มอนจายากิ (もんじゃ焼き) เป็นอาหารประเภทกระทะร้อนของญี่ปุ่นค่ะ มีถิ่นกำเนิดที่โตเกียว ในปี ค.ศ.1940 ใกล้กับเขตอาซากุสะ จึงมีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมาก นั่นคือ “Tsukishima Monja Street” ค่ะ เป็นร้านมอนจายากิตลอดสองฝั่งถนน ในช่วงค่ำคนจะเยอะสุดค่ะ มีทั้งนักท่องเที่ยว และคนทำงานมากินเลี้ยงกันค่ะ

แม้มอนจายากิกิจะมีถิ่นกำเนิดที่โตเกียว แต่ก็มีการพบหลักฐานว่าในยุคสมัยเอโดะก็มีมอนจายากิค่ะ โดยใช้แป้งเขียนเป็นตัวอักษร คำว่าตัวอักษร ภาษาญี่ปุ่น เรียกว่า “โมจิ” ตัวขนมนี้เลยมีชื่อว่า “มอนจิ” และก็เรียกผันจนกลายเป็น “มอนจา” ค่ะ ชื่อเหมือนกันแต่ลักษณะต่างกันจากแบบปัจจุบันนะคะ

ในช่วงปี ค.ศ.1945 มอนจายากิเป็นขนมทานเล่นของเด็กๆ มีขายตามร้านขนมญี่ปุ่นโบราณ เป็นร้านเล็กที่อยู่ในเขตชุมชน ใกล้โรงเรียนประถมและโรงเรียนมัธยมต้น ในร้านมีกระทะร้อนสำหรับย่างมอนจายากิ ส่วนผสมเริ่มแรกมีแค่น้ำผสมแป้งปรุงรส ต่อมาก็มีขนมที่ขายในร้านใส่เพิ่ม อย่างบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทำหรับทานเล่น บ้างก็มีรสหวานจากน้ำแดงญี่ปุ่นด้วยนะคะ ด้วยความอร่อยที่บอกต่อๆกันจนได้รับความนิยมมาก จึงมีส่วนผสมหลากหลายขึ้น อย่าง ชีส กุ้งแห้งญี่ปุ่น โมจิ ไข่ปลาเมนไตโกะ กลายเป็นมอนจายากิสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมาจนทุกวันนี้ค่ะ

ทั้งนี้ขนมมอนจายากิในร้านขนมญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นทั่วไปหลายคนก็ไม่รู้จักนะคะ เพราะร้านก็ลดน้อยลง หากินได้ยากมากค่ะ มีขายเฉพาะท้องถิ่นบางที่เท่านั้นค่ะ บวกกับความนิยมของมอนจายากิแบบผู้ใหญ่ที่เข้ามาแทนที่ด้วยค่ะ

วันนี้เราจึงมีสูตรมอนจายากิ ซึ่งไม่ใช่สูตรตามร้านธรรมดา แต่มีกลิ่นอายความโบราณนิดๆด้วยสูตรใส่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แบบเดียวกับที่ร้านขนมญี่ปุ่นสมัยก่อนทำขายมาให้ลองทำกันค่ะ ข้อดีก็คือทำง่ายๆ ใช้วัตถุดิบในไทยก็ทำได้ มาดูสูตรกันเลย

1. น้ำ 300 มิลลิลิตร
2. ชิโร่ดะชิ 2 ช้อนโต๊ะ
3. แป้งสาลี 3 ช้อนโต๊ะ
4. โชยุ 1 ช้อนชา

1. ผักกะหล่ำปลี
2. แป้งทอด(อาเกะดามะ) หรือ กากหมู
3. ไส้กรอก
4. ปูอัด
5. ชีสสำหรับโรยหน้าพิซซ่า
6. โมจิญี่ปุ่น (ไม่ใส่ก็ได้ หรือ ใส่ข้าวสวยแทนได้)
7. บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
8. ขิงดองสีแดง (ไม่ใส่ก็ได้)

* สามารถเพิ่มเนื้อสัตว์ต่างๆได้ตามชอบ เช่น ไข่ปลาเมนไตโกะ เอ็นเนื้อตุ๋น กุ้ง ปลาหมึก เป็นต้น
* ใส่ผักชนิดอื่นได้ เช่น พริกหยวก กุยช่าย ข้าวโพด เป็นต้น
* ปริมาณวัตถุดิบแต่ละอย่าง ใส่เพียงอย่างละนิดหน่อย พอผสมกับส่วนของแป้งแล้ว ให้ดูน้ำเยอะกว่าค่ะ
* ระวังวัตถุดิบที่มีรสเค็ม อย่าง ชีส และ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสำหรับกินเล่นของญี่ปุ่น อย่าใส่เยอะค่ะ

1. สับผักกะหล่ำเป็นชิ้นเล็กๆ

2. แป้งทอด(อาเกะดามะ) หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตญี่ปุ่นค่ะ หากไม่มีสามารถใช้กากหมูแทนได้ หอมและอร่อยกว่าด้วยนะคะ

3. วัตถุดิบอื่นๆที่มีชิ้นใหญ่ให้หั่นเป็นชิ้นเล็ก อย่าง โมจิ ไส้กรอก หรือ เนื้อสัตว์ต่างๆ

4. บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปใช้ยี่ห้อใดก็ได้ค่ะ เลือกชนิดเส้นที่กรอบ ห่อนึงทำได้ 2-3 กระทะ

6. นำวัตถุดิบทั้งหมดใส่ชามหรือกาละมัง

7. ใส่ส่วนของแป้งที่ผสมไว้ลงไป

เมื่อเตรียมทั้งหมดพร้อมแล้ว เรามาดูวิธีทอดและวิธีรับประทานกันในหน้าถัดไปค่ะ