ที่โอไดบะแห่งนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยว และมุมถ่ายรูปสวยๆมากมายให้เราได้เที่ยวชมกับครับ เรามาเริ่มกันจากชายหาดแสนสวยที่มองเห็นวิวเมืองหลวงได้อย่างชัดเจน เป็นสถานที่เดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจ พร้อมกับลมเย็นๆที่พัดมากระทบใบหน้า ให้ความรู้สึกที่สดชื่นไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว อีกทั้งยังสามารถเก็บรูปบรรยากาศดีๆจากชายฝั่งได้อีกด้วย เหมาะจะเป็นจุดเริ่มต้นการเดินชมโอไดบะของเรามากๆครับ

หนึ่งในจุดถ่ายรูปที่น่าสนใจของโอไดบะก็คือสะพานสายรุ้ง Rainbow Bridge ซึ่งทอดจากตัวเมืองแผ่นดินใหญ่ของโตเกียวมายังฝั่งโอไดบะ

ในตอนกลางวัน หากมองจากหาดจะสามารถเห็นโตเกียวทาวเวอร์เป็นฉากหลังของสะพานได้ แต่หากมองดูในเวลากลางคืนแล้วล่ะก็ ตัวสะพานจะมีการเปิดไฟสีสันสดใส เป็น light show ขนาดใหญ่ ซึ่งการแสดงแสงสีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งที่มาของชื่อสะพานสายรุ้งนั่นเอง

อีกจุดต่อมาก็คือ เทพีเสรีภาพจำลอง หน้าตาเหมือนของจริงเป๊ะๆแต่เล็กกว่า

มีฉากหลังเป็นสานสายรุ้งที่ทอดผ่าน ทำให้เป็นจุดถ่ายรูปที่เรียกได้ว่างดงามอลังการเป็นอย่างมากเลยทีเดียว มาทีไรก็จะมีคนยืนมุงถ่ายรูปกันอยู่ตลอดเวลาครับ

ถัดจากชายหาดจะมากันที่ตึกรูปทรงแปลกประหลาดแห่งนี้ เป็นตีกที่สวยเด่นเห็นแต่ไกลตั้งแต่นั่งรถไฟข้ามสะพานมาเลยครับ

ตึกฟูจิทีวี (Fuji TV Building) เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของสถานีโทรทัศน์ฟูจินั่นเองครับ ภายในมีร้านของฝากเกี่ยวกับตัวละคร การ์ตูน และหนังดังของช่องนี้ หากใครเป็นแฟนละครหรือการ์ตูนที่ฉายทางช่องนี้ละก็ ลองเข้าไปดูอาจจะได้ของฝากติดไม้ติดมือกลับออกมาครับ

บนตึกนี้หากเดินขึ้นบันไดเลื่อนใหญ่ขึ้นมาเรื่อยๆจนถึงข้างบน จะเจอกับที่ตั้งเก่าของร้านอาหารที่ปิดตัวไปแล้ว อย่าง "บาราติเอ" ภัตตาคารลอยน้ำของซันจิจากเรื่องวันพีชนั่นเอง

แต่เนื่องจากตัวร้านอาหารได้ทำการปิดตัวไปแล้ว เพื่อให้คนที่ต้องการมาติดตามวันพีชไม่ผิดหวัง จึงตั้งรูปปั้นของลูฟี่และช๊อปเปอร์ทิ้งไว้ให้เห็นตรงข้างๆประตูที่เคยเป็นทางเข้าของภัตตาคารครับผม

อีกทั้งหากใครมีความต้องการที่จะเดินทางไปถ่ายรูปกลางผืนน้ำแล้วละก็ ที่หาดทรายแห่งนี้ ยังเป็นจุดที่ตั้งของสถานี water bus อีกด้วย ซึ่งจะเริ่มออกเดินทางจากโอไดบะ ตรงเข้าไปในแม่น้ำซุมิดะ และจอดที่อาซาคุซะ โดยใช้เวลาในการเดินทางประมาน 50 นาทีครับผม

ถัดจากไดเวอร์ซิตี้มาเพียงเล็กน้อยจะเป็นที่ตั้งของ พาเลตทาวน์ (Palette town) ซึ่งเป็นศูนย์รวมของห้างสรรพสินค้ามากมายเช่น Venus fort อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของ ชิงช้าสวรรค์ชื่อดังที่เป็นแลนด์มาร์กของโอไดบะอย่าง Daikanransha (แปลตรงตัวว่า ชิงช้าสวรรค์ใหญ่) ซึ่งมีจุดสูงสุดอยู่สูงจากพื้นดินถึง 115 เมตรเลยทีเดียว

ถัดมาอีกเพียงเล็กน้อย จะเป็นห้าง ไดเวอร์ซิตี้ โตเกียว พลาซ่า (DiverCity Tokyo Plaza) ครับ ซึ่งที่แห่งนี้เองที่เป็นที่ตั้งของรูปปั้นกันดั้มขนาดใหญ่และ Gundum café ซึ่งเป็นคาเฟ่สำหรับแฟนกันดั้มนั่นเอง นอกจากนี้ตัวห้างเองก็มีร้านที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยครับ

นอกจากนี้ที่โอไดบะยังเป็นที่ตั้งของเลโก้แลนด์ (LEGOLAND) สวนสนุกของคนรักเลโก้อีกด้วย

และโอไดบะก็ยังมีพิพิธภัณท์หุ่นขี้ผึ้งชื่อก้องโลก Madam Tussauds อีกด้วย

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของโอไดบะนะครับ หากมีเวลาว่างแล้วล่ะก็ ขอเชิญให้เยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ดูซักครั้ง แล้วคุณจะประทับใจกับตึกอาคารรูปร่างแปลกตา วิวสวยๆที่แปลกใหม่ โล่ง กว้างจนไม่รู้สึกว่าเป็นโตเกียวแต่ยังคงความทันสมัยไว้ครบครัน และความสนุกสนานของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆมากมาย ที่ตั้งอยู่บนเกาะแห่งนี้ครับ

การเดินทางมาที่แห่งนี้ไม่ใช่เรื่องยาก ที่โอไดบะแห่งนี้มีรถไฟสายพิเศษที่แล่นเข้ามาโดยตรงและวนรอบๆตัวเกาะและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในพื้นที่โอไดบะอย่างครอบคลุม นั่นก็คือรถไฟสาย Yurikamome (ゆりかもめ線)

โดยหากเดินทางปกติมาจากรถไฟสาย JR หรือ Metro แล้วล่ะก็ สถานีที่เป็นจุดเปลี่ยนมาเป็นรถไฟสาย Yurikamome ที่ง่ายที่สุดก็คงจะเป็นสถานี Shinbashi (新橋駅) ซึ่งมีวิธีการเดินทางมาสถานีนี้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นรถไฟสายสงกลม JR Yamanote Line หรือรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro Ginza Line และ Toei Asakusa Line ครับ เมื่อมาถึงสถานีนี้ก็เพียงหาป้ายบอกทางเพื่อไปต่อรถไฟสาย Yurikamome ก็สามารถเดินทางไปเที่ยวโอไดบะได้ไม่ยากเลยล่ะครับ