All About Japan

วัดเซ็นโซ วัดดังแห่งอาซาคุสะ

วัด สถานที่ทางประวัติศาสตร์ ถ่ายภาพ ศาสนาพุทธ พระพุทธรูป วัด และ ศาลเจ้า ครั้งแรกในญี่ปุ่น เที่ยวด้วยตัวเอง Tokyo Asakusa Kanto
วัดเซ็นโซ วัดดังแห่งอาซาคุสะ

เซ็นโซจิ(浅草寺) หรือวัดเซ็นโซ ตั้งอยู่ในเมืองโตเกียวที่ย่านอาซาคุซะ เป็นวัดใหญ่ที่มีผู้คนมากมายแห่แหนกันมาเยี่ยมอย่างล้นหลาม ด้วยความมีชื่อเสียงในเรื่องของการมอบโชคลาภ และที่สำคัญ ว่ากันว่าเซียมซีของที่นี่แม่นอย่าบอกใครเชียวแหละครับ และทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็ทำให้วัดเซ็นโซกลายเป็นวัดที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในเมืองโตเกียวแห่งนี้

ความเชื่อเกี่ยวกับวัดแห่งนี้

ความเชื่อเกี่ยวกับวัดแห่งนี้

เซ็นโซจิหรือวัดอาซาคุสะแห่งนี้ เป็นวัดพุธที่บูชาเจ้าแม่กวนอิมครับ โดยคนญี่ปุ่นเรียกเจ้าแม่กวนอิมว่า พระโพธิสัตว์คันนอน (観音)

ตามตำนานเล่ากันมาว่า วัดแห่งนี้เมื่อสมัยก่อนเป็นหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งในอาซาคุซะ ณ หมู่บ้านแห่งนี้มีชาวประมงอยู่สองคน โดยปกติแล้วชาวประมงทั้งสองจะออกไปหาปลาที่แม่น้ำทุกวัน แต่มีอยู่วันหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจนตกบ่ายก็ไม่สามารถตกปลาได้เลยแม้แต่ตัวเดียว ชาวประมงทั้งจึงตั้งจิตอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อขอปลาซักตัวมาเป็นอาหารเย็น เมื่ออธิษฐานจิตเรียบร้อย ชาวประมงก็เหวี่ยงแห และแหก็ไปติดเข้ากลับบางสิ่ง เมื่อดึงแหขึ้นมาสิ่งที่ติดมาด้วยกลับเป็นรูปปั้นของเจ้าแม่กวนอิม ชาวประมงทั้งสองจึงนำกลับไปให้ผู้ใหญ่บ้านดู ผู้ใหญ่บ้านเห็นถึงความศักดิ์ศิทธิ์ของรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม จึงเปลี่ยนแปลงหมู่บ้านของตนมาเป็นวัด ในเวลาต่อมามีเหล่าขุนนาง ละซามูไรมาขอพรจากองค์เจ้าแม่กวมอิม และก็ประสบความสำเร็จกันมากมาย จนในที่สุดจึงทำให้ชื่อเสียงของวัดเซ็นโซแห่งนี้ขจรขจายไปทั่วประเทศญี่ปุ่น

ถนนหลัก

ถนนหลัก

จากหน้าวัด จะมีถนนหลักที่2ข้างทางเรียงรายไปด้วยร้านรวงที่ขายทั้งของที่ระลึก เครื่องราง ขนมญี่ปุ่นต่างๆมากมาย เป็นมุมที่คนรักญี่ปุ่นหลายคนคงคุ้นเคยดีครับ

ซึ่งที่นี่นั้นก็มีขนมชื่อดังอยู่อย่างหนึ่งเช่นกัน นั่นก็คือ “ขนมเซ็มเบ้” ครับ ซึ่งเป็นขนมแป้งทอดกรอบที่มีขายอยู่ทั่วญี่ปุ่น แต่ว่าในแต่ละที่ แต่ละเมือง ก็มีสูตรของตัวเองที่ต่างๆกันไป และว่ากันว่าของทมี่อาซาคุสะนี่อร่อยสุดๆครับ ใครมีโอกาสได้มาแล้วล่ะก็ต้องมาลิ้มรสให้ได้เลยนะครับ

นอกจากของกินแล้ว ของฝากก็เป็นที่นิยมไม่แพ้กัน แต่ละอย่างราคาแพงพอสมควร และคนก็แน่นมากๆ ผมขอบอกเลยว่าหากมาที่นี่ในช่วงพีคล่ะก็ถนนเส้นนี้จะเนื่องแน่นไปด้วยผู้คนเชียวล่ะครับ แน่นขนาดที่ว่าต้องไหลตามกันไปเลยทีเดียวเชียว เพราะงั้นต้องระวังของหายนะครับ

เมื่อพ้นเขตร้านรวงแล้วก็จะเจอกับประตูทางเข้าวัดครับ ซึ่งตรงกลางจะประดับด้วยโคมไฟกระดาษขนาดใหญ่ถึง 5.5 เมตรครับ ตรงนี้จะเป็นอีกหนึ่งในจุดที่คนถ่ายรูปกันอย่างมากมายครับ

เมื่อเดินเข้าประตูมาทางซ้ายมือจะมีเจดีย์สูงตั้งอยู่ครับ และหากมองไปทางขวามือแล้วล่ะก็ คุณจะสามารถมองเห็น Tokyo sky tree ได้ด้วยแหละครับ และทาง 2 ข้างทางจะเป็นที่ตั้งของร้านที่ระลึกและที่เสี่ยงเซียมซีครับ ขอแนะนำให้ซื้อเครื่องรางนำโชคของที่นี่นะครับ ของเขาคลังจริงๆ

และใครอยากเสี่ยงเซียมซีก็ลองดูได้นะครับ เพียงครั้งละ 100 เยนเท่านั้น ไม่ต้องกลัวอ่านไม่ออกเพราะที่นี่เซียมซีมีภาษาอังกฤษให้อ่านได้ด้วย ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออกนะครับ สำหรับเซียมซีที่ดีให้เก็บไว้กับตัว ส่วนเซียมซีที่ไม่ดี ก็ให้ผูกไว้กับราวที่มีเชือกแขวนอยู่ของทางวัดนะครับ (สังเกตุง่ายๆ จะเป็นเชือกเยอะๆ เหมือนราวตากผ้า และมีคนอื่นเอาใบเซียมซีไปผูกไว้เยอะๆ) เป็นความเชื่อว่าจะเป็นการทิ้งดวงที่ไม่ดีไว้ที่วัด และให้เหลือแต่ดวงที่ดีออกไปครับ

และที่กลางทางเดินก่อนถึงโบสถ์ใหญ่ของวัด จะเห็นกระถางธูปตั้งอยู่ครับ ตรงนั้นจะเป็นจุดรับโชคนะครับ คนญี่ปุ่นเชื่อกันว่าควันจากธูปจะนำโชคดีมาให้เรา เราจะต้องเดินเข้าไปโบกควันธูปเข้าหาตัวเราครับ และด้านข้างทางขวามือจะมีจุดล้างมือเหมือนกับวัดและศาลเจ้าญี่ปุ่นทั่วๆไป แต่ของที่นี่เป็นน้ำพุขนาดย่อมๆเลยทีเดียว บวกกกับมีรูปปั้นนักรบอยู่ตรงกลางเท่อย่าบอกใครครับ ตรงนั้นไว้สำหรับล้างมือ กลั้วปาก เพื่อชำระร่างกายก่อนจะเข้าไปสักการะเทพเจ้าข้างในครับผม เมื่อทำตามขั้นตอนทั้งหมดแล้ว ก็เข้าไปสักการะเทพเจ้าเพื่อขอพรข้างในได้เลยครับ

เกร็ดความรู้เล็กน้อย การไหว้เทพเจ้าเพื่อขอพรจากเทพเจ้านั้น จะมีการโยนเหรียญและปรบมือครับ เหรียญที่จะโยนส่วนใหญ่จะใช้เหรียญ 5 เยนนะครับ เป็นเหรียญทองเหลืองที่มีรูตรงกลาง และการปรบมือคือการแจ้งให้ท่านเทพเจ้าทราบว่าเรากำลังจะขอพรนะครับ แต่อย่าปรบเยอะนะครับ แค่ 2 ครั้งก็พอ

การเดินทาง

การเดินทาง

วิธีการเดินทางมาที่นี่นั้นไม่ยากเลย ที่วัดเซ็นโซแห่งนี้ใกล้ๆกับทางเข้าวัดจะเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟใต้ดิน (Metro) สาย Ginza line(銀座線) (สายสีส้ม) ชื่อสถานีอาซาคุสะ (Asakusa) ตั้งอยู่ หากออกจากชานชะลามา ให้เดินไปออกทางประตูหมายเลขหนึ่ง แล้วเดินตรงไปเพียงไม่กี่เมตร ก็จะถึงทางเข้าวัดเซ็นโซดังรูป ซึ่งประตูนี้มีชื่อเรียกว่า “ประตูสายฟ้า” (雷門) ครับ

know-before-you-go