รวม 13 สุดยอด ที่เที่ยวญี่ปุ่น เดือนธันวาคม
1. สระน้ำสีฟ้า ชิโรงาเนะอาโออิเคะ จังหวัดฮอกไกโด (Shirogane Blue Pond, Hokkaido)
สระน้ำสีฟ้า ชิโรงาเนะอาโออิเคะ (Shirogane Aoi Ike) เป็นสระน้ำธรรมชาติสีฟ้าใสตั้งอยู่ใจกลางเมืองบิเอะ (Biei) เป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่มีลักษณะน้ำสีฟ้ากลางหุบเขา ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนจะได้พบกับวิวสระน้ำสีฟ้าที่โอบล้อมด้วยทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสี
อีกทั้ง ในช่วงกลางคืนจะมีงานประดับไฟ Blue Pond Light Up โดยในปี 2022 นี้จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนถึงวันที่ 30 เมษายน 2023 สามารถเพลิดเพลินวิวกลางคืนและสระน้ำที่มีแสงไฟส่องสว่างสะท้อนกับพื้นพื้นผิวน้ำสีฟ้า ให้ความรู้สึกแปลกตาแตกต่างไปจากตอนกลางวัน
เวลาทำการ : ตลอด 24 ชั่วโมง (ช่วงที่จัดงาน Light up จะเปิดไฟหลังพระอาทิตย์ตกดิน- 21.00 น.)
ค่าเข้าชม : ฟรี
การเดินทาง : จากสถานีบิเอะ ( JR Biei Station) ต่อรถบัสสาย Biei-Shirogane Onsen ไปลงที่ Shirogane Aoi-Ike Iriguchi ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
※ หมายเหตุ:ที่เที่ยวแห่งนี้สามารถเข้าถึงได้ง่ายด้วยรถยนต์เช่า แต่ขอให้ผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการขับรถในญี่ปุ่นหลีกเลี่ยงการขับรถในฤดูที่มีหิมะตก เนื่องจากเส้นทางมีความเสี่ยงและอันตราย ※
2. ทะเลสาบอะคัง จังหวัดฮอกไกโด (Lake Akan, Hokkaido)
เป็นทะเลสาบที่เหมาะกับการไปเที่ยวชมในช่วงเดือนธันวาคม-เดือนมีนาคม ซึ่งจะได้พบกับปรากฏการณ์บนพื้นผิวทะเลสาบอะคัง (Lake Akan) ที่เรียกว่า ฟรอสต์ฟลาวเวอร์ (Frost Flower) หรือดอกไม้หิมะ ซึ่งก็คือการที่น้ำค้างแข็งตัวและตกผลึกเป็นรูปคล้ายดอกไม้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ทั่วผืนทะเลสาบจนเกิดเป็นเหมือนทุ่งดอกไม้สีขาว
การเกิดดอกไม้หิมะมักจะเกิดขึ้นตอนกลางคืน และต้องอาศัยความเย็นจัดพอที่ผิวของทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็ง แต่ไม่ถูกปกคลุมด้วยหิมะ อุณหภูมิมักจะต่ำกว่าลบ 15 องศา และต้องไม่มีลม ช่วงที่ฟรอสต์ฟลาวเวอร์บานสวยที่สุดคือเดือนธันวาคม
เวลาเกิดฟรอสต์ฟลาวเวอร์ : เดือนธันวาคม - เดือนมีนาคม
การเดินทาง : จากสนามบินทันโจคุชิโระ (Tancho Kushiro Airport) ขึ้นรถบัส Akan Airport Liner ไปลง Akanko Onsen ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วเดินต่อไปที่ทะเลสาบ
※ หมายเหตุ:ที่เที่ยวแห่งนี้สามารถเข้าถึงได้ง่ายด้วยรถยนต์เช่า แต่ขอให้ผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการขับรถในญี่ปุ่นหลีกเลี่ยงการขับรถในฤดูที่มีหิมะตก เนื่องจากเส้นทางมีความเสี่ยงและอันตราย ※
3. งานประดับไฟป้อมปราการรูปดาวโกเรียวคาคุ จังหวัดฮอกไกโด (The Star Illumination of Goryokaku, Hokkaido)
ป้อมปราการรูปดาวหรือโกเรียวคาคุ (Goryokaku) ในเมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate) เป็นแลนมาร์คด้านการท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองที่มักจะมีการจัดกิจกรรมพิเศษในแต่ละช่วงเวลาที่แตกต่างกันไป เมื่อถึงปลายปีตั้งแต่เดือนธันวาคม
บริเวณป้อมปราการแห่งนี้ก็จะได้รับการตกแต่งด้วยไฟส่องสว่างเพื่อให้มีรูปทรงดาวโดดเด่น สามารถขึ้นไปชมวิวมุมสูงของรูปดาวที่งดงามจากบนหอคอย และเมื่อหิมะสะสมตกลงมาสะสมบนคูน้ำที่กลายเป็นน้ำแข็ง ดาวโกะเรียวคาคุจะเปล่งประกายเจิดจ้ายิ่งขึ้น และสวยงามเป็นพิเศษ และยังเดินเล่นยามเย็นตรงขอบรูปดาวได้ด้วย
ช่วงเวลาจัดงาน : 1 ธันวาคม 2022-28 กุมภาพันธ์ 2023
เวลาจัดงาน : ตั้งแต่ 17.00- 20.00 น.
ค่าเข้าชม : ฟรี
การเดินทาง : จากสถานีฮาโกดาเตะ (Hakodate Station) เดิน 15 นาที หรือขึ้นรถรางไปลงที่ป้าย Goryokaku-koen-mae
4. ทะเลสาบทาซาวะ จังหวัดอากิตะ (Lake Tazawa, Akita)
ทะเลสาบทาซาวะ (Lake Tazawa) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอุทยานแห่งชาติโทวาดะฮาจิมันไต (Towada-Hachimantai National Park) ถือเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในญี่ปุ่น โดยมีความลึกถึง 423 เมตร และเปลี่ยนสีได้ โดยสีของน้ำจะเปลี่ยนไปตามสภาพภูมิอากาศได้อย่างน่ามหัศจรรย์
อีกทั้ง ผิวน้ำก็ยังมีความใสมากจนสะท้อนเงาของภูเขาได้เกือบทั้งหมด ช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม เหมาะกับการมาท่องเที่ยวและทำกิจกรรมต่างๆ เช่น นั่งเรือนำเที่ยวชมความงามโดยรอบของทะเลสาบใช้เวลาประมาณ 40 นาที ท่ามกลางทิวทัศน์ของภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาวเป็นฉากหลัง
ค่าเข้าชม : ฟรี
การเดินทาง : จากสถานีทาซาวะโกะ (Tazawako Station) ขึ้นรถบัสสาย Tazawako Isshu ไปลงที่ทะเลสาบใช้เวลาประมาณ 40 นาที
※ หมายเหตุ:ที่เที่ยวแห่งนี้สามารถเข้าถึงได้ง่ายด้วยรถยนต์เช่า แต่ขอให้ผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการขับรถในญี่ปุ่นหลีกเลี่ยงการขับรถในฤดูที่มีหิมะตก เนื่องจากเส้นทางมีความเสี่ยงและอันตราย ※
5. กินซังออนเซ็น จังหวัดยามางาตะ (Ginzan Onsen, Yamagata)
กินซังออนเซ็น (Ginzan Onsen) แหล่งออนเซ็นธรรมชาติเก่าแก่ในยามากาตะ (Yamagata) ที่มีจุดเด่นคือบรรยากาศธรรมชาติและสถาปัตยกรรมสิ่งปลูกสร้างแบบญี่ปุ่นโบราณ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือนเก่าแก่หรือเรียวกังที่สร้างขึ้นด้วยไม้อายุนับร้อยปี
เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวตั้งแต่เดือนธันวาคมก็จะได้สัมผัสประสบการณ์แช่ออนเซ็นพร้อมชมวิวหิมะสีขาวที่ปกคลุม ถือเป็นฤดูกาลที่มีทัศนียภาพงดงามไม่น้อยไปกว่าฤดูกาลอื่น ภาพบ้านเรือนยุคโบราณที่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาวชวนให้รู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปในญี่ปุ่นยุคอดีตอย่างน่าอัศจรรย์
ช่วงไปเที่ยวแนะนำสำหรับชมหิมะ : เดือนธันวาคม - เดือนกุมภาพันธ์
ค่าใช้จ่าย : ขึ้นอยู่กับโรงแรมและออนเซ็นที่เลือกใช้บริการ
การเดินทาง : จากสถานีโออิชิดะ (Oishida Station) สาย Yamagata Shinkansen นั่งรถบัสไปลงป้ายสุดท้ายที่ Ginzan Onsen ใช้เวลา 40 นาที (จะมีรถบัสออกทุก 60-90 นาที)
6. หมู่บ้านโอจิจูกุ จังหวัดฟุคุชิมะ (Ouchi-juku, Fukushima)
หมู่บ้านโอจิจูกุ (Ouchi-juku) เป็นหมู่บ้านโบราณที่สร้าวขึ้นตั้งแต่สมัยเอโดะและยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีมีบ้านเรือนโบราณประมาณ 40 หลัง ตั้งอยู่สองฝั่งถนนความยาวประมาณ 500 เมตร ในอดีตเคยเป็นที่พักแรมของพวกขุนนางและพ่อค้าหรือนักเดินทาง
ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งของจังหวัดฟุคุชิมะ บ้านบางหลังมีการดัดแปลงร้านอาหารบ้าง ร้านขายของที่ระลึกบ้าง สามารถเดินเล่นซื้อของรับประทาน และเที่ยวชมธรรมชาติรอบๆ โดยเฉพาะถ้าเดินทางไปช่วงเดือนธันวาคม ก็จะได้พบกับวิวหิมะสีขาวปกคลุมหลังคาหมู่บ้านซึ่งเป็นภาพทิวทัศน์ที่งดงามเหมาะกับถ่ายภาพสวยๆ ในฤดูหนาว
ช่วงไปเที่ยวแนะนำสำหรับชมหิมะ : ประมาณธันวาคม - กุมภาพันธ์
ค่าเข้าชม : ฟรี
เวลาทำการ : 10.00-16.00 น.
การเดินทาง : จากสถานียูโนะคามิ ออนเซ็น ( Yunokami Onsen Station) สาย Aizu Railway Aizu ต่อรถบัสไปลงที่ Ouchi-juku ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
7. งานประดับไฟเมืองเซนได จังหวัดมิยากิ (Sendai Pageant of Starlight, Miyagi)
งานประดับไฟเมืองเซนได (Sendai Pageant of Starlight) ถือว่าเป็นหนึ่งในงานแสดงไฟประดับฤดูหนาวที่ยิ่งใหญ่งานหนึ่งของญี่ปุ่น โดยจะมีการประดับไฟคริสต์มาส 600,000 ดวง ซึ่งส่องสว่างตลอดแนวถนนที่มีต้นสนเซลโคว่าเรียงรายสองฟากฝั่งถนนโจเซนจิโดริ (Jozenji-Dori) ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นอุโมงค์แสงไฟตลอดเดือนธันวาคม
และในสวนสาธารณะโคโตได (Kotodaikoen) ที่อยู่ใกล้กันมีการแสดงแสงสียามค่ำคืนในธีมที่หลากหลายให้ได้ชมอย่างเพลิดเพลิน สามารถวางแผนไปเดินเล่น ถ่ายภาพสวยๆ ได้ทั้งบริเวณถนนโจเซนจิโดริและภายในสวนสาธารณะโคโตได
ช่วงเวลาจัดงาน : กลางเดือนธันวาคม 2022- กลางเดือนมกราคม 2023
ค่าเข้าชม : ฟรี
การเดินทาง : เดินประมาณ 1 นาที จากสถานีโคโตไดโคเอ็น (Kotodai-koen Station) รถไฟใต้ดินสาย Namboku Line
8. ตลาดคริสต์มาส โกดังอิฐแดงโยโกฮาม่า จังหวัดคานางาวะ (Yokohama Red Brick Warehouse Christmas Market, Kanagawa)
โกดังอิฐแดงที่โยโกฮาม่า (Yokohama Red Brick Warehouse) ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนจนถึงวันคริสมาสต์ จะมีการจัดงานตลาดคริสต์มาสโดยจะได้พบกับตลาดที่ทอดยาวไปตามโกดังอิฐสีแดงที่สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป ซึ่งภายในจะมีการจัดงานและกิจกรรมความบันเทิงต่างๆ และพื้นที่ด้านหน้าตลาดก็จะมีการประดับตกแต่งแสงสีในธีมคริสต์มาส
นอกจากนี้ ยังมีต้นคริสต์มาสยักษ์ความสูงราว 10 เมตรมาเพิ่มบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง รวมถึงร้านค้าร้านอาหารต่างๆ มาออกร้านให้ได้เลือกซื้อ เลือกชิมอย่างหลากหลาย เช่น อาหารสไตล์ตะวันตก ไส้กรอก ไวน์ สามารถนั่งพักผ่อนสบายๆ ดื่มเครื่องดื่มอร่อยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Minatomirai ไปลงสถานีนิฮงโอโดริ (Nihon-Odori Station) แล้วเดินต่ออีกประมาณ 6 นาที
9. ตลาดคริสต์มาสเทนจิน จังหวัดฟุกุโอกะ (Tenjin Christmas Market, Fukuoka)
ตลาดคริสต์มาสเทนจิน จัดขึ้นที่ศาลากลางจังหวัดฟุกุโอกะฝั่งตะวันตก (Fukuoka City Hall West Side Fureai Plaza) ซึ่งธีมการจัดงานแต่ละปีก็คือการนำรสชาติของเทศกาลคริสต์มาสในยุโรปมาสู่เมือง ภายในงานจะมีอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ยุโรปให้เลือกมากมาย เช่น พิซซ่า ไส้กรอก รวมถึงฮอทไวน์ที่ได้รับความนิยมเสมอมา
ท่ามกลางบรรยากาศแสงไฟระยิบระยับที่ส่องสว่างบริเวณนั้นหลังพระอาทิตย์ตกดิน รวมทั้งมีการประดับตกแต่งด้วยตุ๊กตาซานตาคลอสทั่วบริเวณที่จัดงานนับร้อยตัวและสามารถนั่งรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มพร้อมทั้งชมการแสดงดนตรีสดบนเวทีอย่างเพลิดเพลินได้ตลอดทั้งคืน
การเดินทาง : เดิน 4 นาทีจากสถานีเทนจิน (Tenjin Station) สาย Fukuoka City Subway's Kuko Line
10. ตลาดคริสต์มาสรปปงงิ ฮิลล์ โตเกียว (Roppongi Hills Christmas Market, Tokyo)
ตลาดคริสต์มาสที่ รปปงงิ ฮิลล์ ในกรุงโตเกียว เป็นตลาดคริสต์มาสที่จัดขึ้นโดยเน้นบรรยากาศความหรูหรา ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตลาดคริสต์มาสของเมืองสตุตการ์ท (Stuttgart) ในประเทศเยอรมัน อาหารที่ขายก็จะมีไส้กรอกเยอรมันและอาหารเยอรมันรวมทั้งอาหารญี่ปุ่นด้วย
โดยเฉพาะสิ่งของหรืออาหารในธีมวันคริสต์มาส ควบคู่ไปกับประดับไฟส่องสว่างทั่วบริเวณรปปงิฮิลล์ สำหรับกิจกรรมในงานนี้ก็จะเริ่มตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงค่ำ มีการประดับตกแต่งต้นคริสต์มาสด้วยเครื่องประดับเล็ก ๆ น้อย ๆ ขนม ของขวัญ และมีกิจกรรมรื่นเริงบนเวทีด้วย
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินไปลงที่สถานีรปปงงิ (Roppongi Station) จากนั้นเดินเท้าต่อประมาณ 10 นาที
11. กินปูเอจิเซ็น จังหวัดฟุคุอิ (Echizengani, Fukui)
จังหวัดฟุคุอิขึ้นชื่อเรื่องความเลิศรสของปูเอจิเซ็น (Echizengani) ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “ราชาแห่งปู” ในหมู่ปูซุไวกานิ (Zuwaigani) ซึ่งเป็นปูชนิดหนึ่งที่จับได้จากทะเลญี่ปุ่นและทะเลโอคอสต์และเป็นปูที่เติบโตในทะเลที่หนาวเย็นของทะเลญี่ปุ่น
ในช่วงฤดูหนาวประมาณเดือนพฤศจิกายนที่เป็นฤดูจับปูซุไวกานิของญี่ปุ่น ปูเอจิเซ็นจะออกสีส้มอมแดง เนื้อนุ่มรสหวาน ตามร้านอาหารจะมีเมนูให้เลือกหลากหลายแตกต่างกันไป ราคาอาจชวนตะลึงไปบ้างแต่เมื่อเทียบกับรสชาติที่ได้แล้วก็คุ้มค่าสุดๆ หากไปญี่ปุ่นในช่วงฤดูกาลกินปู ก็อย่าลืมไปจัดมาสักมื้อ
ฤดูกินปู : เดือนพฤศจิกายน – มีนาคม (เมนูปูเอจิเซ็นมีหลายราคาตั้งแต่หลักหลายพันไปถึงหมื่นเยน)
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟด่วน Thunderbird Limited Express จากสถานีชินโอซาก้า (Shin-Osaka Station) ไปลงสถานีฟุคุอิ (Fukui Station) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ใกล้สถานีมีร้านอาหารหลายร้านที่มีเมนูปูเอจิเซ็น
12. งานประดับไฟถนนมิโดสึจิ จังหวัดโอซาก้า (Midosuji Illumination, Osaka)
ช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ของทุกปีที่ถนนมิโดสึจิ (Midosuji) ในโอซาก้าจะต้อนรับเทศกาลเฉลิมฉลองด้วยการประดับตกแต่งด้วยแสงไฟในใจกลางเมือง เพื่อให้ผู้คนในเมืองรวมถึงนักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกับการเดินชมแสงไฟระยิบระยับทั้งท้องถนนยามค่ำคืน
สำหรับ Midosuji Illumination ก็จะมีการประดับไฟทอดยาวเกือบตลอดความยาวของถนนราว 3 กิโลเมตรผ่านใจกลางโอซาก้าระหว่างย่านอุเมดะ (Umeda) และนัมบะ (Namba) ทำให้เป็นหนึ่งในถนนที่มีแสงสว่างที่ยาวที่สุดในโลก ต้นแปะก๊วยหลายร้อยต้น ร้านค้าและอาคารเก่าแก่หลายแห่งที่เรียงรายอยู่ริมถนนนั้นประดับประดาไปด้วยแสงไฟหลากสีสันและของประดับตกแต่ง
การเดินทาง : สามารถเดินจากสถานีรถไฟใต้ดินสาย Midosuji Line ไปตาม Midosuji Street หรือเดินจากสถานีโยโดยะบาชิ (Yodoyabashi Station) และสถานีชินไซบาชิ (Shinsaibashi Station)
13. งานเทศกาลชมใบไม้เปลี่ยนสีภูเขาทาคาโอะ (Mt.Takao Autumn Leaves Festival)
ภูเขาทาคาโอะ (Mt.Takao) ในย่านชานเมืองโตเกียวเป็นจุดหมายปลายทางที่ยอดเยี่ยมสำหรับการท่องเที่ยวที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี และในช่วงฤดูใบไม้ร่วงช่วงเดือนพฤศจิกายก็จะได้พบกับวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามสามารถมองเห็นได้ตลอดทางขึ้นจากฐานของภูเขาไปยังยอดเขา
กิจกรรมยอดนิยมของนักท่องเที่ยวคือการนั่งกระเช้าลอยฟ้าจากสถานี Kiyotaki ที่ฐานไปยังสถานี Takaosan ที่ด้านบนสุด ระหว่างทางขึ้นเขา มีจุดท่องเที่ยวที่สวยงามมากมายในธรรมชาติและของกินอร่อยๆ นอกจากนี้ ตั้งแต่ช่วงต้นพฤศจิกายนไปจนถึงต้นธันวาคม ก็จะมีการจัดงานเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีของภูเขาทาคาโอะที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีให้ได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ ด้วย
การเดินทาง : เดินประมาณ 3 นาทีจากสถานีทาคาโอะซังกูจิ (Takaosanguchi Station) สาย Keio Takao Line