allabout japan
allabout japan

ลิสต์สิ่งน่ารู้เพื่อเลเวลอัพฝีมือเที่ยวญี่ปุ่น

ลิสต์สิ่งน่ารู้เพื่อเลเวลอัพฝีมือเที่ยวญี่ปุ่น
pixta.jp

ข้อมูลพื้นฐานจนถึงเทคนิคแปลกๆ สำหรับผู้อยากไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ถามพันทิปมาแล้วก็ไม่เป็นไร แต่ลองมาฟังคนญี่ปุ่นที่เคยทำงานโรงแรมดูมั้ย ว่ามีอะไรที่อยากแนะนำคนไทยที่จะมาเที่ยว

By Ando Natsuki (อันโด นัทสึกิ)

ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการไปเที่ยวญี่ปุ่น

ไปญี่ปุ่นครั้งแรก ไม่ว่าจะไปคนเดียวหรือเป็นกลุ่ม โตเกียวหรือโอซาก้า ฤดูร้อนหรือฤดูหนาว อย่างน้อยๆเราก็อยากให้รู้เรื่องพวกนี้ไว้

เตรียมตัวขั้นแรก เงิน วีซ่า พาสปอร์ต

เตรียมตัวขั้นแรก เงิน วีซ่า พาสปอร์ต

https://pixta.jp/

เรื่องแรกที่ต้องดูก็คือพาสปอร์ต แน่นอนใครไม่มีพาสปอร์ตไปต่างประเทศไม่ได้ ขอให้ไปทำเตรียมไว้ที่กรมการกุงสุลหรือสำนักงานหนังสือเดินทางใกล้บ้าน

วีซ่า ตอนนี้ญี่ปุ่นให้ visa on arrival สำหรับคนไทยทันทีที่เข้าประเทศญี่ปุ่น 15 วัน แต่ต้องระวังเพราะเขาสามารถปฏิเสธเราก็ได้ โดยต้องมีเหตุผลในการเข้าประเทศที่ชัดเจน เช่น มาเที่ยว มาเยี่ยมญาติ เป็นต้น หากใครที่จะไปทำงานหรือเรียนต่อยาวๆเป็นหลายเดือนหรือเป็นปี จะใช้วีซ่าคนละแบบกันคนที่ไปเที่ยว และต้องทำการขอตามปกติ

ถ้ากลัวจะโดนปฏิเสธ เพื่อนๆชาวไทยที่เที่ยวญี่ปุ่นบ่อยๆมีข้อแนะนำดังนี้ครับ
1 มีข้อมูลการจองโรงแรมที่จะไปพักแน่นอน พร้อมโชว์ให้ดูได้
2 ถ้าเปลี่ยนพาสปอร์ตใหม่ นำพาสปอร์ตเก่าไปโชว์ด้วย
3 ถ้าจะพักกับญาติที่อยู่ญี่ปุ่น ให้เตรียมข้อมูลของญาติไว้ด้วย เช่นที่อยู่

เอาเงินไปเท่าไหร่ดี และทำยังไงให้ปลอดภัยไม่หาย

เอาเงินไปเท่าไหร่ดี และทำยังไงให้ปลอดภัยไม่หาย

https://pixta.jp/

เงินเท่าไหร่ดีนั้น ถ้าไม่นับตั๋วเครื่องบินคิดง่ายๆวันละประมาณ 15,000 เยน ต่อคนก็ถือว่าเยอะมากๆแล้ว โดยราคานี้สามารถรวมทั้งโรงแรม ค่าเดินทาง ค่าอาหารก็พอเหลือเฟือหากไม่กินหรู หากใครไปในช่วงที่โรงแรมถูกเช่นหลังซากุระหมดพอดี จะใช้น้อยกว่าวันละ 10,000 เยน ก็ไม่ได้ยากเย็นเลย หรือถ้าจะประหยัดสุดๆ ให้น้อยกว่าวันละ 5,000 เยนก็สามารถทำได้ถ้าสามารถนอนโรงแรมเล็กๆ กินข้าวเฉพาะของที่ถูกและอิ่มโดยไม่สนร้านดังหรือของอร่อย ทั้งหมดนี้ก็แล้วแต่ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน จะนอนโรงแรมหรูสบายๆหรือจะนอนโรงแรมราคาประหยัด จะกินเพื่ออยู่หรืออยู่เพื่อกิน จะเที่ยวสวนสนุกค่าเข้าแพงๆอย่างดิสนีย์แลนด์หรือไปตามที่เที่ยวฟรีไม่มีค่าเข้าเช่นวัดหรือศาลเจ้า

สำหรับการพกเงินนั้น แน่นอนว่าเงินสดพกไปเยอะๆนั้นอันตราย หากหายแล้วเราทำอะไรไม่ได้เลย ได้แต่ลุ้นว่าคนจะใจดีเก็บมาคืนให้เท่านั้นไม่เหมือนบัตรเครดิตหรือเอทีเอ็มที่สามารถสั่งอายัดได้ พออายัดแล้วคนที่ขโมยไปก็ใช้ไม่ได้

แม้คนที่อยู่ญี่ปุ่นมานานจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าญี่ปุ่นของหายมักได้คืน แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคน และแน่นอนว่าคงไม่ได้คืนทันที ไม่รู้ต้องรอกี่วัน กี่เดือน หรืออาจจะไม่ได้คืนเลยก็แน่นอนว่ามีเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเซฟตัวเองดีที่สุด เช่นแบ่งเงินเก็บในหลายๆที่ ใช้กระเป๋าลับที่ยากต่อการล้วง หรือว่าไม่พกเงินเยอะๆไปทีเดียวแต่พกนิดเดียวแล้วเอาบัตรเงินสดไปกดเอาทีหลัง เป็นต้น เทคนิคการท่องเที่ยวเหล่านี้เป็นเทคนิคทั่วไปที่ไม่ว่าจะไปเที่ยวประเทศไหนก็ควรใช้ แต่อาจจะไม่ต้องเคร่งเท่าเวลาไปญี่ปุ่น เพราะว่าในแง่ของความปลอดภัยเช่นปัญหาการล้วงกระเป๋า ญี่ปุ่นมีปัญหาน้อยกว่าประเทศอื่นอย่างชัดเจน

แต่ว่าที่แนะนำให้ไม่พกเงินสดเพราะที่ญี่ปุ่นนั้นการไม่พกเงินสดทำได้ง่ายยิ่งกว่า เพราะว่ามีบริการตู้ ATM ที่สามารถใช้การ์ดจากธนาคารไทยกดเงินเยนได้ทันทีอยู่เป็นจำนวนมาก อย่างเช่นตู้ตามร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น หรือตู้ของที่ว่าการไปรษณีย์เป็นต้น เพราะฉะนั้นการพกเงินสดมาเยอะๆ ทีละเป็นแสนๆเยนเพื่อจ่ายค่าโรงแรมค่ากินนั้น แนะนำให้เลิกถ้าเป็นไปได้ครับ ค่ากดเอทีเอ็มข้ามประเทศสมัยนี้ไม่แพงเลย เมื่อเทียบกับความเสียงที่จะเกิดขึ้นหากทำเงินสดหลายหมื่นหาย

นอกจากนี้แล้ว ญี่ปุ่นก็ยังมีร้านค้าที่รับบัตรเครดิตเป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักรูดบัตรเลยทีเดียว

แล้วเที่ยวญี่ปุ่นยังไงให้ประหยัดเงิน

การเที่ยวให้ประหยัดมีหลายสิ่งที่ต้องรู้ ยิ่งรู้เยอะยิ่งดี แต่รู้แล้วจะประยุกต์ใช้กับตัวเองมั้ยก็อีกเรื่องหนึ่ง เพราะว่าบางคนอาจจะชอบกินแหลก แต่นอนโรงแรมยังไงก็ได้ แต่บางคนอาจจะกินอะไรก็ได้ แต่ต้องนอนโรงแรมหรู เป็นต้น เพราะงั้นเราจึงต้องเลือกวิธีประหยัดที่เหมาะกับตัวเองและไม่ทำให้เที่ยวสนุกน้อยลง

สิ่งที่ชัดเจนและประหยัดได้แน่ๆก็คือ การจองโรงแรมราคาถูกล่วงหน้าหลายๆเดือน และการจองตั๋วเครื่องบินราคาถูก เป็นต้น ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่ค่อนข้างชัดเจน แต่ถ้าหากจะประหยัดให้ได้มากขึ้นละก็ ต้องเรียนรู้เทคนิคอื่นๆอีก

บทความรวมเทคนิคการประหยัดสิบวิธี อันนี้เป็นบทความที่ดี มีเทคนิคแปลกๆที่หลายคนคิดไม่ถึงหลายอย่าง อย่างเช่นการซื้อน้ำและขนมที่ร้านขายยาแทนที่จะเป็นร้านสะดวกซื้อ หรือการนั่งรถบัสตอนกลางคืนแทนรถไฟเป็นต้น นอกจากนี้หากรู้วิธีการเลือกร้านอาหารแบบหนึ่งเหรียญก็จะช่วยประหยัดค่าอาหารได้ และถ้ารู้จักเลือกที่เที่ยวที่ไม่มีค่าเข้า ก็จะช่วยประหยัดได้อีก เป็นต้น

จองโรงแรมในญี่ปุ่นประเภทไหนดี

โรงแรมในญี่ปุ่นมีหลากหลายประเภท มีหลายแบบที่คนไทยเราคุ้นเคยเช่นโรงแรมหรูในตึกสูงที่ดีพร้อมทุกอย่าง โรงแรมราคาประหยัดที่ต้องบริการตัวเองเยอะหน่อยแต่ห้องมีมาตรฐาน (ญี่ปุ่นนิยมเรียกว่า Business Hotel) หรือโรงแรมแบบประหยัดยิ่งกว่านั่นก็คือโรงแรมแคปซูลที่มักจะไม่มีบริการอะไรเลย และห้องก็เล็กแต่แลกกับราคาสุดถูกเป็นต้น และที่ขาดไม่ได้ก็คือ เรียวกัง โรงแรมสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆที่อยากให้ลองพักกันสักครั้ง

โรงแรม Business Hotel

โรงแรม Business Hotel

https://pixta.jp/

เป็นโรงแรมประเภทที่เห็นได้บ่อยและเป็นที่นิยมของคนไทยมากที่สุด เพราะราคาค่อนข้างถูก (ถูกกว่าเรียวกัง แพงกว่าแคปซูล) และมักมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียงพอ ตั้งแต่ห้องน้ำในตัว ไปจนถึงอินเตอร์เน็ต เครื่องใช้ในห้องน้ำ เครื่องซักผ้า เตารีดผ้า ทีวี ตู้เย็น ของสำคัญๆจะมีครบหมด แต่บริการแทบทุกอย่างจะเน้นบริการตัวเอง

ขึ้นชื่อว่าเป็น Business Hotel โรงแรมจะไม่มีบริการที่หรูสุดๆ เช่นอาหารเช้าแบบห้าดาว (แต่ส่วนใหญ่ก็จะมีอาหารเช้าง่ายๆ) หรือว่าโถงกว้างสำหรับจัดกิจกรรม ห้องประชุมต่างๆ ร้านอาหารหรูขนาดใหญ่ หรือบริการหรูอย่างเช่น valet parking และเคาน์เตอร์บริการ concierge ก็จะไม่มี แต่สำหรับนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่แล้วถือว่าครบและเพียงพอ

เรียวกัง

เรียวกัง

โรงแรมที่ทุกคนคิดถึงกันมากที่สุดเวลาพูดถึงญี่ปุ่นก็คือ "เรียวกัง" นั่นเอง โดยคำว่าเรียวกังนั้นแปลง่ายๆว่า "ที่พักระหว่างการเดินทาง" เป็นโรงแรมแบบดั้งเดิมประเภทหนึ่งของญี่ปุ่นนั่นเอง โดยการที่โรงแรมซักแห่งจะเรียกตัวเองว่าเรียวกังได้ ไม่ใช่แค่มีตึกแบบโบราณก็เป็นได้ แต่ยังมีเงื่อนไขต่างๆอีกหลายอย่าง เช่นการบริการที่ต่างจากโรงแรมทั่วไป ต้องมีห้องอาบน้ำแบบสาธารณะอยู่ในพื้นที่โรงแรมหรือใกล้ๆ ห้องต้องมีเสื่อทาทามิและพื้นที่ว่างสำหรับนั่งพื้น เป็นต้น

โดยรวมแล้ว เป็นโรงแรมที่เหมาะกับคนที่อยากดื่มด่ำกับความเป็นญี่ปุ่นอย่างเต็มที่ แต่ราคาในภาพรวมก็จะค่อนข้างสูงกว่าโรงแรมทั่วไปหรือ Business Hotel อยู่บ้าง

โรงแรมแคปซูล

โรงแรมแคปซูล

https://pixta.jp/

ถ้าคุณเลือกพักที่โรงแรมแบบประหยัดที่สุดเท่าที่จะหาได้ บอกได้เลยว่าคุณจะได้เจอโรงแรมแคปซูลแน่นอน เพราะโรงแรมประเภทนี่ใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่าที่สุด ขนาดห้องเรียวกังที่ปกติจะนอนได้ครอบครัวเดียว ถ้านำมาแบ่งเป็นแคปซูลแบบในภาพ น่าจะนอนได้หลายสิบคน ยิ่งใช้พื้นที่คุ้มราคาต่อห้องก็ยิ่งถูก

การพักโรงแรมแคปซูลมีปัญหาใหญ่หนึ่งอย่างแน่ๆ นั่นก็คือความเป็นส่วนตัว ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของการถอดเสื้อผ้าที่ทำได้ยาก หรือห้องน้ำที่ต้องใช้ร่วมกัน แต่ยังรวมไปถึงเรื่องเสียงกรน เสียงโทรศัพท์ นาฬิกาปลุก ซึ่งเป็นปัญหาอันดับหนึ่งที่ทำให้คนไม่อยากใช้โรงแรมแบบนี้กัน และถ้าหากมากันเป็นครอบครัว การจะดูแลเด็กหรือคนแก่นั้นก็ทำได้ลำบากมากๆ

แต่โรงแรมแบบนี้จริงๆแล้วก็มีข้อดีที่โรงแรมแพงๆให้ไม่ได้ อย่างเช่นการได้พบปะกับเพื่อนสัญชาติต่างๆ จากหลากหลายประเภท เพราะการอยู่ห้องเดียวกันทำให้เรามีโอกาสพบปะพูดคุยกันได้ ซึ่งเป็นข้อดีที่โณงแรมทั่วไปไม่มีแน่นอน เป็นต้น นับว่าเหมาะกับนักเดินทางแบบแบคแพคคนเดียวมากกว่า

เดินทางด้วยรถไฟดีกว่า

รถไฟนั้นเป็นวิธีการเดินทางที่ถูกและง่ายที่สุดแล้วสำหรับเดินทางคนเดียว และที่สำคัญคือถูกและประหยัดที่สุดเพราะระบบคมนาคมของญี่ปุ่นออกแบบมาให้รองรับคนจำนวนมาก และราคาต้นทุนขนว่งต่อหัวก็ถูกมากๆ ทำให้การเดินทางเป็นค่าใช้จ่ายส่วนเล็กเท่านั้นสำหรับชีวิตประจำวันของคนญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับไทย

และสำหรับนักท่องเที่ยว ก็ยังมีตั๋วอีกหลายสิบหลายร้อยอย่าง ที่วางขายในญี่ปุ่น ในเครื่องขายตั๋วหน้าสถานี ที่สามารถซื้อได้จากในญี่ปุ่นแบบง่ายๆ ใน30วินาที ไม่ต้องจองล่วงหน้าเช่น
ตั๋ว1-dayนาๆชนิดอย่างเช่น ตั๋ว Tokyo Metro 24 Hours หรือ ตั๋ว1-dayของสาย Yurikamome Line ตั๋วแบบพาสที่ครอบคลุมหลายสายหลายวันเช่น Seishun 18 แบบนี้เป็นต้น

แปลนเที่ยวอย่าแน่นเกิน

ควรทำยังไงเวลาแปลนให้เที่ยวแล้วมีความสุข ไม่ฝืน

1 อย่าพยายามยัดเยียดหลายๆเมืองเข้ามาอยู่ในแปลน
เวลามีจำกัด ถ้าไปหลายเมืองโดยเฉพาะถ้าอยู่ไกลๆกันจะหมดเวลาไปกับการเดินทางซะเยอะ ผมไม่แนะนำเลย ส่วนตัวผมเคยอยู่บริษัททัวร์ คนไทยชอบมากๆ ที่จะรีเควสที่เที่ยวหลายๆที่เข้ามาอยู่ในจำนวนวันที่สั้นๆ อย่างเช่นอยากไป โตเกียว เกียวโต โอซาก้า ฟุกุโอกะ ในระยะเวลา7วัน ถามว่าทำได้มั้ย ก็ได้แน่นอนครับ แต่สนุกมั้ยผมว่าไม่สนุกนะ

สมัยก่อน เหมือนว่าคนไทยจะชอบใส่หลายๆที่มาในการเที่ยวรอบเดียว เพราะถือว่าไปหลายเมืองคุ้มกว่า เพราะสมัยก่อนการเที่ยวต่างประเทศยังแพงอยู่ เที่ยวแต่ละครั้งเหมือนจะเป็นครั้งเดียวในชีวิตสำหรับหลายๆคน แต่จริงๆแล้วถ้าเราลดละเลิกเช่นทัวร์ 7 วันวนอยู่แค่แถวโตเกียวและจังหวัดรอบๆ (ที่เรียกว่าภูมิภาคคันโต) ก็จะประหยัดเวลาที่หายไปกับการเดินทางได้เยอะมาก เมื่อเทียบกับคนที่พยายามไปทั้งโตเกียว โอซาก้า กำแพงหิมะ ฟุกุโอกะ ในเวลาแค่7วัน

2 อย่าฝืนใช้ JR Pass หรือพาสราคาแพงๆ
คนไทยชอบ JR Pass มากๆ แต่ผมว่าถ้าไม่จำเป็นก็อย่าไปใช้ดีกว่า เพราะพอเราซื้อของแพงมาเราจะอยากใช้ให้คุ้ม เป็นการบังคับตัวเองให้ขึ้นรถไฟเยอะๆโดยไม่รู้ตัว เหมือนกินบุฟเฟ่ต์แล้วฝืนกินเกินอิ่มครับ (เว้นแต่ถ้าชอบขึ้นรถไฟเยอะๆ นั่งไกลๆ ก็เหมาะดี)

อย่างถ้าเราลองอ้างอิงวิธีเที่ยวในข้อแรก เที่ยวแค่ในพื้นที่ๆเดียวต่อทริป เช่นหากเรามาเที่ยว 7 วัน โดยที่เที่ยวอยู่แค่ในนารา เกียวโต โอซาก้า สามเมืองที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันคือคันไซ ความจำเป็นในการใช้ JR Pass ราคาหลายหมื่นเยนก็จะหมดไป เปลี่ยนมาใช้ตั๋ว Kyoto 1-day Bus Pass วันละ 500 เยนในวันที่อยู่ที่เกียวโต แล้วก็ใช้ Osaka Subway Enjoy Eco 1-day Pass วันละ 800 เยน ในวันที่อยู่โอซาก้า และการเดินทางจากเกียวโตไปโอซาก้าหรือนาราก็จ่ายตามจริงเอา เป็นต้น แบบนี้จะประหยัดไปได้หลายหมื่นเยนเลย

แต่ถ้าชอบทัวร์แบบที่เรียกกันว่าชะโงกทัวร์ ไปเยอะๆ หลายๆที่ในรอบเดียว เพราะไม่มีโอกาสมาบ่อยๆ อันนี้ก็คงไม่ว่ากันครับ นี่เป็นแค่เทคนิคที่เราแนะนำ เวลาลงมือจริงเอาที่ตัวเองมีความสุขสำคัญกว่า

นั่งเครื่องบินภายในประเทศญี่ปุ่น

เครื่องบินโลว์คอสได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในไทย และในญี่ปุ่นก็เช่นกัน

เส้นทางหลักๆของโลว์คอสภายในญี่ปุ่น

Tokyo - Sapporo
โดยสายการบิน Vanilla Air, Skymark, Spring Japan

Tokyo - Fukuoka
โดยสายการบิน Skymark, Peach

Tokyo - จังหวัดต่างๆในคิวชูนอกจาก Fukuoka
โดยสายการบิน Solaseed Air

Tokyo - Hiroshima
โดยสายการบิน Spring Japan

Osaka - Sapporo
โดยสายการบิน Peach

Osaka - Sendai
โดยสายการบิน Peach

อันนี้เทคนิคจากผมเอง สำหรับระยะทางใกล้ๆ เช่นโตเกียว-โอซาก้านั้น ไม่เหมาะจะนั่งเครื่องบิน เพราะแทบไม่เร็วกว่ารถไฟชินกังเซ็น หากรวมเวลาเดินทางไปสนามบิน เทคออฟ แลนดิ้ง และราคาก็ต่างกันไม่มาก เพราะงั้นเมื่อนับเวลาและเงินค่าตั๋วแล้ว บางทีระยะใกล้เกินการนั่งเครื่องบินจะไม่คุ้มเท่ากับการนั่งชินกังเซ็น เพราะงั้นนั่งชินกังเซ็นไปดีกว่า แต่หากระยะทางเริ่มไกลมากขึ้น เช่นเส้นทางต่างๆที่แนะนำไปด้านบนละก็ เครื่องบินโลว์คอสจะเริ่มคุ้มค่าคุ้มเวลาขึ้นมาแล้ว

เทคนิคเลเวลสูง

ถ้าทำตามได้ แผนเที่ยวก็จะมีความยืดหยุ่น ไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง และช่วยประหยัดได้อีกมาก
ตัวอย่างเช่น การไม่จองโรงแรมล่วงหน้า เหมือนจะน่ากลัว แต่จริงๆแล้วทำให้ไม่ต้องบังคับตัวเองให้เดินทางตามเวลา เจอที่ไหนน่าสนใจก็อยู่นานๆได้ เปลี่ยนใจพักเมืองอื่นที่แวะก็ได้ เหมาะกับนักเที่ยวหลายคนที่ชอบทำตามอารมณ์ เพราะจะมีความสุขกว่าต้องทำเวลาเยอะมาก

แต่ทั้งนี้ถ้ามือใหม่ อย่าเพิ่งทำตามถ้าไม่มั่นใจ

ไม่จองโรงแรมล่วงหน้า ???

ไปเที่ยวต่างประเทศใครๆก็อยากจองล่วงหน้า แต่รู้หรือไม่ว่าการจองช้าๆแต่ถูกกว่าจองเร็วก็มี อย่างเช่นในช่วงที่นักท่องเที่ยวน้อยและโรงแรมราคาถูกเป็นต้น

อันนี้ จากประสบการณ์ผู้เขียนที่เคยทำงานในโรงแรมญี่ปุ่นมาก่อนครับ บางโรงแรมที่ว่างจนถึงวันสุดท้ายมักมีนโยบายเรียกลูกค้าเพิ่มโดยการลดราคาช่วงโค้งสุดท้ายก่อนวันพักจริงซักหนึ่งหรือสองวัน หรือบางที่แค่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนเที่ยงคืนก็มี (เพราะว่าขายถูกๆ ก็ยังดีกว่าปล่อยห้องว่าง)

โรงแรมสามารถตั้งให้ห้องพักของตัวเองที่ยังขายไม่ออกจนวันสุดท้าย หั่นราคาลงได้ เมื่อถึงวันเวลาที่กำหนดครับ แต่ทั้งนี้แล้วจะทำหรือไม่ทำก็แล้วแต่นโยบายแต่ละโรงแรม

สำหรับมือใหม่ที่ต้องการความชัวร์ หรือคนที่เที่ยวในช่วงพีคๆ หรือคนที่พาเด็กและคนแก่มาด้วย วิธีนี้ผมไม่แนะนำเลยนะครับ แต่สำหรับผู้เชี่ยวชาญญี่ปุ่นที่มาเที่ยวอยู่บ่อยครั้ง หรือเที่ยวคนเดียวแบบแบคแพค ไม่เรื่องมากเรื่องโรงแรม ถ้าได้ห้องเล็กคับแคบหรือแคปซูลก็ไม่บน คราวหน้าลองมาในช่วงที่เป็น Low Season ดูนะครับ โดยจองโรงแรมไว้แค่คืนแรกๆ แต่คืนหลังๆปล่อยว่าง ก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงแปลนเที่ยวของวันหลังๆได้ตามใจครับ จะเปลี่ยนเมืองที่ไปเที่ยวภายหลังก็ทำได้ไม่ยาก

เอาเสื้อผ้ามาน้อยๆ

เสื้อผ้าไม่ต้องเยอะ ไม่ต้องเท่าจำนวนวันก็ได้ นี่เป็นหนึ่งในเทคนิคที่คนที่จะมาแบบ Backpacker ที่ไม่อยากลากกระเป๋าใหญ่ๆ หรือแค่อยากให้กระเป๋ามีที่ใส่ของฝากเยอะๆ ควรจะจำไว้เลยหากทำได้ตามนี้รับรองของที่ต้องแพ็คจะเบาลงเกินครึ่ง

1 เลือกพักโรงแรมที่มี Coin Laundry หรือเครืองซักผ้าหยอดเหรียญ
เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญเป็นอะไรที่หาง่ายมากๆในญี่ปุ่น ไม่ว่าจะโรงแรมแบบไหน ทั้งแคปซูล โฮสเตล เรียวกัง หรือ Business Hotel ก็มักจะมีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ เวลาจองขอให้ลองหาคำว่า Coin Laundry ในเว็บข้อมูลของโรงแรมนั้นๆก่อน ที่ต้องระวังก็คือ โรงแรมระดับหรูหลายดาว หลายที่ก็มักจะไม่มีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ แต่จะกลายเป็นบริการซักผ้าที่มีราคาแพงกว่าแทน หากอยากประหยัดก็ควรเลือกโรงแรมที่มีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญที่เราสามารถไปกดใช้เองได้มากกว่า

2 เอาเสื้อผ้ามาไม่เกินจำเป็น
เสื้อกันหนาวที่อุ่นที่สุด เอามาแค่หนึ่งตัวก็พอ หลังจากนั้นให้เตรียมเสื้อตัวในเยอะหน่อย เพราะถ้าอุ่นไม่พอเอามาใส่ทับได้ แต่ก็ไม่ต้องเอามาพอดีจำนวนวันหากใช้เทคนิคพักโรงแรมที่มีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญแบบที่กล่าวไปด้านบน สำหรับเสื้อผ้าที่ชิ้นเล็ก เช่นถุงเท้าและชั้นใน จะเอามาให้พอดีวันก็ได้ แต่จริงๆแล้วหากมีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญก็ไม่ได้จำเป็นอะไร

หากทำตามนี้ได้หมดละก็ ลดปริมาณเสื้อผ้าที่เอามาได้มากกว่าครึ่งเลย โดยส่วนตัวผมใช้เสื้อผ้าแค่ประมาณ 3-4 วัน สำหรับทริปสิบวันได้ไม่มีปัญหา แต่ทั้งนี้ คนที่ไม่อยากซักผ้าบ่อย ก็ต้องพิจารณาจุดนี้ด้วย

เป็นยังไงบ้างกับเทคนิคสั้นๆง่ายๆที่เราแนะนำในวันนี้ หากมีเทคนิคเกี่ยวกับอะไรที่อยากรู้อีก สามารถถามได้ที่เพจของเรานะ

Ando Natsuki (อันโด นัทสึกิ)

ผมรักเมืองไทยและพูดภาษาไทยได้นะครับ
I love Thailand and I can speak Thai.

My specialization is in traveling unproductively. Like spending 14 hours a day on slowest local trains from northernmost to southernmost of Japan, doing basically nothing and contributing zero to the society. Super fun.
I do know a little about Local Specialty, Train, Transportation, Gadget, Game, and Tech. When you have exhausted your option of better experts try your luck here.

tokyolocalist.com