นี่เป็นสะพานที่เชื่อมต่อจากแผ่นดินสู่เกาะอาโอชิมะ

การที่จะเข้าไปสักการะขอพรที่ศาลเจ้าอาโอชิมะได้นั้นต้องเดินข้ามสะพานยาโยอิ ใช้เวลาเดินประมาณ5นาทีก็สามารถข้ามมาถึงชายหาดของเกาะอาโอชิมะได้แล้วค่ะ

เนื่องจากเกาะคิวชูอยู่ในเขตพื้นที่ร้อน เกาะที่คิวชูสวนใหญ่จะปลูกพันธุ์ไม้หน้าร้อนได้อย่างสวยงามไม่แพ้ไทย เกาะอาโอชิมะก็เป็นอีกเกาะที่มีการปลูกต้นปาล์มไว้รอบๆ และยังมีพันธุ์ไม้หน้าร้อนอีกหลากหลายชนิดอีกด้วยค่ะ

ปรากฎการณ์ธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจและพลาดไม่ได้สุดๆของที่นี่ก็คือแผ่นหินรูปเกลียวคลื่นที่สวยแปลกตา ชาวบ้านที่นี่เรียกกันว่า โอนิ-โนะ-เซนตะกุอิตะ (鬼の洗濯板) หรือ กระดานซักผ้าของปีศาจ

กระดานซักผ้านี้เกิดจากการเซาะตัวของหินทรายที่ทับถมกันมาหลายล้านปี โดยหินทรายแข็งทับถมกันไปเรื่อยๆ แต่หินโคลนอ่อนชั้นบนกลับถูกน้ำทะเลชะล้างออกไป ทำให้หินทรายที่เหลืออยู่มีรูปร่างตามแบบเกลี่ยวคลื่นที่สาดเข้าฝั่ง และเมื่อเวลาผ่านไปหลายล้านปีก็แข็งตัวจนเป็นอย่างที่เห็น

นี่แหละทางเข้าศาลเจ้าอาโอชิมะ
เดินลงสะพานยาโยอิมาทางขวามือ ก็จะเจอกับโทริอิสีแดงเป็นประตูทางเข้าไปยังศาลเจ้าอาโอชิมะ ช่วงฤดูที่อากาศดีๆ ระหว่างทางก็จะมีเต๊นท์มาตั้งร้านขายของอีกด้วยค่ะ

เมื่อเดินผ่านโทริอิมา ก็เดินโค้งมาตามทางของเกาะแล้วจะพบกับทางเข้าศาลเจ้า จะเห็นได้ว่าศาลเจ้าแห่งนี้มีบรรยากาศที่น่าหลงไหลมากๆค่ะ มองออกไปก็จะเห็นน้ำทะเลสีฟ้าสดใส เป็นบรรยากาศสไตล์เกาะแดนใต้ที่ไม่เหมือนกับศาลเจ้าทั่วๆไปในญี่ปุ่น ทำให้เราชื่นชมอยู่ที่นี่ได้เป็นเวลานานเลยทีเดียว

เมื่อเดินเข้ามาก็ต้องทำตามประเพณีของญี่ปุ่นเหมือนกับเวลาเข้าศาลเจ้าอื่นๆ ก็คือการชำระล้างก่อนเข้าศาลเจ้าหรือวัดนะค่ะ ส่วนตัวจะเป็นคนชอบดูอ่างล้างของแต่ละที่คะ สังเกตุดูดีๆ แล้วจะเห็นว่าแต่ละศาลเจ้าแต่ละวัดนั้น จะออกแบบอ่างล้างมือต่างๆกันไป อย่างที่นี่ดูพิถีพิถันกับการสร้างอ่างล้างมือเป็นอย่างมากค่ะ

ในวิหารหลักของศาลเจ้า มีการตั้งบูชารูปปั้นเทพเจ้า Benzaiten (弁財天) ซึ่งเป็นเทพเจ้าผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวของ 7เทพเจ้าแห่งความโชคดี ของญี่ปุ่น ด้วยความสวยงามของรูปลักษณ์ของท่านที่แสดงถึงความรักและความเมตตาท่านจึงเปรียบเสมือนเทพเจ้าแห่งความรักนั้นเอง การกำเนิดของศาลเจ้าอาโอชิมะนั้น ไม่ทราบแน่ชัดนักว่าศาลเจ้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อไร แต่จากหลักฐานที่มีอยู่ทำให้สันนิษฐานกันว่าศาลเจ้านี้อาจถูกสร้างขึ้นประมาณปีคริสต์ศักราช 820 และถูกใช้เป็นสถานที่ทำศาสนพิธีของนิกายชินโต ซึ่งสาธุชนทั่วไปห้ามย่างกรายเข้าไปเด็ดขาด เพราะเป็นที่สำหรับนักบวชนิกายชินโตเท่านั้น แต่ต่อมาเมื่อความเคร่งศาสนาเริ่มผ่อนคลายลง ศาลเจ้าก็ได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าสักการะจนถึงทุกวันนี้

มุมนี้เป็นอีกมุมนึงที่สวยสุดๆของที่นี่ คนที่อยากขอพรเรื่องความรัก ก็จะมาเขียนคำขอพรลงบนแผ่นไม้ที่ทางศาลเจ้ามีบริการจัดเตรียมไว้ เมื่อเขียนเสร็จแล้วก็นำมาแขวนไว้ตรงนี้ ตามที่คนในละแวกนี้บอกเล่ามาว่าที่นี่มีความศักสิทธิ์เป็นอย่างมากจนถึงขนาดในทุกๆปีมีหนุ่มสาวเข้ามาขอพรและอธิฐานเรื่องความรักกันอย่างมากมายเลยทีเดียว

นอกจากการขอพรจากเทพเจ้าแล้ว ที่นี้ก็ยังมีเซียมซีเสี่ยงทายความรักอีกด้วย ดีไซน์ของตัวเซียมซีเป็นรูปลูกศรน่ารักมากๆคะ

ท้ายสุดก่อนกลับ ไหนๆเราก็มาถึงเกาะแห่งความรักกันแล้ว อีกอย่างที่เชื่อว่าจะทำให้ความรักมั่นคงก็คือเครื่องรางของศาลเจ้านี่เอง ซึ่งที่อาโอชิมะจะแบ่งไปเลยว่าของผู้หญิง (สีชมพู) หรือของผู้ชาย (สีดำ) ถ้ามาเป็นคู่ก็จัดไปกันคนละอันได้เลยคะ

การเดินทางมาที่นี่ด้วยรถไฟ สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานี Aoshima ของสาย JR Nichinan Line

จากสถานี คุณสามารถเดินมาที่เกาะอาโอชิมาได้โดยใช้เวลาประมาณ10นาทีเท่านั้น สำหรับผู้ใช้รถยนต์เช่า คุณไม่สามารถนำรถเข้าไปยังเกาะอาโอชิมะได้ จะมีบริการที่จอดรถรอบๆทางเข้า หลังจากนั้นคุณต้องเดินข้ามสะพานยาโยอิที่กล่าวไว้ข้างต้นเข้าไปคะ