ร้าน Flying Tiger Copenhagen จริงๆร้านนี้มีสาขาอยู่ตามเมืองใหญ่ในญี่ปุ่น เช่นโอซาก้า เกียวโต โตเกียว แต่รอบนี้เราจะพาไปดูที่สาขาเกียวโตค่ะ

ร้านนี้เปิดทุกวันตั้งแต่ 11 โมง - 3 ทุ่ม สาขานี้มี 3 ชั้น โดยชั้น 1-2 จะมีของหลากหลายสไตล์ตั้งแต่ของสำหรับจัดงานปาร์ตี้ อุปกรณ์ D.I.Y. ของตกแต่งบ้าน ของเล่น เครื่องเขียน อุปกรณ์ครัว ส่วนชั้น 3 จะเป็นคาเฟ่ บรรยากาศภายในร้านตกแต่งด้วยลายการ์ตูน ดีไซน์ทันสมัย สดใสไม่น่าเบื่อ น่ารักน่าเดินมาก

ชั้นแรก จะเป็นในส่วนของเครื่องเขียน อุปกรณ์ Gadget อุปกรณ์สำหรับจัดงานปาร์ตี้ อย่างในภาพจะเป็นที่เหลาดินสอหลากดีไซน์ ของใช้ร้านนี้ส่วนมากนอกจากจะใช้สอยตามปกติแล้ว ยังสามารถใช้ตกแต่งบ้านไปในตัวได้ด้วย ไม่ว่าจะมุมไหนของบ้าน ถ้ามีของดีไซน์สวยๆอยู่ ก็น่าอยู่มากขึ้น

ที่ขาดไม่ได้ของเครื่องเขียนคือ ปากกา ที่นี้มีทั้งปากกาด้ามเป็นลายตุ๊กตาแบบต่างๆ ลายดอกไม้ ให้คุณรักการเขียนมากขึ้น แถมยังเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร

นอกจากปากกาดีไซน์กุ๊กกิ๊ก ก็ยังมีสมุดหลายขนาดในโทนสีพาสเทล ให้สาวๆเลือกใช้หลายขนาดในแบบที่ถนัดมือ

หรือจะเป็นกระดาษโน้ตลายขนมหวานน่าทานแบบนี้ ก็มีหลายลายให้เลือก

คงความน่ารักไปอีก กับคลิปหนีบกระดาษสีหวาน และเครื่องใช้จุกจิกเล็กๆบนโต๊ะทำงาน

มุมนี้เป็นมุมกระเป๋าดินสอ ลวดลายน่ารักมาก อย่างไอศรีม กล้วย ปลา เก๋ไก๋ไม่ซ้ำใครจริงๆ

ขยับไปหน่อยก็จะเป็นโซนอุปกรณ์สำหรับสาวๆที่ชอบการ D.I.Y. อย่างในภาพเป็นตัวปั้มตัวอักษรหลายขนาด เอาไปประยุกต์สร้างงานศิลปะต่างๆก็คงเหมาะไม่น้อย

ที่ร้านนี้เขายังมีอุปกรณ์ DIY สำหรับเด็กๆมากมาย เหมาะกับมือใหม่ที่อยากครีเอทผลงานDIYของตัวเอง อย่างกรอบรูปใส่ภาพที่ให้ระบายสีเองได้

หรือจะเป็นกรรไกรดีไซน์น่าใช้ และยังมีกรรไกรสีสวยทำลวดลายเป็นจระเข้ สะดวกสำหรับพกพา เห็นแล้วคนรักเครื่องเขียนอดใจไว้ไม่ไหวจริงๆ

นอกจากของกระจุกกระจิกน่าช็อปแล้ว ยังมีอุปกรณ์สัพเพเหระหลายอย่าง เช่นอุปกรณ์ออกกำลังกาย ง่ายต่อการพกพากลับมาไทย หรือถ้าใครอาศัยอยู่ที่ญี่ปุ่นแล้วอยากออกกำลังกาย นี่ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่หาอุปกรณ์มาใช้ที่หอพักได้

ใครที่ชอบฟังเพลง เห็นแล้วต้องกรี้ดกับหูฟังสีหวานในโซน Gadget

ต่อไปเป็นโซนอุปกรณ์จัดงานปาร์ตี้ ที่มีโถแคนดี้ขนาดกำลังน่ารักไว้สร้างความสนุกสนานกันในงาน

อันนี้เป็นหมวกปาร์ตี้สีสดใส ที่มีคอปเตอร์ไม้ไผ่ติดอยู่ข้างบนด้วย เหมาะกับเด็กๆแน่นอน

เดินวนชั้น 1 กันไปพอสมควร ไปดูที่ชั้น 2 กันว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง

ทางเดินขึ้นชั้น 2 ยังคงมีลวดลายกราฟฟิคสไตล์นี้ให้เราได้เพลิดเพลินกัน

ขึ้นมาชั้น 2 คุณแม่บ้านต้องชอบแน่นอน เพราะมีถ้วยชาม แก้ว และอีกสารพัดเครื่องครัวสีสวยๆให้จับจองกัน มุมนี้อาจจะเหมาะกับคนที่อาศัยอยู่ญี่ปุ่น แต่ถ้าใครอยากแบกกลับไทยก็ไม่ว่ากัน

มุมนี้เหมาะกับคนที่มีร้านอาหารเป็นของตัวเอง เพราะเป็นกระดาษทิชชู่หลายดีไซน์ สีสดใส เหมาะที่จะทำให้ร้านอาหารดูสดใสมีชีวิตชีวามากขึ้น

หรือจะเป็นอีกไอเดียอย่างอุปกรณ์ตกแต่งแก้วสำหรับจัดงานปาร์ตี้ หรือจะไว้ใช้ตกแต่งถ่ายรูปอัพโซเชียลเก๋ๆ ก็มีหลายลายให้เลือก

ถัดไปเป็นของเล่น มีหลากหลายแบบให้เลือกสรร

มุมนี้เป็นของเล่นสำหรับเด็ก ตุ๊กตาไม้แขนขาบิดขยับได้ เสริมสร้างพัฒนาเด็กได้เป็นอย่างดี

นอกจากนั้นยังมีของตกแต่งบ้านอย่างนาฬิกา หมอน โคมไฟ

คนที่ชอบโทนสีเรียบๆอย่างสีขาว ก็มีของแต่งบ้านครีเอทีฟแบบเรียบๆ มาช่วยใส่รายละเอียด เพิ่มความเรียบของบ้านให้มีสีสันขึ้น

ถัดไปเป็นของใช้จิปาถะ ทีแรกเห็นมุมนี้เราก็คิดว่าเป็นผ้าเช็ดทำความสะอาดปกติแบบที่เราเห็นกันทั่วไปที่ไทย แต่ที่ร้านนี้ เขาทำเป็นแบบผ้าเช็ดทำความสะอาดที่สอดมือเข้าไปได้ หรือจะใส่เดินเช็ดถูแบบรองเท้าเลยก็ได้ อันนี้ถือว่ามีประโยชน์ค่ะ

อีกมุมเป็นเข็มกลัดลายน่ารักหลายแบบที่เหมาะกับการเอาไปใช้กับเสื้อยืด กระเป๋าผ้า หมวกสีเรียบๆ เพิ่มความน่ารักใส่ดีเทลให้กับการแต่งตัวให้แต่ละวันเก๋ไก๋ไม่ซ้ำใคร

ที่ขาดไม่ได้สำหรับใครที่มาญี่ปุ่นต้องต้องเจอกับถุงเท้าลวดลายน่ารัก หลากสีไม่เหมือนที่ไทยเลย แถมผ้ายังนุ่มน่าใส่ทุกคู่

มุมสุดท้ายเป็นข้าวของเครื่องใช้สำหรับน้องหมา น้องแมว อย่างไอเท็มชิ้นนี้เป็นอุปกรณ์ที่ไว้ใช้หนีบมือถือเพื่อให้น้องหมามองกล้องถ่ายรูปด้วยกัน ตัดปัญหาคนที่อยากถ่ายรูปกับน้องหมาตัวโปรดแต่ไม่ยอมมองกล้อง เป็นอุปกรณ์แก้ปัญหาแบบเจาะจงสุดๆ

ขึ้นไปชั้น 3 เห็นมีป้ายเขียนไว้ว่าเป็นโซนคาเฟ่ และมีมุมของเล่นอย่างเกมการ์ด บอร์ดเกม ไพ่ UNO โดมิโน ฯลฯ ให้คุณได้สนุกกัน แต่เนื่องจากเขาให้เฉพาะเด็กๆขึ้นเท่านั้น เราเลยอดขึ้นไปดู

ใครที่อยากได้ไอเท็มน่ารักๆ ของดีไซน์เก๋ๆแบบนี้แวะมาได้ที่ร้าน Flying Tiger Copenhagen แล้วคุณจะสนุกกับการช็อปปิ้งที่นอกจากจะได้ของถูกใจแล้ว ยังเอาไปเป็นของฝากได้อีกด้วย

หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่

เฉพาะสาขาเกียวโตที่เราไปมานะคะ

จากสถานีเกียวโตให้ขึ้นรสบัสสาย 5 / สาย 104 / สาย 205 หรือสาย 17 ก็ได้ต่อเดียว ราคา 230 เยน มาลงที่ป้าย 河原町三条 ( Kawaramachi Sanjo ) ก็ถึงเลย ร้านอยู่ฝั่งตรงข้ามกับร้าน Loft เลย สังเกตเห็นง่ายมากค่ะ