All About Japan

เริ่มแล้ว! Sagamiko Illumillion 2022 งานประดับไฟ ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งภูมิภาคคันโต

อาหาร & เครื่องดื่ม ร้านอาหาร ขนมหวาน เทศกาล ภูเขา ที่ราบสูง ธีมปาร์ค รถบัส อนิเมะ เที่ยวกลางคืน Illumination งานอีเวนท์ ซานริโอ้ วิวยามค่ำคืน Kanagawa Kanto
เริ่มแล้ว! Sagamiko Illumillion 2022 งานประดับไฟ ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งภูมิภาคคันโต

หากพูดถึงฤดูหนาวในญี่ปุ่น สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ "งานเทศกาลประดับไฟ" (Illumination) วันนี้เราจะมาแนะนำงานเทศกาลประดับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของภูมิภาคคันโต (Kanto) กับ "Sagamiko Illumillion 2022" ในปีนี้ได้จัดทำร่วมกับคาแรคเตอร์น่ารักจาก San-X ที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี แก๊งค์มุมห้อง Sumikko Gurashi จะน่ารักขนาดไหนไปชมพร้อมกันเลยดีกว่าค่ะ

รู้จักกับงานเทศกาล Sagamiko Illumillion 2022

รู้จักกับงานเทศกาล Sagamiko Illumillion 2022

ทางเข้า Sagamiko Illumillion 2022

งานประดับไฟ Sagamiko Illumillion เป็นงานประดับไฟประจำปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งติด 1 ใน TOP 3 ของภูมิภาคคันโต (Kanto) โดยงานนี้ได้จัดขึ้นที่ซากามิโกะ รีสอร์ท เพลชเชอร์ ฟอเรสต์ (Sagamiko Resort Pleasure Forest) ในเมืองซากามิฮาระ (Sagamihara) จังหวัดคานางาว่า (Kanagawa) หากถามว่ายิ่งใหญ่ขนาดไหน จะบอกให้ว่าไฟที่ใช้ในงานนี้เค้าใช้ถึง 6 ล้านดวง ท่ามกลางพื้นที่ประมาณ 40,000 ตารางเมตร หรือเรียกง่ายๆ ว่าประดับไฟกันตั้งแต่ตีนเขายันไปถึงยอดเขากันเลยทีเดียวค่ะ !!

วันนี้พวกเราทีมงาน AAJ ก็ได้ไปชมสถานที่จริงกันมาแล้ว บอกเลยว่าถ้าใครได้มาเที่ยวญี่ปุ่นช่วงฤดูหนาวล่ะก็ ไม่ควรพลาดกับจุดชมไฟสุดยิ่งใหญ่แห่งนี้เลย

เปิดตัวแก๊งค์มุมห้องสุดน่ารัก Sumikko Gurashi จาก San-X

เปิดตัวแก๊งค์มุมห้องสุดน่ารัก Sumikko Gurashi จาก San-X

แก๊งค์มุมห้อง Sumikko Gurashi

งานเทศกาล Sagamiko Illumillion แห่งนี้ ในแต่ละปีที่นี่จะมีตัวการ์ตูนหรือคาแรคเตอร์ต่างๆ มาร่วม Collaboration ด้วย และสำหรับปีนี้ได้คาแรคเตอร์ได้เข้าร่วมก็คือ เจ้าแก๊งค์มุมห้อง Sumikko Gurashi จาก San-X คาแรคเตอร์ขวัญใจของหลายๆ คนนั่นเองค่ะ

ส่วนใครที่ไม่รู้จัก เราจะขอแนะนำคร่าวๆ ว่าเจ้าแก๊งค์มุมห้องนี้ประกอบไปด้วยตัวหลัก 6 คาแรคเตอร์คือ หมีขาว (Shirokuma), เพนกวิ้น? (Penguin?), หมูชุปแป้งทอด (Tonkatsu), หางกุ้ง (Ebi fries no shippo), แมว (Neko) และ จิ้งเหลน (Tokake) ซึ่งจริงๆ คือไดโนเสาร์ที่รอดชีวิตมาจากดึกดำบรรพ์นั่นเองค่ะ

เจ้าคาแรคเตอร์ทั้งหมดนี้อิงมาจากนิสัยจริงในด้านต่างๆ ของคนญี่ปุ่นค่ะ แม้ว่าเนื้อเรื่องไม่หวือหวาแต่ก็กินใจหลายๆ คนได้เลยทีเดียว

เริ่มต้นกันด้วยการไปสู่โซนยอดเขา พบกับเหล่า Sumikko Gurashi

เริ่มต้นกันด้วยการไปสู่โซนยอดเขา พบกับเหล่า Sumikko Gurashi

สายรุ้งสมชื่อเรนโบว์ลิฟต์ น่ารักมากจริงๆ

หลังจากที่แนะนำข้อมูลคร่าวๆ เกี่ยวกับตัวละครกันไปแล้ว กลับมาที่งานประดับไฟของเรากันดีกว่าค่ะ งานประดับไฟของที่นี่จะแยกออกเป็นโซนต่างๆ ใครที่อยากไปถ่ายรูปน่ารักๆ กับแก๊งค์ Sumikko Gurashi ล่ะก็ต้องนั่งเรนโบว์ลิฟต์ (Rainbow Lift) ขึ้นไปที่ยอดเขานะคะ

เรนโบว์ลิฟต์ที่ว่าก็ตามชื่อเลยค่ะ เป็นลิฟต์ที่มีหน้าตาเหมือนลิฟต์ตามลานสกีทั่วไปนี่ล่ะ ในช่วงงานเทศกาลบริเวณนี้จะตกแต่งไฟเป็นสายรุ้งหลากสีสันอันงดงามและน่าตื่นตาตื่นใจ เหมือนเรากำลังลอยล่องอยู่บนสายรุ้งจริงๆ ประทับใจมากค่ะ จุดนี้เรียกได้ว่าเป็น 1 ในไฮไลท์ของงานเลยก็ว่าได้

ข้อควรระวัง:ใครที่ไม่เคยมีประสบการณ์การนั่งลิฟต์แบบนี้ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนขึ้นเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากลิฟต์ค่อนข้างเปิดโล่งเหมือนนั่งชิงช้า และใครที่ไปกับเด็กเล็กต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษด้วยนะคะ

แบ่งออกเป็นโซน ถ่ายรูปเพลินมาก

เมื่อไปถึงด้านบนเราจะพบกับการประดับไฟที่สุดแสนจะอลังการ มีมุมถ่ายรูปเยอะมากๆ ไม่ว่าจะเป็นขบวนรถไฟ Sumikko Gurashi, สโนว์โดม Sumikko Gurashi หรือแม้แต่โซน Sumikko Gurashi เวอร์ชั่นฮาโลวีน เป็นต้น หากขึ้นไปจังหวะดีก็จะได้พบกับมาสคอต Sumikko Gurashi ตัวใดตัวหนึ่งด้วยนะคะ น้องมาสคอตตัวกลมๆ น่ารักสุดๆ แต่ถ้าไม่เจอก็ไม่ต้องเสียใจไป เพราะแค่ความสวยงามของประดับไฟภายในงานก็ทำให้ใจเราก็ฟูได้อย่างแน่นอน

วันนี้โชคดีเจอมาสคอตออกมาต้อนรับทั้ง 2 ตัวเลย

นอกจากจุดถ่ายรูปแล้ว ที่นี่ยังมีเครื่องเล่นให้เราได้เล่นกันอีกด้วยนะคะ ทั้งชิงช้าสวรรค์ขนาดยักษ์ที่จะพาเราชมไฟในมุมสูง รวมไปถึงวิวกลางคืนของเมืองซากามิฮาระ หรือถ้าใครชอบแบบใจเต้นตึกตักก็มีเครื่องเล่นหวาดเสียวคล้ายกับเฮอร์ริเคนให้เราได้ท้าประลองความกล้าด้วยเช่นกัน (ถ้าเป็นช่วงฤดูหนาว ก่อนตัดสินใจเล่นอย่าลืมใส่ผ้าพันคอหรืออุปกรณ์กันหนาวให้ดีนะคะ)

บรรยากาศของโซนด้านล่างที่เน้นความสวยงาม

บรรยากาศของโซนด้านล่างที่เน้นความสวยงาม

เรามาดูด้านล่างเขากันบ้างดีกว่าค่ะ โซนด้านล่างจะแตกต่างจากด้านบนคือเน้นความสวยงามเป็นหลัก เนื่องจากมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างทำให้ต้องใช้เวลาเดินจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งสักพักเลย (แนะนำให้ใส่รองเท้าผ้าใบนะคะ) ก่อนอื่นขอแนะนำโซนทุ่งดอกกุหลาบปลอมที่ประดับด้วยไฟหลากสีสัน เป็นจุดถ่ายรูปที่แนะนำมากๆ เลยค่ะ

บริเวณใกล้เคียงกับโซนดอกไม้ก็เป็นโซนทะเลแห่งแสง (Sea of Light) ซึ่งประดับตกแต่งไฟด้วยสีน้ำเงินทั้งหมดจำลองเป็นทะเล ให้ความรู้สึกเหมือนตัวเรากำลังล่องลองอยู่กลางทะเลอย่างแท้จริงเลยค่ะ ถึงในรูปอาจจะดูมืดไปหน่อย แต่ของจริงสวยมากๆ เลยนะคะ

โชว์แสงสีเสียงอันสุดตระการตากับ Heart Full Illumination

โชว์แสงสีเสียงอันสุดตระการตากับ Heart Full Illumination

จุดสุดท้ายที่เราจะไม่พูดถึงไม่ได้เลยกับไฮไลท์ของงานประดับไฟปีนี้กับโชว์ "Heart Full Illumination" ที่มาในธีมหัวใจ พร้อมด้วยเอฟเฟ็กต์แสงสีเสียงอันแสนอลังการแบบจัดเต็ม ปกติแล้วโชว์ของงานประดับไฟจะเปลี่ยนธีมไปทุกๆ ปีค่ะ

มีทีมงานรอบข้างกระซิบมาว่าโชว์ของปีนี้ทำได้ดีกว่าปีก่อนๆ มากด้วยนะ นอกจากจะประทับใจกับโชว์แล้ว ยังเป็นจุดถ่ายรูปที่สวยมากๆ อีกหนึ่งจุดด้วย ขอแนะนำเลยค่ะ

แวะเติมพลังกับอาหารและขนมสุดน่ารักมาในธีม Sumikko Gurashi

แวะเติมพลังกับอาหารและขนมสุดน่ารักมาในธีม Sumikko Gurashi

สงสัยน้องหิวเลยแอบชิมซะคุ้กกี้แดงเลย 55

ใครที่กังวลว่าถ้ามาแล้วไม่รู้จะรับประทานอะไร ขอบอกเลยว่าไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะที่ Sagamiko Resort Pleasure Forest เค้ามีโซนฟู้ดคอร์ท (Food Court) ให้บริการอาหารหลากหลาย ตั้งแต่ราเม็ง แกงกะหรี่ ไปจนถึงเมนูพิเศษธีม Sumikko Gurashi นี้เลย

สำหรับเมนูจานหลักมีให้เลือกทั้งหมด 5 อย่างด้วยกันค่ะ อาทิ ข้าวห่อไข่ สปาเก็ตตี้ที่ตกแต่งมาในสไตล์ Sumikko Gurashi ครั้งนี้เราได้เลือกเมนูข้าวห่อไข่ Sumikko Plate และข้าวแกงกะหรี่ Ebi Fried no Shippo no Hoshi Curry (ชื่อยาวมากก) รสชาติกลมกล่อม เด็กทานได้ผู้ใหญ่ทานดี เน้นความน่ารักเสียมากกว่า ในส่วนของของหวานก็มีทั้งเครป และขนมโมจิถั่วแดงโรยเกล็ดทองคำเปลว มาพร้อมกับของตกแต่งด้วยคุกกี้รูป Sumikko Gurashi รสชาติดีไม่แพ้กัน

พิเศษสุดๆ คือใครที่สั่งเมนู Sumikko Gurashi ดังกล่าวจะได้รับของแถมสุดพิเศษเป็นแผ่นรองแก้วลาย Sumikko Gurashi และอื่นๆ อีกมากมายให้ได้เก็บสะสมกันอีกด้วย

บทส่งท้าย

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับงานประดับไฟที่เราได้นำเสนอไปในครั้งนี้ น่าไปมากๆ เลยใช่มั้ยล่ะ บอกเลยว่าถ้าได้ไปแล้วไม่ผิดหวังจริงๆ รับรองว่าสวยและประทับใจจนไม่อยากกลับกันอย่างแน่นอน

สุดท้ายนี้เราขอแอบกระซิบเบาๆ ว่าถ้าไม่อยากกลับที่นั่นเค้ามีที่พักด้วยนะคะ เป็นแคมปิ้งชื่อว่า Pica Sagamiko และยังมีออนเซ็นบริเวณใกล้ๆ อีกด้วย https://www.pica-resort.jp/sagamiko/ (ภาษาอังกฤษ) ใครที่สนใจลองเข้าไปดูกันได้นะ ไว้เจอกันใหม่บทความถัดไปค่ะ

ข้อมูลทั่วไป

การเดินทาง : นั่งรถบัสจากสถานีรถบัสชินจูกุ (Shinjuku Bus Station) ไปลงที่สถานีปลายทาง ซากามิโกะ รีสอร์ต (Sagamiko Resort) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที
ระยะเวลาจัดแสดง : 12 ธันวาคม 2022 - 2 เมษายน 2023
ตรวจสอบเวลาทำการและวันหยุด : https://www.sagamiko-resort.jp/calender/index.html (ภาษาญี่ปุ่น)
ค่าเข้าชม : แพ็คเกจ 1 วัน รวมรถบัสและฟรีพาส สำหรับผู้ใหญ่ 4,500 - 5,500 เยน เด็ก 2,400 - 3,500 เยน
ช่องทางการจอง : https://www.fujikyu-travel.co.jp/free/SPF_8.html?_ga=2.247789895.1914984667.1668960764-297651282.1668960764#bus (ภาษาญี่ปุ่น)
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ : https://www.sagamiko-resort.jp/illumillion (ภาษาญี่ปุ่น)

know-before-you-go