10 ย่านกินดื่มยามค่ำคืนในโตเกียว
hikawasa
ของอร่อย 10 ย่านในโตเกียวยามค่ำคืน
ในโตเกียวมีย่านของกินอยู่หลายย่าน รอบนี้ขอเลือกมา 10 ย่านของกินที่เปิดช่วงเย็นไปถึงดึก ของกินอร่อย ราคาถูก และบางย่านก็รู้จักกันเฉพาะคนในท้องถิ่นเสียด้วยนะ
1 Ameyoko
https://www.flickr.com/photos/keroyama/14846892233/
Ameyoko ย่อมาจาก Ameya Yokocho เป็นย่านช้อปปิ้งสำคัญแห่งหนึ่งของโตเกียวที่เป็นตรอกทางเดินยาวราวๆ 500 เมตร มีสารพัดสารพันของกินของใช้ ตั้งแต่อาหารสด อาหารแห้ง ขนม เครื่องดื่ม เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า น้ำหอม ไปจนถึงร้านของเล่นและเกม และอีกมากมายที่เป็นสินค้าราคาถูก โซนตลาดของอาเมโยโกที่นำเสนอของซื้อของฝากมากมายจะมีร้านแนวๆ สตรีทฟู้ดอยู่สองฝั่งทางราวๆ 100 เมตรได้
https://twitter.com/ameyokoyatai
โซนตรงนี้เรียกกันว่า Ameyoko Yatai เป็นร้านที่สามารถนั่งรับประทานได้แต่ที่นั่งมักเต็มเสมอคนส่วนใหญ่จึงซื้อใส่ห่อ (แต่ก็ต้องต่อคิวยาวอยู่ดี) ร้านทาโกะยากินี่ยาวเป็นพิเศษ ร้านอาหารเหล่านี้น่าสนใจทีเดียวเพราะเป็นอาหารของหลายเชื้อชาติ เช่น ไทย จีน อินเดีย เกาหลี เป็นต้น แถมสนนราคาหลัก 100 เยนเท่านั้นเอง อย่างข้าวหน้าปลาแซลมอนที่เป็นเมนูยอดฮิตก็แค่ 500 เยนแต่เครื่องเยอะเชียว ถ้าใครมาเดินช้อปปิ้งที่ Ameyoko ช่วงกลางวันอยู่แล้ว ตกเย็นถึงมืดก็ถือโอกาสหาของอร่อยๆ ชิมเลยเถอะ ส่วนใครมาช่วงเย็นก็อร่อยได้เพราะที่นี่เปิดกันจนถึงดึกโน่นเลย
เวลาทำการ
10.00 - 24.00 น. (ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน)
การเดินทาง
-ขึ้นรถไฟสาย JR Yamanote หรือ JR Keihin-Tohoku ลงสถานี Ueno แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 5 นาที
-ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Tokyo Metro Ginza ลงสถานี Ueno แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 5 นาที
2 Omoide Yokocho
https://www.flickr.com/photos/eerkmans/19696069953
Omoide Yokocho เป็นย่านกินดื่มยอดฮิตอีกแห่งไม่แพ้ Kabukijo และ Shinjuku Goldengai ที่โด่งดัง ที่ตั้งอยู่ข้าง Shinjuku Ogado ซึ่งเป็นสะพานรถไฟที่ตัดข้ามถนนแบ่งชินจูกุตะวันออกกับตะวันตก
ย่าน Omoide Yokocho อยู่ฝั่ง Shinjuku-Nishiguchi เมื่อเทียบกับอีก 2 ย่านข้างต้น Omoide Yokocho เป็นย่านของกินที่ราคาย่อมเยากว่า ส่วนเรื่องรสชาติไม่ต้องพูดเยอะ เพราะอร่อยอยู่แล้ว แต่ละร้านน่าเข้าไปนั่งทั้งนั้นแต่กลัวท้องจะใส่ไม่หมด เลยขอแนะนำร้าน Ghifuya
ร้าน Ghifuya นี้เป็นอาหารจีน เมนูแนะนำคือพวกราเม็งชนิดต่างๆ ที่มีชื่อเรียงเป็นลิสต์อยู่บนผนังกำแพงในร้าน ราคาก็ใกล้เคียงกันที่ประมาณ 420 เยน อีกจานเด็ดคือ Mushidori เป็นเนื้อไก่หั่นแบบพอดีคำคลุกเคล้ากับต้นหอม เนื้อไก่ฉ่ำนุ่มมาก ต้องลองชิมกันดู
เวลาทำการ
ประมาณ 09.00 - 02.00 น. (ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน)
การเดินทาง
จากสถานี Shinjuku ออกประตูตะวันตกแล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 2 นาที
3 Oimachi (Higashikomichi/Heiwakomichi/Suzurandori)
ย่าน Oimachi กว้างมากและดูทันสมัยทีเดียว มีพวกศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้ากระจายอยู่เป็นจุดๆ แต่ก็ยังมีย่านที่เป็นซอยเล็กๆ ซึ่งเป็นที่กินดื่มอยู่ด้วยกัน 3 ย่าน ได้แก่ Higashikomichi, Heiwakomichi และ Suzurandori บรรยากาศเรโทรเก่าๆคล้ายสมัยโชวะ อาหารก็อร่อย ร้านมีหลากสไตล์แล้วแต่รสนิยมคนชอบ ผับแจ๊สที่บรรเลงเพลงแจ๊สดังออกมาช่วยเพิ่มสีสันไม่น้อย และย่านนี้ยังมีลูกค้าผู้หญิงเยอะด้วย ร้านน่าสนใจที่จะแนะนำคือร้าน Bulldog
ร้าน Bulldog เป็นร้านอาหารฝรั่งเก่าแก่ ขึ้นชื่อเรื่องเมนูไซส์ยักษ์พิเศษและราคาถูก เมนูเนื้อบดชุดเกล็ดขนมปังทอดให้ชิ้นใหญ่และหนามาก สั่งชุดนี้ก็จ่ายแค่ 1090 เยนเอง ข้าวไข่เจียวก็เขียนโปะหน้าคำว่า Big ด้วยซอสมะเขือเทศดูแปลกดี ก็อยากให้มาลองอาหารอิ่มอร่อยไซส์ยักษ์แบบนี้ดู
เวลาทำการ
ประมาณ 15.00 - 24.00 น. (ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน)
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟสาย Keihintohoku หรือสาย Tokyu Oimachi หรือ Rinkai มาลงสถานี Oimachi ประตูทิศตะวันออก แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 2 นาที
4 Koenji
Koenji เป็นย่านที่ประกอบไปด้วยย่านช้อปปิ้งถึง 3 ย่านด้วยกัน ได้แก่ Junjoshotengai, Koushindorishotengai, และ Nakadorishotengai แต่ที่จะพาไปแนะนำเป็นย่านใต้สะพานรถไฟ Koenji ย่านนี้มีร้านอาหารราคาสบายๆ มาเปิดเพิ่มขึ้น ชอบร้านไหนก็เลือกได้ตามสะดวก แต่ก็มีร้านที่น่าสนใจอยากนำเสนอคือร้าน Maguronchi
ร้าน Maguronchi หรือชื่อเต็มยศว่า Nakaochihyakuen-no-izakaya Maguronchi (ร้านเหล้าร้อยเยนนากะโอจิ) มีเมนูราคาถูกจนน่าตะลึงนั่นคือ เนื้อปลาทูน่าสไลซ์เป็นแผ่นๆ วางซ้อนกันเป็นกองพูนเหมือนภูเขาลูกย่อมๆ จัดใส่จานขนาดกำลังดีพร้อมเครื่องเคียง ราคาแค่ 100 เยนเท่านั้น! อเมซิ่งมาก แต่ก็จำกัดให้แค่โต๊ะละ 1 จานเท่านั้น มาเป็นกลุ่มหลายคนก็ต้องแบ่งๆ กันรับประทาน
เวลาทำการ
ประมาณ 17.00 - 04.00 น. (ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน)
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟสาย JR Chuo ลงสถานี Koenji ออกทางประตูฝั่งเหนือแล้วเดินต่อไปประมาณ 5 นาที
5 Shinbashi - Yurakucho
Shinbashi - Yurakucho นี้เป็นย่านกินดื่มที่ร้านตั้งอยู่เรียงรายใต้คานเหล็กที่เป็นโครงสร้างของทางรถไฟสาย Yamanote และ Keihintohoku พวกพนักงานบริษัทนิยมมาสังสรรค์กันหลังเลิกงาน ร้านอาหารส่วนใหญ่เป็นแนวอิซากายะทั้งแบบยืนกิน แบบนั่งกิน รวมถึงร้านอาหารของชาติอื่นเช่น อาหารเยอรมัน อาหารเกาหลี อาหารอิตาเลี่ยน เป็นต้น นอกจากนี้มีอยู่ด้านหนึ่งถูกเรียกว่า ยากิโทริสตรีท เป็นโซนของร้านยากิโทริ ซึ่งมีอยู่ร้านหนึ่งที่น่าสนใจ นั่นคือร้าน Kinryohonten
ร้าน Kinryohonten เป็นร้านอิซากายะเก่าแก่ที่เปิดให้บริการมากว่า 30 ปีแล้ว เปิดทำการตั้งแต่ประมาณ 17.00 - 23.30 น. ของทุกวัน อาหารหลักๆ ก็จะเป็นยากิโทริ พวกของปิ้งย่างต่างๆ หมูปิ้ง เห็ดชีตาเกะย่าง เมนูเด็ดของที่นี่คือ Oyaji no Genkotsu (ข้อไก่ย่างสไตล์ตาลุง) เป็นข้อไก่สไปซี่ ไก่ย่างกำลังพอเหมาะ รสชาติเผ็ดหน่อย หน้าตาก็คล้ายๆ ไก่ย่างบ้านเราเหมือนกัน กินแกล้มกับเบียร์สด รสชาติถูกปากถูกใจลูกค้ามาก
เวลาทำการ
ประมาณ 17.00 - 24.00 น. (ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน)
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟสาย JR Yamanote ลงสถานี Yurakucho แล้วเดินไปทาง Shinbashi ประมาณ 5 นาที หรือลงสถานี Ginza ออกทางประตู C1 แล้วเดินต่อมาอีกประมาณ 1 นาที (เพราะอยู่ใกล้ทั้ง Shinbashi และ Ginza)
6 Nishiogikubo
จากประตูทางฝั่ง South Exit ของสถานี Nishiogikubo ไปทางถนน Sakae-dori เดินผ่านไปตามทางเดินไม่กว้างมากที่ตลอดสองฟากฝั่งของถนนเรียงรายด้วยร้านกินดื่มทั้งร้านนั่งดื่มทั่วไป คาเฟ่ และร้านอาหารหลายเชื้อชาติ นี่คือย่าน Nishiogikubo แล้วจะเห็นเก้าอี้ตั้งอยู่สองข้างถนนและมักมีลูกค้าจับจองตลอดของร้าน Ebisu ที่ขอแนะนำให้ลอง
Ebisu เป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดทำการมากว่า 40 ปีแล้ว บริเวณของร้านเรียกได้ว่าค่อนข้างยาวเพราะมีโต๊ะนั่งถึงสองฝั่ง เมนูสุดอร่อยของร้านนี้ก็คือโทริยากิหรือไก่ย่าง และพวกคุชิยากิหรืออาหารเสียบไม้ย่างทั้งหลายซึ่งปิ้งย่างกันหน้าร้านนั่นแหละ ราคาแค่ไม้ละหลัก 10 ถึงหลัก 100 เยนเท่านั้น ส่วนเครื่องดื่มก็มีทั้งเบียร์สด เหล้าสาเกญี่ปุ่น วิสกี้ High Ball ที่เป็นวิสกี้ยอดนิยมของญี่ปุ่นก็มี เหยือกละ 200 เยน
และถ้าเดินถัดจาก Ebisu ลึกเข้าไปท้ายๆ ตรอกก็จะมีร้านอาหารหลากเชื้อชาติ เช่น อาหารไทย ไต้หวัน โมร็อคโค โอกินาว่า เป็นต้น
เวลาทำการ
ประมาณ 17.00 - 24.00 (ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน)
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟสาย JR Chuo ลงสถานี Nishiogikubo แล้วเดินต่อไปประมาณ 1 นาที
7 Harmonica Yokocho
จากสถานี Kichijoji ทางออกทิศเหนือก็จะเจอย่าน Harmonica Yokocho ย่านนี้บรรยากาศมีความโมเดิร์นกว่าย่านกินดื่มอื่นพอสมควร ร้านอาหารก็มีให้เลือกเยอะไม่ค่อยซ้ำกัน มีทั้งร้านซูชิ ร้านเกี๊ยวซ่าโดยเฉพาะ (Minmin) ร้านเบียร์โดยเฉพาะ (Ahiru Beerhall) ร้านแบบเคาน์เตอร์มีผ้าโนเร็นปิดและแบบยะไตที่มีเอกลักษณ์ด้วยการตั้งรูปปั้นเล็กๆ ตามชื่อร้าน อย่างเช่น Niwatori ก็เอารูปปั้นไก่มาตั้ง หรือร้าน Kopanda ก็มีรูปแพนด้าบนภาชนะใส่อาหารและเครื่องดื่มเป็นต้น เลือกไม่ถูกจริงๆ เลยขอเสนอร้าน Kopanda
ร้าน Kopanda มีเมนูแนวๆ ที่เป็นเอกลักษณ์หลายอย่าง เมนูยอดฮิตของที่นี่คือ Kunseitamagopotesala หรือสลัดมันฝรั่งที่ใช้ไข่รมควันปรุงรสมาผสมกับเนื้อแช่เกลือและหัวหอม ได้กลิ่นรมควันหอมกรุ่น ราคา 300 เยน ก็จัดว่าไม่แพงนักที่จะลองสั่งมาชิมเพราะแปลกใหม่ไม่เหมือนของที่ไหน ส่วนเครื่องดื่มแนะนำ Panda Beer เบียร์ในแก้วลายแพนด้าตามคอนเซ็ปต์ชื่อร้าน
เวลาทำการ
ประมาณ 15.00 - 02.00 น. (ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน)
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟสาย Chuo ลงสถานี Kichijoji ทางออกทิศเหนือ แล้วเดินต่อไปประมาณ 1 นาที
8 OK Yokocho
OK Yokocho เป็นย่านกินดื่มย่านหนึ่งของ Kita-Akabane ซึ่งเป็นย่านที่ผสมผสานกันระหว่างบรรยากาศเก่าๆแบบยุคโชวะกับช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ทันสมัย OK Yokocho มีความยาวประมาณ 100 เมตร ร้านกินดื่มเรียงรายสองฝั่งฟาก ย่านนี้เป็นที่นิยมของเด็กวัยรุ่นมาก
ร้าน Torobako เป็นอิซากายะที่จะได้ชิมปลาหลายชนิด โดยเราสามารถย่างปลาบนเตาถ่านที่ทางร้านเตรียมไว้ให้แล้วลิ้มรสปลาที่ตัวเองย่างได้เลย นอกจากย่างปลาก็มีอย่างอื่นด้วย เช่น ไข่ปลาแซลมอน หอยเม่น เป็นต้น
เวลาทำการ
17.00 - 02.00 น. (ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน)
การเดินทาง
ขึ้น JR East ลงสถานี Akabane แล้วเดินต่อไปประมาณ 2 นาที
9 Sankakuchitai
จากสถานี Sangenjaya เดินลงบนถนน Setagaya แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 246 ก็จะเป็นย่าน Sankakuchitai เป็นอีกย่านที่มีชาวต่างชาติมาเที่ยวหาอะไรกินยามกลางคืนมากขึ้น ร้านกินดื่มก็มีอยู่หลายประเภท เช่น ร้านที่เน้นสาเกญี่ปุ่น ร้านยากิโทริ ร้านอาหารเอเชียนหลากหลาย เป็นต้น ถ้ายังไม่เบื่อยากิโทริก็ลองไปชิมที่ร้าน Tokoshima กัน
ร้าน Tokoshima เป็นร้านยากิโทริที่มีให้รับประทานกว่า 20 เมนู ไม่ว่าจะเป็นอกไก่ย่าง ปีกไก่ย่าง เครื่องในย่าง พอนั่งที่เคาน์เตอร์ก็จะได้เห็นเชฟปิ้งไก่ทีละไม้ๆ เสร็จก็เสิร์ฟให้ร้อนๆ ตรงนั้น ส่วนเครื่องดื่มก็มีให้บริการกว่า 40 ชนิดเลยด้วย
เวลาทำการ
ประมาณ 17.00 - 05.00 น. (ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน)
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟสาย Denentoshi ลงสถานี Sangen-Jaya แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 2 นาที
10 Ebisu Yokocho
ย่าน Ebisu Yokocho เป็นอีกหนึ่งย่านกินดื่มที่คนนิยมนัดพบปะสังสรรค์กัน ตั้งอยู่บนพื้นที่ซึ่งเคยเป็นศูนย์การค้า Yamashita ที่รุ่งเรืองในอดีต จากสถานี Ebisu เดินมาถึงถนน Komazawadori ก็จะเห็นป้ายไฟส่องแสงหลายสีสันดี พอเข้ามาเดินในย่านก็เจอร้านเยอะไปหมด ร้านอาหารทะเล อาหารจีน ร้านเหล้า บาร์ เป็นต้น หลายๆ ย่านที่พาไปแนะนำก็มักมีโทริยากิและอาหารปิ้งย่างต่างๆ สำหรับย่าน Ebisu Yokocho ก็เลยจะแนะนำเป็นอาหารทะเลสดดีกว่า ลองแวะไปร้าน Uomaru กัน
ร้าน Hamayakisakaba Uomaru เป็นร้านอาหารทะเลสดสำหรับคนชอบกินปลา เมนูปลาหลากหลาย สั่งซาชิมิก็ได้หรือจะเป็นปลาย่างก็ดี นอกจากปลาก็มีอาหารทะเลอื่นๆ ด้วย ประเภทหอย ปลาหมึก และอีกเยอะ ตรงที่นั่งเคาน์เตอร์มีแท็งค์ตู้ปลา นั่งรับประทานไปมองดูปลาไปด้วยก็เพลินดี สามารถมานั่งได้ตั้งแต่ช่วงกลางวัน เพราะร้านมีบริการอาหารกลางวันด้วย
เวลาทำการ
11.00 - 05.00 น. (ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน)
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟ JR East มาลงสถานี Ebisu ออกทางประตูตะวันตก แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 5 นาที
