รู้จัก 10 หมู่บ้านที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น

ชนบทในญี่ปุ่นนั้นมีเสน่ห์ไม่แพ้เมืองใหญ่ แต่น่าเสียดายที่น้อยคนจะเคยไป วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับ 10 หมู่บ้านที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งได้รับการจัดอันดับโดยองค์กร The Most Beautiful Villages in Japan มีหลากหลายตั้งแต่หมู่บ้านเก่าแก่ในยุคเอโดะ หมู่บ้านท่ามกลางหุบเขา และหมู่บ้านชาวประมงริมทะเล สวยทุกที่แน่นอน
By Japan Travel Editor1. หมู่บ้านบิเอ จ.ฮอกไกโด (Biei, Hokkaido)

https://pixta.jp/
บิเอเป็นเมืองเล็กๆ ซึ่งเป็นประตูไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “บลูพอนด์” หรือบ่อน้ำสีฟ้า (Shirogane Blue Pond) หรือ “น้ำตกชิราฮิเกะ” (Shirahige Waterfall) แต่ตัวเมืองบิเอเองนั้นก็มีเสน่ห์ทั้งจากภูมิประเทศที่ห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติที่งดงามและอุดมสมบูรณ์ ทั้งภูเขาและทุ่งหญ้าที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา รวมถึงอาคารต่างๆ ภายในเมืองก็มีลักษณะการก่อสร้างที่ผสมผสานความเป็นยุโรป มีการควบคุมสีของอาคารให้กลมกลืนกัน บวกกับมีการวางผังเมืองอย่างสวยงาม ทำให้บรรยากาศภายในเมืองนอกจากจะดูเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ยังแฝงไปด้วยความน่ารักและสบายๆ จากร้านรวงและคาเฟ่ต่างๆ ที่แฝงตัวอยู่
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเที่ยวชมเมืองบิเออิก่อนที่จะแวะไปสถานที่อื่นๆ ก็สามารถเดินเท้า เช่าจักรยานเพื่อปั่นไปรอบๆ เมือง หรือขึ้นรถบัส Biei View Bus ซึ่งเป็นรถบัสสำหรับชมเมืองและธรรมชาติรอบๆ เมืองโดยเฉพาะ
2. หมู่บ้านฮิกาชินารุเสะ จ.อากิตะ (Higashinaruse, Akita)

https://pixta.jp/
หมู่บ้านฮิกาชินารุเสะเป็นหมู่บ้านที่มีประชากรประมาณ 3,000 คน เท่านั้น ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาและธรรมชาติในจังหวัดอากิตะ ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในจุดที่สามารถดูดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืนได้ชัดเจนมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติในบริเวณหมู่บ้าน จึงทำให้มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามหลากหลายรูปแบบ เช่น น้ำตกอากะ (Aka Waterfall) ที่มีจุดเด่นตรงที่มีสายน้ำสีแดงจากค่าความเป็นกรดในน้ำสูง ทะเลสาบโอยานากินุมะ (Oyanagi Numa) ทะเลสาบสองแห่งที่ตั้งอยู่บนพื้นที่สูงและต่ำในบริเวณเดียวกัน ถือเป็นจุดที่เหมาะสำหรับการตั้งแคมป์ และชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง รวมถึงแหล่งออนเซ็นชั้นดีและใกล้ชิดธรรมชาติอย่างนารุเสะออนเซ็น (Naruse Onsen) และยามายุริออนเซ็น (Yamayuri Onsen)
3. หมู่บ้านคิตะชิโอะบาระ จ.ฟุคุชิมะ (Kitashiobara, Fukushima)

https://pixta.jp/
หมู่บ้านคิตะชิโอะบาระเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในเมืองไอซุ (Aizu) บริเวณชายแดนของจังหวัดฟุคุชิมะและจังหวัดยามากาตะ ชื่อของหมู่บ้านมาจากการรวมกันของอดีตหมู่บ้านเล็กๆ สามแห่งคือคิตะยามะ, โอชิโอะ และฮิบาระ รวมกันเป็น คิตะชิโอะบาระ
พื้นที่ส่วนหนึ่งของหมู่บ้านคืออุทยานแห่งชาติบันได อาซาฮี (Bandai-Asahi National Park) ซึ่งเป็นที่ตั้งของภูเขาบันได (Mount Bandai) และทะเลสาบฮิบาระ (Lake Hibara) มีเส้นทางเดินชมธรรมชาติสำหรับนักท่องเที่ยวตามแนวภูเขาเหล่านี้ และนอกจากนี้ยังมีจุดท่องเที่ยวที่โดนเด่นคือถนนฮิบะระ วิว ไลน์ ซึ่งถือเป็นเส้นทางขับรถที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น โดยหากเช่ารถขับไปตามถนนสายนี้จะได้พบกับวิวของภูเขา ทะเลสาบ และจะยิ่งมีความสวยงามเป็นพิเศษในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ต้นไม้บนภูเขาพากันเปลี่ยนสีสันพร้อมกันทั้งหมด
4. หมู่บ้านคิโสะ จ.นางาโนะ (Kiso, Nagano)

https://pixta.jp/
หมู่บ้านคิโสะในจังหวัดนางาโนะ เป็นจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในฐานะหมู่บ้านโบราณที่ยังคงอนุรักษ์บ้านเรือนเก่าแก่อายุหลายร้อยปีในยุคเอโดะเอาไว้เป็นอย่างดี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความรุ่งเรืองในการเป็นจุดแวะพักสำคัญของเหล่านักเดินทางในอดีต ที่ใครจะเดินทางระหว่างเอโดะ (โตเกียว) และเกียวโตจะต้องผ่านมาทางนี้ ปัจจุบันบ้านเก่าแก่บางแห่งถูกปรับให้เป็นทั้งร้านอาหาร ร้านขายของ ไปจนถึงที่พัก
โดยนอกจากบรรยากาศที่เหมือนกับได้ย้อนไปอยู่ในยุคญี่ปุ่นโบราณแล้ว หมู่บ้านคิโสะยังตั้งอยู่บนพื้นที่สูง และห้อมล้อมไปด้วยภูเขาและแม่น้ำ ซึ่งมีเส้นทางเดินชมธรมชาติหลากหลายรูปแบบที่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินไปสัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติได้อย่างง่ายได้ โดยหนึ่งในเส้นทางที่น่าสนใจก็คือเส้นทางมาโงเมะ-สึมาโกะ (Magome-Tsumago Trail) ซึ่งในอดีตนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางค้าขายสำคัญที่มีคนสัญจรไปมาจริงๆ จึงได้สัมผัสทั้งร่องรอยของวัฒนธรรมและธรรมชาติไปพร้อมๆ กัน
5. หมู่บ้านนาคาโนโจ จ.กุนมะ (Nakanojo Kuni, Gunma)

https://pixta.jp/
หมู่บ้านนาคาโนโจ เป็นหมู่บ้านในจังหวัดกุนมะที่มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาและที่ราบซึ่งห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติที่เงียบสงบ และจุดเด่นคือเนินเขาชิบุโทเกะ (Shibu-toge) จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่มีเอกลักษณ์ มองจากมุมสูงในยามพระอาทิตย์ตกดินจะเห็นต้นไม้ทอดเงายาวเป็นภาพที่แปลกตา และเป็นสถานที่ที่นักเขียนและกวีญี่ปุ่นชื่นชอบเนื่องจากมีทัศนียภาพที่งดงามและสร้างแรงบันดาลใจในการเขียนผลงาน
ที่เมืองเป็นแหล่งปลูกโซบะ จึงมีของกินขึ้นชื่อคือ จูวาริโซบะ (Juwari Soba) โซบะแบบเข้มข้นซึ่งใช้แป้งจากต้นโซบะร้อยเปอร์เซ็นต์ (ปกติจะผสมแป้งสาลี) ทำให้เส้นมีสีและรสเข้มกว่าเส้นโซบะปกติ และมีแหล่งออนเซ็นชื่อดังหลายแห่งเช่น ชิมะออนเซ็น (Shima Onsen) และคุนิ โนะ ซาโตะ ออนเซ็น (Kuni no Sato Onsen)
6. หมู่บ้านฮายาคาวะ จ.ยามานาชิ (Hayakawa, Yamanashi)

หมู่บ้านฮายาคาวะ เป็นหมู่บ้านขนาดเล็กที่โอบล้อมไปด้วยแนวภูเขาสูงใหญ่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดยามานาชิ และมีประชากรเหลืออยู่ในปัจจุบันเพียงหนึ่งพันคนโดยประมาณ ถือเป็นหมู่บ้านที่มีจำนวนประชากรน้อยที่สุดของประเทศญี่ปุ่นในปัจจุบัน บรรยากาศของหมู่บ้านแห่งนี้จึงมีทั้งความเงียบสงบ และอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอย่างแท้จริง วิวที่สวยงามนั้นมีอยู่ทั่วบริเวณ แต่ที่โดดเด่นก็อย่างเช่นวิวของ ทะเลสาบนาราตะ (Lake Narata) สีเขียวมรกต
บ้านบางหลังในหมู่บ้านนั้นเปิดเป็นที่พักสำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาสัมผัสกับธรรมชาติที่เงียบสงบ และสิ่งที่เป็นไฮไลท์สำคัญของหมู่บ้านแห่งนี้คือโรงแรมนิชิยามา ออนเซ็น เคอุนคัง (Nishiyama Onsen Keiunkan) ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นหนึ่งในโรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยเปิดทำการมาต่อเนื่องตั้งแต่ ค.ศ. 705 และสืบทอดกิจการในตระกูลกันมากว่า 52 รุ่นจนถึงปัจจุบัน รวมถึงยังได้รับการบันทึกจาก Guinness Book ว่าเป็นโรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดในโลกด้วย
7. หมู่บ้านโทสุคาวะ จ.นารา (Totsukawa, Nara)

https://pixta.jp/
หมู่บ้านโทสุคาวะ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ กลางหุบเขาซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดนารา เป็นหนึ่งในหมู่บ้านออนเซ็นที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติซึ่งมีทั้งบ่อออนเซ็นสาธารณะ บ่อออนเซ็นกลางแจ้ง เรียวกังเก่าแก่ ไปจนถึงร้านขายอาหารและของที่ระลึกที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว
นอกจากการเดินทางมาแช่อนเซ็นในหมู่บ้านแห่งนี้แล้ว ภายในบริเวณใกล้เคียงยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่นแม่น้ำโทสุคาวะที่เป็นที่มาของชื่อเมือง ซึ่งมีหน้าผาอันสวยงามและสะพานทานิเซะ (Tanize Bridge) สะพานแขวนสำหรับชมวิวที่ทอดยาวเหนือหุบเขา หรือน้ำตกซาซาโนะทากิ (Sasanotaki) ที่มีความสูงถึง 32 เมตร น้ำที่ไหลลงมาจะมีลักษณะเป็นเส้นเรียว สูงยาว เหมือนกับต้นไผ่ จนเป็นที่มาของฉายาที่เรียกในอีกชื่อหนึ่งว่า “น้ำตกต้นไผ่”
8. หมู่บ้านโยชิโนะ จ.นารา (Yoshino, Nara)

https://pixta.jp/
หนึ่งในหมู่บ้านซึ่งน่าจะเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับนักท่องเที่ยว จากชื่อเสียงของการเป็นหมู่บ้านเล็กๆ บนภูเขาโยชินะที่สามารถมองเห็นต้นซากุระหลายหมื่นต้นในหุบเขาผลิบานพร้อมกันในช่วงฤดูใบไม้ผลิ จนได้รับการยกย่องว่าเป็นจุดชมซากุระที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น แต่นอกจากซากุระแล้ว พื้นที่โดยรอบหมู่บ้านยังเต็มไปด้วยวัดเก่าแก่มากมาย ซึ่งบางแห่งได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติของชาติและมรดกโลก เช่น วัดคิมปุเซ็นจิ (Kinpusenji Temple) หรือหากมีโอกาสเดินทางมาพักค้างคืนในเรียวกังหรือที่พักต่างๆ ในหมู่บ้านในช่วงเวลาอื่น ก็ยังคงได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติ และความเงียบสงบจากสถานที่ตั้งซึ่งอยู่ห่างไกลจากสิ่งรบกวนทุกรูปแบบ
9. หมู่บ้านอิเนะ จ.เกียวโต (Ine, Kyoto)

https://pixta.jp/
หมู่บ้านอิเนะเป็นหมู่บ้านชาวประมงริมชายฝั่งทะเล และตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดเกียวโตนั้นเริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งท่องเที่ยว Unseen ซึ่งเริ่มมีการแนะนำให้ไปท่องเที่ยวกันเมื่อไม่นานมานี้ ด้วยเสน่ห์ของบ้านไม้โบราณสไตล์ “ฟุนายะ” กว่า 230 หลังที่ปลูกเรียงรายอยู่ตามแนวชายฝั่งทะเล
ซึ่งบ้านแบบฟุนายะเหล่านี้จะสร้างเป็นแบบ 2 ชั้น โดยชั้นบนจะมีไว้สำหรับพักอาศัย และชั้นล่างซึ่งอยู่เหนือน้ำจะมีไว้สำหรับจอดเรือ เพื่อให้สะดวกสบายสำหรับการออกเรือไปหาปลาในแต่ละวัน ซึ่งบ้านบางหลังในหมู่บ้านก็เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถพักค้างคืนได้ และสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนหมู่บ้านแห่งนี้ ก็ยังมีเรือท่องเที่ยวที่พาไปชมความสวยงามของหมู่บ้านและอ่าวอิเนะ และสามารถสนุกไปกับการให้อาหารนกนางนวลระหว่างการล่องเรืออีกด้วย
10. หมู่บ้านมินามิโอกุนิ จ.คุมาโมโตะ (Minamioguni, Kumamoto)

https://pixta.jp/
หมู่บ้านมินามิโอกุนิ เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาอะโสะ (Mount Aso) หนึ่งในภูเขาสำคัญของภูมิภาคคิวชู ถือเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชนบทที่มีการปรับตัวเพื่อให้อยู่รอดด้วยการทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและจุดพักค้างคืนสำหรับคนที่อยากใกล้ชิดกับธรรมชาติ และยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นให้กลายเป็นของฝากที่น่าสนใจ เช่น สาเก และขนมหวานหลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสนุกๆ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมได้เช่นการแช่สปา เวิร์กช็อปทำผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น หรือเดินชมธรรมชาติผ่านเส้นทางต่างๆ รอบหมู่บ้าน
ผู้เขียน: ชินพงศ์ มุ่งศิริ
เริ่มต้นทำงานเป็นช่างภาพอิสระหลังเรียนจบ เดินทางไปถ่ายภาพที่ประเทศญี่ปุ่นบ่อยครั้งจนครบทั้ง 4 ฤดูอันสวยงาม และเกือบครบทุกภูมิภาค มีผลงานภาพถ่ายตีพิมพ์ในไกด์บุ๊คระดับโลกอย่าง Lonely Planet ถึง 3 เล่ม คือ Discovery Japan, Japan และ Kyoto รวมถึงเว็บไซต์ท่องเที่ยวชั้นนำอย่าง National Geographic Traveler UK, BBC Travel, Travel+Leisure, TIME และอีกมาก
นอกจากการถ่ายทอดความสวยงามของประเทศญี่ปุ่นผ่านภาพถ่าย ปัจจุบันยังหันมาถ่ายทอดเรื่องราวผ่านทางตัวอักษรทั้งในฐานะนักเขียนและนักแปลควบคู่กันไปอีกด้วย