สำหรับคนที่ไม่ได้ซีเรียสว่าจะต้องทำงานกับบริษัทระดับยักษ์เท่านั้น เว็บ Wantedly ก็เป็นอีกเว็บหนึ่งที่น่าสนใจค่ะ เพราะมีงานให้เลือกหลากหลายตามความสนใจของผู้สมัคร เว็บไซต์สวยงาม น่าอ่านและสบายตา มีแยกหมวดหมู่ระหว่างเด็กฝึกงาน เด็กจบใหม่และผู้มีประสบการณ์ทำงานแล้ว ที่สำคัญ ทางเว็บไซต์มีภาษาอังกฤษและสามารถเลือกโลเคชั่นที่ทำงานได้หลากหลายประเทศด้วยนะคะ

สำหรับผู้เขียนเองก็พึ่งเปลี่ยนงานไปเมื่อเดือนเมษายน 2020 ที่ผ่านมาเพราะได้งานจากเว็บไซต์นี้แหละค่ะ เราเขียนประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงานและแนบเรซูเม่ทิ้งเอาไว้ในหน้าประวัติส่วนตัว บริษัทที่สนใจในตัวเราก็มาสเก้าท์โดยการส่งข้อความมาหาแล้วนัดสัมภาษณ์ รวมคุยในแชทและสัมภาษณ์ไปทั้งหมดสามรอบ รอบแรกเป็นการสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลและเนื้อหางานของบริษัท รอบสองเป็นการสัมภาษณ์งานแบบจริงจัง รอบสามเป็นการเจรจาเรื่องเงินเดือนและเซ็นต์สัญญาค่ะ (จำนวนรอบของการสัมภาษณ์จะแตกต่างกันออกไปแล้วแต่บริษัทนะคะ)

ในทางกลับกัน ถ้าเราสนใจในบริษัทไหนในเว็บนี้ ก็สามารถคลิกปุ่ม Want to Visit เพื่อแสดงความสนใจในบริษัทนั้น ซึ่งในปุ่มคลิกนั้นมีตัวเลือกย่อยว่า
1. I'm ready for the real interview! (ฉันพร้อมที่จะสัมภาษณ์จริงเลย)
2. I want to visit and talk with the team first. (ฉันขอไปเยี่ยมชมบริษัทและคุยกับทีมก่อน)
3. Before I visit, I want to talk to the team online. (ก่อนจะไปเยี่ยมชม ขอคุยกับทีมทางออนไลน์ก่อน)

ซึ่งตัวเลือกเหล่านี้เป็นฟังก์ชันที่ช่วยประหยัดเวลาทั้งทางบริษัทและผู้สมัครมากๆค่ะ เพราะบางทีบริษัทไม่ได้ระบุเงื่อนไขการทำงาน เงินเดือนหรือรายละเอียดต่างๆที่สำคัญจึงทำให้เราไม่มั่นใจว่าสมัครดีไหม ถ้าได้ทำงานแล้วจะชอบหรือไม่ ดังนั้นการสอบถามข้อมูล หรือไปดูบริษัทก่อนสัมภาษณ์ก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่ช่วยทำให้การเลือกงานใหม่นั้นมีประสิทธิภาพและถูกใจเรามากยิ่งขึ้นค่ะ

นอกจากนี้ยังมีข้อควรระวังเล็กน้อยค่ะจากประสบการณ์ส่วนตัวที่ผู้เขียนเคยเจอมา เราสมัครตำเเหน่งมาร์เก็ตติ้งของบริษัทหนึ่งไป พอบริษัทนั้นเรียกไปสัมภาษณ์ กลับกลายเป็นว่าเงื่อนไขและเนื้อหาการทำงานนั้นกลับไม่ตรงกับที่ลงไว้ในเว็บไซต์เลย มาขอให้เราทำอีกตำแหน่งหนึ่งซึ่งเงินเดือนน้อยกว่าแถมงานยังหนักกว่าด้วย (สงสัยเลยค่ะว่าบริษัทนี้แบล็กหรือเปล่าน้า) จึงขอแนะนำให้ทุกคนตรวจสอบให้ดีด้วยการสอบถามผ่านทางแชทก่อนไปสัมภาษณ์เพื่อไม่ให้เสียเวลาค่ะ (ไหนจะค่าเดินทาง และเวลาไปสัมภาษณ์ที่ส่วนใหญ่จะประมาณ 30นาที - 1ชม. อีก) หรือเรียกเราไปสัมภาษณ์ถึงสองรอบแล้วปฎิเสธไม่จ้างเราก็มี ดังนั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นบริษัทเล็กๆ เเต่ถ้าไม่ถูกใจเขา ไม่เหมาะกับตำแหน่งงานก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดนะคะ

Hello Work เป็นบริการช่วยคนหางานให้ชาวต่างชาติฟรี ซึ่งส่วนใหญ่จะมีอยู่เกือบทุกเมืองหรือทุกจังหวัด (ลองเสิร์ชหาสาขาที่ใกล้บ้านดูนะคะ) ซึ่งเราสามารถไปสอบถามเกี่ยวกับงานและฝากประวัติการทำงานของเราเอาไว้ได้ รวมไปถึงระบุเงื่อนไขความต้องการของเราว่าอยากได้งานแบบไหน เงินเดือนต่อปีเท่าไหร่ สถานที่ในการทำงานที่ต้องการ ระยะเวลาทำงาน สัญญาการว่าจ้าง ฯลฯ ได้ แล้วพนักงานจะทำการตรวจสอบและแนะนำงานที่เหมาะสมให้กับเราค่ะ หรือเราจะตรวจสอบงานที่เราสนใจเองจากเว็บไซต์ก่อนก็ได้ เมื่อเจองานที่ถูกใจแล้วก็สมัครกับทางพนักงานได้เลยค่ะ (อย่าลืมพกประวัติการทำงานภาษาญี่ปุ่น (履歴書 rirekisho) แบบที่กรอกเรียบร้อยไปด้วยนะ สำคัญมาก!)

เพื่อนของผู้เขียนเองก็เคยหางานผ่านทาง Hello Work ในช่วงโควิดเช่นเดียวกัน แต่ทว่างานแนวที่เพื่อนสนใจนั้นไม่มีให้เลือกเยอะและเงื่อนไขไม่ดีเท่าไหร่นักจึงไม่ได้สมัครไปค่ะ ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะหางานยากกว่าปกติ แต่เงื่อนไขการทำงานและเนื้อหางานก็สำคัญเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นอย่าลืมตรวจสอบดีๆก่อนตกลงเซ็นต์สัญญาว่าจ้างงานนะคะ

เว็บนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ได้ภาษาญี่ปุ่นระดับ N1~N2 เนื่องจากคำศัพท์ต่างๆรวมไปถึงเงื่อนไขในการทำงานนั้นระดับธุรกิจ อีกทั้งบริษัทส่วนใหญ่นั้นต้องการผู้ที่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นระดับสูง หากเพื่อนๆรู้ตัวว่าตัวเองสามารถสื่อสารในการทำงานกับคนญี่ปุ่นได้อย่างไม่มีปัญหา เว็บนี้อาจตอบโจทย์ได้ดีเพราะตัวเลือกสำหรับการหางานนั้นก็จะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากค่ะ

Indeed นั้นจะต่างจาก Wantedly ตรงที่เราสามารถเลือกเงื่อนไขของงานได้อย่างเฉพาะเจาะจง ว่าอยากได้รายได้ต่อปีเท่าไหร่ สัญญาเป็นแบบไหน (พนักงานประจำ พนักงานสัญญาจ้าง ฯลฯ) สถานที่ทำงาน เป็นต้น เมื่อเราใส่ข้อมูลเรียบร้อยแล้วทางเว็บก็จะคัดกรองงานที่เหมาะกับเรามาให้ พร้อมทั้งระบุเนื้อหางานและสัญญาการว่าจ้างอย่างชัดเจน ถ้าเราสนใจก็กดสมัครไป รอสักพักแล้วทางบริษัทจะติดต่อกลับมาค่ะ (อย่าลืมกรอกประวัติส่วนตัวต่างๆด้วยนะคะ เดี๋ยวบริษัทไม่ทราบว่าเรามีดีอะไรบ้างนะค้า)

ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่โพสงานในเว็บนี้มักจะเป็นบริษัทรีครูทที่ได้รับมอบหมายให้มาหาคนให้กับบริษัทต่างๆอีกทีค่ะ (ได้รับค่านายหน้า) หากมีรีครูทติดต่อมาก็ไม่ต้องตกใจไปนะคะ เพราะรีครูทจะเป็นคนที่ช่วยหางานให้เรา ผู้เขียนเองก็เคยมีประสบการณ์ในการสมัครงานผ่านรีครูทและได้งานมาแล้วเช่นกันค่ะ วิธีนี้ถือว่าช่วงแบ่งเบาภาระในการหางานที่ใช่ได้ในระดับนึงเลย แถมรีครูทบางเจ้าจะช่วยตรวจสอบเรซูเม่และฝึกซ้อมสัมภาษณ์ให้เราอีกด้วยค่ะ (ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีน้า จะได้ทราบว่าเราขาดบกพร่องในจุดไหนและควรแก้ไขอย่างไรบ้างเพื่อให้บริษัทสนใจในตัวเรา ไปจนถึงรับเราเข้าทำงานในที่สุด) สุดท้ายแล้วหากบริษัทเรียกไปสัมภาษณ์แล้วไม่ผ่าน หรือไม่ได้งานที่เราคาดหวังไว้ รีครูทก็ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยค้นหางานอื่นๆ คอยเสนองานบริษัทอื่นๆที่อยู่ในสายงานของเรามาให้เราลองสมัครอีกด้วยค่ะ เพื่อนของผู้เขียนเองก็ได้งานจากการช่วยเหลือของรีครูทไปหลายคนเลยค่ะ

แต่ทว่า มีข้อควรระวังตรงที่รีครูทนั้นอาจไม่ทราบสโคปเนื้อหาและเงื่อนไขของบริษัททั้งหมด ดังนั้นตอนที่เราไปสัมภาษณ์ควรสอบถามกับทางบริษัทให้แน่ใจก่อนตกลงเข้าทำงานนะ รวมทั้งการซ้อมสัมภาษณ์และตรวจสอบเรซูเม่กับรีครูทนั้นอาจมีค่าใช้จ่ายอีกด้วยค่ะ

สำหรับคนที่ไม่มั่นใจในสกิลภาษาญี่ปุ่นของตัวเองแต่พูดภาษาต่างประเทศภาษาอื่นได้ ผู้เขียนขอแนะนำเว็บ Gaijinpot ค่ะ เพราะเราสามารถหางานที่ใช้ภาษาอื่นในการสื่อสารเช่น ภาษาไทย สเปน จีน เกาหลี ฯลฯ ได้ แต่คนที่พูดภาษาอังกฤษได้นั้นจะได้เปรียบเพราะมีตัวเลือกเยอะมากกว่าค่ะ (ส่วนใหญ่จะเป็นงานสอนภาษาซะส่วนใหญ่) ซึ่งจุดเด่นของเว็บนี้อยู่ตรงเว็บไซต์ใช้งานง่าย มีสกิลภาษาญี่ปุ่นให้เลือกว่าเราอยู่ในระดับไหน ตั้งแต่พูดไม่ได้เลยไปจนถึงเชี่ยวชาญ แล้วทางเว็บจะคัดงานที่ตรงกับระดับภาษามาให้ค่ะ เพื่อนของผู้เขียนที่เป็นชาวอเมริกานั้นหางานสอนภาษาอังกฤษ (งานประจำ) จากเว็บนี้ เธอเล่าว่าเพียงแค่แนบเรซูเม่และข้อความแนะนำตัวไปก็โดนเรียกสัมภาษณ์งานแล้วค่ะ นอกจากจะรับคนที่อยู่ในญี่ปุ่นแล้ว บางที่ยังยินดีที่จะทำวีซ่าให้อีกด้วย (แต่ทว่าในตอนนี้การออกวีซ่าจากประเทศอื่นนอกจากญี่ปุ่นนั้นเป็นไปได้ยากและต้องรอนาน ดังนั้นคนที่อาศัยในญี่ปุ่นและมีวีซ่าอยู่เเล้วจะได้เปรียบมากกว่าค่ะ)
https://gaijinpot.com/ja/

ส่วนคนที่ไม่สามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้เลย ผู้เขียนขอแนะนำเว็บ thaijinjob ซี่งเป็นเว็บสำหรับคนไทยโดยเฉพาะ แต่ส่วนใหญ่งานที่มาจากเว็บนี้จะเป็นงานนวด ร้านอาหารไทยและขายของค่ะ เน้นไปที่งานพิเศษ (Part-time) เป็นหลัก ไม่ได้รับรองวีซ่าการทำงานให้ เน้นคนมีวีซ่าแล้วเป็นหลักค่ะ
https://www.thaijinjob.com/

นอกจากเว็บไซต์เหล่านี้แล้ว ผู้เขียนขอแนะนำให้เข้ากลุ่มประเภท "คนไทยในญี่ปุ่น" ใน Facebook ดูนะคะ เพราะเป็นกลุ่มที่รวมคนไทยที่อาศัยในญี่ปุ่นโดยไม่จำกัดสถานะการเป็นอยู่ ไม่ว่าจะวัยเรียนไปจนถึงวัยทำงาน แต่งงานแล้วก็พูดคุยกันได้อย่างอิสระ เพื่อนๆสามารถสอบถามข้อมูลที่จำเป็นในการใช้ชีวิตในญี่ปุ่นได้ บางครั้งคนไทยด้วยกันเองนี่เเหละค่ะที่ช่วยแนะนำงานและวิธีหางานให้ บางคนมีร้านอาหารไทยหรือกิจการอยู่แล้วเลยประกาศรับสมัครคนไทยมาทำงานพิเศษก็มี หรือจะทำความรู้จักกับคนบ้านเดียวกันไว้เพื่อช่วยเหลือกันและกัน จะคอยแชร์ข่าวสารต่างๆก็เป็นประโยชน์มากๆเลยค่ะ

หลังจากที่ได้อ่านกันไปแล้ว ทุกท่านคงเห็นแล้วใช่ไหมคะว่าการหางานในช่วงโควิดนั้นยังมีอยู่หลากหลายวิธีโดย ถึงแม้จำนวนงานที่มีให้เลือกนั้นจะน้อยลงกว่าแต่ก่อน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีให้เลือกและลองสมัครเลย ผู้เขียนขอเป็นกำลังใจให้กับคนไทยที่กำลังหางานหรือกำลังจะเปลี่ยนงานในตอนนี้ คนที่ได้สัมภาษณ์งานผ่านทางออนไลน์ก็อย่าลืมเช็คสัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่ให้ติดขัดระหว่างคุยและสภาพแวดล้อมของห้องโดยรอบดีๆ (เห็นห้องรกๆก็คะแนนติดลบนะค้า) พยายามเลือกที่ที่เงียบๆแบบไม่มีเสียงแทรก เพื่อให้เราสามารถสัมภาษณ์ได้อย่างลื่นไหลโดยไม่มีอะไรมารบกวนจิตใจและสมาธิจะดีที่สุดค่ะ ส่วนคนที่ได้ไปสัมภาษณ์ที่บริษัทอย่าลืมใส่หน้ากากอนามัย และล้างมือบ่อยๆเพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้ติดเชื้อโควิดด้วยนะคะ