ถ้าถามถึงร้านไอศครีมหรือเจลาโต้ใน Jiyugaoka คงมีสัก 50 ร้านได้มั้ง? คือร้านไหนที่ขายอาหาร ย่อมมีไอศครีมเป็นส่วนเสริม แต่ถ้าถามว่าไอศครีมหรือเจลาโต้ร้านไหนใน Jiyugaoka น่าสนใจ แปลกและแตกต่างจากร้านอื่น คงจะหนีไม่พ้นร้าน Ami Cono ที่แม่บ้านอยากให้นักอ่านได้ไปลองชิมดูค่ะ

Ami Cono เป็นเจลาโต้ทำมือที่มีการใส่ใจรายละเอียดในทุกขั้นตอน เจลาโต้ทั้งหมดทำเอง ปราศจากสารเติมแต่ง ไม่ใช้สารกันบูด สารแต่งสี สารเพิ่มความข้น หรืออิมัลซิไฟเออร์ มีเจลาโต้มังสวิรัติ และเจลาโต้สำหรับคนที่แพ้นมด้วย คัดสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุดของฤดูกาลมาทำเป็นเจลาโต้สุดอร่อย

ไม่ว่าจะเป็นเจลาโต้รสมะเขือเทศ รสคินาโกะจากฮอกไกโด รสมะกอก รสบัตเตอร์นัทจากชิบะ รสแอปเปิ้ลใส่เหล้าส้ม รสมะนาวที่ไม่ใช้ยาฆ่าแมลงจึงสามารถนำมาใช้ทำไอศครีมทั้งผลได้ และรสชาติอื่น ๆ อีกมากมายที่มากินทุกเดือนก็ไม่ซ้ำกันเลย

ด้วยไอเดียการทำเจลาโต้อย่างสร้างสรรค์ของ Ami Cono ทำให้ค่อนข้างเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นมาก มักจะเห็นเด็กวันรุ่นเป็นกลุ่มมาต่อแถวซื้อเจลาโต้อยู่เสมอ แน่นอนว่าแม่บ้านขอโหนกระแสไปกับเขาด้วยค่ะ อุอิ

สิ่งที่ชอบ : ไม่เบื่อเลย เพราะมีรสพิเศษไม่ซ้ำทั้งปี
สิ่งที่ไม่ชอบ : รสชาติพิเศษรสไหนที่อร่อยถูกปากเรามาก ๆ จะต้องรีบไปซ้ำในวันถัดไป เพราะถ้าหมดเราจะไม่ได้กินจนกว่าจะปีถัดไป หรือไม่ได้กินอีกเลย โน้ววว! แบบนี้เรียกว่าไม่ชอบได้มั้ยนะ? ฮาาา

เว็บไซต์ร้าน : https://amicono.official.ec (ภาษาญี่ปุ่น)

ถ้าพูดถึงร้านอาหารที่แม่บ้านรักที่สุดใน Jiyugaoka แม่บ้านขอยกให้ร้านนี้ Latte Graphic คือมันเป็นร้านที่ครบมาก ทั้งอาหาร ขนม เครื่องดื่ม กาแฟสดสุดอร่อย กาแฟดีแคฟ การตกแต่งร้าน เปิดเช้าตรู่ปิดดึก สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เก้าอี้เด็ก ห้องให้นม ห้องเปลี่ยนแพมเพิส โซนสำหรับลูกค้าที่นำสุนัขและแมวมาด้วย โซนนั่งทำงานมีปลั๊กและไวไฟให้บริการ คือครบกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

แต่ติดอย่างเดียว คุณพี่ช่วยขยายร้านเถอะ ซื้อทั้งตึกแล้วทำเป็นร้านอาหาร 4-5 ชั้นไปเลย ลูกค้าเยอะเกิน ร้านเต็มทุกวัน! วันเสาร์-อาทิตย์ไม่ต้องพูดถึงเลย คิวยาวตั้งแต่หน้าร้านชั้น 2 เป็นแถวยาวลงมาถึงชั้น 1 ด้วยความที่ร้านรักลูกค้าทุกคน ทุกคนเลยรักร้าน

อาหารอร่อย ปกติแม่บ้านเป็นคนไม่กินพาสต้า แต่มาร้านนี้ไม่เคยพลาด พาสต้าและพิซซ่าคือสิ่งดีงาม ตบด้วยแพนเค้กนุ่มฟูราดซอสเบอร์รี่ฉ่ำ ๆ คือสววรค์ ปิดคอร์สด้วยกาแฟหอมมันคือนิพพาน เมลเบิร์นเป็นแหล่งที่คาเฟ่กาแฟขึ้นชื่อมาก เป็นเมืองที่ Starbucks ไม่ได้แอ้ม คนเดินเข้าร้านกาแฟท้องถิ่นจ้า ที่ร้านมีกาแฟดีแคฟสำหรับสายแม่ให้นมลูกอย่างแม่บ้านด้วย ดีแคฟแต่เข้มไม่แพ้กาแฟธรรมดาเลย รัก!

ร้านส่วนใหญ่ใน Jiyugaoka จะเปิดช้ามาก ส่วนใหญ่เปิด 11 โมง หลายร้านเปิดเที่ยง ร้านที่เปิดหลังบ่ายโมงก็มี! แต่ Latte Graphic เปิดตั้งแต่ 7 โมงเช้า คนก็แน่นตั้งแต่เช้าเพราะราคาชุดอาหารเช้าน่ารักมาก ไม่แปลกใจที่คนทำงานที่อยู่แถว Jiyugaoka จะแวะกินข้าวเช้าที่นี่ก่อนไปทำงาน รวมถึงแม่บ้านที่ส่งลูกเสร็จก็จะนิยมมาเม้าท์มอยกันที่นี่ด้วย

สิ่งที่ชอบ : ทุกอณูของร้านนี้
สิ่งที่ไม่ชอบ : คิวยาวมาก วันธรรมดายังต้องรอคิว แต่จองโต้ะผ่านเว็บไซต์ได้นะ

เว็บไซต์ร้าน : https://www.lattegraphic.com/jiyugaoka (ภาษาญี่ปุ่น)

หากคุณกำลังมองหาขนมที่เป็นขวัญใจผู้สูงอายุ ขอแนะนำมันจูรสชาติต่าง ๆ ตามฤดูกาลของร้าน Mikadoya จ้า ขนมมันจูทำจากแป้งที่ผลิตมาจากข้าวชั้นหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องความเหนียวขั้นสุด

ข้าวพันธุ์ Koganemochi จากจังหวัด Miyagi แหล่งข้าวชื่อดังชื่อญี่ปุ่น ที่ปลูกโดยเกษตรกรผู้มีประสบการณ์จาก Mikadoya และถั่วแดง Shumari จาก Hokkaido ที่มีสีม่วงแดงสวยงามและรสชาติเข้มข้นเมื่อนำมาทำเป็นถั่วบด เป็นการนำสุดยอดผลผลิตมารวมกันจนกลายเป็นมันจูสุดอร่อย

รสที่แม่บ้านชอบที่สุดหนีไม่พ้น รสซากุระ มีความหวาน เค็ม รสชาติตัดสลับกันไปมา กินชิ้นเดียวไม่เคยพอ แป้งมันจูหนึบ ๆ ที่ถูกทอดจะมีกลิ่นน้ำมันอันเป็นเอกลักษณ์ ไม่หืน ไม่เลี่ยน อร่อยอย่างน่าประหลาด ถ้าอยากหาของฝากส.ว. แนะนำมันจูทอด Mikadoya เลยค่ะ แต่ขนมเก็บได้ไม่นาน อย่าลืมดูวันหมดอายุก่อนนะคะ

เว็บไซต์ร้าน : https://www.mikadoya-agemanjyu.co.jp (ภาษาญี่ปุ่น)

สิ่งที่อยากจะพูดเกี่ยวกับวาราบิโมจิร้านนี้อย่างแรกเลยคือ ชื่อพี่จะยาวไปไหน! เอาจริงจำไม่เคยได้ เวลาจะมอยกับเพื่อนว่า "แก... วาราบิร้าน ร้านอะไรนะ? โท... โทโระริ ทะ... เทนชิน ผิด! เทนชิ" จะพูดชื่อร้านทุกครั้งต้องหยิบโพยออกมาดูทุกครั้ง เพื่อนก็แบบ "ชอบจริงมั้ยเนี่ย?" ทำไมจำชื่อร้านโปรดตัวเองไม่ด้ายยย? Why?

ขนมญี่ปุ่นที่แม่บ้านยกให้เป็นอันดับ 1 ในใจเสมอมา คือ "วาราบิโมจิ" นี่เองจ้าาา ด้วยความที่เป็นขนมกินง่าย ไม่เหนียวมาก รสชาติหวานกำลังดี (แม่บ้านกินแบบไม่ใส่น้ำเชื่อมจ้า) กินคู่กับชามัชฉะร้อน ๆ คือตายตาหลับศพสีชมพู ด้วยความที่รักวาราบิโมจิมาก แต่บ้านจึงตระเวนชิมทุกที่ที่แม่บ้านได้ไป ตอนไปทริปเกียวโตนี่กินทุกวัน วันละกล่อง ด้วยความที่เกียวโตเป็นแหล่งขึ้นชื่อของขนมชนิดนี้

แต่แล้วแม่บ้านก็เจอสุดยอดวาราบิโมจิที่แม่บ้านคิดว่าอร่อยที่สุดใกล้บ้าน! เขามาเปิดสาขาใกล้บ้านจ้า รสชาติอร่อยกว่าของเกียวโตอีกจะบอก นั่นคือร้าน Tororitenshi ที่ใช้ผงฮอนวาราบิสุดยอดความหายากซึ่งสามารถผลิตได้เพียง 70 กรัมจากส่วนของรากของต้นเฟิร์นป่า 10 กิโลกรัม คือถางทั้งป่าเพื่อถ้วยเนี้ย

จากนั้นก็ทดลองผลิตในอัตราส่วนต่าง ๆ จะเจอสูตรที่นุ่มที่สุด คลิกด้วยผงคินาโกะที่ทำมาจากแป้งถั่วเหลืองที่คัดสรรมาอย่างดีซึ่งใส่ใจในรายละเอียดอย่างใกล้ชิด เช่น อุณหภูมิและเวลาในการคั่ว เพื่อให้รสชาติดั้งเดิมเด่นชัดยิ่งขึ้น ไม่มีน้ำตาล ระเบิดออกมาตู้ม! กลายเป็นวาราบิโมจิ๊

ด้วยความที่มันอร่อยมาก Tororitenshi จึงมีสาขามากถึง 95 สาขาทั่วญี่ปุ่น ก็ไปหาซื้อกันได้นะจ้ะ แม่บ้านบอกเลยว่าเดอะเบส

เว็บไซต์ร้าน : https://www.torori-tenshi-no-warabimochi.com (ภาษาญี่ปุ่น)

Bake ชื่อนี้การันตีความอร่อยอยู่แล้ว แต่อยากให้แฟน Bake ประเทศไทยได้มาลองชิม Bake รสชาติต่าง ๆ ที่ญี่ปุ่นดูค่ะ อย่างรสช็อคโกแลต รสโฮจิฉะ รสราสเบอร์รี่ รสชาเขียวถั่วแดง รสสตอเบอร์รี่ รสพิตาชิโอ รสคาราเมล รสน้ำผึ้ง และรสชาติอีกมากมายที่ Bake สร้างสรรค์ไม่หยุด

Bake สาขา Jiyugaoka ปัจจุบันได้รีโนเวทร้านใหม่ จากที่ขายเฉพาะชีสทาร์ตและไอศครีมนมฮอกไกโด ก็นำผลิตภัณฑ์จากเครือเดียวกันมาขายด้วย สินค้าที่แม่บ้านแนะนำมาก ๆ คือ Ringo พายแอปเปิ้ลไส้คัสตาร์ดที่อร่อยมากกก เคยซื้อที่ Tokyo Midtown Hibiya ที่อยู่ไกลบ้านแล้วชอบมาก มารู้ทีหลังว่าเครือเดียวกัน ก็สงสัยว่าทำไมไม่เอามาขายที่เดียวกันเลย จนภายหลังเขารีโนเวทร้าน สาแก่ใจแม่บ้านยิ่งนัก หึ ๆ บอกสิเธอไม่อ้วนเอาเท่าไหร่?

Ringo ก็เหมือนกับ Bake มีการทำรสพิเศษในช่วงเวลาที่จำกัด เช่น รสเบอร์รี่ รสช็อคโกแลต รสบลูเบอร์รี่ และรสอื่น ๆ ที่กำลังจะตามมาอีกมากมาย แป้งพายที่กรอบ หอมเนย กับแอปเปิ้ลกรุบ ๆ ที่เคี่ยวจนหวาน ผสมกับไส้คัสตาร์ดที่กลมกล่อมลงตัว มันคือศิลปะ! แฟน Bake ไม่ควรพลาด Ringo ด้วยประการทั้งปวงจ้าาา

สิ่งที่ชอบ : Bake กับ Ringo แบบ Plain กินได้เรื่อย ๆ ไม่มีเบื่อเลย

เว็บไซต์ร้าน Ringo : https://ringo-applepie.com (ภาษาญี่ปุ่น)

Sweets Forest มีการปรับปรุงรีโนเวทครั้งใหญ่หลังจากเปิดมาอย่างยาวนาน 17 ปี โดยครั้งนี้มาในธีมใหม่ ของหวานและของคาวสไตล์เกาหลี ภายในและภายนอกถูกประดับตกแต่งอย่างสวยหวาน สไตล์เกามากกก ภายในมีทั้งหมด 8 ร้าน ลักษณะคล้าย Food Courts ที่สามารถซื้ออาหารและขนมจากร้านต่าง ๆ มานั่งกินด้วยกัน ชอบแตกต่างกันก็ไปด้วยกันได้ โซนนั่งก็มีหลายโซนให้เลือก ซึ่งบรรยากาศก็แตกต่างกันไปด้วยค่ะ

ร้านเด็ดแนะนำคือ MINTHEIM ที่ขายขนมช็อกโกแลตมิ้นท์ มีตั้งแต่เค้ก เมอแรงก์ เพรสเซล โรลเค้ก ไปจนถึงไอศครีมมิ้นท์ สายมิ้นท์ต้องมาโดน! หรือจะของคาวหวาน SeoulHotteok ที่ขายแผ่นแป้งกรอบนอกนุ่มใน มีรสชาติต่าง ๆ เช่น ถั่วแดง ครีมชีส เป็นต้น ดูลักษณะคล้ายขนมกุ้ยช่ายทอดแบบบ้านเรา หรือจะบิงซูส่งตรงจากเกาหลีอย่าง North Sea ice water ก็มีจ้า ครบรสเลย

Sweets Forest เปรียบเสมือน Landmark ของ Jiyugaoka คือถ้ามา Jiyugaoka แล้วไม่แวะ Sweet Forest เหมือนมาไม่ถึง ร้านอยู่ชั้น 2 ตรงข้ามกับ Starbucks Okusawa 2-Chome ข้างในจะเป็นทางเดินไปยังร้านต่าง ๆ แต่ละร้านมีการตกแต่งที่เป็นลักษณะเฉพาะ

 และมีขายสินค้า Limited จากเกาหลีด้วย สายเกาอย่าพลาดที่จะแวะมานะคะ

สิ่งที่ชอบ : ตกแต่งสวยงาม มุมถ่ายรูปเยอะมาก ถ่ายรูปได้ทุกมุมจริง ๆ นะ มีขนมหวานให้เลือกหลายแบบ หลากสไตล์ จะแยกกันกิน จะกินด้วยกัน เลือกได้เลยจ้า

หนึ่งในร้านโดดเด่นที่อยู่ใน Jiyugaoka ก็หนีไม่พ้นร้านที่ทั้งตึกมี 4 ชั้น ขายร่มเพียงอย่างเดียว เป็นบริษัทที่ผลิตและจำหน่ายร่มเจ้าใหญ่ในญี่ปุ่น นั่นคือร้าน Water Front เองจ้าาา

ซึ่ง Water Front เป็นบริษัทรับทำร่มแบบ Original Equipment Manufacturer (OEM) คือรับผลิตสินค้าที่มีโลโก้หรือแบรนด์ของลูกค้าติดบนสินค้า นั่นหมายถึง Water Front มีโรงงานผลิตร่มเป็นของตนเอง มีทั้งร่มแบบธรรมดา แบบพับ ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่

ด้วยวัสดุและรูปแบบที่หลากหลาย ทำให้แบรนด์นี้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตร่ม รับงานผลิตร่มจากทั้งในประเทศญี่ปุ่นและต่างประเทศ โดยบริษัทได้ก่อตั้งช่วงปี ค.ศ. 1980 มีโรงงานอยู่ที่อำเภอโคกะ (Koga) จังหวัดอิบารากิ (Ibaraki) จนปัจจุบันมีโรงงานอยู่ที่ประเทศจีน

ตอนแรกแม่บ้านตั้งใจจะเดินเข้าไปเพื่อถ่ายรูปเก็บข้อมูลเฉย ๆ แต่พอได้ลองกางร่มคันนั้นคันนี้ เฮ้ย! มันคือดีย์ งานคุณภาพนี่หว่า ราคาก็น่ารักอยู่ ไป ๆ มา ๆ หยิบร่มไปจ่ายเงินเฉ้ย อ่าว? ที่จริงแม่บ้านก็อยากจะได้ร่มใหม่อยู๋แล้ว แต่ไม่คิดว่าพอได้จับก็ด่วนได้ใจเร็ว ฮาาา คือที่มีใช้อยู่ก็ไม่ค่อยถูกใจ เจอลมญี่ปุ่นร่มก็แหกไปหลายยี่ห้อแล้ว เลยอยากได้ร่มพับแบบทน ๆ สักอัน

เคยใช้ของยี่ห้อเยอรมันคันละ 2,500 บาทก็เยินมาแล้ว พอได้มาลองดูของ Water Front เหยยย ดีไซน์เท่ถูกใจ เป็นร่ม 16 ซี่ดูคล้ายร่ม Bangasa (番傘) ร่มดั้งเดิมของเกียวโต ดูแข็งแรง ทนทาน ปีกกว้าง เริ่ด บนป้ายเขียนไว้ว่าเป็นดีไซน์ที่ทำขึ้นมาเพื่อขายในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น กันแดด และรังสี UV 90% ซื้อค่ะ! ได้ลองใช้ 7-8 ครั้ง ใช้งานง่าย พับเก็บง่าย มันแหล่มจ้า

สิ่งที่ชอบ : มีร่มให้เลือกเยอะมากกก มากมายหลายแบบ ทั้งเด็ก วันรุ่น วัยทำงาน ผู้สูงอายุ มีทุกสไตล์ ได้ร่วมที่ถูกใจแน่นอน

เว็บไซต์ร้าน : https://www.water-front.co.jp/flagshipshop/ (ภาษาญี่ปุ่น)

Pop Eye Camera เป็นร้านกล้องเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยการบริการครบวงจร และสินค้าน่ารักสุดตะมุตะมิจนอยากโกยสินค้าลงตระกร้าให้หมดทั้งร้านแล้วเช็คบิล สินค้าในร้านก็มีตั้งแต่กล้องหลากหลายชนิด อุปกรณ์กล้อง สินค้าตกแต่งรูปภาพของเราอย่างฟิล์ม เทปลวดลายน่ารัก กรอบรูป ปากกาตกแต่ง และสินค้าอีกมากมาย

ส่วนบริการก็มีตั้งแต่รับล้างรูปจากฟิล์มชนิดต่าง ๆ ปริ้นท์รูปจากกล้องดิจิตอล รับตกแต่งรูป บันทึกรูปภาพจากฟิล์มเป็นไฟล์ดิจิตอล รับทำโปสการ์ด ถ่ายรูปติดบัตร รับพิมพ์งานสำหรับออกบูธ และขายของออนไลน์ ตากล้องไม่ควรพลาดจ้า

เว็บไซต์ร้าน : http://www.popeye.jp (ภาษาญี่ปุ่น)

Jiyugaoka มีอีกหลากหลายร้านค้าและสถานที่ให้เราได้เข้าไปสัมผัสความเป็นอิสระจากความเครียดในเมือง ความชิลที่ต่างจาก Shibuya หรือ Harajuku มีร้านค้าขายของกิ๊บเก๋ ร้านเสื้อผ้า ร้านขายของสำหรับสัตว์เลี้ยง และอื่น ๆ อีกมากมายที่จะกระชากเงินจากกระเป๋าคุณโดยไม่รู้ตัว ฮาาา (แต่ร้านเสื้อผ้าที่นี่ลดบ่อยนะ)

ร้านค้าในบริเวณ Jiyugaoka ส่วนใหญ่จะเปิดช้า ตั้งแต่ 11:00 - 13:00 ถ้ามีร้านที่อยากมาอยากให้เช็คเวลาเปิดร้านก่อนเด้อ ส่วนวันพุธไม่แนะนำให้มา เพราะร้านส่วนใหญ่หยุดวันพุธ ส่วนเสาร์ - อาทิตย์คนก็จะพลุกพล่าน หลายร้านต่อคิวแถวยาวมาก แนะนำให้มาวันธรรมดาจ้า

แม่บ้านก็หวังว่าจะบันทึก Jiyugaoka ไว้ในอ้อมใจทุกด้วยนะคะ มีโอกาสไม่อยากให้พลาด แวะมาเดิน แวะมาช้อปปิ้ง แวะมาถ่ายรูปตามมุมเก๋ ๆ เพียง 6 สถานีจาก Shibuya สะดวกมาก ๆ จ้า