าจะเป็นร้านปลาสด อาหารทะเลสด ผัก ผลไม้ รวมถึงของกินอีกมากมาย ภายใต้บรรยากาศของตลาดริมทางเดินทอดยาว ราวๆ 600 เมตร

ที่ผ่านมาภาพลักษณ์ของที่นี่คือตลาดของพ่อครัวมืออาชีพที่เข้ามาซื้อวัตถุดิบทำอาหารสำหรับร้านอาหาร แต่ปัจจุบันนี้ได้กลายเป็นสถานที่แห่งอาหารการกินที่นักท่องเที่ยวสามารถการเดินเที่ยวไปกินอาหารอร่อยไป รวมถึงจุดเด่นอย่างการรับประทานอาหารปรุงเสร็จใหม่ๆที่ใช้วัตถุดิบสดๆเช่นเนื้อสัตว์หรืออาหารทะเลที่เลือกซื้อในตลาดได้เลย ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ

เวลาทำการ : 09.00-18.00 น.

การเดินทาง : จากสถานีรถไฟใต้ดิน Nippombashi เดินออกทางออกหมายเลข 5 หรือ10

ย่านการค้าเก่าแก่ขนาดใหญ่ของนาโกย่า อายุกว่า 400 ปี มีร้านค้ารวมแล้วประมาณ 1,200 ร้าน ท่ามกลางบรรยากาศเหมือนได้ย้อนไปในสมัยญี่ปุ่นโบราณซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของย่านนี้ และในขณะเดียวกันก็ผสานความเป็นตลาดสมัยใหม่และกลายเป็นสถานที่ยอดนิยมของวัยรุ่นอีกแห่ง สินค้าส่วนใหญ่ก็มีทั้งสินค้าสไตล์ญี่ปุ่นโบราณ เช่นร้านขายชุดกิโมโน ชุดชงชาเขียว ของใช้ในครัวต่างๆ ตลอดจนสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้ารองเท้าแฟชั่น ของสะสมเกี่ยวกับอนิเมะ การ์ตูน ของเล่น รวมทั้งร้านอาหารและคาเฟ่หลากหลายสไตล์

นอกจากเป็นย่านการค้าและแหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงแล้ว ที่นี่ยังเป็นสถานที่ใช้จัดงานเทศกาลประจำปีที่สำคัญหลายงานซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องมายาวนาน เช่น เทศกาลฤดูร้อนโอสุ Osu Summer Fastival ในเดือนสิงหาคม และเทศกาล Osu Daido Chonin Matsuri จัดขึ้นเดือนตุลาคมของทุกปี เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Osu Street Performance Festival เป็นงานใหญ่ที่จะได้พบกับกิจกรรมสนุกๆ บนถนนในย่านช้อปปิ้งโอสุรวมทั้งขบวนพาเหรดที่ยิ่งใหญ่ด้วย

เวลาทำการ : 11.00-20.00 น.

การเดินทาง : รถไฟใต้ดิน Tsurumai Line ลงที่สถานี Osukannon ออกทางออกที่ 2 และเดินต่อไปอีกประมาณ 10 นาที

ย่านการค้าทานุกิโคจิคือตลาดเก่าแก่ที่มีอายุยาวนานกว่า 100 ปี ก่อตั้งในยุคบุกเบิกเกาะฮอกไกโดใหม่ๆตั้งแต่สมัยเมจิ ในแต่ละวันก็มีทั้งชาวญี่ปุ่นกับนักท่องเที่ยวต่างชาติไปเยือนตลาดแห่งนี้จำนวนมาก ความโดดเด่นอย่างหนึ่งของที่นี่คือจะมีโครงสร้างหลังคากันแดดกันฝนเชื่อมต่อกันทั่วทุกพื้นที่ โดยแบ่งเป็น 7 โซน 7 บล็อก ทำให้เดินเลือกซื้อของได้อย่างสบายใจแม้ในช่วงหน้าฝน

ด้านในมีร้านค้าต่างๆ มากกว่า 200 ร้านค้าตั้งอยู่สองข้างถนนความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร สินค้าที่ขายมีแทบทุกอย่าง เช่นเสื้อผ้าแฟชั่น กระเป๋า และร้านขายรองเท้าร้านดังอย่าง ABC MART อีกทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้ากับเครื่องสำอางก็มีราคาไม่แพงถูก ตลอดจนสินค้าประเภทของฝากของที่ระลึกชื่อดังของฮอกไกโดประเภทขนม นม เนย ชีส ต่างๆ ก็มีให้เลือกซื้ออย่างจุใจ นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลประจำปีเช่นเทศกาลทานุกิในช่วงฤดูร้อน เป็นต้น

เวลาทำการ : ตลอด 24 ชั่วโมง

การเดินทาง : จากสถานีรถไฟใต้ดิน Susukino เดินออกทางออกที่ 1

ตลาดขนาดใหญ่ในเมืองนาฮะที่ก่อตั้งขึ้นมากว่า 60 ปี ตั้งแต่หลังช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง ตั้งอยู่บริเวณถนนโคคุไซโดริ (Kokusai Dori) ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่มีอะไรให้ทำมากมายของโอกินาวา เสน่ห์ของตลาดแห่งนี้ไม่เพียงแต่มีอาหารทะเลสดรวมทั้งวัตถุดิบต่างๆมากมาย แต่ยังจะได้พบกับบรรยากาศวิถีชีวิตของชาวโอกินาวาอีกทั้งผลิตภัณฑ์ประจำท้องถิ่น เช่นเนื้อ เต้าหู้ ปลาคามาโบโกะ ผักดอง ขนมหวาน และเป็นแหล่งรวมผลไม้ที่ปลูกเฉพาะบนเกาะโอกินาว่าที่น่าจะถูกปากคนไทยแต่หาทานได้ยากในที่อื่นของญี่ปุ่น เช่นแก้วมังกร เสาวรส

นอกจากนี้ก็ยังมีวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหารหลากหลายชนิดที่ได้รับความนิยมมากได้แก่ ปลาปากนกแก้วสีฟ้า ปลากะพงแดงหน้าตั้ง อาหารกระป๋องที่ทำมาจากหมูโอกินาวา (Agu Buta) ประเภทแฮมหรือไส้กรอก ส่วนชั้น 2 ของตลาดจะมีร้านอาหารซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถซื้อวัตถุดิบจากตลาดชั้น 1 แล้วนำขึ้นมาให้ร้านอาหารบนชั้น 2 ประกอบอาหารเมนูท้องถิ่นให้รับประทานได้ด้วย

เวลาทำการ : 08.00-20.00 น. (เวลาทำการของแต่ละร้านอาหารอาจแตกต่างกัน)

การเดินทาง : รถโมโนเรลสาย Okinawa City Monorail ไปลงสถานี Makishi และเดินอีก 10 นาที