เที่ยว10ที่ใกล้โตเกียวแบบไม่เสียค่าเข้า
6.เที่ยวพิพิธภัณฑ์ Toshiba Science Museum เมืองKawasaki จังหวัดKanagawa
ที่นี่มีชื่อเรียกเท่ๆอีกอย่างหนึ่งว่า พิพิธภัณฑ์แห่งอนาคต ที่น่าสนใจและได้ความรู้มากๆ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่สามารถสนุกได้โดยไม่เบื่อ ซึ่งภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะแยกออกเป็นโซนมีทั้ง Welcome Zone ที่จะปูพื้นความรู้เชิงวิทยาศาสตร์ให้เราก่อน History Zone เป็นโซนที่รวบรวมสินค้าและเครื่องใช้ไฟฟ้าตามบ้านนานาชนิดที่ถูกคิดค้นโดยโตชิบาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน Future Zone จะเป็นโซนที่เราสามารถทดลอง เล่น, หยิบ, จับ, สัมผัสพลังงาน, โครงสร้างอาคาร, บ้าน, สัญญาณการสื่อสาร และวงจรต่างๆในรูปแบบนิรรศการ และ Science zone ซึ่งเป็นจุดเรียนรู้, ค้นหาความจริงต่างๆในทางวิทยาศาสตร์ แถมยังมีโชว์เด็ดๆ โดยใช้ของใกล้ๆตัวมาเล่นสนุกเชิงวิทยาศาตร์กันได้ เรียกว่าสนุกได้ทั้งครอบครัวแบบฟรีๆโดยไม่ต้องจองล่วงหน้าด้วย ถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์เข้าฟรีที่ครบเครื่องที่นึง
ค่าเข้าชม: ฟรี
เวลาทำการ: 10:00-17:30 น.
วันปิดทำการ: ทุกวันจันทร์
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟ JR สาย Yokohama ลงที่สถานี Kawasaki ทางออกฝั่งตะวันตก เดิน 1 นาที
7.ชมและชิมฟรีที่โรงงานเบียร์ Asahi ที่เมืองMoriya จังหวัดIbaraki
ที่โรงงานเบียร์แห่งนี้ เราสามารถชมฟรี ดื่มฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งใครอยากจะไปจะต้องทำการโทรจองหรือจองทางเว็บไซต์ก่อน จากนั้นก็สามารถเข้าเยี่ยมชมโรงงานได้ ซึ่งเราจะได้เห็นถึงกระบวนการผลิต,วัตถุดิบที่ใช้ผลิตเบียร์ในแบบต่างๆ และหลังจากทัวร์โรงงานเสร็จเค้าก็ยังมีเบียร์ให้เราได้เลือกลองชิมได้ตามใจภายใต้ข้อจำกัดคนละไม่เกิน 3 แก้วในระยะเวลา 20 นาที แถมมีเจ้าหน้าที่มาสอนวิธีรินเบียร์ที่ถูกต้องด้วย เราสามารถนั่งริมหน้าต่าง กวาดสายตาดูวิวสวนสวยๆของโรงงานพร้อมจิบเบียร์ได้ยังกับนั่งอยู่ในร้านหรูๆ โดยไม่เสียตังค์สักบาท
ค่าเข้าชม: ฟรี
เวลาทำการ: 9:30-15:00 น.
วันปิดทำการ: ตามปฏิทินของโรงงาน
วิธีการเดินทาง: จากสถานี Akihabara นั่งรถไฟ Tsukuba Express ไปลงที่สถานี Moriya และไปรอรถ shuttle bus ฟรีที่จุดขึ้นรถบัสหมายเลข 2 เพื่อไปที่โรงงานเบียร์ต่อไป
8.วัด Naritasan Shinshoji เมืองNarita จังหวัดChiba
อีกหนึ่งวัดดังในหมู่นักท่องเที่ยวทุกชนชาติ เพราะความดีงามอย่างแรกคือตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินนานาชาตินาริตะ จะแวะหลังลงเครื่องก่อนเริ่มเที่ยว หรือจะแวะหลังเที่ยวเสร็จก่อนกลับก็ทำได้ง่ายๆ
วัดแห่งนี้เป็นวัดพุทธขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ.940 บริเวณโดยรอบมีทั้งสถาปัตยกรรมและเจดีย์ 3 ชั้น รวมทั้งสวนขนาดใหญ่ที่ในช่วงดอกซากุระและดอกบ๊วยบานในฤดูใบไม้ผลินั้นที่นี่ก็จะมีสีสันจากดอกไม้ที่บานสะพรั่ง จนกลายเป็นที่ชมดอกไม้ชื่อดังอีกแห่งหนึ่งนั่นเอง ถือว่าได้มาเที่ยวชมความงามแบบญี่ปุ่นฟรีๆโดยที่สามารถโยนกระเป๋าตังค์ทิ้งได้เลย แต่นักท่องเที่ยวสายช้อปก็ยังสามารถเดินละลายทรัพย์จับจ่ายงานฝีมือของคนท้องถิ่นที่ถนน Omotesando Street หน้าวัดได้
ค่าเข้าชม: ฟรี
เวลาทำการ: เปิด 24 ชั่วโมง
วันปิดทำการ: ไม่มี
การเดินทาง: นั่งรถไฟไป JR หรือ Keisei ไปลงที่สถานี Narita หรือสถานี Keisei Narita เดินไปประมาณ 15-20 นาที
9.เที่ยวถนนสมัยเอโดะ Kurazukuri เมืองKawagoe จังหวัดSaitama
ที่นี่เราสามารถสัมผัสบรรยากาศย้อนยุคแบบสมัยเอโดะ (ช่วงค.ศ. 1603-1867) ได้อย่างเต็มที่ เพราะไม่ว่าจะเป็นอาคาร, บ้านเรือน, ร้านค้า, วัดและศาลเจ้าต่างๆ ก็ได้มีการอนุรักษ์สภาพที่เหมือนกับในสมัยเอโดะไว้เป็นอย่างดี จนได้สมญานามว่า Little Edo
อยู่ใกล้กับโตเกียวเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้นเอง ซึ่งที่เมืองKawagoe แห่งนี้จะมีถนนเส้นหลักชื่อ Kurazukuri ที่จะมีสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง โดยเฉพาะดาวเด่นอย่างหอระฆัง Tokinokane ที่แม้จะผ่านมาหลายปีแต่หอระฆังนี้ก็ยังคงสภาพสมบูรณ์และยังคงมีการตีระฆัง 4 ครั้งต่อวัน ซึ่งเราสามารถไปชมได้ฟรีๆทั้งถนนสายนี้และหอระฆัง
ส่วนใครใคร่จะช้อปหรือจะชิม เค้าก็มีร้านรวงที่ตกแต่งได้เข้ากับบรรยากาศสุดๆก็คงไม่แปลก ถ้าเราจะประหยัดตังค์ค่าเข้าชม มาเสียตังค์ให้กับขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่นที่นี่ นอกจากนี้ ก็ยังมีสถานที่ใกล้ๆอย่างปราสาท Kawagoe หรือ วัด Kita-in ให้เราปั่นจักรยานหรือจะนั่งรถบัสนำเที่ยวไปก็ได้
ค่าเข้าชม : ฟรี
เวลาทำการ : 11.00-15.00 น.
วันปิดทำการ: ทุกวันจันทร์
การเดินทาง: นั่งรถไฟ Tobu จากสถานี Ikebukuro ลงที่สถานี Kawagoe-shi หรือนั่งรถไฟสาย Seibu ขึ้นจากสถานี Shinjuku ไปลงที่สถานี Hon-Kawagoe หรือนั่งรถไฟ JR สาย Saikyo Line จากสถานีต่างๆกลางโตเกียวเช่น ikebukuro, Shinjuku, Shibuya ไปลงที่สถานี Kawagoe ก็ได้ (วิธีนี้สามารถใช้บัตร JR Pass ได้)
10.สวนดอกไม้ Hitsujiyama Park เมืองChichibu จังหวัดSaitama
ถ้าจะพูดถึงสวนดอกไม้ที่มีชื่อเสียงที่สุดของจังหวัด Saitama ทุกคนก็ต้องนึกถึงสวน Hitsujiyama เพราะในช่วงกลางเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี ซึ่งตรงกับเทศกาลฮานามิ จะเป็นช่วงที่ดอก Shibazakura หรือดอกมอสชมพูหลายสายพันธุ์กว่า 350,000 ดอกที่บานสะพรั่งแทบจะกินพื้นที่ไปทั้งภูเขา
แต่ช่วงดอกไม้ต้องเสียค่าเข้าชมสวนนิดหน่อย ส่วนใครที่เน้นเที่ยวแบบไม่พกตังค์ก็สามารถมาเที่ยวที่สวนแห่งนี้ได้เหมือนกันในช่วงอื่น เพราะที่นี่วิวดีมากกกก ไม่เป็นช่วงที่ไม่มีดอก Shibazakura เพราะปกติแล้วที่นี่จะมีหัวรถจักรจัดแสดงไว้และมีดอกไม้ชนิดอื่นที่สวยไม่แพ้กัน อย่างดอกไอริสสีม่วงกว่า 1,000 ต้นที่จะบานในฤดูร้อน หรือช่วงก่อนพฤษภาคมก็จะมีดอกซากุระบางชนิดบานให้เห็นกันทั่วสวน หรือใครจะไปหย่อนใจชมบ่อน้ำและทิวเขา หรือจะไปนอนชมเค้าจุดดอกไม้ไฟในฤดูร้อนก็ได้ ไม่เสียตังค์สักกะบาท
ค่าเข้าชม : ฟรี (ยกเว้นช่วงฤดูชิบะซากุระบาน จะมีค่าเข้าคนละ 300 เยน)
เวลาทำการ : 8.00-17.00น.
วันปิดทำการ: ไม่มี
การเดินทาง: จากโตเกียว ขึ้นรถไฟที่สถานี Ikebukuro ขึ้นรถด่วนสาย Seibu Ikebukuro ไปลงที่สถานี Hanno ใช้เวลาประมาณ 45 นาที จากนั้นต่อสายธรรมดาสายเดียวกัน ไปลงที่สถานี Seibu Chichibu อีกประมาณ 50 นาที