All About Japan

ออกเดทสไตล์ญี่ปุ่น

เรียนภาษาญี่ปุ่น ชีวิตในญี่ปุ่น
ออกเดทสไตล์ญี่ปุ่น

เวลาคนญี่ปุ่นออกเดทกันเขาทำอะไรบ้างนะ จะมุ้งมิ้งเหมือนในซีรี่ย์หรือการ์ตูนมั้ย วันนี้เราจะนำแพลนเดทของหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นมาให้อ่านกันค่ะว่าเขาไปเดทกันยังไง และคิดยังไงเกี่ยวกับการทำกิจกรรมเหล่านี้ด้วยกัน

พื้นฐานคนญี่ปุ่นแล้วจะเป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงออก ขี้อาย และไม่ค่อยโรแมนติก (อันนี้ก็แล้วแต่คนนะคะ คนที่หวานแหวว โรแมนติกยิ่งกว่าในการ์ตูนก็มีเน้อ) ดังนั้นการไปเดทของคนญี่ปุ่นจะเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยสิ่งที่ทำให้ใจเต้นตึกตักค่ะ ♥

เดทแบบเน้นกิน

เดทแบบเน้นกิน

เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นนั้นเต็มไปด้วยของน่าอร่อยนาๆชนิด แถมแต่ละฤดูเมนูอาหารก็แตกต่างออกไปอีก จึงทำให้หนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นนิยมไปเดทกันตามร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือร้านขนมต่างๆเพื่อทานอาหารอร่อยๆ และได้พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวของกันและกันค่ะ

บางร้านที่ตกแต่งสวยงาม ชิคๆเก๋ๆ มีวิวสวยๆ ก็มักจะเป็นที่นิยมในการออกเดทค่ะ ร้านที่คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไปเดทกันคือร้านอาหารอิตาเลียนค่ะ (คิดญี่ปุ่นคิดว่ามันดูเก๋โก้กว่าการไปทานร้านอาหารญี่ปุ่นอย่างราเมงหรือข้าวแกงกะหรี่ค่ะ เพราะอาหารอิตาเลียนในญี่ปุ่นถือว่าหาทานได้ทั่วไป บวกกับไม่อยากมาสูดเส้นดังฟึ้ดฟ้าดให้อีกฝ่ายเห็น แถมยังไม่เลอะเสื้อง่ายๆอีก)

แล้วก็พวกร้านกาแฟสวยๆ แต่ถ้าหากนัดกันตอนกลางคืน หนุ่มสาววัยทำงานก็อาจจะนัดเดทกันที่ร้านอาหารแล้วไปต่อกันรอบสองที่ร้านอิซากายะค่ะ (ร้านเหล้า) ร้านเหล้าแบบญี่ปุ่นนั้นไม่ใช่ร้านเหล้าแบบบ้านเราที่เปิดเพลงแล้วซัดโฮกให้เมานะคะ แต่เป็นร้านที่ทุกคนนั่งชิว ทานกับแกล้มและดื่มแองกอฮอลล์เพื่อสังสรรค์พูดคุยกันเฉยๆค่ะ (บางคนที่คออ่อนหรือไม่ดื่มก็สั่งเครื่องดื่มอื่นที่ไม่มีแองกอฮอลล์เอาค่ะ ไปเพื่อคุยและดื่มด่ำบรรยากาศเฉยๆ)

เดทแบบไปอีเว้นท์

เดทแบบไปอีเว้นท์

ข้อดีของการที่อยู่ในประเทศที่มี 4 ฤดูคือมีอีเว้นท์ให้ไปหลากหลาย ยกตัวอย่างเช่นฤดูร้อนก็จะมีงานดอกไม้ไฟ ซึ่งคนญี่ปุ่นจะไปเดทกันโดยใส่ชุดยูกาตะ (ไม่ต้องใส่ก็ได้ แต่ถ้าใส่ก็จะสร้างความประทับใจได้มากกว่าเน้อ) เดินหาของกินอร่อยๆ ในร้านค้าในงาน เช่นพวกทาโกะยากิ ปลาหมึกย่าง กล้วยชุบช็อกโกแล็ต แล้วก็จะมาจองที่ดูดอกไม้ไฟกัน และเนื่องจากงานนี้คนเยอะมากๆ เลยสามารถทำให้เกิดบรรยากาศ “จับมือกันไว้จะได้ไม่หลง” ด้วยล่ะค่ะ ♥ ตอนเงยหน้าดูดอกไม้ไฟก็เมื่อยคอ ก็แอบซบๆพิงๆกันบ้าง หวานแหววมากๆ

ตัวอย่างอีเว้นท์อื่นๆก็เช่น อีเว้นท์งานฮัลโลวีน (แต่งเป็นผีแล้วออกไปเดทกันในเมือง) ทำงานจิตอาสา (ได้ทำทั้งความดีแถมยังได้ใจฝ่ายตรงข้ามอีกด้วย)

เดทแบบไปสถานที่ท่องเที่ยว

เดทแบบไปสถานที่ท่องเที่ยว

ถ้าเป็นในช่วงอายุวัยรุ่นอยู่ก็มักจะนิยมไปที่สวนสนุกค่ะ ที่ญี่ปุ่นสวนสนุกเยอะมาก ทั้งดิสนี่ย์แลนด์เอย ดิสนี่ย์ซีเอย ไหนจะยูนิเวอแซลสตูดิโอเจแปน ที่มองไปทางไหนก็มีคู่รักเต็มไปหม๊ดดดดด เพราะนอกจากจะเป็นสถานที่ที่ไปกับครอบครัว ไปกับเพื่อน คนญี่ปุ่นก็นิยมไปกับแฟนด้วย แต่ว่าไปเที่ยวเล่นเฉยๆมันไม่มุ้งมิ้งพอ ก็เลยต้องแต่งตัวให้มีธีมคู่กัน ที่นิยมหลักๆเลยคือใส่ชุดนักเรียนม.ปลายพร้อมใส่ที่คาดผมตัวคาแรคเตอร์ต่างๆไปเดทกันที่ดิสนี่แลนด์ค่ะ

สำหรับคนที่ไม่ได้ชอบความเร้าใจและการต่อคิวนานๆ ก็อาจจะเลือกไปสถานที่เชิงประวัติศาสตร์ เช่น ปราสาทโอซาก้า ไปเดทแบบมีความรู้ (และมีเธอด้วย♥) หรือไปเดทที่สวนสัตว์ พิพิธภัณฑสัตว์น้ำ ดูโชว์ปลาโลมาน่ารักๆ แถมบรรยากาศยังโรแมนติกด้วย ความน่ารักของสาวญี่ปุ่นบางคนคือเวลาที่ไปเดทที่สถานที่ท่องเที่ยวแบบที่ต้องอยู่ในนั้นทั้งวัน สาวๆ (ที่ชอบทำอาหาร) จะทำข้าวกล่องน่ารักๆมาให้แฟนทานค่ะ เพราะในสถานที่ท่องเที่ยวของญี่ปุ่นนั้นมักจะมีพื้นที่ที่ไว้ให้ผู้คนได้นั่งพักผ่อน ปิกนิค และทานข้าวในทุกๆที่ค่ะ (ส่วนใหญ่พกเสื่อไป แต่บางที่ก็มีโต้ะให้เลยล่ะ)

เดทแบบไปช้อปปิ้ง

เดทแบบไปช้อปปิ้ง

หนุ่มๆบางคนอาจส่ายหัวเมื่อได้ยินคำว่าไปช้อปปิ้ง แต่อยากจะบอกว่าหนุ่มๆสาวๆญี่ปุ่นบางคนเขาก็ชอบไปเดทแบบช้อปปิ้งนะคะ!

ช้อปปิ้งที่ว่าอาจจะไม่ได้หมายความว่าทั้งวันต้องพาสาวๆไปเดินช้อปเสื้อผ้าทุกร้าน จะต้องจ่ายเงินซื้อ แต่หมายถึงการดูของต่างๆด้วยกัน โดยไม่ได้ดูแค่ของตัวเองอย่างเดียว ไม่ต้องซื้อก็ได้ แค่ไปดูด้วยกันเฉยๆค่ะ เพราะห้างร้านญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักขายสินค้าเสื้อผ้าต่างๆทั้งของเพศหญิงและเพศชาย ดังนั้นเวลาลองเสื้อผ้าก็สามารถสนุกในการเลือกไปพร้อมๆกันได้

หากได้ไปเข้าร้านที่มีของหลากหลายประเภทที่น่าสนใจ (เช่นร้าน loft ที่ขายตั้งแต่เครื่องใช้ในบ้าน จนถึงอุปกรณ์กีฬาเลยทีเดียว) ตอนที่เลือกซื้อก็สามารถหยิบยกสิ่งของเหล่านั้นมาเป็นหัวข้อการสนทนาในการคุยกับฝ่ายตรงข้ามได้ แถมยังสามารถรู้เซนส์และสไตล์ความชอบของอีกฝ่ายได้ด้วยค่ะ

เดทแบบตามงานอดิเรกและความสนใจ

งานอดิเรกส่วนใหญ่ที่คนญี่ปุ่นมีทั้งชายและหญิงได้แก่ ไปนั่งที่คาเฟ่ ดูหนัง ท่องเที่ยว เป็นต้น

ถ้าหากว่าทั้งสองคนมีงานอดิเรกที่เหมือนกัน ก็มักจะไปเดทในสถานที่ที่ตนสามารถทำงานอดิเรกด้วยกันได้ ยกตัวอย่างเช่นชอบร้องเพลง ก็ไปคาราโอเกะ ชอบวงดนตรีญี่ปุ่นก็ไปดูคอนเสิร์ตหรืองานเทศกาลเพลงด้วยกัน แต่ถ้าหากงานอดิเรกไม่ตรงกัน คนญี่ปุ่นก็อาจจะเลือกไปสถานที่ๆเป็นกลาง เช่น โรงหนัง ร้านอาหารและร้านขนมต่างๆค่ะ

สไตล์การเดทนั้นก็แล้วแต่ส่วนบุคคลและนิสัยของแต่ละคนค่ะ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ได้เดทแบบหวือหวา ไม่ได้มีการหอมแก้มในที่สาธารณะหรือแสดงความรักเท่ากับประเทศอื่นๆ (แต่อยู่ด้วยกันสองคนก็อีกเรื่องนึงนะแกรรรร) แต่การไปเดทแต่ละครั้งของคนญี่ปุ่นก็มีความมุ้งมิ้งที่ทำให้ใจเต้นอยู่ในตัวดั่งเฉกเช่นในการ์ตูนตาหวานเลยล่ะค่ะ ยกตัวอย่างเช่น อีกฝ่ายมารอล่วงหน้าที่สถานีรถไฟตั้ง 20 นาที แต่พอเรามาถึง เราก็ขอโทษที่มาสาย แต่อีกฝ่ายดันบอกว่าไม่เป็นไรเขาก็พึ่งมาเหมือนกัน หรือตอนจะหยิบตะเกียบ มือดันโดนกันแล้วอีกฝ่ายเขินจนหน้าแดง อะไรบั่บเน้ -..- (ขอเน้นอีกรอบว่า จะได้เจอเหตุการณ์แบบนี้หรือไม่นั้นแล้วแต่คนนะคะ คนญี่ปุ่นไม่ได้เป็นแบบนี้ทั้งหมด55555)

ส่วนด้านการออกค่าใช้จ่ายนั้นก็แล้วแต่คนเช่นกันค่ะ หากเป็นนักเรียนนักศึกษาก็อาจจะหารครึ่งกัน แต่ถ้าเป็นวัยทำงานแล้วไม่ฝ่ายชายจ่ายให้ทั้งหมด ก็หารครึ่งกันแต่ฝ่ายชายออกมากกว่าเป็นต้นค่ะ (แล้วแต่คนอีกนะคะ)
ใครที่อยากออกเดทแต่ไม่มีไอเดีย ก็ลองเอาวิธีการเดทสไตล์ญี่ปุ่นไปลองปรับใช้ดูได้นะคะ

know-before-you-go