All About Japan

แนะนำ 10 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในภูมิภาคคิวชู

สวน สวนสาธารณะ ใบไม้แดง Kyushu
แนะนำ 10 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในภูมิภาคคิวชู

ฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงเวลาแห่งทิวทัศน์ที่สวยงาม ทั้งจากใบเมเปิ้ลญี่ปุ่นสีแดงและใบแปะก๊วยสีเหลืองสดใส ในภูมิภาคคิวชู (Kyushu) ส่วนใหญ่จะเริ่มพีคตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนธันวาคม ถือเป็นภูมิภาคที่ใบไม้เปลี่ยนสีช้าที่สุด เหมาะสำหรับคนที่ไปเที่ยวปลายปี โดยที่เลือกมาส่วนใหญ่เป็นจุดที่สามารถเดินทางจากฟุกุโอกะ (Fukuoka) ได้สะดวก

※หมายเหตุ บทความนี้เริ่มเผยแพร่ในช่วงวิกฤติโคโรน่าไวรัสสายพันธ์ุใหม่ (COVID-19) ในปี 2020 ไม่ว่าจะอ่านบทความนี้เมื่อไหร่ก็ตาม ผู้ที่ต้องการไปเที่ยวควรพิจารณาด้วยตัวเองหากสถานการณ์ยังไม่กลับสู่สถานะปกติ※

1. ภูเขาคูจู จังหวัดโออิตะ (Mt.Kuju, Oita)

1. ภูเขาคูจู จังหวัดโออิตะ (Mt.Kuju, Oita)

https://pixta.jp/

ภูเขาเขาคูจู (Mt.Kuju) คือทิวเขาสูงที่ทอดตัวเป็นแนวยาวในพื้นที่เมืองโคโคโนเอะ (Kokonoe) และยอดเขานาคาดาเกะ(Nakadake) ที่มีความสูง 1,791 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลก็ถือว่าสูงที่สุดในเกาะคิวชู เมื่อประกอบกับแนวเทือกเขาความสูงใกล้เคียงกันจึงทำให้ได้รับสมญานามว่าเป็น “หลังคาของคิวชู” ที่นี่เป็นเส้นทางเดินและปีนเขายอดนิยมของนักท่องเที่ยวทุกฤดู เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงตามทิวเขาก็จะแต่งแต้มด้วยสีของใบไม้เปลี่ยนสีสดใส จึงได้ชื่อว่าเป็นจุดชมทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่ง

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี: ประมาณต้นเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป

ค่าเข้าชม : ฟรี

เวลาทำการ : ตลอด 24 ชั่วโมง

การเดินทาง : จากสถานีฮากาตะ (Hakata Station) ขึ้นรถ JR Bus ไปลงที่สถานีบุงโกะนากามุระ (Bungo Nakamura Station) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นต่อรถบัสประจำทางไปลงป้าย Kuju-Tozanguchi ใช้เวลา 1 ชั่วโมง และเดินต่ออีกเล็กน้อย

2. อุนเซ็น หุบเขานิตะ จังหวัดนางาซากิ (Unzen Nita Pass, Nagasaki)

2. อุนเซ็น หุบเขานิตะ จังหวัดนางาซากิ (Unzen Nita Pass, Nagasaki)

https://pixta.jp/

หุบเขานิตะ (Nita Pass) เป็นจุดท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงแห่งภูเขาอุนเซ็น (Mt.Unzen) โดยมีไฮไลท์คือกระเช้าโรปเวย์ชมทิวทัศน์เหนือสันเขา (Unzen Ropeway) ซึ่งในฤดูใบไม้ร่วงนอกจากจะได้พบกับวิวใบเมเปิ้ลสีแดงสุดลูกหูลูกตาแล้วก็ยังมีสีสันของดอกไม้ชนิดอื่นให้ได้ชมด้วย เช่น ทุ่งดอกอาซาเลีย (Azalea) หรือกุหลาบพันปีสีชมพูที่บานสะพรั่ง รวมทั้งยังมีวิวธรรมชาติของเทือกเขาที่ล้อมรอบอย่างภูเขาเมียวเกนดาเกะ (Mt. Myokendake) และภูเขาฟูเก็นดาเกะ (Mt. Fugendake) รวมถึงร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ที่ให้บริการสำหรับพักผ่อนได้ด้วย

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี: ประมาณต้นเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป

ค่าบริการกระเช้าโรปเวย์ : ผู้ใหญ่ ไป-กลับ 1,260 เยน เที่ยวเดียว 630 เยน

เด็ก ไป-กลับ 630 เยน เที่ยวเดียว 320 เยน

เวลาทำการ : 08.30 - 17.00 น. (หมายเหตุ เวลาทำการข้างต้นเป็นเวลาในปีปกติ หลังจากปี 2020 อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เนื่องจากอิทธิพลของ COVID-19)

การเดินทาง : จากสถานีฮากาตะ (Hakata Station) ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษ Limited Express Kamome ตรงไปลงที่สถานีอิสะฮายะ (Isahaya Station) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที จากนั้นต่อรถบัส Shimatetsu Bus ไปลงที่ Unzen Onsen ใช้เวลาอีก 1 ชั่วโมง 20 นาที

3. ทะเลสาบโอนามิ จังหวัดคาโกชิมะ (Onami Lake, Kagoshima)

3. ทะเลสาบโอนามิ จังหวัดคาโกชิมะ (Onami Lake, Kagoshima)

https://pixta.jp/

ทะเลสาบโอนามิ (Onami Lake) เป็นทะเลสาบที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติคิริชิมะ คิงโควัน (Kirishima Kinkowan National Park) จังหวัดคาโกชิมะ (Kagoshima) ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องเส้นทางสำรวจธรรมชาติและเดินป่าปีนเขายอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่ชอบกิจกรรมแอดเวนเจอร์ โดยทะเลสาบแห่งนี้เกิดขึ้นจากการปะทุของภูเขาไฟ ลักษณะเหมือนแอ่งน้ำวงกลมสีฟ้าที่มีป่าดึกดำบรรพ์กับภูเขาล้อมรอบบนความสูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 1,411 เมตร ในฤดูใบไม้ร่วงที่นี่จึงเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามตระการตาที่สุดแห่งหนึ่งกับภาพทิวทัศน์ใบไม้สีเหลือง ส้ม แดง สะท้อนผืนน้ำสีฟ้าราวกับภาพวาดศิลปะ ซึ่งการจะเดินทางขึ้นมาชมวิวจะมีเส้นทางปีนเขาชื่อ Onami-ike Trailhead ระยะทางราว 1.25 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 40 นาที

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี: ประมาณต้นเดือนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน

ค่าเข้าชม : ฟรี

เวลาทำการ : 24 ชั่วโมง

การเดินทาง : จากสถานีฮากาตะ (Hakata Station) ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปลงที่สถานีคาโกชิมะชูโอ (Kagochima-chuo Station) ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 20 นาที ต่อรถไฟสาย JR Nippo line ไปลงสถานีคิริชิมะจิงกู (Kirishima-jingu Station) ใช้เวลา 1 ชั่วโมง จากนั้นต่อรถบัสไปลงที่ Maruo Hot Spring เพื่อขึ้นรถบัสนำเที่ยวเทือกเขาคิริชิมะและไปลงที่ Onamiike Tozanguchi ใช้เวลาอีกประมาณ 40 นาที

4. สวนแปะก๊วยพันต้น เมืองทารุมิซุ จังหวัดคาโกชิมะ (Tarumizu Thousand Ginkgo, Kagoshima)

4. สวนแปะก๊วยพันต้น เมืองทารุมิซุ จังหวัดคาโกชิมะ (Tarumizu Thousand Ginkgo, Kagoshima)

https://pixta.jp/

สวนแปะก๊วยพันต้น (Tarumizu Thousand Ginkgo) เป็นสถานที่ชมใบแปะก๊วยสีเหลืองที่มีชื่อเสียงมากในจังหวัดคาโกชิมะ (Kagoshima) มีต้นแปะก๊วยราว 1,200 ต้น ปลูกอยู่เรียงรายในสวนแห่งนี้ และเมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงที่ใบแปะก๊วยเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทั้งหมดก็มีทิวทัศน์สีเหลืองอร่ามงดงามทั่วบริเวณ อีกทั้งช่วงกลางคืนก็จะมีงานเทศกาลประดับไฟ (Light up) ฤดูใบไม้ร่วงให้นักท่องเที่ยวได้เดินเที่ยวชมในช่วงค่ำคืนซึ่งเป็นบรรยากาศที่สวยงามอีกแบบหนึ่ง

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี: ประมาณต้นเดือนถึงกลางเดือนธันวาคม

ค่าเข้าชม : ฟรี

เวลาทำการ : ตลอด 24 ชั่วโมง

การเดินทาง : จากสถานีฮากาตะ (Hakata Station) ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปลงที่สถานีคาโกชิมะชูโอ (Kagochima-chuo Station) ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 20 นาที และในช่วงเทศกาลชมใบแปะก๊วยฤดูใบไม้ร่วงจะมีรถบัสรับ-ส่งไปยัง Tarumizu thousand ginkgo biloba วันละ 4 รอบ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

5. หุบเขาทาคาจิโฮะ จังหวัดมิยาซากิ (Takachiho Gorge, Miyazaki)

5. หุบเขาทาคาจิโฮะ จังหวัดมิยาซากิ (Takachiho Gorge, Miyazaki)

https://pixta.jp/

หุบเขาทาคาจิโฮะ(Takachiho Gorge) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดมิยาซากิ (Miyazaki) ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนลึกลับที่สุดแห่งหนึ่งในคิวชูซึ่งมีทั้งธรรมชาติอุดมสมบูรณ์และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์หลายแห่งในบริเวณเดียวกัน เช่น ศาลเจ้าที่เป็นจุดเสริมพลังชีวิต (Power Spot) ในถ้ำอามาโนะยาซุกาวาระ (Amano Yasugawara) และในฤดูใบไม้ร่วงก็จะได้พบกับทิวทัศน์ใบไม้สีแดง ส้ม เหลืองสุดตระการตาจากป่าไม้บนเทือกเขาที่ล้อมรอบพื้นที่หุบเขาแห่งนี้ โดยเฉพาะจุดชมวิวบริเวณน้ำตก มานาอิโนทาคิ (Manai-no-taki Waterfall) ซึ่งสามารถพายเรือกลางน้ำชมวิวอีกมุมมองได้ด้วย

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี: ประมาณกลาง-ปลายเดือนพฤศจิกายน

ค่าเข้าชม : ฟรี แต่ถ้าสนใจพายเรือจะมีค่าใช้จ่าย 2,000 เยน ต่อ 30 นาที นั่งได้ไม่เกิน 3 คน

เวลาทำการ : 08.30-17.00 น. ช่วงเทศกาลชมใบไม้เปลี่ยนสีจะมีกการจัดแสดงไฟเวลา 18.00-22.00 น. (หมายเหตุ เวลาทำการข้างต้นเป็นเวลาในปีปกติ หลังจากปี 2020 อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เนื่องจากอิทธิพลของ COVID-19)

การเดินทาง : จากสถานีฮากาตะ (Hakata Station) ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปลงที่สถานีคุมาโมโตะ (Kumamoto Station) จากนั้นต่อรถบัส ไปลงที่ Takachiho Bus Center ใช้เวลา 3 ชั่วโมง และเดินต่ออีก 30 นาที

6. สวนมิฟุเนะยามะราคุเอ็น จังหวัดซากะ (Mifuneyama Rakuen Garden, Saga)

6. สวนมิฟุเนะยามะราคุเอ็น จังหวัดซากะ (Mifuneyama Rakuen Garden, Saga)

https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Azalea_Valley_in_Mifuneyama_Garden_and_Mount_Mifuneyama_6.jpg

สวนมิฟุเนะยามะราคุเอ็น (Mifuneyama Rakuen Garden) เป็นสวนญี่ปุ่นขนาดกว้างใหญ่ที่มีบรรยากาศสวยงามจากพืชพรรณไม้ทุกฤดูกาล มีจุดเด่นคือภูเขาลูกใหญ่และทุ่งดอกอะซาเลีย (Azalea) ในฤดูใบไม้ผลิ และเมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงทิวทัศน์รทั่วทั้งสวนก็จะแน่นขนัดด้วยวิวใบไม้สีแดง ส้ม เหลืองสดใสให้ทุกคนได้รื่นรมย์กับความงามของของธรรมชาติผสมผสานกับภาพของสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นโบราณที่ตั้งอยู่ในสวนได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ในช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีก็จะมีการจัดงานเทศกาลโมมิจิ (Momiji Matsuri) ซึ่งในยามค่ำคืนก็จะมีการประดับไฟสว่างไสวในสวนให้ได้เดินเที่ยวชมและถ่ายภาพสวยๆ กันอย่างเพลิดเพลิน

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี: ประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนธันวาคม

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 600 เยน, เด็ก 300 เยน, เด็กต่ำกว่าวัยเรียนชมฟรี

เวลาทำการ : 08.00-17.00 น. (หมายเหตุ เวลาทำการข้างต้นเป็นเวลาในปีปกติ หลังจากปี 2020 อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เนื่องจากอิทธิพลของ COVID-19)

ช่วงเทศกาลชมใบไม้เปลี่ยนสีจะมีกการจัดแสดงไฟเวลา 17.00-22.00 น.
การเดินทาง : จากสถานีฮากาตะ (Hakata Station) ขึ้นรถไฟ Limited Express Sasebo Line ไปลงที่สถานีทาเคโอะออนเซ็น (Takeo Onsen) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วต่อแท็กซี่อีกเล็กน้อย

7. สวนพฤกษศาสตร์ชิราโนเอะ จังหวัดฟุกุโอกะ (Shiranoe Botanical Garden, Fukuoka)

7. สวนพฤกษศาสตร์ชิราโนเอะ จังหวัดฟุกุโอกะ (Shiranoe Botanical Garden, Fukuoka)

https://pixta.jp/

สวนพฤกษศาสตร์ชิราโนเอะ (Shiranoe Botanical Garden) ภายในเป็นสวนที่มีต้นไม้ดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนผลิบานตลอด 4 ฤดู และในฤดูใบไม้ร่วงก็มีจุดชมวิวใบไม้แดงหลายจุดภายในพื้นที่แห่งนี้ซึ่งมีการปลูกต้นเมเปิ้ลญี่ปุ่นไว้กว่า 800 ต้น รวมทั้งไม้ผลัดใบอื่นๆ ก็จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ส้ม แดงให้ได้ชื่นชมความงดงาม นอกจากนี้ก็ยังมีร้านน้ำชาในสวนให้นั่งพักผ่อนดื่มชากับขนมหวานในอาคารสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมท่ามกลางอากาศเย็นสบายของฤดูใบไม้ร่วงกับทิวทัศน์ของการตกแต่งสวนที่ไม่ได้มีเพียงแค่ใบไม้เปลี่ยนสีเท่านั้น


ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี: ประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนธันวาคม

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 300 เยน, เด็ก 150 เยน

เวลาทำการ : 09.00-17.00 น. และปิดทุกวันอังคาร (หมายเหตุ เวลาทำการข้างต้นเป็นเวลาในปีปกติ หลังจากปี 2020 อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เนื่องจากอิทธิพลของ COVID-19)

การเดินทาง : จากสถานีฮากาตะ (Hakata Station) ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปลงสถานีโคคุระ (Kokura Station) แล้วต่อรถไฟสาย Kagoshima Line ไปลงที่สถานีโมจิโกะ (Mojiko Station) ใช้เวลาประมาณ 50 นาที จากนั้นนั่งรถบัสหมายเลข 41 ที่หน้าสถานี ไปลงป้าย Shiranoe 2 cho-me และเดินอีก 2 นาที

8. สวนคุเนนอัน จังหวัดซากะ (Kunenan Garden, Saga)

8. สวนคุเนนอัน จังหวัดซากะ (Kunenan Garden, Saga)

https://pixta.jp/

สวนคุเนนอัน (Kunen-an Gardens) ในจังหวัดซากะ (Saga) เป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งในคิวชู โดยสวนแห่งนี้จะเปิดให้คนภายนอกเข้ามาเที่ยวชมทิวทัศน์เฉพาะช่วงสั้นๆ ในฤดูใบไม้ร่วงของแต่ละปีเป็นเวลา 9 วัน บรรยากาศด้านในก็จะได้พบกับวิวใบไม้แดงในสวนดั้งเดิมแบบญี่ปุ่นและอาคารสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ และในช่วงที่เปิดให้บุคคลภายนอกเข้าไปชมใบไม้แดง ที่บริเวณหน้าทางเข้าก็อาจมีการจัดงานออกร้านขายของเหมือนตลาดย่อมๆ ให้ได้เลือกซื้อเลือกชิมกันด้วย

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี: ประมาณกลาง-ปลายเดือนพฤศจิกายน

ค่าเข้าชม : 400 เยน

เวลาทำการ : 08.30-16.00 น. (หมายเหตุ เวลาทำการข้างต้นเป็นเวลาในปีปกติ หลังจากปี 2020 อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เนื่องจากอิทธิพลของ COVID-19)

การเดินทาง : จากสถานีฮากาตะ (Hakata Station) ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปลงสถานีชินโทสุ (Shin-Tosu Station) แล้วต่อรถไฟสาย Nagasaki Line ไปลงที่สถานีคันซากิ (Kanzaki Station)ใช้เวลาประมาณ 50 นาที จากนั้นต่อรถบัสไปลงที่ป้าย Kunenan ใช้เวลาอีก 10 นาที

9. สวนไมซุรุและซากปราสาทฟุกุโอกะ จังหวัดฟุกุโอกะ (Maizuru Park and Ruins of Fukuoka Castle, Fukuoka)

9. สวนไมซุรุและซากปราสาทฟุกุโอกะ จังหวัดฟุกุโอกะ (Maizuru Park and Ruins of Fukuoka Castle, Fukuoka)

https://pixta.jp/

ซากปราสาทฟุกุโอกะ (Ruins of Fukuoka Castle) ตั้งอยู่ภายในสวนไมซุรุ (Maizuru Park) ปัจจุบันนี้ก็ยังหลงเหลือส่วนของฐานปราสาททำจากหินกับกำแพงป้อมปราการบางส่วนให้ได้สัมผัสความยิ่งใหญ่ของสิ่งปลูกสร้างในอดีต และที่นี่ยังเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีฤดูใบไม้ร่วงแห่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมในฟุกุโอกะ เนื่องจากสามารถเดินทางเข้าถึงได้สะดวก และมีจุดชมวิวมุมสูงบนเนินใกล้กับป้อมปราการ เหมาะกับการมาชมทิวทัศน์ใบไม้สีเหลือง ส้ม แดง และพักผ่อนหย่อนใจ นอกจากนี้ใกล้ๆ กันก็ยังมีสวนโอโฮริ (Ohori Park) ที่เป็นอีกจุดชมใบไม้แดงแต่งแต้มสีสันทั่วทั้งพื้นที่ซึ่งไม่ควรพลาดเช่นกัน

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี: ประมาณกลาง-ปลายเดือนพฤศจิกายน

ค่าเข้าชม : ฟรี

เวลาทำการ : ตลอด 24 ชั่วโมง

การเดินทาง : จากสถานีฮากาตะ (Hakata Station) ขึ้นรถไฟใต้ดินสายสนามบิน (Kuko Line) ไปลงสถานีอากะซากะ (Akasaka Station) ใช้เวลา 8 นาที แล้วเดินต่ออีกเล็กน้อย

10. ถนนสายต้นแปะก๊วย หน้าที่ทำการจังหวัดคุมาโมโตะ (Rows of Gingko Trees at Kumamoto Prefectural Government Building)

10. ถนนสายต้นแปะก๊วย หน้าที่ทำการจังหวัดคุมาโมโตะ (Rows of Gingko Trees at Kumamoto Prefectural Government Building)

https://pixta.jp/

ถนนสายต้นแปะก๊วยหน้าที่ทำการจังหวัดคุมาโมโตะ เป็นจุดชมใบแปะก๊วยสีเหลืองทองอร่ามอีกแห่งในฤดูใบไม้ร่วง โดยถนนแห่งนี้จะมีต้นแปะก๊วยอยู่เรียงรายสองฝั่งถนนเป็นระยะทางประมาณ 200 เมตร ซึ่งเมื่อถึงช่วงพีคก็จะได้พบกับภาพบรรยากาศเหมือนอุโมงค์แปะก๊วยและใบไม้สีเหลืองราวกับปูพรมเต็มท้องถนน อีกทั้งในแต่ละปีเมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงก็จะมีการงานประดับไฟ (Light up) ช่วงค่ำคืนให้ได้ดื่มด่ำกับสีสันของแสงไฟและบรรยากาศโรแมนติกด้วย

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี: ประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนธันวาคม

ค่าเข้าชม : ฟรี

เวลาทำการ : ตลอด 24 ชั่วโมง

การเดินทาง : จากสถานีฮากาตะ (Hakata Station) ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปลงสถานีคุมาโมโตะ (Kumamoto Station) ใช้เวลา 40 นาที แล้วต่อรถบัสประจำทางไปลงที่ป้าย Kumamoto Kencho mae ใช้เวลาประมาณ 30 นาที และเดินต่ออีก 5 นาที

know-before-you-go