มารยาทที่ควรปฏิบัติเมื่อขึ้นรถไฟในญี่ปุ่น
การเดินทางท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวกที่สุดคือรถไฟซึ่งมีเส้นทางครอบคลุมทั่วประเทศและถือเป็นการเดินทางที่สะดวกรวดเร็ว ช่วยให้การวางแผนท่องเที่ยวได้ง่ายขึ้นและในการใช้บริการรถไฟที่ญี่ปุ่นนอกจากนักท่องเที่ยวแล้วก็มีชาวญี่ปุ่นที่ต้องเดินทางเป็นประจำ มารยาทการใช้รถไฟในญี่ปุ่นจึงเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวควรทราบ
มารยาทในการใช้บริการรถไฟญี่ปุ่นที่ต้องรู้
การใช้บริการรถไฟในประเทศญี่ปุ่นจะมีมารยาทในการปฏิบัติที่นักท่องเที่ยวอาจไม่เคยทราบมาก่อน ดังนั้นใครที่มีแผนจะไปเที่ยวญี่ปุ่นและต้องใช้รถไฟเป็นหลัก เพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น การทำตามมารยาทหรือธรรมเนียมปฏิบัติเมื่ออยู่บนรถไฟก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งมารยาทและข้อควรปฏิบัติที่สำคัญเมื่อใช้รถไฟญี่ปุ่นก็มีดังต่อไปนี้
1. ปิดเสียงโทรศัพท์และหลีกเลี่ยงการคุยโทรศัพท์
เมื่อขึ้นรถไฟควรตั้งค่าโทรศัพท์ให้เป็นแบบไม่มีเสียงหรือระบบสั่นเพื่อไม่ให้มีเสียงดังรบกวนผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นเสียงโทรเข้า เสียงดังจากการแจ้งเตือนแอพลิเคชั่นใดๆ ก็ตาม และที่สำคัญคือไม่ควรคุยโทรศัพท์ขณะอยู่บนรถไฟเด็ดขาด
2. ไม่วางสัมภาระบนที่นั่ง
เพราะเป็นการใช้เบาะที่นั่งร่วมกับผู้อื่นซึ่งการวางกระเป๋าหรือสิ่งของบนเก้าอี้ทำให้ต้องใช้พื้นที่มากกว่าหนึ่งที่นั่ง ทำให้ผู้อื่นไม่สามารถเบาะเก้าอี้นั้นได้ ดังนั้นหากมีสัมภาระและต้องการวางของ ควรนำไปวางบนชั้นวางเหนือศีรษะหรือวางบนตักของตัวเอง นอกจากนี้ถ้าสะพายกระเป๋าเป้และมีผู้คนจำนวนมากบนรถไฟควรนำเป้มาไว้ด้านหน้าเพื่อไม่ให้กีดขวางผู้โดยสารคนอื่น
3. ไม่รับประทานอาหารรถไฟ
สำหรับมารยาทข้อนี้ อันที่จริงแล้วจะมีรถไฟบางขวนที่อนุญาตให้รับประทานอาหารได้ ส่วนใหญ่จะเป็นรถไฟระยะยางยาว เช่น รถไฟชินคังเซ็น และรถไฟขบวนท่องเที่ยวที่มีการเสิร์ฟอาหาร แต่ถ้าเป็นรถไฟที่วิ่งในเมืองใหญ่และเป็นระยะทางสั้นๆ อย่างในโตเกียว โอซาก้า ที่มีผู้คนใช้บริการมากมายก็ไม่ควรนำอาหารหรือเครื่องดื่มใดๆ ขึ้นมารับประทานบนรถไฟ
4. ไม่ยืนกีดขวางพื้นที่เบรลล์บล็อก
ข้อปฏิบัตินี้เป็นมารยาทก่อนขึ้นรถไฟ ซึ่งตามชานชาลารอรถไฟในญี่ปุ่นทุกแห่งจะมีเบรลล์บล็อก (Braille Block) หรือจุดรอขึ้นรถไฟสำหรับผู้พิการทางสายตาที่มาใช้บริการ ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังไม่ไปยืนกีดขวางหรือนำสัมภาระไปวางบนพื้นที่เบรลล์บล็อกดังกล่าว
5. ระมัดระวังการนั่งที่นั่งพิเศษ
บนรถไฟญี่ปุ่นจะมีที่นั่งพิเศษ (Priority Seat) และมีเครื่องหมายบอกไว้ชัดเจน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่นั่งสำหรับ เด็ก คนชรา สตรีมีครรภ์ ผู้พิการ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการนั่งที่นั่งเหล่านี้ หรือถ้าที่นั่งว่างและจำเป็นต้องนั่งเมื่อบุคคลดังกล่าวขึ้นมาบนรถไฟ ตามมารยาทก็ต้องลุกขึ้นให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้นั่งทันที
6. ไม่เปิดเสียงหูฟังดังจนเกินไป
ผู้ใช้รถไฟหลายคนนิยมใส่อุปกรณ์ฟังเพลงในหูหรือเรียกว่าหูฟังเมื่อโดยสารรถไฟ ซึ่งมารยาทที่สำคัญอย่างหนึ่งก็คือ ไม่ควรเปิดเสียงดังมากเกินไปจนทะลุหูฟังออกมา กลายเป็นเสียงรบกวนผู้โดยสารรอบข้าง ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังระดับความดังของเสียงในหูฟังด้วย
7. ไม่ทิ้งขยะบนรถไฟ
ขยะใดๆ ก็ตาม เช่น กระดาษ ถุงพลาสติก ขวดน้ำ หากบนรถไฟถ้าไม่มีถังขยะให้ทิ้งก็ควรเก็บขยะมาทิ้งที่สถานีหรือด้านนอก ไม่ควรทิ้งขยะใดๆ บนรถไฟเด็ดขาด
8. ไม่ควรแต่งหน้าบนรถไฟ
การแต่งหน้าอาจไม่ทำให้เกิดเสียงดังรบกวนผู้อื่นก็จริง แต่ที่ญี่ปุ่นถือเป็นเรื่องไม่สุภาพหากทำในที่สาธารณะ อีกทั้งระหว่างแต่งหน้าอาจทำให้เครื่องสำอางหกไปโดนเสื้อผ้าผู้โดยสารข้างๆ เลอะเทอะได้ ดังนั้น ทางที่ดีก่อนขึ้นรถไฟควรไปแต่งหน้าในห้องน้ำหรือที่อื่นๆ ที่เหมาะสมมากกว่าบนรถไฟ
9. ไม่พูดคุยเสียงดังบนรถไฟ
เมื่อขึ้นรถไฟญี่ปุ่น ควรเงียบให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะเมื่อเดินทางกับเพื่อน หากต้องพูดคุยกันควรพูดคุยเสียงเบาๆ และคุยเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อไม่เป็นการรบการหรือสร้างความรำคาญให้กับผู้โดยสารรอบข้าง
10. ต่อคิวและรอให้คนในรถไฟลงมาก่อน
มารยาทก่อนขึ้นรถไฟอีกอย่างก็คือการต่อคิว ซึ่งในญี่ปุ่นก็ทำกันเป็นปกติอยู่แล้ว และเมื่อรถไฟมาจอดเทียบชานชาลา ก็ไม่ควรพุ่งตัวเข้าไปทันที ตามมารยาทแล้วต้องรอให้คนในรถไฟออกมาก่อน จึงเดินตามแถวเข้าไปเพื่อความเป็นระเบียบและลดการเกิดอุบัติเหตุด้วย
ตู้รถไฟสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ
รถไฟในญี่ปุ่นบางเส้นทางจะมีตู้โบกี้รถไฟสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ สังเกตได้จากป้ายสติ๊กเกอร์สีชมพูและข้อความ Woman Only ที่ติดไว้ข้างกระจกรถไฟและบริเวณพื้นชานชาลา ส่วนใหญ่จะมีตู้รถไฟนี้ในสายรถไฟที่การเดินทางหนาแน่น เช่น รถไฟโตเกียวเมโทรสายชิโยดะ (Chiyoda Line) เหตุผลที่มีตู้รถไฟนี้ก็เนื่องมาจากในชั่วโมงเร่งด่วนที่ผู้โดยสารอัดแน่นเป็นปลากระป๋อง ผู้หญิงมีโอกาสถูกลวนลามจากการเบียดเสียด หรือบางครั้งเกิดอุบัติเหตุชนกันได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นเมื่อมีตู้รถไฟสำหรับผู้หญิงในชั่วโมงเร่งด่วนตั้งแต่ 07.30-09.30 น. ก็มีส่วนช่วยทำให้ผู้หญิงเดินทางอย่างสบายใจและปลอดภัยมากขึ้น อย่างไรก็ตามรถไฟขบวนนี้ยังอนุญาตให้เด็กผู้ชายหรือผู้ติดตามที่เป็นผู้ชายสามารถใช้บริการได้เช่นกัน
ผู้เขียน: หนึ่ง
นักอ่านและนักเขียนที่ชอบการเดินทางไปในที่ต่างๆ โดยเฉพาะญี่ปุ่น รักการดูอนิเมะญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจ :)