ร้านในใจคนไทยหลาย ๆ ที่ไม่ว่ามาญี่ปุ่นเมื่อไหร่ก็ต้องเข้ามาช็อปปิ้งซื้อของกินของฝากที่ร้านนี้ไปเสียทุกครั้ง ถึงแม้จะไม่ใช่ร้านขายของมือสองโดยตรง แต่ก็มีโซนขายของแบรนด์เนมมือสองบางสาขา โดยเน้นขายของมือสองแบรนด์ดังอย่างกระเป๋า Louis Vuitton หรือนาฬิกา Rolex ในราคาที่สมเหตุสมผล

จุดแข็ง : ไหน ๆ จะซื้อของฝากทั้งที ก็แวะดูมือสองแบรนด์เนมติดไม้ติดมือกลับบ้านด้วย เป็นแหล่งช็อปปิ้งที่สะดวกสบายมาก มักจะเปิด 24 ชั่วโมง สาขามีมากมายในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ส่วนลดมากมาย ขอคืนภาษีได้ง่าย ๆ มีพนักงานที่พูดได้หลายภาษาคอยให้บริการ สวรรค์นักช็อป

จุดอ่อน : เคยได้ยินว่ามีคนเจอของปลอมด้วย (ของปลอมสมัยนี้ก็เลียนแบบได้เหมือนเสียเหลือเกิน ไม่แปลกใจถ้าบางครั้งพนักงานจะดูไม่ออกหรือหลุดมาบ้าง) เรื่องนี้ไม่รู้จริงเท็จแค่ไหน แต่ตาดีได้ตาร้ายเสียนะคะ

สายแฟชั่นห้ามพลาด เพราะเป็นร้านมือสองที่ขายเฉพาะสินค้าสำหรับสวมใส่อย่างเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า หมวก มีของแบรนด์เนมให้เลือกมากมาย หรือเป็นแบรนด์แฟชั่นที่ค่อนข้างมีสไตล์มากกว่าร้านมือสองทั่วไป ทำให้ 2nd STREET เป็นที่นิยมของหมู่วัยรุ่น และมีร้านตั้งอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวมากมาย มีหลากหลายสาขาให้เลือกใช้บริการ แม่บ้านรู้จักร้านมือสองร้านนี้เป็นร้านแรกเลยค่ะ เป็นร้านที่เปิดโลกทัศน์ของแม่บ้านเลย ว่าเสื้อผ้าสวย ๆ ไม่ต้องซื้อมือหนึ่งแพง ๆ ชุดที่แม่บ้านได้มาเป็นชุดมือหนึ่งในราคา 50% แฮปปี้มาก

จุดแข็ง : ชุดสวยคุณภาพดีมีให้เลือกเยอะมาก ปรกติร้านมือสองจะต้องเฟ้นหาเพชรในตม คือ 10 ชุดเจอสวย ๆ งาม ๆ สักชุดสองชุด แต่ร้านนี้คือเลือกมาแล้ว เทสดีมาก 10 ชุดก็สวยถูกใจเกินครึ่งไปแล้ว ใครตามแฟชั่นการแต่งตัวสไตล์คนญี่ปุ่นแนะนำร้านนี้เลย

จุดอ่อน : เสื้อผ้าร้านนี้ขายตามเกรด ถ้ายี่ห้อดัง คุณภาพดี ราคาก็จะแพงกว่าร้านมือสองทั่วไปหน่อย แต่ก็ยังถูกว่ามือหนึ่งอยู่ดี

สำหรับคนที่อยู่ญี่ปุ่นเป็นปี ไม่ว่าจะนักเรียน นักศีกษา คนทำงาน พ่อบ้านแม่บ้าน ร้านใกล้บ้านที่เปรียบเสมือนเพื่อนบ้านเรือนเคียง อยากได้อะไร มีอะไรขาด เดินผ่านตอนกลับบ้านก็แวะเข้าไปดูของหน่อยเผื่อเจอของดีราคามิตรภาพ เวลาแม่บ้านแวะไปมักจะได้ของใช้บ้าน ๆ อย่างตะกร้าผ้าหรือถังขยะประมาณนี้ค่ะ

จุดแข็ง : เป็นร้านใกล้บ้าน มีร้านหลากหลายสไตล์ให้เลือก บางร้านขายของเก่าสไตล์วินเทจ แม่บ้านเคยเจอเก้าอี้เด็กใช้แล้วแบบเก้าอี้ตามโรงเรียนน่ารักมาก และถ้าเราต้องการขาย และมีร้านขายของมือสองใกล้ ๆ เราสามารถโทรเรียกให้เขาเอารถมารับของได้ถึงบ้านเลย

จุดอ่อน : ของมีให้เลือกไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นของบ้าน ๆ ของใช้ภายในบ้านที่ส่วนใหญ่เราก็มีอยู่แล้ว ไม่ค่อยเน้นเสื้อผ้าแฟชั่นเท่าไหร่ ถ้าเป็นร้านที่มีสไตล์เฉพาะร้าน (ตามภาพ) ราคาจะสูงจนนึกว่านี่ของมือสองหรือมือหนึ่งเนี่ย? แต่ของในร้านเป็นลักษณะสไตล์เดียวกัน ถ้าคุณตกแต่งห้องแล้วอยากคุมโทน แต่เลือกไม่เป็น มาร้านแบบนี้ห้องจะเข้ากันอย่างน่าประหลาดค่ะ

เป็นแอพพลิเคชั่นยอดฮิตที่ซื้อขายของบนมือถือ ใช้งานง่าย แม่บ้านสารภาพว่าใช้บ่อยมาก เดือนนึงซื้อไม่ต่ำกว่า 2-3 ชิ้น มีของให้เลือกล้านแปด เหมือนแอพพลิเคชั่น Lazada, Shopee แต่เป็นเวอร์ชั่นขายของมือสอง ส่วนตัวนิยมซื้อเสื้อผ้ากับแบรนด์ที่คุ้นเคยซึ่งถูกกว่าซื้อที่ร้านถึง 10 เท่า (รู้ไซซ์ของแบรนด์นั้น ๆ อยู่แล้วว่าเราใส่เท่าไหร่เพราะไม่มีให้ลอง) หรือของเล่นเด็กมือสองสุดน่ารักที่มักจะมัดรวมเป็นแพ็คและขายในราคาถูก แต่บางทีก็งงใจทำไมขายแพงกว่ามือหนึ่ง?

จุดแข็ง : ขายออนไลน์ ซื้อง่ายขายคล่อง พูดคุยถามตอบกับแม่ค้าได้ มีช่องทางการจ่ายเงินและเลือกรับของเยอะ มั่นใจได้ว่าของถึงมือแน่เพราะถ้าเราไม่ได้ของ และเราไม่กดรับ เงินจะไม่ถูกโอนเข้าบัญชีของแม่ค้า หรือได้ของปลอมก็สามารถติดต่อ call center ตีของกลับได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะโดนเชิดเงิน มีสินค้ามือหนึ่งในราคามือสองขายเยอะอยู่ค่ะ เหมือนซื้อมาแล้วแต่ไม่ได้ใช้เลยนำมาโพสขาย

จุดอ่อน : เนื่องจากขายออนไลน์จึงไม่เห็นสินค้าของจริง ระวังเรื่องขนาดและรายละเอียดของสินค้าด้วย เคยอยากได้ของเล่นแบบเค้าท์เตอร์ครัวให้ลูก ไปเจอชิ้นนึงน่ารักมาก แถมราคาดี แต่ไม่รู้ขนาด เขียนไปถามขนาดแม่ค้าก็ไม่ตอบสักที กลัวมีคนแย่งไปเลยรีบกดซื้อ กดแล้วนึกไปนึกมาหรือว่าเป็นของเล่นจิ๋วนะ! กด report แทบไม่ทัน เขียนเหตุผลไป ไม่นานพนักงานกดอนุมัติให้ยกเลิกออเดอร์แม่ค้ารีบมาขอโทษรัว ๆ ทีแบบนี้เร็ว มีอีกเคสขอลดราคาแล้วแม่ค้าลดราคาให้ แต่เปลี่ยนเงื่อนไขการจ่ายค่าส่งจากคนขายออกค่าส่งเป็นคนซื้อจ่ายค่าส่งเอง (เก็บเงินปลายทาง) สรุปค่าส่งแพงกว่าส่วนลดที่ได้รับอีก อีกเคสที่ได้ยินคนอื่นบ่นบ่อย ๆ คือได้ของปลอม (แต่ไม่เคยเจอกับตนเองเพราะไม่มีปัญญาซื้อแบรนด์เนมแม้จะมือสอง) แต่ก็วางใจได้อย่างที่พูดไปข้างต้นคือแอพฯ จะกักเงินเราไว้ก่อนไม่ให้ไปถึงแม่ค้า ถ้าเราเห็นว่าปลอมก็สามารถแจ้งรีพอร์ตแล้วส่งสินค้าคืนไปได้

เว็บประมูลอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น ที่คนญี่ปุ่นทุกคนรู้จัก มีตั้งแต่ของธรรมดายันของหายากมากมาย ของบางอย่างว่าไม่มีก็ดันมี มักจะเริ่มต้นด้วยราคาถูกเหลือเชื่อเหมือนให้ฟรี แล้วทุกคนก็รอจนใกล้จะจบเวลาประมูลถึงมากดแข่งราคากันชั่วโมงสุดท้าย ใครอยู่ดึก เน็ตใครดีกว่า คนนั้นก็ได้ไป

จุดแข็ง : ได้ของถูก ของหายาก และรู้สึกถึงชัยชนะเมื่อคุณสามารถชนะการประมูลโดยยอดของราคาสินค้าต่ำกว่าที่คุณวางแผนไว้

จุดอ่อน : ของบางอย่างคนเปิดประมูลนานไป บางคนเปิดประมูลถึง 2 สัปดาห์ บางทีราคาก็พุ่งทะยานเกินงบของเราไปมาก เลยต้องยอมแพ้ยกธงขาวไปหาเจ้าอื่น

คนต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นจะพลาดไม่ได้ที่จะไปเป็นสมาชิกของกลุ่มใน Facebook ดังตัวอย่างต่อไปนี้ค่ะ

• Tokyo Sayonara Sale
คือกลุ่มที่บรรดา expat เข้ามาขายข้าวของเครื่องใช้ในราคาถูกแสนถูกเพราะจะย้ายออกจากประเทศญี่ปุ่นแล้ว
จุดแข็ง : หลายครั้งได้ของราคาถูกเวอร์วังแบบหาซื้อตามร้านมือสองไม่ได้ หรือของยังใหม่มากเพราะใช้เวลาอยู่ในประเทศญี่ปุ่นไม่นาน เช่นเรียบจบแล้วจะย้ายกลับประเทศตนเอง ทำให้ของยังใหม่
จุดอ่อน : บางครั้งต้องไปรับหรือเอาของในเวลาเป้ะ ๆ เช่น เขาจะย้ายออกวันที่ 15 เราก็ต้องรอเขาใช้ของจนวันสุดท้ายแล้วค่อยไปเอา ถ้าไม่ได้มีเวลาว่างอาจจะกำหนดวันเวลาไปเอาของไม่ลงตัว ชาวต่างชาติหลายคนไม่สะดวกส่งไปรษณีย์เพราะยุ่งยาก หรือไม่เข้าใจภาษาทำให้ไม่สามารถใช้บริการได้

• TEG: Tokyo Exchange Group (Baby Things)
เป็นกลุ่มคุณแม่ต่างด้าวอย่างเราที่คู่ควร เป็นกลุ่มที่มีการนำสิ่งของมาแลกเปลี่ยนกัน มักจะแลกเปลี่ยนเป็นหนังสือเด็ก ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ช็อกโกแลต หรือไวน์ ใช่ค่ะ ไวน์สำหรับคุณแม่นั่นแหละ บางทีต้องถามคนให้ว่ามีลูกกี่คน ส่วนตัวจำนวนไวน์ที่ซื้อไปให้คุณแม่สัมพันธ์กับจำนวนเด็กในบ้านค่ะ บางทีก็นับรวมสามีเขาไปด้วย 555
กลุ่มนี้มักจะเป็นของใช้เด็กที่คุณภาพพอใช้ได้ ไม่ดีพอสำหรับขาย แต่ก็ไม่ได้แย่จนต้องทิ้ง อย่างเสื้อผ้าเด็ก ของเล่น รถเข็นเด็ก โดยเฉพาะเสื้อผ้าเด็กที่เปรียบเสมือนขุมทรัพย์ของแม่ที่ไม่ต้องซื้อใหม่ตลอดเวลาเพราะลูกโตเร็วเหลือเกิน โดยเฉพาะช่วงอายุ 0-3 ขวบ
จุดแข็ง : เป็นสังคมที่โอบอ้อมอารีย์ เข้าใจคุณแม่เหมือนกัน จะไปเอาของเลท ขึ้นรถไฟผิดสาย ลูกงอแง ต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมลูก แม่ ๆ ส่วนใหญ่เข้าใจค่ะ ไม่ตำหนิติเตียนอะไรเรา รับของพร้อมแบกลูกกลับบ้านอย่างผาสุข
จุดอ่อน : คุณของของอาจจะแย่กว่าที่เห็นในรูป แต่ฟังก์ชั่นการใช้งานยังใช้ได้ ไม่ค่อยมีปัญหาค่ะ ของอาจจะมีให้เลือกไม่หลากหลาย บางอย่างมาในช่วงเวลาที่เราไม่ต้องการแล้ว เราก็แอบเสียดายนิด ๆ ค่ะ

• Mottainai Japan
กลุ่มนี้คือที่สุดของของมือสองในญี่ปุ่นแล้วค่ะ แล้วกลุ่มที่อนุญาตให้โพสสำหรับของให้ฟรีเท่านั้น หมายถึงคนให้ = แจก คนรับ = ได้ฟรี บางครั้งแม่บ้านมีของบางอย่างที่เก็บไว้ก็ไม่รู้มีประโยชน์อะไร อย่างโครงเตียงไม้ที่ไม่ครบ แต่ก็ไม่อยากเสียค่าแสตมป์ขยะ ลองไปโพสในกลุ่มเล่น ๆ มีคนมาเอาจริงก็มีนะเออ! แบบสุดยอดมาก นาน ๆ จะมีของแบบ rare item อย่างคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คฟรี ไอโฟนฟรี เครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้เย็น เครื่องซักผ้า หรือของแบบนี้ก็มีด้วย!
จุดแข็ง : ฟรี ฟรี และฟรีค่ะ เสียแต่ค่าส่งหรือค่าเดินทางไปรับของ
จุดอ่อน : ไม่เคยทันเขาหรอกค่ะ ของฟรีใคร ๆ ก็อยากได้

เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับร้านมือสองที่แม่บ้านแนะนำ มีร้านไหนตกหล่นก็แนะนำคอมเม้นต์กันเข้ามาได้นะคะ หรืออยากให้แม่บ้านเขียนเกี่ยวกับอะไรก็บอกกันได้ค่ะ บทความนี้ต้องขอตัวลา ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาจนถึงตรงนี้นะคะ