เที่ยว10ที่ใกล้โตเกียวแบบไม่เสียค่าเข้า
6.เที่ยวพิพิธภัณฑ์ Toshiba Science Museum เมืองKawasaki จังหวัดKanagawa
![6.เที่ยวพิพิธภัณฑ์ Toshiba Science Museum เมืองKawasaki จังหวัดKanagawa](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2018/09/5ba0c301cbdbf_5ba0c0681696e_53040863.jpg)
https://ja.wikipedia.org/wiki/%E6%9D%B1%E8%8A%9D%E6%9C%AA%E6%9D%A5%E7%A7%91%E5%AD%A6%E9%A4%A8#/media/File:Lazona_Kawasaki_Toshiba_Building.jpg
ที่นี่มีชื่อเรียกเท่ๆอีกอย่างหนึ่งว่า พิพิธภัณฑ์แห่งอนาคต ที่น่าสนใจและได้ความรู้มากๆ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่สามารถสนุกได้โดยไม่เบื่อ ซึ่งภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะแยกออกเป็นโซนมีทั้ง Welcome Zone ที่จะปูพื้นความรู้เชิงวิทยาศาสตร์ให้เราก่อน History Zone เป็นโซนที่รวบรวมสินค้าและเครื่องใช้ไฟฟ้าตามบ้านนานาชนิดที่ถูกคิดค้นโดยโตชิบาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน Future Zone จะเป็นโซนที่เราสามารถทดลอง เล่น, หยิบ, จับ, สัมผัสพลังงาน, โครงสร้างอาคาร, บ้าน, สัญญาณการสื่อสาร และวงจรต่างๆในรูปแบบนิรรศการ และ Science zone ซึ่งเป็นจุดเรียนรู้, ค้นหาความจริงต่างๆในทางวิทยาศาสตร์ แถมยังมีโชว์เด็ดๆ โดยใช้ของใกล้ๆตัวมาเล่นสนุกเชิงวิทยาศาตร์กันได้ เรียกว่าสนุกได้ทั้งครอบครัวแบบฟรีๆโดยไม่ต้องจองล่วงหน้าด้วย ถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์เข้าฟรีที่ครบเครื่องที่นึง
ค่าเข้าชม: ฟรี
เวลาทำการ: 10:00-17:30 น.
วันปิดทำการ: ทุกวันจันทร์
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟ JR สาย Yokohama ลงที่สถานี Kawasaki ทางออกฝั่งตะวันตก เดิน 1 นาที
7.ชมและชิมฟรีที่โรงงานเบียร์ Asahi ที่เมืองMoriya จังหวัดIbaraki
![7.ชมและชิมฟรีที่โรงงานเบียร์ Asahi ที่เมืองMoriya จังหวัดIbaraki](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2018/09/5ba0c30294158_5ba0c0f14413c_1375070490.jpg)
https://www.asahibeer.co.jp/brewery/ibaraki/
ที่โรงงานเบียร์แห่งนี้ เราสามารถชมฟรี ดื่มฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งใครอยากจะไปจะต้องทำการโทรจองหรือจองทางเว็บไซต์ก่อน จากนั้นก็สามารถเข้าเยี่ยมชมโรงงานได้ ซึ่งเราจะได้เห็นถึงกระบวนการผลิต,วัตถุดิบที่ใช้ผลิตเบียร์ในแบบต่างๆ และหลังจากทัวร์โรงงานเสร็จเค้าก็ยังมีเบียร์ให้เราได้เลือกลองชิมได้ตามใจภายใต้ข้อจำกัดคนละไม่เกิน 3 แก้วในระยะเวลา 20 นาที แถมมีเจ้าหน้าที่มาสอนวิธีรินเบียร์ที่ถูกต้องด้วย เราสามารถนั่งริมหน้าต่าง กวาดสายตาดูวิวสวนสวยๆของโรงงานพร้อมจิบเบียร์ได้ยังกับนั่งอยู่ในร้านหรูๆ โดยไม่เสียตังค์สักบาท
ค่าเข้าชม: ฟรี
เวลาทำการ: 9:30-15:00 น.
วันปิดทำการ: ตามปฏิทินของโรงงาน
วิธีการเดินทาง: จากสถานี Akihabara นั่งรถไฟ Tsukuba Express ไปลงที่สถานี Moriya และไปรอรถ shuttle bus ฟรีที่จุดขึ้นรถบัสหมายเลข 2 เพื่อไปที่โรงงานเบียร์ต่อไป
8.วัด Naritasan Shinshoji เมืองNarita จังหวัดChiba
![8.วัด Naritasan Shinshoji เมืองNarita จังหวัดChiba](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2018/09/5ba0c3034bdff_5ba0c18c9a93b_309309017.jpg)
อีกหนึ่งวัดดังในหมู่นักท่องเที่ยวทุกชนชาติ เพราะความดีงามอย่างแรกคือตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินนานาชาตินาริตะ จะแวะหลังลงเครื่องก่อนเริ่มเที่ยว หรือจะแวะหลังเที่ยวเสร็จก่อนกลับก็ทำได้ง่ายๆ
วัดแห่งนี้เป็นวัดพุทธขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ.940 บริเวณโดยรอบมีทั้งสถาปัตยกรรมและเจดีย์ 3 ชั้น รวมทั้งสวนขนาดใหญ่ที่ในช่วงดอกซากุระและดอกบ๊วยบานในฤดูใบไม้ผลินั้นที่นี่ก็จะมีสีสันจากดอกไม้ที่บานสะพรั่ง จนกลายเป็นที่ชมดอกไม้ชื่อดังอีกแห่งหนึ่งนั่นเอง ถือว่าได้มาเที่ยวชมความงามแบบญี่ปุ่นฟรีๆโดยที่สามารถโยนกระเป๋าตังค์ทิ้งได้เลย แต่นักท่องเที่ยวสายช้อปก็ยังสามารถเดินละลายทรัพย์จับจ่ายงานฝีมือของคนท้องถิ่นที่ถนน Omotesando Street หน้าวัดได้
ค่าเข้าชม: ฟรี
เวลาทำการ: เปิด 24 ชั่วโมง
วันปิดทำการ: ไม่มี
การเดินทาง: นั่งรถไฟไป JR หรือ Keisei ไปลงที่สถานี Narita หรือสถานี Keisei Narita เดินไปประมาณ 15-20 นาที
9.เที่ยวถนนสมัยเอโดะ Kurazukuri เมืองKawagoe จังหวัดSaitama
![9.เที่ยวถนนสมัยเอโดะ Kurazukuri เมืองKawagoe จังหวัดSaitama](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2018/09/5ba0c30405672_5ba0c26374aa3_1444637412.jpg)
ที่นี่เราสามารถสัมผัสบรรยากาศย้อนยุคแบบสมัยเอโดะ (ช่วงค.ศ. 1603-1867) ได้อย่างเต็มที่ เพราะไม่ว่าจะเป็นอาคาร, บ้านเรือน, ร้านค้า, วัดและศาลเจ้าต่างๆ ก็ได้มีการอนุรักษ์สภาพที่เหมือนกับในสมัยเอโดะไว้เป็นอย่างดี จนได้สมญานามว่า Little Edo
อยู่ใกล้กับโตเกียวเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้นเอง ซึ่งที่เมืองKawagoe แห่งนี้จะมีถนนเส้นหลักชื่อ Kurazukuri ที่จะมีสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง โดยเฉพาะดาวเด่นอย่างหอระฆัง Tokinokane ที่แม้จะผ่านมาหลายปีแต่หอระฆังนี้ก็ยังคงสภาพสมบูรณ์และยังคงมีการตีระฆัง 4 ครั้งต่อวัน ซึ่งเราสามารถไปชมได้ฟรีๆทั้งถนนสายนี้และหอระฆัง
ส่วนใครใคร่จะช้อปหรือจะชิม เค้าก็มีร้านรวงที่ตกแต่งได้เข้ากับบรรยากาศสุดๆก็คงไม่แปลก ถ้าเราจะประหยัดตังค์ค่าเข้าชม มาเสียตังค์ให้กับขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่นที่นี่ นอกจากนี้ ก็ยังมีสถานที่ใกล้ๆอย่างปราสาท Kawagoe หรือ วัด Kita-in ให้เราปั่นจักรยานหรือจะนั่งรถบัสนำเที่ยวไปก็ได้
ค่าเข้าชม : ฟรี
เวลาทำการ : 11.00-15.00 น.
วันปิดทำการ: ทุกวันจันทร์
การเดินทาง: นั่งรถไฟ Tobu จากสถานี Ikebukuro ลงที่สถานี Kawagoe-shi หรือนั่งรถไฟสาย Seibu ขึ้นจากสถานี Shinjuku ไปลงที่สถานี Hon-Kawagoe หรือนั่งรถไฟ JR สาย Saikyo Line จากสถานีต่างๆกลางโตเกียวเช่น ikebukuro, Shinjuku, Shibuya ไปลงที่สถานี Kawagoe ก็ได้ (วิธีนี้สามารถใช้บัตร JR Pass ได้)
10.สวนดอกไม้ Hitsujiyama Park เมืองChichibu จังหวัดSaitama
![10.สวนดอกไม้ Hitsujiyama Park เมืองChichibu จังหวัดSaitama](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2018/09/5ba0c304c6b66_5ba0c2f0ab8d6_1496202279.jpg)
ถ้าจะพูดถึงสวนดอกไม้ที่มีชื่อเสียงที่สุดของจังหวัด Saitama ทุกคนก็ต้องนึกถึงสวน Hitsujiyama เพราะในช่วงกลางเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี ซึ่งตรงกับเทศกาลฮานามิ จะเป็นช่วงที่ดอก Shibazakura หรือดอกมอสชมพูหลายสายพันธุ์กว่า 350,000 ดอกที่บานสะพรั่งแทบจะกินพื้นที่ไปทั้งภูเขา
แต่ช่วงดอกไม้ต้องเสียค่าเข้าชมสวนนิดหน่อย ส่วนใครที่เน้นเที่ยวแบบไม่พกตังค์ก็สามารถมาเที่ยวที่สวนแห่งนี้ได้เหมือนกันในช่วงอื่น เพราะที่นี่วิวดีมากกกก ไม่เป็นช่วงที่ไม่มีดอก Shibazakura เพราะปกติแล้วที่นี่จะมีหัวรถจักรจัดแสดงไว้และมีดอกไม้ชนิดอื่นที่สวยไม่แพ้กัน อย่างดอกไอริสสีม่วงกว่า 1,000 ต้นที่จะบานในฤดูร้อน หรือช่วงก่อนพฤษภาคมก็จะมีดอกซากุระบางชนิดบานให้เห็นกันทั่วสวน หรือใครจะไปหย่อนใจชมบ่อน้ำและทิวเขา หรือจะไปนอนชมเค้าจุดดอกไม้ไฟในฤดูร้อนก็ได้ ไม่เสียตังค์สักกะบาท
ค่าเข้าชม : ฟรี (ยกเว้นช่วงฤดูชิบะซากุระบาน จะมีค่าเข้าคนละ 300 เยน)
เวลาทำการ : 8.00-17.00น.
วันปิดทำการ: ไม่มี
การเดินทาง: จากโตเกียว ขึ้นรถไฟที่สถานี Ikebukuro ขึ้นรถด่วนสาย Seibu Ikebukuro ไปลงที่สถานี Hanno ใช้เวลาประมาณ 45 นาที จากนั้นต่อสายธรรมดาสายเดียวกัน ไปลงที่สถานี Seibu Chichibu อีกประมาณ 50 นาที