All About Japan

พาลูกเที่ยวแบบคนญี่ปุ่น! ตอน : เที่ยวพิพิธภัณฑ์และห้องสมุดญี่ปุ่น

พิพิธภัณฑ์ สถานที่ทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ หอศิลป์ ภาพพิมพ์ Ukiyo-e อนุสรณ์สันติภาพ Hiroshima อควาเรียม รถไฟ Hakone ข้อมูล มังงะ Kobe Tokyo Hiroshima Okinawa Hyogo Kanagawa Saga Saitama Kanto Chugoku Kyushu
พาลูกเที่ยวแบบคนญี่ปุ่น! ตอน : เที่ยวพิพิธภัณฑ์และห้องสมุดญี่ปุ่น

แม่บ้านได้รับคำถามจากเพื่อนที่ไทยอยู่ตลอดว่า "มีแพลนจะมาญี่ปุ่นกับครอบครัว พาลูกไปเที่ยวที่ไหนดี?" เรามักจะวางแผนสถานที่ที่เราอยากไป แต่สถานที่ท่องเที่ยวของเด็กมักจะวนเวียนอยู่ไม่กี่ที่ แต่รู้มั้ยว่ากิจกรรมสำหรับเด็กในญี่ปุ่นมันเยอะมว๊ากกก แม่บ้านเลยอยากจะมาแนะนำไกด์ไอเดียพาลูกไปเที่ยวญี่ปุ่นกันค่ะ

แนวทางของบทความ

บทความชุดนี้ แม่บ้านจะแนะนำคีย์เวิร์ดภาษาญี่ปุ่นสำหรับให้ผู้อ่านได้ทดลองค้นหาสถานที่ด้วยตนเอง และในแต่ละหัวข้อแม่บ้านจะแนะนำ 3 สถานที่ที่น่าสนใจเป็นตัวอย่างค่ะ ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านกันค่ะ!

พิพิธภัณฑ์ (美術館)

พิพิธภัณฑ์ (美術館)

พิพิธภัณฑ์ในประเทศญี่ปุ่นเป็นแหล่งเรียนรู้ชั้นดีสำหรับคนทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ไปพิพิธภัณฑ์กัน เพราะมีการนำเสนอความรู้ในรูปแบบที่น่าสนใจมากกว่าในห้องเรียน ที่สำคัญค่าเข้าไม่แพง บางที่เด็กก็เข้าฟรีเลยค่ะ จากการสำรวจในปี 2018 ประเทศญี่ปุ่นมีพิพิธภัณฑ์ทั้งหมด 5,738 แห่ง ซึ่งถือว่าเยอะมากเมื่อเที่ยบกับประเทศไทยที่มีพิพิธภัณฑ์หลักร้อย แต่ละพิพิธภัณฑ์ก็มีธีมหลักที่แตกต่างกันไป เราสามารถเลือกธีมหรือหัวข้อที่ลูกชอบหรือสนใจได้อีกด้วยค่ะ

※ คีย์เวิร์ดในการค้นหา:พิพิธภัณฑ์สำหรับเด็ก = 子供のための博物館

1.1 พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ (Aquarium)

1.1 พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ (Aquarium)

พิพิธภัณฑ์ที่ครอบครัวของแม่บ้านชอบไปมากที่สุดในช่วงนี้เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ (Aquarium) ค่ะ มันสวยงาม ผ่อนคลาย มองดูแล้วจิตใจสงบ เด็ก ๆ ได้เห็นสัตว์น้ำที่เขาไม่ค่อยคุ้นชินนัก ประเทศญี่ปุ่นมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเยอะมากเพราะประเทศญี่ปุ่นสามารถผลิตและส่งออกกระจกที่สามารถกันแรงดันน้ำสูงได้ไปทั่วโลกค่ะ จึงไม่น่าแปลกใจที่ประเทศญี่ปุ่นมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำดีไซน์โดดเด่นเยอะมาก ไปดูสัตว์น้ำพร้อมได้ดูสถาปัตยกรรมเพลิน ๆ เลยค่ะ

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแนะนำ:
Okinawa Churaumi Aquarium (沖縄美ら海水族館) จังหวัดโอกินาว่า (Okinawa)

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ได้รับอันดับ 1 จากการจัดอันดับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำยอดเยี่ยมของญี่ปุ่นในปี 2022 ค่ะ และยังเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ได้รับการจัดอันดับ 1 ของโลก! พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ที่จังหวัด Okinawa ซึ่งเป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องทะเลปละประการังสวยมาก แม่บ้านอยากไปดำน้ำสักครั้งจังค่ะ เคยเกือบจะได้ไปแล้วแต่โควิดดันมาซะก่อน มุงื้อ!

ไฮไลท์คือตู้ปลาขนาดใหญ่ Kuroshio Sea ที่มีขนาด 7,500 ลูกบาศก์เมตร ตัวอาคารมีทั้งหมด 4 ชั้น จัดแสดงสัตว์ทั้งน้ำทั่วโลกและสัตว์น้ำท้องถิ่น มาชมทะเล Okinawa และความมหัศจรรย์ใต้ท้องทะเลกันนะคะ

บทความที่เกี่ยวข้อง:
・สนุกไปกับการเที่ยวโอกินาว่า 5 สไตล์ในฤดูร้อน
・รวมที่เที่ยวเด่นของคนไป "โอกินาว่า" ครั้งแรก
・5 ชายหาดสวยงามน่าไปเยือนบนเกาะโอกินาว่า

- churaumi.okinawa (ภาษาญี่ปุ่น)

1.2 พิพิธภัณฑ์รถไฟ (The Railway Museum)

1.2 พิพิธภัณฑ์รถไฟ (The Railway Museum)

ประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้นำของโลกในการผลิตรถไฟความเร็วสูงอย่างชินคังเซ็น ถ้าเด็กไทยคลั่งสปอร์ตคาร์ เด็กญี่ปุ่นคลั่งรถไฟค่ะ แม่บ้านเจอพิพิธภัณฑ์รถไฟเยอะมาก เอาจริงคิดว่าไปจังหวัดไหนก็เจอค่ะ มีทั้งพิพิธภัณฑ์รถไฟไอน้ำ พิพิธภัณฑ์รถไฟโรมานซ์คาร์ (รถไฟสำหรับท่องเที่ยวและชมวิวชื่อดังของ Hakone) และพิพิธภัณฑ์รถไฟชินคังเซ็นรุ่นล่าสุดอย่าง Linear พิพิธภัณฑ์รถไฟท้องถิ่นในเมืองต่าง ๆ มีเพื่อแสดงความเป็นมาและประวัติศาสตร์ให้เด็กรุ่นหลังได้เรียนรู้ค่ะ

พิพิธภัณฑ์รถไฟแนะนำ:
The Railway Museum (鉄道博物館) จังหวัดไซตามะ (Saitama)

พิพิธภัณฑ์รถไฟรถไฟสุดโปรดของคุณลูกที่มาทุกปี ปีนึงไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง เพราะที่นี่เขาเอาหัวรถไฟของจริงในแต่ละยุคสมัยมาวางไว้ในให้เราได้จับ สัมผัส คุณลูกวิ่งหายทุกครั้งที่ได้มาค่ะ

คุณจะเห็นรถไฟตู้นอนต้นแบบซึ่งคล้ายกับของไทยที่เรากำลังมีให้บริการอยู่ตอนนี้ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ใช่ค่ะ ประเทศญี่ปุ่นเขาเอารถไฟตู้นอนเข้าพิพิธภัณฑ์แล้วค่ะคุณ บ้านเรายังคงใช้กันอยู่ค่ะ ฮาาา สามีบอกเคยนั่งครั้งนึงสมัยเรียนอยู่ชั้นมัธยม ซึ่งนั่นมัน 40 กว่าปีที่แล้วค่ะคู้
ณ และหลังจากนั้นก็ไม่เคยนั่งอีกเลย เพราะมีรถไฟชินคังเซ็นทำให้เดินทางภายในประเทศญี่ปุ่นเป็นเรื่องง่าย Hokkaido ก็แค่ปากซอยค่ะ!

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีหัวรถไฟตั้งแต่รถไฟไอน้ำ รถไฟชินคังเซ็นรุ่นแรกที่ผลิตมา 50 กว่าปีที่แล้ว รวมถึงรถไฟที่ราชวงศ์ญี่ปุ่นใช้ในการเดินทางค่ะ ภายในอาคารมีกิจกรรมมากมายอย่าง Simulator ให้เราได้ทดลองขับรถไฟรุ่นต่าง ๆ Railway Diorama ที่ชมกี่ทีก็ไม่มีเบื่อ นั่งมินิชินคังเซ็นเป็นวงกลม ชั้นบนสุดมีพื้นที่ให้เราได้นั่งพักดูรถไฟวิ่งไปมา ถ้าไปถูกเวลาเราจะได้เห็น Train Suite Shiki-shima ของ JR East ซึ่งเป็นตู้รถไฟนอนสุดหรู เดินทางจากโตเกียวไปยังฮอกไกโด ค่าโดยสารต่ำสุดคือ 3 แสนบาทค่ะ รถไฟในฝันของแม่บ้านเลยค่ะ คือฝันไปก่อน ไม่รู้ชาตินี้จะมีปัญญาได้นั่งมั้ยนะคะ

บทความที่เกี่ยวข้อง:
・5 รถไฟท่องเที่ยวสุดพิเศษใน “คันโต”
・นากาโนะ แหล่งรวมตัวของผู้ชื่นชอบโมเดลรถไฟ

- www.railway-museum.jp (อังกฤษ)

1.3 พิพิธภัณฑ์การ์ตูน (The Cartoon Museum)

1.3 พิพิธภัณฑ์การ์ตูน (The Cartoon Museum)

พิพิธภัณฑ์อีกประเภทหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะเด็ก ๆ (ที่จริงคนที่คลั่งไคล้น่าจะเป็นรุ่นพ่อแม่) นั่นคือ พิพิธภัณฑ์การ์ตูนค่ะ

พิพิธภัณฑ์การ์ตูนหรือพิพิธภัณฑ์นักวาดการ์ตูนผู้โด่งดังที่ได้สร้างผลงานจนเป็นที่ประจักรระดับตำนานในญี่ปุ่นมักจะมีพิพิธภัณฑ์เป็นของตนเองค่ะ อย่างสตูดิโอจิบลิ (Studio Ghibli) ผู้สร้างสรรค์เอนิเมชั่นชื่อดังที่รู้จักกันไปทั่วโลกอย่าง Tonari no Totoro

พิพิธภัณฑ์การ์ตูนของต่างประเทศที่ดัง ๆ ก็มาเปิดในญี่ปุ่นเช่นกันนะคะ อย่างพิพิธภัณฑ์สนูปปี้ (Snoopy Museum) หรือพิพิธภัณฑ์มูมิน (Moomin Museum) ซึ่งจัดแสดงผลงานที่สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็ก ๆ ได้ค่ะ

พิพิธภัณฑ์การ์ตูนแนะนำ:
Fujiko Museum (川崎市 藤子・F・不二雄ミュージアム) จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa)

พิพิธภัณฑ์สำหรับแฟน ๆ โดราเอมอน คุณจะได้รับประสบการณ์สุดเพลิดเพลินไปกับความฝัน ความมหัศจรรย์ และจิตวิญญาณขี้เล่นของอาจารย์ Fujiko เราจะได้เห็นขั้นตอนเบื้องหลังการทำงานของอาจารย์ และพิเศษสุด ๆ คือการได้เห็นต้นฉบับของจริงค่ะ

ตัวอาคารถูกออกแบบมาอย่างดี มีการใช้พื้นที่ที่น่าสนใจ มีมุมถ่ายรูปมากมาย ภายในมีคาเฟ่ โซนขายขนม โซนขายของที่ระลึก ไฮไลท์คือโรงภาพยนต์ขนาดเล็ก สำหรับคนที่ไม่เคยมาจะมีเซอร์ไพรซ์เล็ก ๆ ให้หื้มมม ได้หรอ? โซนหนังสือการ์ตูนที่มีการรวบรวมการ์ตูนโดราเอมอนภาษาต่าง ๆ แม่บ้านเจอเวอร์ชั่นภาษาไทยด้วยค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง:
・6 คาเฟ่คาแรคเตอร์ ที่แฟนๆ ไม่ควรพลาด
・10 คาเฟ่การ์ตูนดัง
・รวมข้อมูลเที่ยวจังหวัดคานากาว่า (Kanagawa)

- fujiko-museum.com (อังกฤษ)

1.4 พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ (The National Museum of Japanese History)

1.4 พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ (The National Museum of Japanese History)

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์มากมาย และสิ่งที่ทำให้ญี่ปุ่นสามารถศึกษารากเหง้าของตนเองได้อย่างละเอียดเพราะมีการจดบันทึกและเก็บหลักฐานทางประวัติศาสตร์เอาไว้มาก ซึ่งต่างจากไทยที่เน้นการส่งต่อโดยการจดจำมากกว่าการจดบันทึก (ไม่อย่างนั้นเราคงมีตำราอาหารเก่าเป็นร้อยเป็นพันเล่มล้าววว) ด้วยการที่รัฐบาลญี่ปุ่นตั้งแต่สมัย Edo มองการณ์ไกล ส่งเสริมให้คนญี่ปุ่นอ่านเขียนภาษาญี่ปุ่นออก เพราะรัฐมีแนวคิดว่าการที่ประชาชนรู้หนังสือจะทำให้จัดระเบียบทางสังคมได้ง่าย ประชากรของญี่ปุ่นจึงสามารถอ่านออกเขียนได้ตั้งแต่ในสมัยอดีต และปัจจุบันเปอร์เซ็นต์ของคนญี่ปุ่นที่อ่านออกเขียนได้คือ 99%

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นมักจะตั้งพิพิธภัณฑ์ในพื้นที่ในประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นจริง เช่น พิพิธภัณฑ์ Shinjuku Historical Museum ที่ยังมีการจัดแสดงท่อลำเลียงน้ำของจริง ที่แสดงให้เห็นถึงระบบชลประทานที่ก้าวหน้าในสมัยนั้น ทำให้เรายังคงเห็นอารยธรรมในสมัยก่อนที่หลงเหลือมาถึงปัจจุบัน

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แนะนำ:
Hiroshima Peace Memorial Museum (広島平和記念資料館) จังหวัดฮิโรชิม่า (Hiroshima)

อีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่แม่บ้านสัญญาไว้กับตัวเองว่าถ้าได้ไปฮิโรชิม่าจะไม่พลาดที่นี่ค่ะ อย่างที่เราทราบกันดีว่าเมืองฮิโรชิม่าถูกบอมบ์ด้วยระเบิดปรมาณู พิพิธภัณฑ์ได้จัดแสดงสิ่งที่หลงเหลือจากการทิ้งระเบิดปรมาณู เป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของโลก ถ่ายทอดความอันตรายของอาวุธนิวเคลียร์ผ่านสิ่งของที่เก็บกู้มาได้และภาพงานศิลปะ

พิพิธภัณฑ์ได้เปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1955 เพื่อส่งเสริมสันติภาพ โดยหวังว่าประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำรอยเดิม แม้ว่าพิพิธภัณฑ์จะเน้นในเรื่องของผลกระทบจากระเบิดปรมาณู แต่ก็ให้แรงบันดาลใจในการรักษาและเสริมสร้างสันติภาพให้กับโลกใบนี้เช่นกันค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง:
・รวมที่เที่ยวเด่นของคนไป "ฮิโรชิม่า" ครั้งแรก
・เที่ยวบนเส้นทางรถไฟ Hiroshima Electric Railway
・แนะนำ 10 ที่เที่ยวฟรีในฮิโรชิม่า (Hiroshima)
・10 ที่เที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือนฮิโรชิม่า

- hpmmuseum.jp (อังกฤษ)

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แนะนำ
Edo Tokyo Museum (江戸東京博物館) จังหวัดโตเกียว (Tokyo)

ปัจจุบัน Edo Museum ได้ทำการปิดปรับปรุงครั้งใหญ่ เนื่องจากเปิดทำการมาเกือบ 30 ปี ภายในพิพิธภัณฑ์มีพื้นที่ประมาณ 9,000 ตารางเมตร โดยมีกำหนดการปิดปรับปรุงจนถึงปี 2025 เป็นอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่แม่บ้านชอบมาก ได้ย้อนเวลาสู่ยุค Edo เมื่อเข้ามาข้างในจะพบกับสะพานไม้ขนาดใหญ่ที่จำลองมาจากนิฮมบาชิ (Nihonbashi) ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการคมนาคมสมัยเอโดะ

ได้ทดลองสัมผัสประสบการณ์สมัยเอโดะอย่างการทดลองนั่งเกี้ยวของไดเมียวไซซ์เท่าของจริง หรือลองยกหาบเร่ที่พ่อค้าแม่ค้าขนของไปขายว่าเราจะไหวมั้ยนะ? และอีกกิจกรรมมากมายที่จะทำให้เราเข้าใจถึงยุคสมัยของ Edo ได้ดีมากขึ้นค่ะ

สำหรับคนที่คิดถึง Edo Museum หรืออยากชมภายในพิพิธภัณฑ์โดยโดรน รับชมได้ที่นี่ค่ะ

- www.edo-tokyo-museum.or.jp (อังกฤษ)

1.5 พิพิธภัณฑ์ศิลปะ (Art Museum)

1.5 พิพิธภัณฑ์ศิลปะ (Art Museum)

เบื่อในร่มแล้ว อยากออกกลางแจ้งบ้าง ประเทศญี่ปุ่นมีกิจกรรมกลางแจ้งที่หลากหลายมากเพราะสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงตลอดทั้งปี ซึ่งต่างจากไทยที่มี 3 ฤดูคือฤดูร้อน ฤดูร้อนมาก และฤดูร้อนชิหัย ดังนั้นการได้สัมผัสบรรยากาศข้างนอกของฤดูที่เปลี่ยนไปก็จะให้ความรู้สึกหรือประสบการณ์ที่เปลี่ยนไปเช่นเดียวกันค่ะ

พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแนะนำ:
The Hakone Open-Air Museum (彫刻の森美術館) เมืองฮาโกเน่ (Hakone) จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa)

เสพงานอาร์ตและเล่นไปด้วยกันเกิดขึ้นที่นี่ค่ะ งานศิลปะหลายครั้งก็น่าเบื่อเกินไปสำหรับเด็กแต่ไม่ใช่สำหรับพิพิธภัณฑ์ในฮาโกเน่ค่ะ ที่นี่เป็นพื้นที่กว้างให้เด็ก ๆ ได้ปลดปล่อยพลังไปพร้อมกับการเพลิดเพลินงานศิลปะที่ถูกจัดวางตามจุดต่าง ๆ มากมายให้เด็กได้ค้นหา

สิ่งที่แนะนำสุด ๆ คือไม่แวะไม่ได้คืออาคาร Picasso (異形のピカソ) เป็นการนำผลงานของ Picasso มาจัดแสดงถึง 17 ชิ้นด้วยกัน และอีกไฮไลท์คือ Woods of Net (ネットの森) เป็นงานศิลปะทำมือรูปเปลญวนสีสันสดใสขนาดใหญ่มากที่เด็ก ๆ สามารถเข้าไปเล่นได้ เข้าไปแล้วไม่ยอมออกมาเลยค่ะ

- www.hakone-oam.or.jp (อังกฤษ)

ห้องสมุด (図書館)

ห้องสมุด (図書館)

แม่บ้านเป็นคนที่ชอบขลุกตัวอยู่ในห้องสมุดตั้งแต่เด็ก เพราะแอร์เย็น มีการ์ตูนให้อ่าน เคยเป็นบรรณารักษ์อาสาช่วงม.ปลาย เพราะไม่อยากไปยืนตากแดดฟังครูพูด จัดหนังสือในห้องสมุดเย็น ๆ สบาย ๆ ดีกว่า

พอย้ายมาอยู่ญี่ปุ่น สถานที่แรก ๆ ที่มาสำรวจก็คือห้องสมุดใกล้บ้าน และก็ทำให้แม่บ้านว้าวมาก ๆ เพราะห้องสมุดใหญ่มาก หนังสือเยอะมาก มีโซนหนังสือภาษาอังกฤษด้วย และที่น่าสนใจที่สุดก็คือโซนหนังสือเด็ก มีแต่หนังสือน่ารัก ๆ ถึงจะอ่านไม่ออก ดูแต่ภาพก็ฟินแล้วค่ะ

แม่บ้านเชื่อว่าห้องสมุดญี่ปุ่นเป็นการบ่งบอกถึงความใส่ใจขององค์กรท้องถิ่นว่าดีขนาดไหน เน้นนโยบายเรื่องอะไร บางที่มีการจัดทำห้องสมุดติดกับสวนสาธารณะ บางที่ออกแบบห้องสมุดให้สวยงามน่าไปใช้เวลาอยู่ในนั้น บางที่มีหนังสือต่างประเทศมากมาย บางที่เปิดจุดรับคืนหนังสือตามห้างสรรพสินค้า สิ่งเหล่านี้เป็นความใส่ใจและใช้เงินภาษีให้มีประโยชน์ต่อประชาชนเป็นวงกว้าง

※ คีย์เวิร์ดในการค้นหา ห้องสมุดสำหรับเด็ก = 子供の図書館

ห้องสมุดแนะนำ:
Yuinomori Arakawa (ゆいの森あらかわ) ในมหานครโตเกียว (Tokyo)
เป็นอาคารที่มีการรวมกันของหอสมุดกลาง พิพิธภัณฑ์วรรณกรรม และ Yuinomori Children's Plaza มีหนังสือมากกว่า 600,000 เล่ม และที่นั่งประมาณ 800 ที่นั่ง มีทั้งหมด 5 ชั้น ให้เพลิดเพลินไปกับการอ่านและค้นพบสิ่งใหม่ ๆ

ที่นี่มีโซนเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์สำหรับเด็ก ให้เด็กได้มาเรียนรู้และทำเวิร์คช็อปการทดลองทางวิทยาศาสตร์ และยังนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับภัยพิบัติให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้และเตรียมพร้อม เป็นความรู้ป้องกันตัวใช้ในภายภาคหน้าค่ะ

- www.yuinomori.city.arakawa.tokyo.jp (ภาษาญี่ปุ่น)

ห้องสมุดแนะนำ:
Kobe Children’s Book Forest (こども本の森 神戸) จังหวัดโกเบ (Kobe)

ห้องสมุดอันโด่งดังในอินเตอร์เน็ตที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานนี้ ห้องสมุดถูกออกแบบโดยคุณ Tadao Ando เป็นอาคาร 2 ชั้น แนวคิดของห้องสมุดคือ เปิดหนังสือเปิดโลก เมื่อคุณผ่านประตูทางเข้า ชั้นหนังสือจะเรียงกันเต็มผนังตั้งแต่เท้าจรดเพดาน เหมือนกับเข้าไปในป่าหนังสือเลยค่ะ

เป็นห้องสมุดที่ไม่มีบริการให้ยืมหนังสือกลับบ้าน แต่สามารถมานั่งอ่านและใช้เวลาในห้องสมุดได้ หนังสือส่วนใหญ่ได้ทำการคัดเลือกมาแล้วว่าเหมาะสำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่าชั้นประถม จัดวางให้มองเห็นปกอย่างชัดเจน ทำให้เด็ก ๆ รู้สึกสนใจหนังสือและกระตุ้นความอยากอ่านของเด็กค่ะ

- kodomohonnomori-kobe.jp (ภาษาญี่ปุ่น)

ห้องสมุดแนะนำ:
Takeo City Library (武雄市図書館) จังหวัดซากะ (Saga)

ห้องสมุดที่สว่างไสว เปิดโล่ง ด้านหน้าเป็นลานหญ้าให้เด็กได้วิ่งเล่น ด้านหลังเป็นภูเขา วิวร้อยล้านมากค่ะ แถมด้านในก็พิเศษ มีหลากหลายมุมให้เด็กได้ผจญภัยไปยังจุดต่าง ๆ ของอาคาร มีทั้งโซนเล่นและทำกิจกรรม ห้องสมุด คาเฟ่อยู่ในอาคารเดียวกัน

ทั้งยังมีห้องให้นมบุตร ห้องเปลี่ยนผ้าอ้อม เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีเด็กโดยเฉพาะลูกเล็กมากค่ะ ถ้าได้ไปในวัรที่อากาศดี เด็ก ๆ น่าจะได้วิ่งเล่นรอบนอกอย่างสนุกสนาน และได้อ่านนิทานในบรรยากาศสบาย ๆ สุดชิลด้วยค่ะ

- takeo.city-library.jp (ภาษาญี่ปุ่น)

แม่บ้านฝากติดตามซีรี่ย์พาลูกเที่ยวแบบคนญี่ปุ่น! และผลงานอื่น ๆ ของแม่บ้านด้วยนะคะ
ขอบคุณสำหรับนักอ่านทุกท่านที่ติดตามมาถึงตรงนี้ด้วยค่ะ แล้วเจอกันใหม่นะคะ เบิ้บบู :D

งานเขียนทั้งหมดของแม่บ้านเมกุโระ

ผู้เขียน: แม่บ้านเมกุโระ
แม่บ้านกราฟฟิกไทยส่งออกไปญี่ปุ่น ผู้ชื่นชอบอาหาร วิถึชีวิตคนญี่ปุ่น และวัฒนธรรมญี่ปุ่น

อ่านบทความเต็ม: allabout-japan.com (ภาษาไทย)

know-before-you-go