ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกไม้ต่างๆ รวมถึงซากุระผลิบาน คนส่วนใหญ่อาจจะชื่นชมความงามของดอกซากุระเเละดอกไม้ต่างๆ เเต่สำหรับคนหลายๆคนที่เเพ้เกสรดอกไม้เเล้วฤดูนี้เป็นฤดูที่ทรมานเป็นอย่างยิ่งค่ะ! ดังนั้นในช่วงเดือนมีนา-พฤษภาคมเราอาจจะเห็นคนญี่ปุ่นใส่หน้ากากอนามัยเยอะเเยะเต็มถนนเลย

และเนื่องจากการแพ้เกสรดอกไม้เป็นโรคที่มีคนญี่ปุ่นเป็นกันมากมาย หน้ากากจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก ก็เลยมีหน้ากากอนามัยแบบต่างๆออกมามากมายเพื่อรองรับความต้องการต่างๆค่ะ เช่นหน้ากากที่รูปร่างเหมาะกับใบหน้าของผู้ใช้ หน้ากากน่ารักสีต่างๆ กลิ่นต่างๆ มีมาให้เลือกซื้อกันอย่างหลากหลายค่ะ

สำหรับสาวๆบางคนที่ขี้เกียจเเต่งหน้าเเต่ต้องออกจากบ้าน บางทีก็จะเลือกหยิบหน้ากากอนามัยมาใส่ค่ะ! บางคนก็ไม่อยากให้ใครเห็นหน้าสดของตัวเอง บางคนก็ใส่เพื่อปิดรอยสิว หรือบางคนไม่มีเวลาเเต่งหน้า ตื่นสาย เลยกะเเค่เขียนคิ้วก็ออกจากบ้านได้เเบบสบายใจเป็นต้นค่ะ

นอกจากนั้นศิลปิน ดารา นักร้อง นักแสดง ก็ใส่หน้ากากอนามัยเพื่อกันเเฟนคลับเเละปาปารัซซี่จำได้ คนธรรมดาทั่วไปก็ใส่กันเพื่อกันคนรู้จักค่ะ เพราะคนญี่ปุ่นเป็นคนที่รักษาความเป็นส่วนตัวสูง ในเวลาส่วนตัวไม่ว่าตนเองจะไปที่ไหนหรือทำอะไร บางทีก็ไม่อยากให้คนที่รู้จัก คนที่ทำงานมาเห็นเข้า จึงเลือกที่จะใส่หน้ากากอนามัยกันเอาไว้ก่อนค่ะ

ยกตัวอย่างเช่นตอนไปดูคอนเสิร์ตของไอดอล ตอนไปงานจับมือนักพากย์การ์ตูน ตอนไปต่อเเถวซื้อกันพลา ตอนเข้าร้านปาจิงโกะ ถึงเเม้สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นจะไม่ได้ผิดกฏหมายอะไร เเต่คนญี่ปุ่นที่ยอมรับงานอดิเรกของผู้อื่นไม่ได้ก็มีค่ะ โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบอะไรมากๆจะถูกมองว่าเป็น "โอตะคุ" ซึ่งการเป็นโอตะคุในปัจจุบันก็ยังคงโดนมองในเเง่ลบอยู่ หากคนรู้จักหรือคนที่ทำงานทราบเข้าก็อาจจะกระทบกับงานเเละเรื่องอื่นๆได้ คนญี่ปุ่นหลายคนจึงเลือกที่จะปิดเรื่องส่วนตัวเป็นความลับ การใส่หน้ากากอนามัยก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ช่วยได้ค่ะ

สำหรับคนที่อยู่ในตัวเมืองที่ต้องโดยสารรถหรือรถไฟสาธารณะนั้น หน้ากากอนามัยอาจจะเป็นหนึ่งในไอเทมที่ขาดไม่ได้ค่ะ เพราะยิ่งเบียดกันก็จะได้กลิ่นต่างๆจากคนมากมายในขบวนรถโดยสาร เช่นกลิ่นตัว กลิ่นน้ำหอม กลิ่นเหงื่อ กลิ่นเนื้อย่าง กลิ่นบุหรี่ ซึ่งตลบอบอวล ตีกันทำให้มึนหัวได้ คนญี่ปุ่นบางคนจึงเลือกที่จะใส่หน้ากากเพื่อป้องกันกลิ่นเหล่านั้นค่ะ

โดยเฉพาะฤดูหนาว ที่คนญี่ปุ่นบางคนจะลดจำนวนการอาบน้ำลง...(เพราะว่ามันหนาว เลยอาบวันละรอบก็พอ) การฉีดน้ำหอมจึงเพิ่มขึ้น เเละทำให้กลิ่นยิ่งคลุ้งหนักกว่าเดิมค่ะ (ร้อยคนร้อยกลิ่นนะคะ ฮือ)

เนื่องจากคนญี่ปุ่นนั้นใส่ใจกับความคิดเเละคำพูดของคนรอบข้าง บางคนก็ขาดความมั่นใจในหน้าตาเเละรูปลักษณ์ของตนเองค่ะ (ยกตัวอย่างเช่น ถ้าไม่เเต่งหน้าก็จะไม่ออกจากบ้าน ถ้าจะออกต้องใส่หน้ากากอนามัย) หลายคนเลือกที่จะใส่หน้ากากอนามัยเพื่อไม่ให้เป็นเป้าสายตาเเละหลีกเลี่ยงการโดนวิจารณ์ค่ะ

หรือบางคนที่ชอบการเเต่งตัว เเต่รู้สึกว่าหน้าของตนเองนั้นไม่เข้ากับสไตล์ของชุดที่เเต่ง เลยใส่หน้ากากอนามัยเเบบเเฟชั่นเพื่อให้เข้ากันกับชุดที่ใส่ก็มีค่ะ

นอกจากนี้ หน้ากากอนามัยยังสามารถใช้ใส่เพื่อกันหนาว กันฝุ่น กันคนเห็นสีหน้าที่เหนื่อยล้า (ขี้เกียจยิ้มให้คนที่ทำงาน เหนื่อยเเต่กลัวคนเข้าใจผิดว่าทำหน้าเหวี่ยงใส่ เลยใส่หน้ากากเอาซะเลย) ดังนั้นจึงสามารถพูดได้ว่าหน้ากากอนามัยนั้นเป็นไอเทมสารพัดประโยชน์ที่สามารถใช้ได้ในหลายๆโอกาสจริงๆค่ะ!

ด้วยเหตุผลดังกล่าวที่ได้พูดถึงไป ทำให้ที่ญี่ปุ่นมีหน้ากากอนามัยเเบบต่างๆให้เลือกซื้อมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากที่เหมาะกับคนรูปหน้าทรงกลม หน้ากากที่ทำให้ไม่เกิดฝ้าที่เเว่นตา หน้ากากสีชมพูฟรุ้งฟริ้ง หน้ากากกลิ่นอโรม่า เป็นต้นค่ะ

ใครที่สนใจจะลองใช้ หรือปกติใช้หน้ากากอนามัยอยู่เเล้ว ลองแวะมาหาซื้อหน้ากากเเบบแปลกๆที่มีลูกเล่นเเละออปชั่นเสริมได้ที่ญี่ปุ่น ตามร้านขายยา ร้านเครื่องสำอาง เเละซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไปนะคะ