เมื่ออากาศเริ่มอุ่นขึ้น ผู้เขียนมักตื่นเต้นอยู่เสมอว่าเมื่อไหร่ดอกซากุระจะบาน เพราะมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผู้เขียนค่อนข้างจะชะล่าใจ ไม่รีบหาเวลาไปดูซากุระ ปรากฏว่าในช่วงนั้นเกิดพายุเข้า ฝนตกหนักติดกัน 2-3 วัน ทำให้ดอกซากุระที่บานสะพรั่งนั้นร่วงก่อนกำหนด (ช่างเป็นอะไรที่น่าเศร้าจริงๆค่ะ) หลังจากเหตุการณ์ในปีนั้นผู้เขียนจึงคอยตรวจสอบ 'พยากรณ์ซากุระ' ในแต่ละปีตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

และแล้วครั้งนี้ก็ได้เวลาอันเหมาะสมที่ผู้เขียนจะหาเวลาเพื่อไปดูซากุระกับเพื่อนสนิทคนจีน เราจึงนัดหมายกันที่ สถานีเมกุโระ เพื่อทานอาหารกลางวันและเดินเล่นกันค่ะ

หลังจากที่ได้เจอกับเพื่อน เราสองคนก็เดินหาร้านอาหารเพื่อเติมพลังก่อนไปเดินชมซากุระกันค่ะ เนื่องจากช่วงหลังมานี้เพื่อนสนิทของผู้เขียนเปลี่ยนมาทานมังสวิรัติ งดเนื้อ งดปลา เราจึงเดินวนหาร้านอาหารค่อนข้างนานที่เมกุโระ แล้วเราก็มาจบลงที่ร้านที่มีชื่อว่า 'Karabinka' ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เรามาทานร้านนี้ (คราวก่อนผู้เขียนได้มีโอกาสมาทานบุฟเฟต์อาหารไทยที่เมกุโระค่ะ)

ร้าน Karabinka เป็นร้านที่เสริฟอาหารในสไตล์เอเชีย(ไทย,เวียดนาม) ให้บริการมื้อกลางวันระหว่างเวลา 11:30am-2:30pm ในราคาเพียงแค่ ¥1000 เยน (ราวๆ300บาท) ผู้เขียนสั่งเซทกะเพรา และเพื่อนสั่งเซทผักสุขภาพ

ช่วงนี้คนญี่ปุ่นที่ชื่นชอบอาหารไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นข้าวมันไก่ แกงเขียวหวาน และแม้กระทั่ง "ผักชี" สังเกตุได้จากในรูปว่า ทางร้านให้ผักชีมาเยอะมากค่ะ

หลังจากอิ่มท้อง เราก็แวะหากาแฟดื่มแก้ง่วง ก่อนเดินเล่นมาเรื่อยๆจนถึงแม่น้ำเมกุโระ และแล้วผู้เขียนก็ต้องตะลึงในความงดงามของซากุระสีชมพูอ่อนๆที่บานเรียงกันเป็นแถวริมแม่น้ำ ช่างเป็นภาพที่สวยงามมากๆเลยค่ะ

กล่าวกันว่าดอกซากุระเป็นดอกไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีนตอนใต้ เกาะไต้หวัน และหมู่เกาะโอกินาว่าในประเทศญี่ปุ่น ส่วนตัวแล้วผู้เขียนยังคิดว่าดอกซากุระเป็น 1 ในดอกไม้ที่สวยที่สุดในโลกจากบรรดาดอกไม้หลายๆชนิดเลยล่ะ

ลักษณะเด่นของซากุระที่คนอยากดูต้องระวังก็คือ เมื่อถึงเวลาร่วงก็จะร่วงพร้อมกันหมดทั้งต้น เพราะงั้นถ้าไม่ระวังและมาช้าไปละก็ โอกาสที่จะเจอแต่กิ่งแห้งๆมีเยอะเชียวละ