ที่เที่ยวดังของชาวญี่ปุ่นที่ต่างชาติไม่ค่อยรู้
สถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นที่มีอยู่ทั่วประเทศ หลายแห่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวฮอตฮิตติดอันดับสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเองก็มีแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่อาจจะไม่เป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติมากนัก ในหัวข้อนี้ก็จะพาไปรู้จัก 5 สถานที่ท่องเที่ยวที่ดังในหมู่ชาวญี่ปุ่นแต่ชาวต่างชาติไม่ค่อยรู้ ดังต่อไปนี้
1. มัตสึชิมะ จังหวัดมิยางิ (Matsushima, Miyagi)
มัตสึชิมะ (Matsushima) เป็นหมู่เกาะทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเซนได (Sendai) จังหวัดมิยางิ (Miyagi) ซึ่งมีเกาะน้อยใหญ่รวมกันราวๆ 260 เกาะ ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 3 สถานที่ทิวทัศน์งดงามที่สุดในญี่ปุ่นที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า นิฮงซังเคย์ (Nihon Sankei) กิจกรรมยอดนิยมอย่างหนึ่งของนักท่องเที่ยวก็คือการล่องเรือวิวรอบๆ เกาะ
อีกทั้งในบริเวณยังมีจุดท่องเที่ยวน่าสนใจ อาทิ วัดโกะไดโด (Godaido) วัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 807 พื้นที่วัดมีจุดที่สามารถชมอ่าวมัตสึชิมะได้ทั้งหมด นอกจากนี้ยังสามารถแวะชิมอาหารทะเลสดๆ กับเมนูแสนอร่อยได้ที่ตลาดปลามัตสึชิมะ (Matsushima Fish Market) ที่นี่มีร้านอาหารที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพจากอ่าวมัตสึชิมะมาปรุงอาหารให้ได้รับประทาน รวมทั้งเมนูขึ้นชื่อของจังหวัดมิยางิอย่าง กิวตัน (Gyutan) หรือลิ้นวัวย่างถ่านด้วย
ค่าเข้าชม : มีค่าบริการแตกต่างกันขึ้นอยู่กับกิจกรรม เช่น ล่องเรือชมวิว 1,500 เยน
การเดินทาง : โดยสารรถไฟ JR สายเซนเซกิ (Senseki Line) ไปลงที่สถานีมัตสึชิมะ ไคกัง (Matsushima-Kaigan Station)
2. โดโกะออนเซ็น จังหวัดเอฮิเมะ (Dogo Onsen, Ehime)
โดโกะออนเซ็น (Dogo Onsen) เป็นแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติเก่าแก่ ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองมัตสึยามะ (Matsuyama) จังหวัดเอฮิเมะ (Ehime) ไปประมาณ 30 นาที จุดเด่นของที่นี่คืออาคารสถานที่ต่างๆ ที่มีบรรยากาศย้อนยุคและสวยงาม พร้อมกับแหล่งท่องเที่ยวและที่พักโดยรอบที่เพียบพร้อม จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวดังในหมู่คนญี่ปุ่นทั้งครอบครัวและคู่รัก
ไฮไลท์อย่างตัวอาคารหลัก โดโกะออนเซ็น ฮอนคัง (Dogo Onsen Honkan) สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1894 และได้รับการกำหนดให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมสำคัญของญี่ปุ่น อีกทั้งยังเป็นสถานที่ต้นแบบของฉากโรงอาบน้ำในภาพยนตร์อนิเมชั่นชื่อดังเรื่อง Spirited Away ของ Studio Ghibli ด้วย มีลักษณะเป็นอาคารไม้ 3 ชั้น และเปิดให้นักท่องเที่ยวภายนอกเข้าไปแช่น้ำผ่อนคลายได้
คุณสมบัติน้ำแร่ที่นี่จะมีค่าความเป็นด่าง ให้สัมผัสเบา เรียบลื่น ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใส นอกจากนี้บริเวณรอบๆ ก็ยังมีจุดท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น ซากปราสาทยุซุกิและสวนสาธารณะโดโกะ (The Ruin of Yuzuki-jo Castle Site- Dogo Koen Park) สามารถสวมชุดยูกาตะเดินเล่นและถ่ายภาพเป็นที่ระลึกได้หลายๆ แห่งอย่างเพลิดเพลิน
ค่าเข้าชม : มีค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับการใช้บริการ
การเดินทาง : จากสถานีมัตสึยามะ (Matsuyama Station) โดยสารรถราง Iyo Railway ไปลงที่สถานีโดโกะออนเซ็น (Dogo Onsen) ใช้เวลา 25 นาที
3. ภูเขาอินาสะ จังหวัดนางาซากิ (Mt.inasa, Nagasaki)
ภูเขาอินาสะ (Mount Inasa) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกในจังหวัดนางาซากิ (Nagasaki) มีจุดชมวิวยามค่ำคืน (Night View) ที่มีชื่อเสียงอย่างมาก และเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่คนญี่ปุ่นเพราะได้รับความนิยมมากจนทำให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 3 จุดชมวิวกลางคืนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
จุดชมวิวมีชื่อว่า Inasayama Observation Deck อยู่บนความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 333 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปยังจุดชมวิวด้วยกระเช้าไฟฟ้าหรือรถบัส โดยจุดชมวิวมีลักษณะเป็นอาคาร 3 ชั้น มีพื้นที่ดาดฟ้าสำหรับชมวิวได้แบบ 360 องศา เหมาะกับการถ่ายภาพทิวทัศน์พาโนราม่า อีกทั้งยังมีร้านอาหารหลากหลายรูปแบบบนยอดเขาแห่งนี้ให้ได้เลือกรับประทาน โดยเฉพาะถ้ามาชมวิวยามค่ำคืนก็เปรียบเหมือนการดินเนอร์ใต้แสงไฟในบรรยากาศโรแมนติกด้วย ส่วนในช่วงกลางวันก็จะได้พบกับวิวเมืองนางาซากิที่สวยงามไม่แพ้กันและช่วงฤดูใบไม้ผลิที่บริเวณไหล่เขาก็มีวิวดอกอาซาเลียสีสันสดใสให้ชมด้วย
เวลาทำการ : 09.00-22.00 น.
การเดินทาง : จาก Dejima tram stop ขึ้นรถรางไปลงที่ Takara-Machi tram stop แล้วเดินต่อ 15 นาทีเพื่อไปขึ้น Ropeway โดยใช้เวลาประมาณ 5 นาที ราคาแบบเที่ยวเดียว 720 เยน แบบไปกลับ 1,230 เยน (มีรอบให้บริการทุกๆ 15-20 นาที) สำหรับรถบัสจะมีให้บริการเฉพาะกลางเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนธันวาคมเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางจากจุดเริ่มต้นบริเวณตีนเขาประมาณ 15 นาที ราคา 150 เยนต่อเที่ยว (ออกเดินทางทุกๆ 30-60 นาที)
4. หน้าผาโทจินโบ จังหวัดฟุคุอิ (Tojinbo Cliff, Fukui)
หน้าผาโทจินโบ (Tojinbo Cliff) ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติเอจิเซ็นคางะ (Echizen-Kaga Quasi-National Park) ซึ่งเป็นลักษณะภูมิประเทศที่ดูแปลกตาจากการถูกน้ำทะเลกัดเซาะจนเกิดเป็นหน้าผาหินตัดและกลุ่มก้อนหินรูปทรงแท่งสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ซึ่งเกิดขึ้นจากธรรมชาติอย่างน่าอัศจรรย์จึงทำให้มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วญี่ปุ่น โดยบางจุดก็จะมีชื่อเรียกเฉพาะ เช่น Lion Rock และ Candle Rock อีกทั้งได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติทางธรรมชาติของประเทศ หน้าผาโทจินโบมีความสูงราว 20 เมตร ทอดตัวเป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร และมีหลายจุดที่สามารถเดินขึ้นไปได้ถึงจุดชมวิวบนหน้าผา
รวมทั้งยังมีไฮไลท์อย่างเช่น หอคอยโทจินโบ (Tojinbo Tower) หอคอยสูงที่ตั้งอยู่ไม่ไกล มองเห็นวิวทะเลญี่ปุ่นแบบพาโนรามา 360 องศา นอกจากนี้ยังมีบริการล่องเรือท่องเที่ยวไปในทะเลพร้อมทั้งชมวิวของหน้าผาแห่งนี้ได้อีกมุมหนึ่งด้วย
ค่าเข้าชม : หอคอยโทจินโบ (Tojinbo Tower) ผู้ใหญ่ (15 ปีขึ้นไป) 500 เยน, เด็ก 300 เยน
เวลาทำการ : หอคอยโทจินโบ (Tojinbo Tower) 09.00-17.00 น.
การเดินทาง : โดยสารรถไฟสาย Echizen Railway ไปลงที่สถานีมิคุนิ (Mikuni Station) แล้วต่อรถ Tofuku Bus ไปลงที่ป้าย Tojinbo
5. เมืองโอคายามะ จังหวัดโอคายามะ (Okayama City, Okayama)
เมืองโอคายามะ (Okayama City) เมืองเอกของจังหวัดโอคายามะ เป็นเมืองที่อาจจะถูกมองผ่านสำหรับหลายๆ คน เพราะอยู่ตรงกลางทางของสายรถไฟชินคังเซ็น ถูกรายล้อมด้วยเมืองท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลกเช่นเมืองฮิเมจิหรือเมืองฮิโรชิมา จนอาจทำให้คนลืมไปบ้าง แต่แท้จริงแล้วที่นี่ก็มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งน่าสนใจไม่แพ้กัน
เริ่มตั้งแต่สถานีรถไฟโอคายามะ (Okayama Station) ก็มีรูปปั้นโมโมทาโร่ (Momotaro) ซึ่งเปรียบเหมือนสัญลักษณ์ของเมือง เนื่องจากตำนานโมโมทาโร่มีต้นกำเนิดอยู่ที่นี่ รวมทั้งรอบๆ สถานีก็รายล้อมไปด้วยย่านร้านค้า แหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหารมากมาย และจุดท่องเที่ยวยอดนิยมในเมือง อาทิ ปราสาทโอคายามะ (Okayama Castle) หรือปราสาทอีกาดำ ตั้งตระหง่านอย่างโดดเด่นเป็นสง่า แล้วเดินต่อไปไม่ไกลก็จะได้พบกับสวนโคราคุเอน (Korakuen Garden) ) 1 ใน 3 สวนสวยที่สุดในญี่ปุ่น ภายในตกแต่งแบบสวนญี่ปุ่นอย่างงดงามโดยในแต่ละฤดูกาลก็จะมีทิวทัศน์ที่แตกต่างกันไป นอกจากนี้ ยังมีเขตอนุรักษ์ที่น่าไปเดินเล่น ซึมซับบรรยากาศบ้านเมืองย้อนยุคสมัยเอโดะที่คุราชิกิบิคัง (Kurashiki Bikan Historical Quarter) พร้อมทั้งชิมขนมหวานขึ้นชื่ออย่างคิบิดังโงะ (Kibi dango)
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟโอคายามะ (Okayama Station) ศูนย์กลางการเดินทางหลักของเมือง สามารถต่อรถไฟสายท้องถิ่นและรถบัสไปยังจุดท่องเที่ยวต่างๆ ในเมืองได้อย่างสะดวก เช่น Kibi Line (Momotaro Line) หรือหากเดินทางมาจากจังหวัดในภูมิภาคอื่น เช่น โอซาก้า ฮิโรชิมา ก็โดยสารรถไฟ Sanyo Shinkansen ได้อย่างสะดวกเช่นกัน
ผู้เขียน: หนึ่ง
นักอ่านและนักเขียนที่ชอบการเดินทางไปในที่ต่างๆ โดยเฉพาะญี่ปุ่น รักการดูอนิเมะญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจ :)