8 ภูเขาดังคล้ายภูเขาไฟฟูจิ ถ่ายรูปสวย ที่ควรไปเยือนให้ได้สักครั้ง
![8 ภูเขาดังคล้ายภูเขาไฟฟูจิ ถ่ายรูปสวย ที่ควรไปเยือนให้ได้สักครั้ง](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/860/auto/global-aaj-front/article/2023/06/647863f7196a2_647863e50a25a_1309763811.png)
ภูเขาไฟฟูจิ (Mt.FujI) เปรียบเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่อลังการและงดงามของประเทศญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มีโอกาสไปเยือนญี่ปุ่นครั้งแรก ก็มักจะไปเยือนภูเขาไฟฟูจิ เพื่อจะได้ไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง แต่นอกจากฟูจิแล้วในญี่ปุ่นก็ยังมีภูเขาอื่นอีกหลายลูก ที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายฟูจิและมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะอื่นๆ ที่น่าสนใจด้วย
※ หมายเหตุ บทความนี้ได้ทำการเรียบเรียงใหม่ (Re-write) ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2023
1. ภูเขาโยเทอิ (Mt.Yotei) จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido)
![1. ภูเขาโยเทอิ (Mt.Yotei) จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido)](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2023/06/64785fd6c2f27_64785982b5a4f_773060402.jpg)
https://pixta.jp/
ภูเขาโยเทอิ (Mt.Yotei) ตั้งอยู่ทางใต้ของฮอกไกโด (Hokkaido) ลักษณะเป็นภูเขาไฟรูปทรงกรวยที่จริงๆ แล้ว ยังไม่ดับ มีความสูง 1,898 เมตร ปล่องภูเขาไฟมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 700 เมตร และมีความลึก 200 เมตรจากจุดสูงสุด ได้รับสมญานามว่าเป็น “ฟูจิน้อย” และด้วยความโดดเด่นสูงใหญ่และทัศนียภาพที่งดงามทุกฤดู ทำให้ภูเขาโยเทอิได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 100 ภูเขาที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย ในบรรดาภูเขาหน้าคล้ายฟูจิด้วยกันแล้ว ลูกนี้ก็ถือว่าคล้ายมากเป็นพิเศษ
พื้นที่รอบๆ ภูเขาอุดมไปด้วยแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ หิมะและสกี ทะเลสาบ รวมถึงสัตว์ป่าหลากหลายพันธุ์ อีกทั้งยังมีบริการกิจกรรมแอดเวนเจอร์ให้กับนักท่องเที่ยวที่สนใจด้วย เช่น 4 เส้นทางปีนเขาโยเทอิ ซึ่งจะเปิดเฉพาะช่วงฤดูร้อนถึงฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น
![](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2023/06/64785fd75088e_64785a2bbb084_38694145.jpg)
https://pixta.jp/
การเดินทาง : จากสถานีซัปโปโร (Sapporo Station) โดยสารรถไฟสาย JR Hakodate Line ไปลงที่สถานีโอตารุ (Otaru Station) จากนั้นเปลี่ยนรถไฟอีกต่อ (สายเดิม) เพื่อไปลงสถานีคุทจัง (Kutchan Station) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นต่อรถบัสสาย Yotei Tozan Guchi ไปลงจุดบริการชมวิวและถ่ายรูปภูเขาโยเทอิที่นิเซโกะ (Niseko) ใช้เวลาอีก 20 นาที สำหรับผู้ที่ต้องการขึ้นเขา
สำหรับผู้ที่ต้องการชมอยู่ห่างๆ เพียงแค่นั่งรถไฟสายท้องถิ่นไปลงที่สถานี Kutchan, Hirafu, Niseko ก็สามารถเห็นภูเขาได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเลือกที่พักตามสกีรีสอร์ทบนเนิน หรือนั่งกระเช้าขึ้นสู่เนินสูงๆ ตามลานสกีต่างๆ
2. ภูเขาอิวากิ (Mt.Iwaki) จังหวัดอาโอโมริ (Aomori)
![2. ภูเขาอิวากิ (Mt.Iwaki) จังหวัดอาโอโมริ (Aomori)](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2020/03/5e82e4e005bf2_5e82e22ecd381_2145212720.jpg)
ภูเขาอิวากิ (Mt. Iwaki) ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองฮิโรซากิ (Hirosaki) จังหวัดอาโอโมริ (Aomori) มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "ฟูจิแห่งสึการุ" เนื่องจากมีรูปร่างหน้าตาคล้ายภูเขาไฟฟูจิ และตั้งอยู่ในสึการุ (Tsugaru) ซึ่งเป็นชื่อของพื้นที่แถวนี้ในสมัยก่อน
ช่วงฤดูหนาวบริเวณภูเขาแห่งนี้จะมีปริมาณหิมะตกค่อนข้างมาก ทำให้มีทิวทัศน์ปกคลุมด้วยหิมะสีขาวเป็นทัศนียภาพที่งดงามมาก นอกจากนี้ในฤดูร้อนก็ยังสามารถทำกิจกรรมเดินป่า ปีนเขา ประเภท เทรคกิ้ง (Trekking) และไฮกิ้ง (Hiking) บนภูเขาได้ โดยจะเปิดให้บริการช่วงเดือนเมษายน –พฤศจิกายน ของทุกปี ช่วงที่แนะนำคือ ปลายเดือนเมษายน ที่จุดชมวิวบนภูเขา สามารถมองเห็นทิวทัศน์ดอกซากุระบานเรียงเป็นแนวยาว ราว 20 กิโลเมตร กว่า 6 พันต้น เหมาะกับการถ่ายภาพพาโนรามาเป็นอย่างยิ่ง
![](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2023/06/64785fd7cc655_64785ae271812_1710625145.jpg)
https://pixta.jp/
การเดินทาง : จากสถานีชินอาโอโมริ (Shin-Aomori Station) โดยสารรถไฟสายโออุ JR Ou Line ไปลงที่สถานีฮิโรซากิ (Hirosaki Station) ใช้เวลาประมาณ 40 นาที จากนั้นต่อรถบัสประจำทางไปอีกประมาณ 55 นาทีก็จะถึงภูเขาอิวากิชั้นที่ 8 แต่สำหรับผู้ที่ไม่ปีน สามารถชมภูเขาอิวากิได้จากหลายจุดในเมืองฮิโรซากิ เช่นบริเวณรอบปราสาท
3. ภูเขาไดเซน (Mt.Daisen) จังหวัดทตโตริ (Tottori)
![3. ภูเขาไดเซน (Mt.Daisen) จังหวัดทตโตริ (Tottori)](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2023/06/64785fd84e4d0_64785b486e0f8_1476072143.jpg)
https://pixta.jp/
ภูเขาไดเซน (Daisen) ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของจังหวัดทตโตริ (Tottori) เป็นภูเขาไฟขนาดใหญ่และมีความสูง 1,729 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ในอดีตได้ชื่อว่าเป็นภูเขาแห่งพระเจ้า ถ้าภูเขาไฟฟูจิคือภูเขาไฟที่ยิ่งใหญ่ในฝั่งตะวันออก ภูเขาไดเซนก็ยิ่งใหญ่เปรียบได้กับฟูจิแห่งฝั่งตะวันตกตามความเชื่อของผู้คนในสมัยนั้น
จุดเด่นของภูเขาไดเซน นอกจากความยิ่งใหญ่และธรรมชาติรายล้อมอย่างอุดมสมบูรณ์ ก็คือทิวทัศน์ในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม และพีคที่สุดราวๆ ต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งจะได้พบกับภาพภูเขาไดเซนที่ถูกย้อมด้วยสีเหลือง ส้ม แดง ถือเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสืที่ได้มีชื่อเสียงมากในภูมิภาคชูโกกุ นอกจากนี้ในฤดูอื่นๆ ก็ยังมี กิจกรรมน่าสนใจต่างๆ เช่น การตั้งแคมป์ ปีนเขา เดินสำรวจธรรมชาติในฤดูร้อน
![](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2023/06/64785fd8d57f2_64785b9b3b874_1913526383.jpg)
https://pixta.jp/
การเดินทาง : จากสถานีโยนาโกะ (Yonago Station) ขึ้นรถบัสนำเที่ยวสายไดเซนจิ (Daisenji) ไปลงรถที่ป้ายไดเซนจิ (Daisenji Bus Stop) ใช้เวลาประมาณ 50 นาที แล้วเดินต่อ 15-20 นาที
4. ภูเขาไคมงดาเกะ (Mt.Kaimondake) จังหวัดคาโกชิมะ (Kagoshima)
![4. ภูเขาไคมงดาเกะ (Mt.Kaimondake) จังหวัดคาโกชิมะ (Kagoshima)](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2023/06/64785fd96e61f_64785c599d3ed_181635466.jpg)
https://pixta.jp/
ภูเขาไคมงดาเกะ (Mt.Kaimondake) ตั้งอยู่ในเมืองอิบุสุกิ (Ibusuki) ในจังหวัดคาโกชิมะ ลักษณะเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับรูปทรงกรวยสูง ความสูงประมาณ 924 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล มีสมญานามว่า The Fuji of Satsuma โดยชื่อซัทสึมะ (Satsuma) ก็คือชื่อคาบสมุทรทางตะวันตกเฉียงใต้ของคาโกชิมะ แม้ว่าจะมีรูปร่างค่อนข้างเล็ก แต่ก็มีทิวทัศน์ที่สวยงาม เพราะอยู่ใกล้กับเมืองชายทะเล มีมุมที่สามารถมองเห็นทั้งภูเขาไคมงดาเกะ และท้องทะเลกว้างใหญ่ได้อย่างชัดเจน
อีกทั้งยังมีจุดชมวิวทะเลสาบอิเคดะ (Lake Ikeda) ที่มีชื่อเสียง และมองเห็นวิวภูเขาไคมงดาเกะในอีกมุมหนึ่ง นอกจากนี้พื้นที่รอบภูเขากับทะเลก็ยังเป็นแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติและออนเซ็นทรายร้อน ซึ่งความมหัศจรรย์ของทรายสีดำบนชายหาดเมืองอิบุสุกิส่วนหนึ่งก็มาจากภูเขาไคมงดาเกะที่ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันนั่นเอง
![](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2023/06/64785fd9e279f_64785c6d9d4ef_2104677452.jpg)
https://pixta.jp/
การเดินทาง : จากสถานีคาโกชิมะชูโอ (Kagoshima-Chuo Station) โดยสารรถไฟสาย JR Ibusuki Makurazaki Line ไปลงที่สถานีไคมง (Kaimon Station) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ระหว่างนั่งรถไฟสามารถเห็นภูเขาได้อย่างชัดเจนจากหลายสถานี
5. ภูเขาริชิริ (Mt.Rishiri) จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido)
![5. ภูเขาริชิริ (Mt.Rishiri) จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido)](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2023/06/64785fda63d1c_64785d11eac33_530534554.jpg)
https://pixta.jp/
ภูเขาริชิริ (Mt. Rishiri) เป็นภูเขาไฟที่สงบแล้ว ตั้งอยู่บนเกาะริชิริ (Rishiri Island) เกาะเล็กๆ ที่อยู่ห่างจากฮอกไกโดราวๆ 20 กิโลเมตร มีสมญานามว่า “ริชิริฟูจิ (Rishiri Fuji)” หรือ ภูเขาฟูจิแห่งริชิริ เนื่องจากมีรูปร่างหน้าตาทรงกรวยคล้ายภูเขาไฟฟูจิ โดยมีความสูงประมาณ 1,721 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล และโดดเด่นกว่าภูเขาคล้ายฟูจิอื่นๆ ตรงที่ถ้าหากมองจากแผ่นดินใหญ่ของฮอกไกโด จะดูเหมือนภูเขาที่ตั้งอยู่ในทะเลโดยไม่มีแผ่นดินล้อมรอบ
รอบพื้นที่ภูเขาแห่งนี้บนเกาะริชิริ เต็มไปด้วยธรรมชาติของป่าดึกดำบรรพ์กับแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ มีเส้นทางเดินป่าสำรวจธรรมชาติ และเส้นทางปีนเขา เส้นทางปั่นจักรยาน จุดตั้งแคมป์ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมแอดเวนเจอร์ด้วย หรือจะเช่ารถยนต์ขับชมทิวทัศน์ก็ได้ ช่วงเวลาที่แนะนำคือ ฤดูร้อน ราวๆ เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ซึ่งบรรยากาศแวดล้อมบนเกาะและภูเขาไฟค่อนข้างแจ่มใส เหมาะกับการทำกิจกรรมท่องเที่ยวเพื่อผ่อนคลาย
![](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2023/06/64785fdad9691_64785d311033e_1600279210.jpg)
https://pixta.jp/
การเดินทาง : โดยสารเครื่องบินภายในประเทศจากสนามบินนิวชิโตะเซะ (New Chitose Airport) ไปยังเกาะริชิริ ใช้เวลาประมาณ 50 นาที (บริการเส้นทางบินเฉพาะเดือนมิถุนายน-กันยายนของทุกปี) หรือเดินทางด้วยเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากจากเมืองวัคคะไน (Wakkanai) ไปที่ท่าเรือโอชิโดมาริ (Oshidomari Port) บนเกาะริชิริ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที (ให้บริการวันละ 2-4 เที่ยว)
6. ภูเขาโชไค (Mt.Chokai) จังหวัดยามากาตะ (Yamagata) และอาคิตะ (Akita)
![6. ภูเขาโชไค (Mt.Chokai) จังหวัดยามากาตะ (Yamagata) และอาคิตะ (Akita)](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2023/06/64785fdb6c227_64785d7e07d11_1782242038.jpg)
https://pixta.jp/
ภูเขาโชไค (Mt.Chokai) ตั้งอยู่ในพื้นที่ครอบคลุมสองจังหวัดคือยามากาตะ (Yamagata) และอาคิตะ (Akita) มีชื่อเสียงในฐานะภูเขาแสนงามที่มีหิมะปกคลุมไม่ว่าจะมองจากเชิงเขาหรือยอดเขาก็สวยงามและเป็นภูเขาไม่กี่แห่งที่เริ่มต้นที่ 0 เมตรจากระดับน้ำทะเลญี่ปุ่นและตั้งตระหง่านขึ้นไปถึงความสูง 2,236 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นภูเขาสูงสง่างามที่มองดูคล้ายภูเขาฟูจิจึงทำให้ได้รับสมญานามว่า "ฟูจิแห่งเดะวะ"
จุดเด่นของภูเขาแห่งนี้คือภาพหิมะตรงปลายยอดอันสวยงามเพราะเป็นภูเขาลูกเดี่ยวทัศนวิสัยจึงเปิดโล่งมองเห็นวิวได้รอบทิศ อีกทั้งยังสามารถปีนภูเขาโชไคได้ในช่วงเดือนพฤษภาคม - ตุลาคม นอกจากนี้ยังมีออนเซ็นธรรมชาติสำหรับพักผ่อนหลังปีนเขาอยู่ที่ทางขึ้นเขาชื่อ “ยุโนะไดกุจิ” มีให้บริการทั้งแบบเข้าพักค้างคืนหรือแช่ออนเซ็นเพียงอย่างเดียว
![](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2023/06/64785fdbe74ae_64785dd75824f_1614168433.jpg)
https://pixta.jp/
การเดินทาง : จากสถานี JR Sakata บนสาย Uetsu Main Line ใช้เวลาเดินทางด้วยรถยนต์ไปถึง ยุโนะไดกุจิ ใช้เวลา 40 นาที (ในช่วงเปิดให้ปีนเขาจะมีรถสาธารณะให้บริการรับส่ง)
7. ภูเขาอิโนะยามะ (Mt.Iinoyama) จังหวัดคางาวะ (Kagawa)
![7. ภูเขาอิโนะยามะ (Mt.Iinoyama) จังหวัดคางาวะ (Kagawa)](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2023/06/64785fdc70ba8_64785e399a709_511181229.jpg)
https://pixta.jp/
ภูเขาอิโนะยามะ (Mt. Iinoyama) ในจังหวัดคางาวะ (Kagawa) เป็นภูเขาที่มีความสูงราว 422 เมตร ตั้งอยู่ระหว่างเมืองมารุกาเมะ (Marugame) และเมืองซาไคเดะ (Sakaide) เปรียบเหมือนสัญลักษณ์อีกแห่งหนึ่งของคางาวะ มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าซานุกิ ฟูจิ (Sanuki Fuji) ความหมายคือ ฟูจิในซานุกิ ซึ่งซานุกิ เป็นชื่อเดิมของจังหวัดคางาวะ ด้วยรูปร่างของภูเขาที่ดูสง่างามคล้ายภูเขาฟูจิจึงเป็นที่มาของชื่อนี้นั่นเอง
นอกจากนี้ทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงามทุกฤดูกาลของภูเขาอิโนะยามะยังทำให้ถูกกล่าวถึงในบทกวีคลาสสิกของญี่ปุ่นในอดีตอยู่เสมอ โดยเฉพาะในหลายๆ บทกลอนของ ไซเกียว โฮชิ (Saigyo Hoshi) นักกวีชาวญี่ปุ่นช่วงปลายยุคเฮอัน
![](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2023/06/64785fdceeacf_64785e6f6f90e_2117449354.jpg)
https://pixta.jp/
การเดินทาง : จากสถานี Marugame บนสาย JR Yosan Line ขึ้นรถบัสชุมชน Marugame ที่มุ่งหน้าไปยัง Marugame Danchi และลงที่ Iinoyamatozanguchi มีรถโดยสารประจำทาง 7 คันต่อวัน ใช้เวลาเดินทาง 25 นาที
8. ภูเขานันไท (Mt.Nantai) จังหวัดโทชิกิ (Tochigi)
![8. ภูเขานันไท (Mt.Nantai) จังหวัดโทชิกิ (Tochigi)](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2023/06/64785fdd6bbb2_64785ee6b3f51_603134807.jpg)
https://pixta.jp/
ภูเขานันไท (Mt.Nantai) เป็นภูเขาในเขตอุทยานธรรมชาตินิกโก้ (Nikko) จังหวัดโทชิกิ (Tochigi) ที่มีความสูงถึง 2,486 เมตร และตั้งอยู่ติดกับทะเลสาบชูเซนจิ (Chuzenji) ทำให้บริเวณรอบๆ ภูเขามีทิวทัศน์งดงามด้วยป่าไม้และความสวยงามใสสะอาดของทะเลสาบชูเซนจิ ช่วงที่เหมาะกับการมาเที่ยวชมเป็นพิเศษคือฤดูใบไม้ร่วงกับวิวใบไม้เปลี่ยนสี
ภูเขานันไทมีชื่อเรียกอีกชื่อว่าชิโมสึเกะ ฟูจิ (Shimotsuke Fuji) กิจกรรมที่ได้รับความนิยมอีกอย่างเมื่อมาเยือนที่นี่คือการปีนเขาและเดินป่าซึ่งมีหลายเส้นทางที่สามารถขึ้นไปบนภูเขาได้ แต่ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวมักจะเลือกเส้นทางที่ผ่านศาลเจ้าฟุตาระซัง (Futarasan Jinja) ซึ่งมีทางขั้นบันไดและรูปปั้นที่สวยงามให้ได้ชม
![](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2023/06/64785fdde23d5_64785f278ae20_1791206720.jpg)
https://pixta.jp/
การเดินทาง : เริ่มต้นจากนิกโก้ขึ้นรถประจำทาง Bus Yumoto Hot Spring ไปลงที่ป้าย Futarasan Jinjamae แล้วก็เดินไปที่บริเวณภูเขาได้เลย
บทส่งท้าย
เป็นอย่างไรบ้างคะกับภูเขาในญี่ปุ่นที่เรานำเสนอไปในครั้งนี้ จะเห็นได้ว่าไม่เพียงแต่ภูเขาไฟฟูจิเท่านั้น ยังมีภูเขาอีกมากมายในญี่ปุ่นที่สวยไม่แพ้กัน หากเพื่อนๆ ไม่ได้แวะไปแถวภูเขาไฟฟูจิก็ไม่เป็นไร เพราะยังมีภูเขาเหล่านี้ให้ได้แวะไปเที่ยวหรือถ่ายรูปเหมือนกัน แล้วพบกันใหม่บทความถัดไป สุดท้ายนี้อย่าลืมติดตาม All About Japan และช่องทาง Social Media ของเรากันด้วยนะคะ
https://www.facebook.com/AllAboutJapan.th
https://www.instagram.com/allabout_japan_thai/
ผู้เขียนและเรียบเรียงใหม่: หนึ่ง
นักอ่านและนักเขียนที่ชอบการเดินทางไปในที่ต่างๆ โดยเฉพาะญี่ปุ่น รักการดูอนิเมะญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจ :)