การพาลูกเข้าอนุบาลที่ญี่ปุ่น ภาค 2 : เอกสาร และของใช้ในโรงเรียน
สวัสดีค่ะ บทความนี้เป็นบทความต่อจาก "การพาลูกเข้าอนุบาลที่ญี่ปุ่น จากประสบการณ์จริง" เขียนขึ้นจากประสบการณ์ที่แม่บ้านได้สัมผัสด้วยตนเอง ญี่ปุ่นมีการกระจายอำนาจทำให้มีการบริหารจัดการของแต่ละจังหวัดหรืออำเภอที่แตกต่างกัน ดังนั้นข้อมูลที่ผู้อ่านจะได้รับจากบทความนี้จึงเป็นอีกหนึ่งกลุ่มข้อมูลที่ทำให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงโรงเรียนอนุบาลในญี่ปุ่นได้ดีขึ้นค่ะ
สารบัญ
1 ) เอกสาร เอกสาร และเอกสาร!
2 ) ของใช้ในโรงเรียนที่โรงเรียนเตรียมไว้ให้
3 ) ของใช้ในโรงเรียนที่เราต้องเตรียม
3.1 ) กระติกน้ำ (水筒)
3.2 ) กระเป๋านักเรียน (通園かばん)
3.3 ) หมวก (園庭用帽子)
3.4 ) รองเท้ากันฝน (園庭用靴)
3.5 ) รองเท้าในห้องเรียน (上履き)
3.6 ) กระเป๋าใส่รองเท้าในห้องเรียน (上履き袋)
3.7 ) มาสก์สำรอง (予備マスク)
3.8 ) กระเป๋าใส่มาสก์ (マスク袋)
3.9 ) ผ้าอ้อมสำเร็จรูป (予備のおむつ) และถุงพลาสติก (ビニール袋)
3.10 ) เสื้อผ้าสำรอง (着替え)
3.11 ) ผ้ารองยืนเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้า (着替えマット)
3.12 ) กระเป๋าผ้าสำหรับใส่เสื้อผ้าที่เปลี่ยนกลับบ้าน (エコバッグ)
3.13 ) กระเป๋าใส่เสื้อผ้าสำรอง (着替え用衣類袋)
3.14 ) กระเป๋าใส่หนังสือและรูปภาพ (作品袋)
3.15 ) กล่องข้าว (弁当箱)
3.16 ) อุปกรณ์การทาน (カトラリー類)
3.17 ) กล่องใส่ผลไม้ (デザートケース)
3.18 ) ผ้าเช็ดมือ (ハンドタオル)
3.19 ) กระเป๋าใส่กล่องข้าว (お弁当袋)
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับโรงเรียนอนุบาลญี่ปุ่น
การพาลูกเข้าอนุบาลที่ญี่ปุ่น ภาค 1 : อนุบาลญี่ปุ่นเป็นอย่างไร?
การพาลูกเข้าอนุบาลที่ญี่ปุ่น ภาค 3 : เทคนิคติดของใช้ลูก และรีวิวประสบการณ์
การพาลูกเข้าอนุบาลที่ญี่ปุ่น ภาคพิเศษ : การติดต่อระหว่างโรงเรียนและผู้ปกครอง
หลังจากที่เราได้รับโทรศัพท์และจดหมายยืนยันจากทั้ง 2 โรงเรียนว่าลูกได้เข้าโรงเรียนเป็นที่เรียบร้อย แม่บ้านและสามีก็ตกลงที่จะเลือกโรงเรียนที่ใกล้กว่า เล็กกว่า และดูเหมาะสมกับนิสัยของลูกมากกว่า ด้วยปัจจัยทั้งหมดเลยเลือกโรงเรียนดังกล่าวค่ะ
1 ) เอกสาร เอกสาร และเอกสาร!
สิ่งที่เราต้องทำในช่วงแรกคือการรับเอกสาร เตรียมเอกสาร และยื่นเอกสารค่ะ เอกสารที่จะต้องเตรียมทั้งหมดของโรงเรียนในส่วนนี้ตัวแม่บ้านเทความรับผิดชอบทั้งหมดให้สามีค่ะ อุอิ เพราะภาษาญี่ปุ่นของแม่บ้านนั้นง่อยมากค่ะ แถมเขียนคันจิก็ไม่ค่อยสวย กลัวทางโรงเรียนอ่านไม่ออก เลยยกหน้าที่ทั้งหมดให้สามีเป็นผู้รับผิดชอบค่ะ
ส่วนนึงที่ทางโรงเรียนต้องใช้เอกสารค่อนข้างเยอะเนื่องจากทางโรงเรียนจะต้องยื่นเอกสารให้กับทางอำเภอในการช่วยเหลือค่าเทอมของลูก โดยโรงเรียนที่ลูกเข้าทางอำเภอจะช่วยเหลือค่าเทอม 100% ส่วนค่าแรกเข้าทางอำเภอจะช่วยเหลือ 50% แต่ทางผู้ปกครองต้องสำรองเงินออกไปก่อน แล้วทางอำเภอจะเบิกจ่ายเงิน 50% คืนมาให้ทีหลังค่ะ ค่าเครื่องแบบและค่าอุปกรณ์ทางผู้ปกครองเป็นผู้ออกทั้งหมด แต่โรงเรียนที่ลูกเข้าไม่มีเครื่องแบบ แม่บ้านเลยโชคดีที่ไม่ต้องจ่ายค่าเครื่องแบบเพิ่ม และไม่ต้องรีดเครื่องแบบลูกด้วยค่ะ แฮปปี้
ทางโรงเรียนจะมอบเอกสารเกี่ยวกับโรงเรียนมาให้ เช่น นโยบายของโรงเรียน แนวทางการเรียนการสอนของแต่ละระดับชั้น ปฎิทินตลอดปีการศึกษา และอีกมากมายค่ะ เอกสารที่แม่บ้านควรทราบหรือควรเอามานั่งอ่านและแปลอย่างจริงจังคือเอกสารที่เกี่ยวกับกฎข้อบังคับ การขอความร่วมมือ สิ่งที่ผู้ปกครองควรทราบ เพราะช่วงแรกรายละเอียดจะเยอะมาก ๆ บางทีเราอาจจะตกหล่นอะไรไปก็ได้ค่ะ บางครั้งฟังแล้วลืม หรือสามีบอกไม่ครบ การเอาเอกสารมานั่งแปลด้วยตนเองปลอดภัยที่สุดค่ะ
นอกจากเอกสารที่จะต้องเตรียมแล้ว เราจะต้องเตรียมอะไรเพื่อส่งลูกไปโรงเรียนบ้าง? เรามาดูกันค่ะ