รวมงานอดิเรกทำที่บ้านได้สไตล์คนญี่ปุ่น
แนะนำให้รู้จักงานอดิเรกหลากหลายรูปแบบที่เป็นที่นิยมของชาวญี่ปุ่น เน้นกิจกรรมที่สามารถทำที่บ้านได้ ส่วนใหญ่มักจะเป็นกิจกรรมผ่อนคลายในเวลาว่างหรือทำร่วมกันทั้งครอบครัวได้ และ 10 กิจกรรมทำที่บ้านของชาวญี่ปุ่นที่จะแนะนำให้รู้จักต่อไปนี้ ก็สะท้อนความเป็นญี่ปุ่นอย่างมาก ที่หลายคนอาจจะคุ้นเคยทั้งจากในซีรีส์หรืออนิเมะ ขอบอกว่า สามารถทำเองได้นะ
1. ฝึกพับกระดาษโอริงามิ (Origami)
โอริงามิ (Origami) คือศิลปะการพับกระดาษของญี่ปุ่นที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และในปัจจุบันก็เป็นงานอดิเรกที่ได้รับความนิยมสำหรับทุกเพศทุกวัย ซึ่งการพับโอริกามิไม่ใช่เพียงแค่ให้ได้กระดาษที่สวยงามเท่านั้นแต่ยังเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่มีความน่าสนใจอย่างลึกซึ้งหลายๆ ด้านโดยเฉพาะเทคนิคการพับกระดาษที่รวมเอาศาสตร์ของวิชาเรขาคณิตเข้ามาผสมผสาน รวมถึงปัจจุบันมีการพัฒนาไปมาก เช่นมีการใช้อุปกรณ์เสริมอย่างคลิปหรือแหนบเพื่อให้ได้รูปทรงตามต้องการ มีกระดาษสีแปลกๆ หรือลวดลายสวยๆ มากมายให้นำมาใช้เพื่อสร้างผลงานที่เป็นเอกลักษณ์ นอกจากความคิดสร้างสรรค์แล้ว การพับกระดาษโอริงามิยังถือเป็นการฝึกสมาธิอย่างหนึ่งที่ได้ผลดีมากอีกด้วย
2. ปลูกบอนไซ (Bonsai)
บอนไซ (Bonsai) ก็คือศิลปะการปลูกต้นไม้ในกระถางที่ถือกำเนิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นและภายหลังก็เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จุดเด่นของบอนไซอยู่ที่การเพาะเลี้ยงต้นไม้ขนาดเล็กลงในกระถางให้มีความสวยงาม ซึ่งต้นไม้ที่นิยมมาปลูกเป็นบอนไซจะเป็นไม้ใหญ่หรือต้นไม้จากป่า จึงดูคล้ายการนำต้นไม้ใหญ่ขนาดใหญ่มาย่อส่วน โดยมีการดูแล ตกแต่ง ตั้งแต่ส่วนของราก ลำต้น กิ่ง ก้าน ใบ ให้เติบโตได้รูปทรงตามความต้องการ ถือเป็นงานอดิเรกที่เหมาะกับคนที่บ้านมีสวนและรักต้นไม้อย่างยิ่ง
3. ฝึกทำอาหารญี่ปุ่น (Japanese Cooking)
อาหารญี่ปุ่นเป็นศาสตร์และศิลป์อย่างหนึ่งที่ต้องศึกษาและเรียนรู้ มีความพิถีพิถันตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ การปรุงอาหารและการจัดจานหรือสำรับ หลายเมนูอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิมมีการเรียนและฝึกทำกันอย่างจริงจัง และในแง่ของการเป็นงานอดิเรกก็มีทั้งเมนูอาหารคาว อาหารหวานที่เหมาะกับการฝึกฝีมือหลายอย่าง เช่น การทำข้าวปั้น (Onigiri) ก็จะมีเทคนิคในการปั้นให้ออกมาเป็นรูปสามเหลี่ยมขนาดพอดีดูสวยงามน่ารับประทาน ในส่วนของการจัดชุดสำรับอาหารก็ต้องเรียนรู้ว่าเครื่องเคียงของแต่ละฤดูกาลแตกต่างกันอย่างไร ตำแหน่งการจัดวางตกแต่งบนภาชนะเป็นแบบไหน รวมถึงเทคนิคการถนอมอาหาร เช่น การตากแห้งผลไม้ การทำผักดอง ถือเป็นงานอดิเรกที่มีประโยชน์ในชีวิตประจำวันและทำให้อิ่มอร่อยด้วย
สำหรับคนไทย เราไม่ควรยึดติดในเรื่องวัตถุดิบมากจนเกินไป ลองมาเริ่มจากเมนูพื้นฐานที่อยากกินที่บ้านก่อน โดยเลือกมาซักเมนูที่อยากลองทำเองแล้วเริ่มทำกินเลยโดยไม่ต้องคิดมากน่าจะดีที่สุด วัตถุดิบใดที่หาไม่ได้ก็ใช้ของไทยแทน เป็นต้น
เรามีสูตรอาหารง่ายๆ ที่เน้นวัตถุดิบหาได้ในไทย เขียนโดยแม่บ้านชาวไทยในญี่ปุ่น
4. ฝีกเล่นเครื่องดนตรีญี่ปุ่นโบราณ (Japanese Instrument)
อันนี้ออกจะยากไปซักนิดแต่ก็อยากแนะนำให้เป็นตัวเลือก เพราะญี่ปุ่นมีเครื่องดนตรีโบราณที่เปรียบเหมือนเครื่องดนตรีประจำชาติอยู่หลายประเภทที่ยังเป็นที่นิยมเล่นอยู่ในปัจจุบัน เช่น โคโตะ (Koto) เป็นเครื่องดีดที่มีเสียงคล้ายกีต้าร์กับเบส, ขลุ่ยชาคุฮาจิ (Shakuhachi) หรือขลุ่ยไม้ไผ่ 5 รู เป็นเครื่องเป่าที่มักจะพบเห็นในงานเทศกาลท้องถิ่น, ซามิเซ็ง (Shamisen) เครื่องสายที่มีสามสายและมีเสียงคล้ายไวโอลิน ปัจจุบันนี้ก็ยังสามารถพบเห็นเครื่องดนตรีเหล่านี้ได้ตามงานเทศกาลดั้งเดิม และเครื่องดนตรีญี่ปุ่นโบราณหลายประเภทก็มีการเรียนการสอนในโรงเรียนมัธยมด้วย ทำให้คนญี่ปุ่นบางคนที่เคยเลือกเรียน ก็ยังเล่นเครื่องดนตรีเหล่านี้เป็นงานอดิเรกแทนเครื่องดนตรียุคปัจจุบันอีกด้วย การเล่นดนตรีก็ถือเป็นงานอดิเรกยามว่างที่ช่วยฝึกสมาธิ อีกทั้งเสียงเพลงก็จรรโลงใจ และยังถือว่าได้เรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใครไปในตัว
สำหรับคนที่อยากลอง งานอดิเรกทางด้านดนตรีนั้นการเริ่มอาจจะยากซักหน่อยสำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐาน (เช่นเดียวกับดนตรีอื่นๆ) งานอดิเรกนี้จึงอาจจะไม่เหมาะกับการหยิบขึ้นมาลองเล่นสนุกๆ ในระยะเวลาสั้นๆ (เช่นช่วงกักตัวในยุค COVID-19) แต่ควรจะทำก็ต่อเมื่อมั่นใจว่าเราจะรักและสามารถทำต่อเนื่องไปได้ยาวนาวเป็นปีๆ โดยไม่เบื่อ ที่สำคัญคือ เครื่องดนตรีเหล่านี้แม้จะหาได้ในไทยแต่ก็ยากมากหากเทียบกับเครื่องดนตรียอดนิยมอย่างกีตาร์
5. ถักนิตติ้ง (Knitting)
การถักนิตติ้ง (Knitting) อีกหนึ่งงานอดิเรกที่คุณยายของตัวเอกในหนังฝรั่งชอบทำกันมาก แต่ชาวญี่ปุ่นก็ชอบไม่แพ้กัน งานอดิเรกนี้โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นผู้หญิงที่นิยมกันมากและมีแหล่งซื้ออุปกรณ์รวมถึงหนังสือแพทเทิร์นในการถักวางขายอยู่ทั่วไปที่สำคัญคือราคาไม่แพงและทำเสร็จแล้วมีของออกมาเป็นชิ้นเป็นอัน การถักนิตติ้งนั้นก็มีหลายรูปแบบเช่นถักเป็นเสื้อไหมพรม ถุงมือ ผ้าพันคอ หมวก เหมาะกับช่วงเวลายามว่าง ถือเป็นการฝึกสมาธิและฝึกการใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่าเมื่อถักเสร็จแล้วก็สามารถใช้เป็นของขวัญที่ทำด้วยตัวเองในโอกาสพิเศษต่างๆ ได้อีกด้วย
6. จัดดอกไม้อิเคบานะ (Ikebana)
อีกหนึ่งงานอดิเรกที่ญี่ปุ่นตั้งแต่ชื่อ อิเคบานะ (Ikebana) เป็นศิลปะการจัดดอกไม้แบบญี่ปุ่นที่มีการเรียนรู้และสืบทอดกันมาตั้งแต่อดีต ปัจจุบันเป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจทั้งจากชาวญี่ปุ่นรวมถึงชาวต่างชาติด้วย สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของการจัดดอกไม้แบบอิเคบานะ ก็คือการใช้หลักปรัชญาเกี่ยวกับสมาธิ การทำจิตใจให้สงบมาใช้ในงานศิลปะก่อให้เกิดความสวยงามซึ่งเป็นความงดงามจากสีสันของดอกไม้ กิ่ง ก้าน ใบ แบบเรียบง่าย ไม่ปรุงแต่งมากเกินไป เน้นความงามตามธรรมชาติให้มากที่สุด ในแง่ของการเป็นงานอดิเรกก็ถือว่าได้ผ่อนคลายและได้ใกล้ชิดธรรมชาติ ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการจัดวางดอกไม้ลงในแจกันทรงเตี้ยหรือทรงสูงตามสไตล์ที่ชอบ และเมื่อจัดเสร็จแล้วก็นำไปใช้ตกแต่งบ้านได้
7. เล่นเกมกระดาน (Board Games)
อีกหนึ่งกิจกรรมที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่นและมีมายาวนานตั้งแต่อดีตจนถึงทุกวันนี้ก็คือเกมกระดาน (Board Games) ที่ปัจจุบันมีมากมายหลายรูปแบบ แต่วันนี้เราขอแนะนำแบบดั้งเดิมเช่น หมากรุกญี่ปุ่น (Shogi) และหมากล้อมหรือโกะ (Go) เป็นต้น โดยแต่ละเกมที่กล่าวถึงนี้ กติกาโดยทั่วไปจำเป็นต้องเล่นกันสองคน ดังนั้นเกมกระดานจึงกลายเป็นงานอดิเรกของครอบครัวในเวลาว่างเมื่อสมาชิกของครอบครัวมารวมตัวกัน เพื่อฝึกสมอง ฝึกสมาธิ และเป็นการเล่นเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี อีกทั้งยังเป็นการสืบสานวัฒนธรรมการละเล่นยุคโบราณให้คงอยู่แบบรุ่นสู่รุ่นอีกด้วย สำหรับคนไทยที่ไม่เคยเล่นนั้นอาจจะต้องเรียนรู้กฏตั้งแต่ศูนย์ แต่ข้อดีของเกมกระดานแบบดั้งเดิมก็คือไม่มีกฏที่ยุ่งยากมากนัก ถ้าสามารถเล่นหมากรุกไทยหรือหมากรุกตะวันตกได้ ก็สามารถเรียนรู้หมากรุกญี่ปุ่นได้เช่นกัน
8. เล่นเกมคอนโซล (Video Game)
ในอดีตอาจจะถูกมองว่าเป็นเรื่องของเด็กแต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ ปัจจุบันนี่คือหนึ่งในงานอดิเรกยอดฮิตที่สุดของคนนานาประเทศแน่นอน แต่ญี่ปุ่นซึ่งมีชื่อเสียงในฐานะประเทศผู้ผลิตเกมและเครื่องเกมคอนโซลสมัยใหม่ที่หลายคนคุ้นเคยกันดี เครื่องเกมคอนโซลอย่างเช่น Sony Playstation หรือ Nintendo Switch ก็ล้วนมีที่มาจากญี่ปุ่น จึงดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติที่ครัวเรือนญี่ปุ่นมักจะมีเครื่องเล่นเกมวางอยู่ และครอบครัวญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยก็ใช้เวลาในครอบครัวไปกับเกม
การเล่นเกมเป็นงานอดิเรกก็ถือว่าเป็นที่นิยมของผู้คนทุกเพศทุกวัยก็ว่าได้ และประเภทของเกมก็มีหลายแบบมากจนอธิบายไม่หมด เกมจากญี่ปุ่นบางส่วนก็จะมีความเกี่ยวข้องกับอนิเมะหรือมังงะซึ่งอาจจะเหมาะกับคนชอบญี่ปุ่น หรือเกมแบบออนไลน์ที่ได้สื่อสารกับเพื่อนไปด้วยก็ถือว่าเหมาะมากกับการคลายเครียดในยุค COVID-19 ที่ถึงแม้จะหมดช่วงกักตัวไปแล้ว เครื่องเกมก็ยังเป็นอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงภายในบ้านที่สะดวกอยู่ดี
9. สะสมแสตมป์ (Stamp Collecting)
สะสมแสตมป์ (Stamp Collecting) งานอดิเรกสุดคลาสสิกที่แม้ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปแค่ไหนแต่ในญี่ปุ่นก็ยังมีกลุ่มผู้ที่นิยมสะสมแสตมป์อยู่ไม่น้อย เนื่องจากแสตมป์ญี่ปุ่นจะมีการออกแบบอย่างหลากหลายและมีการอัพเดตตลอดเวลา แน่นอนว่าส่วนใหญ่ก็น่ารักตามสไตล์ญี่ปุ่นทำให้การสะสมแสตมป์ยังได้รับความสนใจอยู่มาก โดยเฉพาะคอลเลคชั่นเกี่ยวกับคาแรกเตอร์ดัง เช่น ซานริโอ โปเกมอน โดราเอมอน ตลอดจนคอลเลคชั่นพิเศษอีกมากมายที่ออกมาใหม่เรื่อยๆ โดยญี่ปุ่นมีแสตมป์ดีไซน์ใหม่หลายร้อยดีไซน์ที่ออกในแต่ละปี
นอกจากนี้การสะสมแสตมป์ของบางคนอาจรวมไปถึงการสะสมโปสการ์ด กระดาษเขียนจดหมาย เป็นงานอดิเรกที่ดูเหมือนจะธรรมดา แต่ก็เป็นงานอดิเรกที่สร้างคุณค่าทางจิตใจได้มากเลยทีเดียว สำหรับงานอดิเรกนี้ตราบใดที่เราไม่ได้เจาะจงว่าต้องเก็บเฉพาะของหายากหรือของแรร์ ของที่เลิกผลิตไปแล้วเท่านั้น แต่สะสมของทั่วไปด้วย ที่จริงก็ไม่ใช่งานอดิเรกที่แพงมากนัก
10. ฝึกเขียนตัวอักษรด้วยพู่กัน (Shodo)
การเขียนตัวอักษรญี่ปุ่นด้วยพู่กัน (Shodo) เป็นอีกหนึ่งงานอดิเรกที่เหมาะกับคนชอบญี่ปุ่น โดยเฉพาะคนเรียนภาษาญี่ปุ่น เป็นศิลปะที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และในปัจจุบันกิจกรรมนี้ก็ได้รับการสืบทอดต่อกันมาหลายรูปแบบ เช่นเป็นหนึ่งในกิจกรรมชมรมของโรงเรียน และยังสามารถฝึกฝนในยามว่างที่บ้านเป็นงานอดิเรกได้ไม่ยากและไม่ต้องการเครื่องมือมากมายด้วย การเขียนตัวอักษรญี่ปุ่นด้วยพู่กันจะใช้อุปกรณ์คือ พู่กัน หมึก และกระดาษ เมื่อลองจินตนาการแล้วอาจดูเหมือนง่าย แต่อันที่จริงแล้วต้องใช้ทั้งสมาธิและบรรยากาศเงียบสงบในการฝึกเขียนอักษรแต่ละตัวออกมา เพื่อให้มีความสวยงามสมบูรณ์แบบมากที่สุด
และที่สำคัญแม้ภาษาไทยเราจะไม่นิยมเขียนด้วยพู่กันแต่จะลองทำดูก็ได้ รับรองว่าจะเป็นงานอดิเรกที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร
ผู้เขียน: หนึ่ง
นักอ่านและนักเขียนที่ชอบการเดินทางไปในที่ต่างๆ โดยเฉพาะญี่ปุ่น รักการดูอนิเมะญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจ :)