อัพเดท 2023! รวม 8 จุดชมซากุระทั่วญี่ปุ่น สำหรับคนไปญี่ปุ่นช้า
ฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงเวลาแห่งการชมซากุระในญี่ปุ่นซึ่งส่วนใหญ่มักจะบานเต็มที่ให้ได้ชมในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนแต่สำหรับใครที่ไปญี่ปุ่นช้าหรือวางแผนไปในช่วงกลางเดือนเมษายน-ต้นเดือนพฤษภาคมก็ยังมีจุดชมซากุระสายพันธุ์ที่บานช้าอีกหลายแห่งที่สามารถไปเที่ยวชมได้ อย่างเช่นที่นำข้อมูลมาฝากดังต่อไปนี้
※ หมายเหตุ บทความนี้ได้ทำการเรียบเรียงใหม่ (Re-write) ณ วันที่ 14 เมษายน 2023
1. ปราสาทฮิโรซากิ จังหวัดอาโอโมริ (Hirosaki Castle, Aomori)
ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle) ใน จังหวัดอาโอโมริ (Aomori) เป็นจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นมายาวนานโดยแต่ละปีจะมีผู้มาเที่ยวชมมากกว่าสองล้านคนในช่วงฤดูดอกซากุระบาน บริเวณปราสาทและสวนปราสาทมีต้นซากุระบานสะพรั่งประมาณ 2,600 ต้น ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์โยชิโนะ รวมถึงต้นซากุระพันธุ์ย้อยอีก 52 ชนิด
มีจุดชมวิวที่สวยงามหลายแห่งรวมถึงทิวทัศน์ที่สวยงามของกลีบดอกซากุระที่ร่วงโรยปกคลุมผิวน้ำ และทุกๆ ปีก็จะมีการจัดงานเทศกาลชมซากุระตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม ในงานมีแผงขายอาหารประมาณ 200 ร้านที่ขายอาหารท้องถิ่นแสนอร่อนรวมทั้งในตอนกลางคืนก็จะมีการประดับไฟชมซากุระยามค่ำคืนด้วย
ช่วงเวลาที่ซากุระบาน : ปลายเดือนเมษายน - ต้นเดือนพฤษภาคม
การเดินทาง : จากสถานีฮิโรซากิ (Hirosaki Station) ขึ้นรถบัส Dotemachi Loop Bus ไปลงที่ป้าย Shiyakusho-mae
เวลาเปิดปิด : 09.00 – 17.00 (ช่วงซากุระบานจะขยายเวลาไปจนถึงตอนค่ำ)
ค่าเข้าชม : 310 เยน
2. สวนฮานามิยามะ จังหวัดฟุกุชิม่า (Hanamiyama Park, Fukushima)
สวนฮานามิยามะมีจุดเด่นตรงที่เป็นสวนที่มีการปลูกดอกไม้มากกว่า 70 ชนิดเอาไว้บนภูมิประเทศแบบเนินเขา ทำให้เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิ นอกจากดอกซากุระที่บานสะพรั่งไปทั่วบริเวณแล้ว ยังมีดอกบ๊วย ดอกฟอร์ซีเธีย ดอกแมกโนเลีย และดอกนาโนะฮานะที่ผลิบานไปพร้อมกันจนเกิดเป็นภาพเนินเขาที่เต็มไปด้วยสีสันมากมายทั้งชมพู แดง ขาว เหลือง
ทั้งหมดนี้มีจุดเริ่มต้นจากเหล่าเกษตรกรในท้องถิ่นที่ร่วมปลูกดอกไม้เหล่านี้บนเนินเขาที่เป็นที่ดินของตนเองมาตั้งแต่ในปี 1959 จนในปัจจุบันเปิดเป็นพื้นที่สาธารณะและกลายเป็นหนึ่งในจุดชมดอกซากุระที่สวยที่สุดของ จังหวัดฟุกุชิม่า
ช่วงเวลาที่ซากุระบาน : กลางเดือนเมษายน - ปลายเดือนเมษายน
การเดินทาง : จากโตเกียว ขึ้นรถไฟชินคันเซนสายโทโฮคุมาลงที่สถานีฟุกุชิม่า (Fukushima Station) โดยในช่วงที่ซากุระบานจะมีรถ Shuttle bus ให้บริการรับส่งจากหน้าสถานีรถไฟ
เวลาเปิดปิด : ตลอด 24 ชั่วโมง
ค่าเข้าชม : ฟรี
3. สวนซากุระ โนะ ซาโตะ จังหวัดชิซุโอกะ (Sakura no Sato, Shizuoka)
สวนซากุระ โนะ ซาโตะ (Sakura no Sato) ในจังหวัดชิซุโอกะ มีทำเลอยู่ใกล้ภูเขาโอมุโระ (Mt.Omuro) ไม่ไกลจากย่านอิโตะ (Ito) ที่นี่มีการปลูกซากุระกว่า 1,500 ต้น จาก 40 สายพันธุ์ บนพื้นที่ขนาดใหญ่ สามารถชมซากุระหลากหลายสายพันธุ์ได้แบบยาวๆ โดยเฉพาะสายพันธุ์พิเศษที่บานให้ชมในเดือนกันยายน รวมทั้งอีกหลายสายพันธุ์ที่ผลัดเปลี่ยนกันผลิบานไปจนถึงเดือนพฤษภาคมด้วย
อีกทั้งบริเวณใกล้เคียงในช่วงกลางเดือนเมษายน-ต้นเดือนพฤษภาคมก็มีจุดชมซากุระที่น่าสนใจ เช่น อุโมงค์ต้นซากุระที่ราบสูงอิซุ (Izu Kogen) กับซากุระราว 600 ต้น ปลูกอยู่สองข้างทางริมถนนเป็นระยะทางยาวประมาณ 3 กิโลเมตร เหมาะกับการมาแวะเดินเล่นพร้อมทั้งถ่ายภาพสวยๆ ของวิวซากุระ
ช่วงเวลาที่ซากุระบาน : เดือนกันยายนและต้นเดือนพฤษภาคม
การเดินทาง : จากสถานีอาตามิ (Atami Station) บนสาย JR Ito line ขึ้นรถไฟไปลงที่สถานีอิซุ-โคเก็น (Izu-Kogen Station) ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
เวลาเปิดปิด : ตลอด 24 ชั่วโมง
ค่าเข้าชม : ฟรี
4. สวนมารุยามะและศาลเจ้าฮอกไกโด จังหวัดฮอกไกโด (Maruyama Park and Hokkaido Shrine, Hokkaido)
สวนมารุยามะ (Maruyama Park) เป็นจุดชมดอกซากุระที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในฮอกไกโด (Hokkaido) ภายในสวนเต็มไปด้วยซากุระสายพันธุ์โยชิโนะบานสะพรั่งเปลี่ยนสวนให้กลายเป็นพรมสีชมพูและถัดจากสวนสาธารณะไปก็คือ ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Shrine) ซึ่งถือเป็นจุดชมวิวซากุระที่สวยงามไม่น้อยไปกว่ากัน
บริเวณศาลเจ้ามีต้นซากุระประมาณ 1,400 ต้นบานสะพรั่งพร้อมกับต้นบ๊วยอีกราว 250 ต้น และในช่วงเวลานี้ก็จะมีการจัดงานเทศกาลชมซากุระ มีแผงขายอาหาร ขนม เครื่องดื่มจำนวนมากตั้งเรียงรายตามทางเดิน เช่น ขนมดังโงะ ขนมสายไหม ไก่ย่างเสียบไม้ เหมาะสำหรับการหาอะไรรับประทานในขณะที่เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ฤดูใบไม้ผลิ
ช่วงเวลาที่ซากุระบาน : ปลายเดือนเมษายน - ต้นเดือนพฤษภาคม
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟใต้ดินมารุยามะโคเอ็น (Maruyama-Koen Station) ออกทางออกหมายเลข 3 และเดินประมาณ 5 นาที
เวลาเปิดปิด : ตลอด 24 ชั่วโมง
ค่าเข้าชม : ฟรี
5. ฮิโตเมะ เซ็มบ้งซากุระ จังหวัดมิยางิ (Hitomesenbon Zakura, Miyagi)
ฮิโตเม เซ็มบ้งซากุระ (Hitomesenbon Zakura) แปลว่ามองทีเดียวเห็นซากุระพันต้น ที่นี่จะเป็นการชมซากุระท่ามกลางธรรมชาติแท้ๆ แบบ 100% โดยที่ฮิโตเมะเซ็มบ้งซากุระ ในจ.มิยางินั้นคือจุดชมซากุระที่ทอดยาวเป็นระยะทางกว่า 8 กิโลเมตรตลอดแม่น้ำชิโรอิชิ ซึ่งมีต้นซากุระประมาณ 1,200 ต้น
ในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำบางจุดยังมีดอกนาโนะฮานะสีเหลืองที่บานสะพรั่งตัดกับสีชมพูของดอกซากุระ แต่ความพิเศษที่สุดของที่นี่ก็คือภาพของเทือกเขาซาโอะที่มีหิมะปกคลุมเป็นฉากหลังอันตระการตาของการชมซากุระ และยังมีการจัดงานประดับไฟตั้งแต่เวลา 18.00 – 22.00 น. อีกด้วย
ช่วงเวลาที่ซากุระบาน : ต้นเดือน - กลางเดือนเมษายน
การเดินทาง : จากโตเกียว ขึ้นรถไฟชินคันเซนสายโทโฮคุไปลงที่สถานี Sendai และเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย JR Tohoku Main Line ไปลงที่สถานี Ogawara
เวลาเปิดปิด : ตลอด 24 ชั่วโมง
ค่าเข้าชม : ฟรี
6. ป้อมโกเรียวคาคุ เมืองฮาโกดาเตะ (Goryokaku, Hakodate)
ป้อมโกเรียวคาคุ (Goryokaku) เป็นสถานที่ยอดนิยมในภูมิภาคฮอกไกโดซึ่งมีความสวยงามในทุกฤดู ไม่ว่าจะเป็นในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่จะมองเห็นบริเวณป้อมดาวห้าแฉกกลายเป็นสีส้มแดงสดใส สีขาวบริสุทธิ์จากหิมะในฤดูหนาว สีเขียวขจีในฤดูร้อน
ส่วนในฤดูใบไม้ผลินั้นบรรดาดอกซากุระจำนวนมากกว่า 1,600 ต้นในบริเวณโดยรอบก็จะทำให้ป้อมดาวห้าแฉกกลายเป็นสีชมพูสวยงาม และเป็นภาพที่หาดูที่อื่นไม่ได้ ซึ่งนอกจากการเดินชมดอกซากุระในบริเวณโดยรอบ จุดที่เป็นไฮไลท์ก็คือการขึ้นมาชมวิวมุมสูงจากหอคอยโกเรียวคาคุเพื่อให้เห็นรูปทรงดาวห้าแฉกได้อย่างชัดเจน
ช่วงเวลาที่ซากุระบาน : ต้นเดือน - กลางเดือนพฤษภาคม
การเดินทาง : จากโตเกียว ขึ้นรถไฟชินคันเซนสาย Hokkaido มาลงที่สถานี Shin-Hakodate จากนั้นเปลี่ยนมาขึ้นรถไฟสาย JR Hakodate มาลงที่สถานี Hakodate และต่อรถรางจากหน้าสถานีมาลงที่ป้าย Goryokaku Koen-Mae
เวลาเปิดปิด : 09.00 – 18.00 น.
ค่าเข้าชม : บริเวณป้อมเข้าชมฟรี แต่หากขึ้นมาชมวิวจากบนหอคอยจะมีค่าเข้า 900 เยน
7. ย่านคาคุโนะดาเตะ จังหวัดอากิตะ (Kakunodate, Akita)
คาคุโนะดาเตะ (Kakunodate) นั้นเป็นเมืองที่เคยใช้เป็นที่ตั้งของปราสาทในช่วงปี 1620 ทำให้พื้นที่ภายในเมืองถูกพัฒนาขึ้นพร้อมๆ กับปราสาท ซึ่งแม้ว่าในปัจจุบันตัวปราสาทจะไม่หลงเหลืออยู่อีกต่อไปแล้ว แต่หมู่บ้านซามูไรที่เต็มไปด้วยบ้านเก่าแก่สไตล์ญี่ปุ่นจำนวนกว่า 80 หลังยังคงได้รับการอนุรักษ์เอาไว้อย่างดี ทำให้เสน่ห์ของการชมดอกซากุระที่คาคุโนะดาเตะนั้นคือการได้สัมผัสบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นโบราณไปพร้อมๆ กัน
นอกจากนี้ต้นซากุระส่วนใหญ่ในคาคุโนดาเตะยังเป็นสายพันธุ์ชิดาเระ ซึ่งจะมีลักษณะกิ่งและการบานแบบห้อยย้อยลงมา ยิ่งทำให้มีความสวยงามและแปลกตามากกว่าต้นซากุระสายพันธุ์ทั่วไปมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว
ช่วงเวลาที่ซากุระบาน : ปลายเดือนเมษายน - ต้นเดือนพฤษภาคม
การเดินทาง : จากโตเกียว ขึ้นรถไฟชินคันเซ็นสาย Akita มาลงที่สถานี Kakunodate จากนั้นขึ้นแท็กซี่หรือเดินต่อไปอีกประมาณ 20 นาที
เวลาเปิดปิด : ตลอด 24 ชั่วโมง
ค่าเข้าชม : ฟรี
8. ศาลเจ้าโอยามะ จังหวัดอิชิคาวะ (Oyama Shrine, Ishikawa)
ศาลเจ้าโอยามะ (Oyama Shrine) ในเมืองคานาซาวะ (Kanazawa) จังหวัดอิชิคาวะ (Ishikawa) มีความโดดเด่นเป็นที่รู้จักด้วยสถาปัตยกรรมการก่อสร้างประตูหลักซึ่งมีลักษณะผสมผสานอย่างลงตัวของความเป็นสถาปัตยกรรมพื้นเมืองของญี่ปุ่น จีน และยุโรป หายากตามศาลเจ้าทั่วไปประตูบานนี้จึงถูกยกให้เป็นสิ่งสำคัญที่แสดงถึงวัฒนธรรมของญี่ปุ่น
ที่ศาลเจ้าโอยามะมีซากุระสายพันธุ์คิคุ (Kikuzakura) อยู่สองต้น ซากุระสายพันธุ์นี้จะมีรูปลักษณ์คล้ายดอกคิคุหรือเบญจมาศ ตรงกลางดอกมีสีแดงเข้มส่วนด้านนอกมีสีชมพูอ่อนที่สำคัญคือก่อนที่คิคุซากุระจะร่วงหล่น ดอกไม้จะเปลี่ยนสีสามครั้งซึ่งเป็นเอกลักษณ์มาก เป็นสายพันธุ์ที่จะบานให้ชมในช่วงปลายเดือนเมษายน-ต้นเดือนพฤษภาคม
ช่วงเวลาที่ซากุระบาน : ปลายเดือนเมษายน - ต้นเดือนพฤษภาคม
การเดินทาง : จากสถานีคานาซาวะ (Kanazawa Station) ขึ้นรถบัสหมายเลข 7 ไปลงที่ป้าย Minamicho Bus Stop และเดินอีก 3 นาที
เวลาเปิดปิด : 09.00-17.00 น.
ค่าเข้าชม : ฟรี
ผู้เขียน: ชินพงศ์ มุ่งศิริ
เริ่มต้นทำงานเป็นช่างภาพอิสระหลังเรียนจบ เดินทางไปถ่ายภาพที่ประเทศญี่ปุ่นบ่อยครั้งจนครบทั้ง 4 ฤดูอันสวยงาม และเกือบครบทุกภูมิภาค มีผลงานภาพถ่ายตีพิมพ์ในไกด์บุ๊คระดับโลกอย่าง Lonely Planet ถึง 3 เล่ม คือ Discovery Japan, Japan และ Kyoto รวมถึงเว็บไซต์ท่องเที่ยวชั้นนำอย่าง National Geographic Traveler UK, BBC Travel, Travel+Leisure, TIME และอีกมาก
นอกจากการถ่ายทอดความสวยงามของประเทศญี่ปุ่นผ่านภาพถ่าย ปัจจุบันยังหันมาถ่ายทอดเรื่องราวผ่านทางตัวอักษรทั้งในฐานะนักเขียนและนักแปลควบคู่กันไปอีกด้วย
เรียบเรียงใหม่: หนึ่ง
นักอ่านและนักเขียนที่ชอบการเดินทางไปในที่ต่างๆ โดยเฉพาะญี่ปุ่น รักการดูอนิเมะญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจ :)