สารพัดหน้าซูชิยอดนิยม
海栗(うに:Uni)= ซูชิหน้าไข่หอยเม่น
เจ้าอุนิหรือไข่หอยเม่นนี้หน้าตาบนซูชิจะมีสีเหลืองตุ่น เนื้อของไข่หอยเม่นมีลักษณะเป็นเม็ดกลมเล็กมากๆ เรียงชิดติดกัน เนื้อค่อนข้างนิ่มมาก มีรสคาวเล็กน้อยและมีรสชาติที่เฉพาะตัวซึ่งหากใครได้ลองแล้วถ้าไม่เกิดอาการหลงรักรสชาติไปเลยก็อาจจะไม่ชอบไปเลย แต่ถือเป็นหนึ่งในหน้าซูชิยอดฮิตที่คนไทยชอบหาทานที่ญี่ปุ่น เพราะราคานำเข้าในไทยนั้นแสนแพงแถมเป็นวัตถุดิบที่ต้องทานกันสดๆอีกด้วย ซึ่งรสชาติของเขามีผลมากพอที่ทำให้คอเมนูซูชิควักตังค์จ่ายในราคาอันสูง ในร้านขายซูชิราคาประหยัดมักจะไม่มีขายด้วย
เกร็ดเล็กน้อยที่อยากบอกนั้น แท้จริงแล้วไม่ใช่วัตถุดิบที่นำไข่ที่เป็นผลผลิตจากหอยเม่นเหมือนไข่ปลามาโปะบนข้าวแบบที่เราเข้าใจนะ แต่นั่นคืออวัยวะสืบพันธ์ของหอยเม่น คือถุงน้ำเชื้อหรือรังไข่นั่นเอง (นิยมกินทั้งสองเพศ แต่ถ้าดูดีๆจะเห็นว่าสีต่างกันเล็กน้อย) รู้อย่างนี้แล้วอย่าเพิ่งบูลลี่น้องนะ เพราะแท้จริงแล้วรสชาติของเขาอร่อยมาก
いくら (Ikura) = ซูชิหน้าไข่ปลาแซลม่อน
ไข่ปลาแซลม่อนเป็นหน้าซูชิที่แอบมีลูกเล่นในรสสัมผัส โดยลักษณะหน้านี้จะเป็นไข่ปลาลูกค่อนข้างใหญ่สีส้มใสมันวาวง เมื่อกัดชิมไปที่หน้าของซูชินี้รสที่ได้จะออกคาวธรรมชาติสักหน่อย เค็ม แถมมีความมันของตัวไข่ปลาที่เหมือนบับเบิ้ลนี้อีก ซึ่งถ้าวัตถุดิบยังสดอยู่กัดเข้าไปตัวไข่ก็จะแตกโพละได้ง่ายไม่เด้งหนี พร้อมรสชาติดังกล่าวก็จะทะลักออกมาด้วย ราคาเมนูนี้ในไทยมีหลายเกรดตามคุณภาพของวัตถุดิบเลย
鉄火巻 (てっかまき:Tekkamaki)= ข้าวห่อสาหร่ายไส้ปลาทูน่า
ข้าวห่อสาหร่ายไส้ปลาทูน่าหรือเทกกะมากิ เป็นซูชิที่ถือกำเนิดมานานตั้งแต่สมัยเอโดะ ภายในเป็นเนื้อปลาทูน่าแดงสดห่อด้วยข้าวญี่ปุ่นปรุงรสน้ำส้มสายชูแล้วห่อซูชิด้วยสาหร่ายทะเลขนาดพอดีคำ รสชาติออกหวานอร่อยสดจากทะเล หาซื้อได้ง่ายทั้งในไทยและญี่ปุ่นราคาไม่แพงอีกด้วย
飛び子 (とびこ : Tobiko) = ไข่ปลาบิน
มาถึงวัตถุดิบหน้าซูชิที่คนไทยคุ้นเคยกันบ้างสำหรับซูชิหน้าไข่ปลาบิน หรือชื่อเล่นที่คนไทยตั้งให้เรียกว่า “ซูชิหน้าไข่กุ้ง” ซึ่งที่จริงแล้วไม่ได้ทำมาจากไข่กุ้งแต่อย่างใด เจ้าไข่ปลาบินนี้จะมีลักษณะเป็นไข่ปลากลมใสเม็ดเล็กเรียงแน่นบนหน้าซูชิเมื่อกัดชิมเข้าไปจะมีความกรุบเล็กน้อย ไข่ปลาบินจะถูกนำมาย้อมเป็นสีต่างๆ ได้แก่ สีส้ม สีแดง สีเขียว และสีดำโดยใช้สีจากธรรมชาติ นอกจากนี้หน้าไข่ปลาบินแบบออริจินัลดังกล่าวแล้วก็พบได้ในหน้าซูชิแบบฟิวชั่นผสมผสานกับวัตถุดิบอื่นได้อีก เช่น ชีส มายองเนส(มาโย) วากาเมะ และยังนิยมใช้กับซูชิฟิวชั่นยอดนิยมอย่างแคลิฟอร์เนียมากิด้วย
穴子寿司 (あなごすし :Anago Sushi)= ซูชิหน้าปลาไหลทะเลย่าง/ซูชิหน้าปลาไหลอะนาโกะย่าง
ปลาไหลทะเลย่างทาซอสกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย จัดวางเนื้อปลาเป็นแนวยาวบนข้าวซูชิ เป็นเมนูที่หน้าตาคล้ายกับปลาไหลน้ำจืดญี่ปุ่น (อุนางิ) ราวกับพี่น้องที่พลัดพราก แต่เนื้อของปลาไหลชนิดนี้มีสีขาวสวยสัมผัสนุ่มกว่าอุนางิเล็กน้อย ถือเป็นเมนูหน้าตาที่คุ้นเคยแต่รสชาติแปลกใหม่ที่ควรไปลองทานกัน ร้านซูชิในไทยที่จะมีเมนูซูชิอะนาโกะโดยส่วนใหญ่จะเป็นร้านราคาเมนูกลางกระทั่งสูง (แต่ถูกกว่าอุนางิ) เพราะต้องคงคุณภาพความสดของปลาไหลชนิดนี้ถึงจะหวานอร่อยนั่นเอง
炙りホタテ寿司 (あぶりホタテすし:Aburi Hotate sushi) = ซูชิหน้าหอยเชลล์ย่าง
หอยเชลล์สดๆของญี่ปุ่นถูกวางบนซูชิพร้อมกับการเสริฟโดยลนไฟบนเนื้อหอยเชลล์หอมๆ ซึ่งแต่ละร้านจะมีไอเดียในสร้างสรรค์เมนูก่อนรนไฟหรือรมควันต่างกันอาทิ ใส่เนยสด ใส่ชีส ย่างซอสเมนไทโกะ เป็นต้น โดยมีรสชาติของหอยเชลล์ที่หวานหอมเนื้อละมุน เป็นเมนูที่นิยมทานทั้งในไทยและญี่ปุ่น ที่ไม่ว่าจะราคาสูงแค่ไหนเหล่าคอซูชิก็พร้อมสู้ราคา
แน่นอนว่าแบบไม่ย่างก็มีเช่นกัน
鮪 (まぐろ:Maguro) = ซูชิหน้าทูน่า/ซูชิหน้าปลามากุโร่
มากุโร่คือคำเรียกรวมๆของหน้าปลาทูน่าดิบสีแดงสุดคลาสสิค และจะมีชื่อเรียกแต่ละส่วนที่นำมาทำแตกต่างกัน อาทิ ส่วนท้องหรือโอโทโระ (大トロ:Otoro) ที่จะมีมันแทรกพอสมควรทำให้มีสีแดงอ่อนๆ ส่วนเนื้อแดงหรือจูโทโระ (中トロ:Chutoro) ที่มีไขมันปานกลาง และส่วนเนื้อแดงเข้มหรืออาคามิ (赤身:Akami) ที่มีไขมันน้อยเหมาะสำหรับคนรักสุขภาพ เป็นต้น
太巻き寿司 (ふとまきすし:Futomaki sushi) = ฟูโตมากิซูชิ
ฟูโตมากิซูชิ เป็นคำเรียกรวมๆข้าวปั้นซูชิที่ม้วนด้วยสาหร่ายแผ่นซึ่งมีขนาดใหญ่และหนาเหมือนชื่อของเขา (ฟูโต แปลว่าอ้วน) ภายในประกอบด้วยไส้ผักและเนื้อสัตว์ครบทั้ง 2 ชนิดรวมหลายอย่างในโรลเดียวกัน อาทิ แตงกวา เห็ด ผักดอง แครอท ไข่หวาน ไข่ปลาบิน โอโทโร่ เป็นต้น ถือกำเนิดว่าตั้งแต่สมัยเอโดะแล้วเป็นของดีพื้นเมืองของจังหวัดชิบะอีกด้วย เป็นที่รู้จักในฐานะเมนูซูชิที่อิ่มจนจุกราคาย่อมเยาว์
くるまえび (Kuruma Ebi) = ซูชิกุ้งลายเสือ
กุ้งลายเสือต้มสุกชิ้นโตถูกผ่าเอาส่วนกลางตัวออกแล้วจัดวางบนข้าวปั้นรสชาติหวานเนื้อแน่นกำลังดีถือเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมเช่นกัน ยิ่งทานคู่กับวาซาบิและโชยุจะเพิ่มรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้น บางร้านอาจใช้คำว่าเอบิซูชิแบบปกติโดยไม่บอกชนิดของกุ้งที่นำมาเป็นวัตถุดิบ เหมาะสำหรับใครที่อยากทานซูชิกุ้งชิ้นใหญ่เต็มคำ ราคาต่อคำในไทยอาจแพงคำละหลักร้อยแต่ถ้าไปทานที่ญี่ปุ่นก็หาร้านราคาสบายกระเป๋าได้ไม่ยาก