บทความชุดนี้ แม่บ้านจะแนะนำคีย์เวิร์ดภาษาญี่ปุ่นสำหรับให้ผู้อ่านได้ทดลองค้นหาสถานที่ด้วยตนเอง และในแต่ละหัวข้อ แม่บ้านจะแนะนำ 3 สถานที่ที่น่าสนใจเป็นตัวอย่างค่ะ ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านกันค่ะ!

สำหรับใครที่สนใจตอนอื่น สามารถอ่านได้ที่
・พาลูกเที่ยวแบบคนญี่ปุ่น! ตอน : เที่ยวพิพิธภัณฑ์และห้องสมุดญี่ปุ่น
・พาลูกเที่ยวแบบคนญี่ปุ่น! ตอน : เที่ยวสวนน้ำและสกีหิมะญี่ปุ่น

บางครั้งการเรียนรู้และเห็นสัตว์จากในหนังสืออาจจะไม่จุใจพอสำหรับเด็ก การพาเด็กออกไปสัมผัสของจริงจากที่เคยเห็นรูปสัตว์ในรูปแบบของ 2D ก็กลายเป็น 3D ซึ่งกระตุ้นการเรียนรู้ของเด็กได้เป็นอย่างดีค่ะ

ญี่ปุ่นมีสวนสัตว์ทั้งหมด 89 แห่งกระจายอยู่ทั่วประเทศญึ่ปุ่น (ข้อมูลจากเว็บไซต์ที่มีการสำรวจล่าสุดในปี 2020) สวนสัตว์ญี่ปุ่นมีแบบเข้าชมฟรีด้วยนะคะ โดยเมืองหรือเทศบาลเป็นคนจัดสรรงบประมาณให้สวยสัตว์ที่เปิดให้เข้าฟรีดำเนินการต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง แม่บ้านชอบไปสวนสัตว์ในวันที่อากาศดี ฝนไม่ตก เพราะสวนสัตว์ส่วนใหญ่จัดแสดงในพื้นที่เปิด บางที่ก็มีโซนที่ให้เราได้สัมผัสกับสัตว์ อย่างกรงนกขนาดใหญ่ ต้าวน้อนคาปิบาร่า หรือสวนของจิงโจ้ค่ะ

สวนสัตว์ญี่ปุ่นไม่เพียงจะนำสัตว์มาจัดแสดงเท่านั้น แต่สัตว์บางชนิดก็ถูกอนุรักษ์อยู่ในสวนสัตว์เพราะสัตว์ชนิดนั้นที่อยู่ในธรรมชาติแทบจะสูญพันธ์ไปแล้วก็มีค่ะ สวนสัตว์ญี่ปุ่นส่วนใหญ่มีการจัดพื้นที่ให้สัตว์ได้อยู่ในพื้นที่และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม สภาพใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด ทำให้เราได้เห็นและเข้าใจธรรมชาติของสัตว์แต่ละชนิดมากขึ้นค่ะ

※ คีย์เวิร์ดในการค้นหา สวนสัตว์ = 動物園

สวนสัตว์แนะนำ：
Ueno Zoo (上野動物園) มหานครโตเกียว (Tokyo)

สวนสัตว์ Ueno เป็นสวนสัตว์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นค่ะ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1882 หรือก่อตั้งมา 140 ปีแล้วค่ะ และในปี 2022 นี้ Ueno Zoo ยังคงครองอับดับ 1 ของสวนสัตว์ยอดนิยมในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย สิ่งที่ทำให้สวนสัตว์ Ueno ยังคงเป็นที่นิยมคงเป็นเพราะสวนสัตว์ Ueno เป็นสวนสัตว์ที่มีขนาดใหญ่อยู่ใจกลางเมืองโตเกียว และมีแพนด้านั่นเองค่าาา (ไม่ว่าประเทศไหนก็เป็นติ่งแพนด้าได้สินะ)

ล่าสุดแพนด้าในสวนสัตว์ Ueno ก็เพิ่งคลอดลูกแพนด้า 2 ตัวไปค่ะ มีการประกวดชื่อแพนด้าน้อยด้วย แม่บ้านเคยร่วมประกวดชื่อน้องแพนด้าทั้งสองด้วย โดยตั้งชื่อว่าน้อง Pfizer กับน้อง Moderna ค่ะ กรรมการคงคิดว่าคนสติดีที่ไหนจะตั้งชื่อแพนด้าแบบนี้? ตั้งไปมีหวังจีนยึดแพนด้าคืนค่ะ ฮาาา ส่วนชื่อที่ชนะคือ Lei Lei กับ Xiao Xiao ค่ะ

สวนสัตว์ Ueno ค่าเข้าก็ราคามิตรภาพ โรงเรียนในโตเกียวก็ชอบพาเด็ก ๆ ไปทัศนศึกษาที่ Ueno Zoo เยอะค่ะ เพราะอยู่ในโตเกียว ใกล้ และเดินทางสะดวก และ Ueno ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คนไทยนิยมกันมากติดอันดับต้น ๆ แม่บ้านเชื่อว่าหลายคนคงไม่พลาดที่จะแวะไปสวนสัตว์ Ueno กันมาแล้ว ใครมีประสบการณ์ในการไปเที่ยวสวนสัตว์ Ueno ก็มาเล่ากันฟังหน่อยนะคะ

สวนสัตว์แนะนำ：
Asahiyama Zoo (旭川市旭山動物園) จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido)

หากต้องการดูสัตว์เมืองหนาวที่หาดูไม่ได้ในประเทศไทย ต้องขอแนะนำสวนสัตว์ Asahiyama Zoo เลยค่ะ เป็นสวนสัตว์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ได้อับดับ 2 ของสวนสัตว์ยอดนิยมประเทศญี่ปุ่นในปี 2022 อยู่ตอนกลางของจังหวัดฮอกไกโดห่างจากตัวเมือง Asahikawa ออกไปหน่อยค่ะ

ทางสวนสัตว์มีสัตว์พื้นเมืองจัดแสดงให้เราได้เห็น เช่น นกกระเรียน นกอินทรี กวาง และหมาป่าสต๊าฟ (ซึ่งปัจจุบันหมาป่าสูญพันธุ์ไปแล้วค่ะ) และสัตว์อื่น ๆ อย่างต้าวอ้วงหมีขั้วโลก แพนด้าแดงสุดน่ารักที่จะมาปีนป่ายให้เราดู นุ้งเพนกวินดุ้กดิ้ก เป็นสวนสัตว์ที่อากาศเย็นตลอดปี ใครอยากหนีฤดูร้อนของญี่ปุ่น บินไป ฮอกไกโดแวะสวนสัตว์ Asahiyama เดินได้ชิล ๆ ไม่มีเหนื่อยเลยค่ะ พูดแล้วก็คิดถึงฮอกไกโด อาหารอร่อยทุกเมนู หิมะฟู ๆ อยากไปทุกปีเลยค่าาา

สวนสัตว์แนะนำ：
Higashiyama Zoo and Botanical Gardens (東山動植物園) จังหวัดไอจิ (Aichi) เมืองนาโกย่า (Nagoya)

เป็นสวนสัตว์ที่ได้อับดับ 3 สวนสัตว์ยอดนิยมประเทศญี่ปุ่นในปี 2022 อยู่ใจกลางเมือง เป็นสวนสัตว์ที่มีสัตว์จำนวนมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ทั้งใหญ่และมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่เพียงแต่จะได้ชมสัตว์เท่านั้น เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ถึงระบบนิเวศน์และถิ่นที่อยู่ผ่านการจัดแสดงเพื่อการศึกษา

ไฮไลท์คือสวนพฤกษศาสตร์ ซึ่งเป็นแหล่งรวมพันธุ์ไม้ประมาณ 7,000 กว่าสายพันธุ์ มีต้นซากุระประมาณ 1,000 ต้น จาก 100 สายพันธุ์ที่แตกต่างกันซึ่งจะบานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ นอกจากนี้ยังมีสวนดอกคามิเลีย สวนกุหลาบ ทุ่งดอกไม้ และทิวทัศน์อีกมากมายสุดเพลิดเพลินในฤดูกาลต่าง ๆ โดยไม่มีเบื่อเลยค่ะ ได้ดูสัตว์ ชมดอกไม้ ถ่ายรูปสวย ๆ อยู่ทั้งวันก็ไม่น่าเบื่อค่ะ เป็นสวนสัตว์ที่มีการผสมผสานระหว่างสวนพฤกษศาสตร์และสวนสัตว์ได้อย่างลงตัวจริง ๆ ค่ะ ไปที่เดียวคุ้ม!

สำหรับครอบครัวที่กำลังมองหาทริปใกล้ชิดธรรมชาติ เรียนรู้วิถีชีวิตของสัตว์และเกษตรกร แนะนำให้ลองไปฟาร์มของญี่ปุ่นดูค่ะ ฟาร์มที่ญี่ปุ่นเป็นมิตรกับเด็กมาก การไปสวนสัตว์เราอาจจะไม่ได้สัมผัสกับสัตว์โดยตรง หรือได้เห็นหรือได้ดูอย่างใกล้ชิดเพียงไม่กี่ชนิด

เพราะสัตว์ในสวนสัตว์เป็นสัตว์จากธรรมชาติที่ไม่คุ้นเคยกับมนุษย์ แต่สัตว์ในฟาร์มจะค่อยข้างเป็นมิตร เป็นสัตว์ที่มนุษย์นำมาเลี้ยงหลายร้อยปีจนคุ้นชินกับมนุษย์ ทำให้เด็ก ๆ ได้ทดลองสัมผัส ทดลองขี่ ทดลองให้อาหาร ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ทำค่ะ

ฟาร์มแบบเปิดให้เข้าชมในญี่ปุ่นมักจะมีครบจบในที่เดียว คือมีทั้งกิจกรรมให้เราได้ทำ ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ ฟาร์มส่วนใหญ่มักจะตั้งอยู่ริมเขา มีต้นไม้ ไกลตัวเมือง บรรยากาศและอากาศดี มีอาหารที่อร่อยเพราะสดจากฟาร์ม และยังมีของฝากให้เราได้เลือกซื้อทั้งแบบของสดและของแห้ง แม่บ้านหมดไปเยอะกับการไปฟาร์มในแต่ละครั้งค่ะ ของซื้อติดไม้ติดมือมาอย่างไส้กรอก เนย คุ้กกี้ ของเขาอร่อยกว่าของที่ขายในซุปเปอร์ใกล้บ้านค่ะ

ฟาร์มส่วนใหญ่มากจะอยู่ตามต่างจังหวัด ถ้าได้ไปต่างจังหวัดก็อยากให้ได้ลองแวะเที่ยวฟาร์มกันดูสักครั้งค่ะ น่าจะเป็นประสบการณ์ที่ลูกหาไม่ได้จากในเมืองและชีวิตระจำวัน ลองไปดูการทำฟาร์มแบบคนญี่ปุ่นกันค่ะ

※ คีย์เวิร์ดในการค้นหา ฟาร์ม = 農場

ฟาร์มแนะนำ :
Iganosato Mokumoku Tedukuri Farm (伊賀の里モクモク手づくりファーム) จังหวัดมิเอะ (Mie)

เป็นฟาร์มที่แม่บ้านบอกได้เลยว่าเรียลมาก เชิญสัมผัสประสบการณ์ฟาร์มในธีมธรรมชาติ เกษตรกรรม และอาหาร เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ตั้งแต่การการผลิต การแปรรูป และการขาย ภายในฟาร์มมีเวิร์กช็อปถึง 12 จุด มีร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ 4 แห่ง ห้องเรียนเชิงปฏิบัติ 3 แห่ง มาที่นี่เด็กและผู้ใหญ่จะได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติ อาหาร และการเกษตร ได้เห็นนาข้าว ฟาร์ม และบ่อปลาหมึก

มีคลาสให้เด็กได้ทดลองทำไส้กรอก ทำขนมปัง ได้กินผลิตภัณฑ์ที่ทำสดใหม่จากเวิร์กช็อปโดยฝีมือของเด็ก ๆ เอง ถ้าไปช่วงสตอเบอร์รี่จะได้เก็บสตอเบอร์รี่กินสด ๆ จากต้นเลยค่ะ แถมมีของฝากให้ซื้อติดไม้ติดมือไปอีกเพียบ ทางฟาร์มมีที่พักและออนเซ็นให้บริการ ครบขนาดนี้ไม่ไปไม่ได้แล้วน้า เป็นไปชาวไร่กันเถอะ!

ฟาร์มแนะนำ :
Mother Farm (マザー牧場) จังหวัดชิบะ (Chiba)

เป็นฟาร์มที่ครอบครัวแม่บ้านไปบ่อยมาก เพราะจังหวัดชิบะอยู่ใกล้โตเกียวค่ะ เดินทางสะดวก แถมถูกโหวตให้เป็นฟาร์มที่ติดอับดับ Top 10 ฟาร์มที่น่าไปในปี 2022 อีกด้วย

ภายในฟาร์มจะมีการแสดงโชว์ของสัตว์มากมายตามตารางเวลา อย่างหมาต้อนน้องแกะสุดน่ารัก แกะสายพันธุ์ต่าง ๆ จากต่างประเทศ โชว์ถอนขนแกะ นั่งรถแทร็กเตอร์รถลากไปชมในส่วนของฟาร์ม ให้อาหารน้องอัลปาก้า มีคลาสสำหรับเด็กทำเนยและแยมด้วยค่ะ และยังมีโซนสวนสนุกขนาดกลางสำหรับเด็กให้เด็ก ๆ ได้เพลิดเพลินทั้งวัน

ของฝากผลิตภัณฑ์จากฟาร์มอร่อยมากกก โดยเฉพาะไส้กรอก ซอฟต์ครีม และคุกกี้รูปแม่วัว คุ้กกี้มีร้านคาเฟ่ในโตเกียว ชอบนำมาวางขายเพราะมีรสชาติที่ดีมากค่ะ ชิ้นใหญ่ แต่ชิ้นเดียวก็ไม่เคยพอ อาหารในร้านก็อร่อยมาก แนะนำสั่งชุดรวมเนื้อคือนิพพานค่ะ Mother Farm ยังมีฟาร์มบลูเบอร์รี่ให้เก็บด้วยนะคะ แต่อยู่ไกลไปอีกหน่อย เป็นฟาร์มที่อยู่ได้ทั้งวันตั้งแต่เช้าจนมืดเลยค่ะ

ฟาร์มแนะนำ :
Nasu Kogen Minamigaoka Dairy (那須高原 南ヶ丘牧場) จังหวัดโทชิงิ (Tochigi)

กิจกรรมพิเศษที่ Minamigaoka มีและแตกต่างจากคนอื่น คือการตกปลาเรนโบว์เทราต์ เด็ก ๆ และผู้ใหญ่สามารถตกปลาด้วยตนเอง เมื่อตกปลาได้ก็นำมาย่างกินกันสด ๆ ตรงนั้นเลยค่ะ นอกจากกิจกรรมที่เกี่ยวกับฟาร์มและสัตว์อย่างการขี่ม้า ขี่ลา อุ้มหนูตะเภาและเม่น เดินเล่นกับกระต่าย ก็ยังมีมินิพัตเตอร์กอล์ฟ 18 หลุมที่ผู้ใหญ่ก็หัวร้อนได้ รวมถึงการยิงธนูแบบคนที่ไม่เคยยิงหรือมีประสบการณ์มาก่อนก็ยิงได้ค่ะ มีคนแนะนำการยิงธนูให้อย่างใกล้ชิด

สำหรับคลาสทำอาหารสำหรับเด็กก็มีเช่นกันค่ะ ซึ่งจะเป็นคลาสทำไส้กรอกและทำเนย มีการแสดงโชว์ของสัตว์ต่าง ๆ รวมถึงร้านอาหารและของฝาก กิจกรรมของที่นี่เหมาะสำหรับเด็กที่โตขึ้นมาหน่อย สักระดับประถมต้นเป็นต้นไปกำลังดีค่ะ

แม่บ้านฝากติดตามซีรี่ย์พาลูกเที่ยวแบบคนญี่ปุ่น! และผลงานอื่น ๆ ของแม่บ้านด้วยนะคะ
ขอบคุณสำหรับนักอ่านทุกท่านที่ติดตามมาถึงตรงนี้ด้วยค่ะ แล้วเจอกันใหม่นะคะ เบิ้บบู :D

งานเขียนทั้งหมดของแม่บ้านเมกุโระ

บทความที่เกี่ยวข้อง
・พาลูกเที่ยวแบบคนญี่ปุ่น! ตอน : เที่ยวพิพิธภัณฑ์และห้องสมุดญี่ปุ่น
・พาลูกเที่ยวแบบคนญี่ปุ่น! ตอน : เที่ยวสวนน้ำและสกีหิมะญี่ปุ่น