ทานุกินั้นเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตระกูลเดียวกับจิ้งจอกแรคคูนแต่มีขนาดที่เล็กกว่าโดยขนาดโดยประมาณ50-60cmและน้ำหนักอยู่ที่ 3-10kg มีสีขนออกไปทางน้ำตาลไหม้และตัวอวบกลมอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง ในอดีตมีความเชื่อว่าเจ้าสัตว์ชนิดนี้แท้จริงแล้วเป็นปีศาจที่สามารถแปลงกายเป็นมนุษย์ได้รวมถึงสามารถขยายขนาดอัณฑะของตนเพื่อแกล้งหลอกผู้คนได้ด้วยซึ่งที่มาที่ไปของเรื่องนี้ก็พอมีมูลเหตุอยู่นะ

ตามความเชื่อในอดีตแล้วทานุกิเป็นปีศาจที่ชื่นชอบการดื่มสุราเป็นอย่างมากจึงทำให้มันมักจะแปลงกลายเป็นมนุษย์เพื่อเข้าไปหาสุราดื่มอยู่บ่อยครั้งซึ่งพรสวรรค์ในเรื่องนี้ก็มีส่วนคล้ายกับสุนัขจิ้งจอกหรือที่เรียกกันว่า คิสึเนะ เพราะสัตว์ชนิดนี้ก็ได้ชื่อว่าเป็นสัตว์ที่ความจริงแล้วก็เป็นปีศาจแปลงกายมาเช่นกันหรือถ้าจะให้เรียกก็คงเรียกได้ว่าคู่ปรับตลอดกาลเพราะเจ้าสัตว์ทั้งสองชนิดนี้ต่างมีวิถีชีวิตในตำนานที่ต่างกันโดยสิ้นเชิงโดยฝั่งทานุกิจะถูกมองว่าเป็นสัตว์ที่นิสัยไม่ดี ชอบขโมยและส่งเสียงน่ารำคาญแต่กับสุนัขจิ้งจอกจะถูกมองว่าเป็นสัตว์ที่ดูสง่าและสวยงามแต่ก็แฝงไว้ด้วยความเจ้าเล่ห์และอันตรายที่อาจคาดไม่ถึง

หากจะพูดถึงความเจ้าเล่ห์หรือเหลี่ยมคมใดๆในการหลอกมนุษย์ ถ้าคิดว่าสุนัขจิ้งจอกแพรวพราวแล้วล่ะก็ทานุกิซับซ้อนกว่ามากนักเพราะตามตำนาน สุนัขจิ้งจอกมันจะเแปลงกายเป็นหญิงสาวแสนสวยหรือมนุษย์เพื่อหลอกล่อมนุษย์ให้ติดกับแต่สำหรับเจ้าทานุกิแล้ว มันไม่เพียงแปลงเป็นแค่มนุษย์แต่ยังรวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆอีกด้วยเพื่อใช้ในการหลอกหรือขโมยของจากมนุษย์จนในบางครั้งก็มีความเชื่อของคนญี่ปุ่นเวลาเจอพบกับท่อนซุงขนาดยักษ์มาขวางทางไว้จนเกิดอุบัติเหตุหรือจู่ๆก็เห็นอะไรบางอย่างพาดลงมาตัดหน้ารถ เขาเล่ากันว่าเป็นฝีมือของทานุกิที่ขยายขนาดอัณฑะของมันออกมาลวงตามนุษย์

จึงได้มีคำกล่าวว่า คิซึเนะยังมีเรื่องที่ไม่รู้แค่เจ็ดแต่ทานุกิมีถึงแปดซึ่งความหมายของมันจริงๆก็คือ ทานุกินั้นมีความซับซ้อนเสียยิ่งกว่าจิ้งจอกที่ว่าเจ้าเล่ห์เสียอีก

ที่ชาวญี่ปุ่นกล่าวว่าเจ้าทานุกิเป็นสัตว์เจ้าเล่ห์และชอบขโมยของนั้นก็สามารถเชื่อมโยงได้จากพฤติกรรมจริงๆของสัตว์ชนิดนี้ในปัจจุบันที่มักจะชอบแอบเข้าไปตามบ้านเรือนผู้คนและขโมยอาหารและสิ่งของและเหตุผลที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะจำนวนประชากรของพวกมันที่มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนอาหารไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตทำให้พวกมันต้องเข้ามาถึงที่อยู่มนุษย์เพื่อหาอาหารและก็จะมีอยู่บ่อยครั้งที่โดนรถชนหรือโดนจับได้และนั่นก็มักจะเป็นจุดเริ่มต้นของอุบัติเหตุต่างๆเวลาขับรถในที่มืดหรือตามป่าเขา

จึงเป็นที่มาว่าทำไมเจ้าทานุกิถึงได้สร้างความวุ่นวายและทำให้เกิดอุบัติเหตุต่อมนุษย์ได้อยู่บ่อยครั้งแต่นั่นก็มาจากการที่มีการตัดไม้ทำลายป่าจนขาดแคลนทรัพยากรและพิ้นที่ป่าก็เริ่มเป็นเมืองเข้าไปมากทุกทีจึงทำให้พวกมันต้องดิ้นรนเพื่อมีชีวิตรอดก็เป็นได้

เรื่องราวความพิศวงของทานุกิไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องเล่าปากต่อปากหรือนิทานปรัมปราเท่านั้นแต่มีไปถึงขั้นอนิเมชั่นที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของทานุกิตามคำบอกกล่าวในอดีตซึ่งอนิเมชั่นเรื่องนั้นมีชื่อว่า Heisei Tanuki Gassen Ponpokoโดยผู้สร้าง Studio Ghibli จะได้เห็นทั้งวิธีการแปลงกายของทานุกิ การหลอกมนุษย์รวมไปถึงการฝึกวิชาซึ่งสิ่งต่างๆในเรื่องล้วนเกิดขึ้นมาจากจินตนาการและความเชื่อจริงๆของชาวญี่ปุ่นนำมาผสมผสานกันได้อย่างลงตัวจนได้เป็นอนิเมชั่นแนะนำเลยว่าทำให้เราเข้าใจเจ้าสัตว์ชนิดนี้มากขึ้นและยังได้แง่คิดเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันกับสัตว์ชนิดนี้ในชีวิตจริงอีกด้วย