เที่ยวญี่ปุ่นครั้งที่สอง Second time in Japan!
เราเคยเห็นบทความมากมาย ที่แนะนำคนไปญี่ปุ่นครั้งแรก ว่าควรไปที่ไหน ซึ่งก็มักจะแนะนำที่ๆดังๆเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นอาซาคุสะ อาเมโยโกะ ชินไซบาชิ เป็นต้น จริงๆแล้วพวกนี้แค่น้ำจิ้มเท่านั้น ถ้าเราจะไปครั้งที่สองละก็ ได้เวลาเลื่อนระดับจาก "ที่ๆใครก็รู้จัก" เป็น "ที่ที่คนไทยยังไม่รู้จักมาก" หรือยัง
มาออกแบบการไปญี่ปุ่นรอบต่อไป ให้แปลกไม่เหมือนใครกัน
เมืองหลวงแห่งตะวันออก ที่ใครๆก็ต้องไปซักครั้ง
โตเกียว
ชิโมคิตะซาวะ
ย่านช้อปปิ้งอีกแห่งไม่ไกลจากใจกลางเมือง แม้ไม่ดังเท่าชิบุย่า ชินจูกุ แต่มีเรื่องหนึ่งที่ "ชิโมคิตะซาวะ" (Shimo-Kitazawa) มักถูกยกย่องให้เป็นเบอร์หนึ่ง นั่นก็คือ "เสื้อผ้ามือสอง"
เรื่องความนิยม จริงๆแล้วไม่ใช่แค่คนญี่ปุ่น เดี๋ยวนี้คนต่างชาติเองก็เริ่มจะไปเยี่ยมเยือนที่แห่งนี้กันบ้างแล้ว เพราะว่าเป็นที่รู้กันว่า สินค้ามือสองในญี่ปุ่นมีการทำความสะอาด การจัดการสต็อก และมาตรฐานราคาที่ค่อนข้างดี! เพราะญี่ปุ่นเองนั้นก็เป็นประเทศแห่งการรีไซเคิล รีไซเคิลทุกอย่างตั้งแต่ขยะในครัวเรือน นิตยสาร กระดาษลัง พลาสติก เครื่องใช้ไฟฟ้า โน้ตบุค แล้วก็มีเสื้อผ้านี่แหละ
เสื้อผ้านั้น เป็นหนึ่งในสินค้ามือสองที่ราคาตกค่อนข้างเยอะ (เทียบกับสินค้าประเภทอื่น เช่นมือถือ โน้คบุค) เพราะเป็นของสวมใส่นั่นเอง ซึ่งถ้าท่านผู้อ่านไม่มีปัญหากับเสื้อผ้ามือสองละก็จะสามารถประหยัดได้มากมายเลย ส่วนตัวผู้เขียนเองนั้น หลังจากตรวจสอบราคาบ่อยๆพบว่า เสื้อโค้ต เสื้อกันหนาวต่างๆที่ซื้อมานั้น ราคาถูกกว่าราคาจริงมากถึง60-70% เลยทีเดียว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความนิยมของแต่ละแบรนด์และเวลาด้วย ซึ่งผมเองไม่ค่อยกังวลเรื่อง "คอลเลคชั่น" เท่าไหร่ กล่าวคือไม่ได้ซื้อของที่เพิ่งออกใหม่ แต่ซื้อดีไซน์ที่ออกมาแล้วสามสี่ปี ทำให้ราคาลงไปเยอะมาก หากซื้อคอลเลคชั่นที่เพิ่งออกไม่นาน เช่นครึ่งปีหรือปีนึง ก็อาจจะถูกลงไม่มาก
ทั้งหมดนี้ ผมเป็นแค่มือสมัครเล่นในโลกแฟชั่น ถ้าเหล่านักช้อปตัวจริงมาเองละก็ อาจจะได้เจอของดีๆที่ถูกยิ่งกว่านี้ก็ได้
สวนพฤกษศาสตร์ ชินจูกุเกียวเอ็น
สวนสาธารณะที่เก็บค่าเข้าเล็กน้อยที่200เยน โดยภายในเป็นจุดชมดอกไม้และพืชพันธ์ที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี ทำให้มีพืชและดอกไม้นานาชนิดแบ่งพื้นที่กันอยู่อย่างเป็นสัดเป็นส่วนสวยงาม และมีการดูแลเป็นอย่างดี ไม่มีมุมไหนที่ดูโทรมแม้แต่น้อย
จุดเด่นของสวนนี้คือ เป็นสวนที่ถูกออกแบบให้เป็นที่ชมดอกไม้โดยเฉพาะ และเป็นสวนที่สวยตลอดปีทุกฤดูกาล เพราะออกแบบให้มีสัดส่วนของดอกไม้และต้นไม้ที่สวยในทั้งสี่ฤดู ซึ่งในตามธรรมชาติหรือสวนสาธารณะทั่วไปที่ไม่ได้ออกแบบไว้นั้น การที่จะได้เห็นพื้นที่เล็กๆที่เดียวสวยตลอดทั้งสี่ฤดูนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย แต่ถ้าเป็นที่นี่ละก็ ไม่ว่าไปเมื่อไหร่ก็สวยแน่นอน
แต่ยังไงซะ ที่นี่ก็ยังเป็นที่นิยมที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วงอยู่ดี
คากุระซากะ
ถ้าคุณไปที่นี่ตั้งแต่ครั้งแรกที่ไปญี่ปุ่น ยินดีด้วย คุณน่าจะเป็นคนไทยที่เชี่ยวชาญเรื่องญี่ปุ่นพอสมควรเลย!
คากุระซากะ คือย่านการค้าชิคๆ อาหารอร่อย คาเฟ่สวย ช้อปปิ่งเบาๆ บรรยากาศเยี่ยม แถมอยู่ใจกลางโตเกียว ถ้าเทียบกับของคนไทยก็คงประมาณสยามสแควร์เลยทีเดียว
แต่ที่นี่สะอาด มีร้านค้ามากมายหลายประเภท ไม่ได้มีแต่อาหารหรือเสื้อผ้า มีทั้งร้านของแบรนด์ยักษ์ใหญ่ และร้านเล็กๆที่เป็นกิจการส่วนตัวของเหล่าช่างฝีมือผู้ซึ่งทำของขายเอง เปิดร้านเล็กๆเอง ไม่ว่าจะเป็นขนมโบราณ งานฝีมือ หรือเสื้อผ้าเป็นต้น ซึ่งเหล่ายอดฝีมืออืสระที่เปิดกิจการเล็กๆเอง ไม่ยอมเป็นลูกจ้างใคร แบบนี้ ญี่ปุ่นเรียกนี้ว่า โชะคุนิน (職人)
โดยรวมแล้ว ทั้งความหลากหลายของร้านและบรรยากาศในการเดินนั้นยอดเยี่ยมมากๆ ส่วนวิธีเดินคอร์สนี้ที่แนะนำคือ
1 เริ่มเดินจากสถานี อีดาบาชิ (Iidabashi) โดยออกจากสถานี มุ่งมาทางตะวันตก จะเห็นเนินที่มีถนนคนเดินค่อนข้างกว้าง และมีร้านรวงสองข้างทางมากมาย นั่นแหละคือ "คากุระซากะ"
2 เดินไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก แวะชิมของที่อยากกิน แวะช้อปของที่อยากช้อป โดยย่านการค้าแห่งนี้ค่อนข้างจะไม่ร้อนมากเพราะอาคารสองข้างทางสูงพอที่จะบังแแดด(ยกเว้นตอนเที่ยง) นอกจากนี้ลมก็ยังพัดดีพอสมควรเพราะเป็นทางเดินที่เป็นทางตรงยาว
3 พอเดินไปเรื่อยๆ จะเริ่มเงียบ ร้านรวงจะเริ่มน้อยลง บ้านคนจะเริ่มมากขึ้น และที่ปลายทางจะมีสถานีคากุระซากะ (Kagurazaka) รออยู่ สามารถนั่งรถไฟโตเกียวเมโทรจากสถานีนี้ได้
หรือหากกลัวเหนื่อย จะเริ่มจากสถานีคากุระซากะก็ย่อมได้ ถ้าเดินทางจากสถานีนี้มุ่งไปทางสถานีอีดาบาชิ ก็จะได้เดินลงเนินแบบชิวๆ