โอซาก้า ชื่อนี้เป็นจุดหมายปลายทางลำดับต้นๆของญี่ปุ่นที่หลายๆคนใฝ่ฝันว่าอยากจะมาเที่ยวให้ได้สักครั้ง ถ้าเป็นนักเที่ยวญี่ปุ่นตัวจริง หลายคนคงแวะเวียนมาเที่ยวกันไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่เคยมาท่องเที่ยวที่นี่เลย คู่มือเที่ยวโอซาก้าฉบับนี้ก็เลยถูกเขียนขึ้นมาสำหรับมือใหม่ป้ายแดงที่อยากจะมาปักธงเที่ยวที่โอซาก้าเป็นหลัก เรามาเริ่มเดินทางกันเลยเถอะ

โอซาก้าเป็นจังหวัดที่อยู่ในภูมิภาคคันไซ มีประชากรอยู่อาศัยกันหนาแน่นมากด้วยความที่เจริญทางด้านเศรษฐกิจ การค้า มีความทันสมัยอีกทั้งรุ่งเรืองทางวัฒนธรรม ประเพณี และมีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น จึงเรียกได้ว่าโอซาก้าเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคคันไซได้เลย

สำหรับนักท่องเที่ยว การคมนาคมก็แสนจะสะดวกสบาย มีสนามบินให้บริการถึง 2 สนามบิน ได้แก่ สนามบินนานาชาติคันไซ (Kansai International Airport) ที่รองรับเที่ยวบินจากทั่วโลก และสนามบินอิตามิ (Itami Airport) ที่รองรับเที่ยวบินภายในประเทศเป็นส่วนใหญ่ ซึ่ง 2 สนามบินนี้อยู่ใกล้โอซาก้ามากที่สุดแล้ว แต่นอกจากเครื่องบิน ก็สามารถเข้าถึงโอซาก้าด้วยยานพาหนะอื่นได้อีกหลายประเภทเช่นกัน

สำหรับคนที่มาจากไทย แน่นอนว่าต้องบินไปลงสนามบินคันไซจะเร็วที่สุด แต่ไปถึงแล้วจะเข้าเมืองยังไง เรามีทางเลือกมาให้ดู

- JR Haruka Limited Express เป็นรถไฟขบวนด่วนพิเศษวิ่งยาวถึงสถานี Shin Osaka ใช้เวลาประมาณ 50 นาที ตั๋วราคาประมาณ 2,800 เยน
- JR Kansai Rapid Train เป็นรถไฟด่วนธรรมดาที่แวะจอดตามสถานีต่างๆ ไปถึงสถานี Osaka ใช้เวลาประมาณ 70 นาที ตั๋วราคาประมาณ 1,200 เยน
- Nankai Rapit เป็นรถไฟด่วนพิเศษ วื่งไปถึงสถานี Namba ในตัวเมืองโอซาก้า ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ตั๋วราคาประมาณ 1,430 เยน
- Nankai Airport Express เป็นรถไฟด่วนธรรมดา จอดหลายสถานี เราจะไปลงสถานี Namba ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ตั๋วราคาประมาณ 920 เยน
- ไปด้วยรถบัส Airport Limousine bus ก็ได้ ราคาประมาณ 1,300 เยน ลงสถานี Osaka
- หรือเรียกแท็กซี่ แต่ราคาค่อนข้างแพง ประมาณ 15,000 เยน

สำหรับคนที่ไปเที่ยวเมืองอื่นก่อนเช่น ภาคคันโต คิวชู ต้องอ่านไว้

การเดินทางจากโตเกียวไปโอซาก้า เราสามารถไปได้ทั้งเครื่องบิน รถไฟชินกังเซ็น และรถบัส ดังนี้
เครื่องบิน
ถ้าต้องการทำเวลาไปถึงโอซาก้าเร็วๆ ก็ขึ้นเครื่องบินไปเร็วสุด จากสนามบินนาริตะ (Narita Airport) ไปสนามบินคันไซ (Kansai Airport) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น และถ้าโดยสารเครื่องบิน Low Cost อย่างสายการบิน Peach ค่าตั๋วก็ไม่โหดเกินไป ประมาณไม่เกิน 10,000 เยน

หรือเลือกไปขึ้นเครื่องจากจากสนามบินฮาเนดะ (Haneda Airport) ไปลงที่สนามบินอิตามิ (Itami Airport)

จากสนามบินอิตามิเดินทางเข้าโอซาก้าได้ดังนี้
- รถ Limousine Bus นั่งมาลงที่โอซาก้า ใช้เวลาวิ่งประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที ตั๋วราคา 640 เยน
- รถไฟ Monorail จากสถานี Osaka Airport ลงที่สถานี Hotarugaike ประมาณ 5 นาที ตั๋วราคา 200 เยน จากนั้นเปลี่ยนขบวนไปสาย Hankyu Takarazuka ลงที่สถานี Hankyu Umeda อีกประมาณ 15 นาที ตั๋วราคา 220 เยน
- แท็กซี่ ราคาประมาณ 3,700 เยน นั่งไปโอซาก้า

รถไฟชินกังเซ็น
- จากสถานีโตเกียว Tokyo ไปลงสถานี Shin Osaka โดยขบวน "Nozomi" จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 27 นาที (แล่นไปแบบด่วนๆ ไม่ค่อยจอดสถานีไหนเลย) แต่ JR PASS จะไม่สามารถใช้กับขบวน "Nozomi" ได้
- หรือถ้าใช้"Hikari" ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 4 นาที (จอดเป็นบางสถานี) และ "Kodama" ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 57 นาที (เป็นขบวนที่วิ่งช้าสุดเพราะจอดทุกสถานี)
- จากสถานี Shin Osaka ต่อไปสถานีกลางเมืองที่แท้จริงอย่าง Osaka (Umeda) ให้ขึ้นรถไฟ JR Tokaido Sanyo Main Line (ค่าโดยสาร 160 เยน) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 นาที หรือจะนั่งแท็กซี่ต่อไปก็ได้ ประมาณ 1,600 เยน ใช้เวลาประมาณ 10 กว่านาที

รถบัส
การเดินทางด้วยรถบัสก็เป็นอีกทางเลือกที่สะดวก จุดขึ้นรถบัสในโตเกียวมีหลายแห่งด้วยกัน แต่ที่คนส่วนใหญ่มาใช้บริการก็คือท่ารถบัส Shinjuku เวลาเดินรถก็มีหลายรอบตั้งแต่รอบเช้ายันรอบดึก และรถบัสก็วิ่งรวดเดียวถึงจุดหมายไม่ต้องไปต่อรถอีก ใช้เวลาวิ่งประมาณ 9 - 10 ชั่วโมงแต่วิ่งตอนกลางคืนจริงๆจึงไม่เสียเวลาเที่ยว ค่าโดยสารก็ประมาณ 3,500 - 10,000 เยน แตกต่างกันตามระดับของรถ


การเดินทางจากฟุกุโอกะไปโอซาก้าก็มีให้เลือกดังต่อไปนี้

รถไฟชินกังเซ็น
เราสามารถขึ้นรถไฟชินกังเซ็นจากสถานี Hakata ลงสถานี Shin Osaka ด้วยขบวน "Sakura" ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 54 นาที "Hikari" ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 56 นาที "Kodama" ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง 33 นาที "Nozomi" และ "Mizuho" ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 28 นาที แต่ JR PASS จะไม่สามารถใช้กับขบวน "Nozomi" และ "Mizuho"

รถบัส
จากคิวชู สามารถขึ้นรถบัสรอบกลางคืนจากสถานีใหญ่อย่าง Hakata หรือสถานี Kokura ไปลงที่จุดสำคัญๆเช่น USJ หรือ Umeda ค่าตั๋วประมาณ 3,700 - 5,000 เยน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง 45 นาที แต่วิ่งตอนกลางคืนจริงๆจึงไม่เสียเวลาเที่ยว แถมประหยัดค่าโรงแรมไปหนึ่งคืน

เรือ
โดยสารเรือเฟอร์รี่ Meimon Taiyo จากท่าเรือ Shinmoji ไปลงที่ท่าเรือ Osaka Nanko ค่าโดยสารประมาณ 5,000 - 18,330 เยน

ไม่ต้องห่วงว่าจะเดินทางไปไหนมาไหนในโอซาก้าลำบาก เพราะเขามีการคมนาคมที่สะดวกสบาย มีบริการของรถไฟ JR รถไฟเอกชน รถไฟใต้ดิน และรถบัสหลายสายซึ่งป้ายรถบัสก็มักจะอยู่ตามสถานีรถไฟต่างๆ

สำหรับรถไฟและรถไฟใต้ดินที่มีให้บริการในโอซาก้าดูเหมือนจะเป็นวิธีเดินทางที่ใช้บ่อยที่สุด และน่าจะสะดวกสบายที่สุดด้วยถ้าเราจะไปที่เที่ยวใหญ่ๆ ที่อยู่ตามเส้นทางรถไฟเหล่านี้ผ่าน ซึ่งโอซาก้าก็มีให้บริการอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7 บริษัท ดังนี้
1 รถไฟ JR West
เป็นเครือข่ายรถไฟที่โยงใยไปทั่วโอซาก้า โดยมีรถไฟสายหลัก Osaka Loop Line คอยให้บริการ นอกจากนี้ก็ยังให้บริการเส้นทางรถไฟไปถึงสนามบินคันไซ โกเบ เกียวโต นารา และสวนสนุก USJ โอซาก้าอีกด้วย
2 รถไฟใต้ดิน
มีให้บริการรถไฟใต้ดินทั้งหมด 8 สาย ได้แก่ สาย Midosuji สาย Tanimachi สาย Yotsubashi สาย Chuo สาย Sennichimae สาย Sakaisuji สาย Nagahori Tsurumi-ryokuchi และสาย Nanko Port Town ครอบคลุมเส้นทางรถไฟ Osaka Loop Line เชื่อมต่อย่านคิตะ (Kita) และย่านมินามิ (Minami)
3 รถไฟ Nankai
เชื่อมต่อระหว่าง Namba และสนามบินคันไซ Wakayama และ Mount Koya
4 รถไฟ Hankyu
เชื่อมต่อระหว่างสถานี Umeda กับโอซาก้าย่านคิตะ โกเบกับเกียวโต
5 รถไฟ Kintetsu
เชื่อมต่อโอซาก้ากับ นารา เกียวโต อาสึกะ โยชิโนะ อิเสะ และนาโกย่า เริ่มต้นที่สถานี Namba สถานี Tennoji และสถานี Nagata
6 รถไฟ Hanshin
เชื่อมต่อโอซาก้ากับโกเบ เริ่มต้นที่สถานี Umeda และสถานี Namba
7 รถไฟ Keihan
เชื่อมต่อโอซาก้ากับเกียวโต เริ่มต้นที่สถานี Yodoyabashi และสถานี Nakanoshima

เราสามารถซื้อพาสเพื่อใช้เดินทางตามสไตล์และความเหมาะสมของเรา พาสที่น่าสนใจสำหรับใช้ในโอซาก้ามีดังนี้

YOKOSO! OSAKA TICKET
เป็นแพ็คเกจตั๋วที่อำนวยความสะดวกให้เราเป็น 2 ส่วน คือส่วนแรกที่ใช้ขึ้น Nankai Limited Exp.Rapi:t จากสนามบินคันไซ ไปสถานี Namba แบบเที่ยวเดียว และส่วนที่สองสำหรับเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินและ Osaka City Bus ได้ไม่จำกัดเที่ยวใน 1 วัน ราคาตั๋วซื้อออนไลน์ 1,500 เยน ซื้อที่จุดขายตั๋ว 1,650 เยน

Osaka Amazing Pass
เป็นพาสสุดคุ้มยอดนิยมที่คนมาเที่ยวโอซาก้าต้องมี
คุ้มต่อที่ 1 สามารถใช้โดยสารรถไฟใต้ดิน Osaka Municipal Subway, รถราง New Tram รถบัสทุกสาย และรถไฟเอกชน Hankyu รถไฟ Hanshin รถไฟ Keihan รถไฟ Kintetsu และรถไฟ Nankai
คุ้มต่อที่ 2 สามารถนำคูปอง TOKUx2 ไปใช้รับสิทธิพิเศษและส่วนลดได้หลายอย่าง นอกจากนี้ด้านหลังพาสจะมีบาร์โค้ดไว้สำหรับเวลาเข้าใช้บริการตามที่เที่ยวที่เข้าร่วมแคมเปญได้แบบฟรีๆ ถึง 35 แห่ง
พาสมี 2 แบบคือ
- ตั๋ว 1 วัน (1 Day Pass) ราคา 2,500 เยน
- ตั๋ว 2 วัน (2 Days Pass) ราคา 3,300 เยน

Enjoy Eco Card (Osaka 1 Day Pass)
สามารถใช้โดยสารรถไฟใต้ดิน Osaka Metro รถบัส Osaka City Bus และรถราง New Tram (ยกเว้น OTS Line) ได้แบบไม่จำกัดเที่ยวภายใน 1 วัน
วันธรรมดา 800 เยน วันหยุด 600 เยน

โอซาก้า เป็นเมืองที่มีการค้าขายมาตั้งแต่สมัยอดีต คึกคักไปด้วยเหล่าพ่อค้าฝั่งตะวันตกและตะวันออกเข้ามาทำการซื้อขายกัน วัฒนธรรมของที่นี่จึงเกี่ยวกับวัฒนธรรมการกิน โอซาก้าให้ความสำคัญกับอาหารมากจนถูกเรียกว่าครัวแห่งชาติเลยทีเดียว เราจึงเห็นแหล่งอาหาร ของกินดื่มในโอซาก้าเป็นย่านใหญ่ๆ หลายแห่งที่คึกคักและมีสีสัน อย่างเช่น โดทมโบริ ชินไซบาชิ ชินเซไก เป็นต้น

นอกจากวัฒนธรรมการกิน แบบถ้าอยากเห็นเทศกาลที่สื่อถึงประเพณีของทางโอซาก้าสักหน่อย ก็ต้องไม่พลาดเทศกาลเท็นจิน (Tenjin Matsuri) ที่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของเทศกาลที่มีชื่อเสียงประจำประเทศญี่ปุ่นเชียวนะ เป็นเทศกาลแห่พาเหรดเทพเจ้าทั้งทางบกและทางน้ำ จัดโดยศาลเจ้าเท็นมังงู (Tenmangu Shrine) มีการประกอบพิธีกรรมเพื่อระลึกถึงเทพเท็นจิน และมีการอัญเชิญดวงวิญญาณของเทพเจ้าสุงาวาระ โนะ มิจิซาเนะ (Sugawara No Michizane) ซึ่งเป็นเทพแห่งปัญญา ช่วงกลางคืนมีจุดดอกไม้ไฟสวยงาม เทศกาลนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 24 - 25 กรกฎาคม ของทุกปี

เนื่องจากเป็นเมืองของกินก็ย่อมมีเมนูอาหารหลากหลาย แต่ก็ขอยกตัวอย่างอาหารขึ้นชื่อของโอซาก้ากันสัก 2 รายการ คิดว่าคงรู้จักกันเป็นอย่างดี และเคยกินกันมาถ้วนหน้าแล้ว อาหารจานเด็ดของโอซาก้าก็ต้องเป็นทาโกะยากิ ที่เป็นขนมกลมๆ ทำจากแป้งที่คลุกเคล้าเครื่อง นำมาย่างสอดไส้ปลาหมึก แล้วราดด้วยซอสทาโกะยากิกับมายองเนส โรยหน้าด้วยปลาแห้ง และอีกเมนูเด็ดไม่แพ้กันก็คือโอโคโนมิยากิ หรือพิซซ่าญี่ปุ่น ที่เอาแป้ง ผักกะหล่ำปลี ต้นหอม และเนื้อสัตว์ต่างๆ มาโปะลงไปแล้วคลุกให้เข้ากันแล้วย่างบนเตา ราดซอสโอโคโนมิยากิ มายองเนส ปลาโอแห้งแล้วก็ออกมาหน้าตาน่ากิน สำหรับโอโคโนมิยากินี้ก็มีหลายสูตรเลยทีเดียว ยังไงถ้ามาเที่ยวโอซาก้าก็อย่าลืมแวะชิมของที่นี่เขานะ

ต่อไปถึงเวลาที่เราจะไปเที่ยวที่เด่นๆ ดังๆ ของโอซาก้ากันแล้ว

ถ้าไม่ได้มาเยือนปราสาทโอซาก้าก็เท่ากับมาไม่ถึงโอซาก้า เพราะที่นี่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่ปรากฏอยู่บนโบรชัวร์ท่องเที่ยวโอซาก้าทั่วไปหมด ปราสาทโอซาก้าถูกสร้างขึ้นในปี 1583 เพื่อใช้เป็นที่พักควบไปกับศูนย์บัญชาการของโทโยโตมิ ฮิเดโยชิ แต่ปี 1615 ถูกทำลายเสียหายจากสงคราม และในปี 1665 ก็โดนฟ้าผ่าอีก และใน 1868 ก็โดนเผา กว่าจะได้บูรณะใหม่ในปี 1931 เป็นหน้าตาแบบปัจจุบัน
ปราสาทโอซาก้านี้ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางโอซาก้า สวนในบริเวณปราสาทกว้างใหญ่และมีปลูกต้นซากุระถึง 600 ต้น พอถึงหน้าฮานามิ หรือหน้าชมดอกซากุระ สวนปราสาทโอซาก้านี้ก็เป็นจุดชมซษกุระที่สำคัญแห่งหนึ่งของโอซาก้าเลยล่ะ

เวลาทำการ
09.00 - 17.00 น.
วันหยุด
28 ธันวาคม - 1 มกราคม
ค่าเข้าชม
บุคคล
ผู้ใหญ่ 600 เยน
ตั้งแต่นักเรียนมัธยมต้นลงไป ฟรี
การเดินทาง
-ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Tanimachi หรือ Chuo มาลงที่สถานี Tanimachi 4-chome แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 10 นาที
-ขึ้นรถไฟสาย JR Osaka Loop Line มาลงที่สถานี Osakajo Koen แล้วเดินต่อไปประมาณ 15 นาที

ย่านโดทมโบริ ในอดีตเป็นย่านที่เต็มไปด้วยสถานบันเทิงและโรงละครมากมาย แต่ปัจจุบันกลายมาเป็นทั้งแหล่งช้อปปิ้งและแหล่งของกินชื่อดัง เป็นย่านที่เป็นหน้าเป็นตาของโอซาก้าอีกแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ ย่านนี้เต็มไปด้วยขนมของกินท้องถิ่นมากมาย มีร้านที่มีป้ายเด่นๆเรียกความสนใจให้เราเข้าไปชิมไปลองอาหารของร้าน อย่างป้ายที่เป็นตัวปู 3D ขนาดใหญ่ขยับไปมาของร้านคานิโดรากุ (Kani Doraku) ที่มีเมนูสารพัดปู หรือป้ายพิพิธภัณฑ์โคนามง (Konamon Museum) ที่เป็นตัวปลาหมึกยักษ์ 3D ที่เชิญชวนให้มาลองทาโกะยากิก็ชวนสะดุดตา และถ้ามาเที่ยวย่านนี้ก็ต้องไปหาป้ายไฟมิสเตอร์กุลิโกะ ที่เป็นจุดแลนด์มาร์กที่ใครมาก็ต้องขอแชะรูปเป็นที่ระลึกสักครั้ง

เวลาทำการ
ไม่กำหนด
เวลาเปิดทำการของแต่ละร้านจะต่างกันไป หลายๆร้านเปิดเวลา 11.00 - 23.00 น.
ค่าเข้าชม
ฟรี
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Midosuji Line ลงที่สถานี Namba จากนั้นเดินต่อประมาณ 4 นาที

Universal Studios Japan (USJ) เป็นสวนสนุกที่หลายคนฝันว่าจะต้องไปให้ได้ เปิดตัวเมื่อปี 2001 เป็นสวนสนุกที่ยิ่งใหญ่อลังการไม่แพ้ดิสนีย์แลนด์ที่โตเกียวเลย ที่นี่มีเครื่องเล่นมากมายสารพัดในธีมของตัวการ์ตูนยอดนิยม เช่น วันพีช (One Piece) รวมถึงตัวละครชื่อดังจากฮอลลีวูด เช่น แฮรี่ พอตเตอร์ (Harry Potter) จูราสสิค พาร์ค (Jurassic Park) สไปเดอร์แมน (Spider Man) ควรมีเวลาเล่นสนุกที่นี่ 1 วันเต็มๆ ไปเลยเพราะเครื่องเล่น กิจกรรม และการแสดงโชว์ของเขาเยอะจัด ช่วงเทศกาลอย่างฮัลโลวีนก็มีขบวนพาเหรดโชว์น่าตื่นตามาก

เวลาทำการ
เวลาเปิด-ปิดไม่แน่นอน ก่อนเข้ามาใช้บริการโปรดตรวจสอบเวลาอีกครั้งตามลิงก์(ภาษาอังกฤษ)
เวลาเปิดให้บริการโดยทั่วไป 08.30 - 21.00 น.

ค่าเข้าชม
แบบ 1Day Studio Pass
ผู้ใหญ่ (อายุ 12 ปีขึ้นไป) 7900 เยน
เด็ก (อายุ 4-11 ปี) 5400 เยน
ผู้สูงอายุ (อายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป) 7100 เยน
แบบ 2Day Studio Pass
ผู้ใหญ่ (อายุ 12 ปีขึ้นไป) 13400 เยน
เด็ก (อายุ 4-11 ปี) 9000 เยน
แบบ Universal Express™ Pass 7 ราคา 7600 เยน
แบบ Universal Express™ Pass 4 ราคา 5200 เยน
แบบ Universal Express™ Pass 3 ราคา 4200 เยน

การเดินทาง
ขึ้นรถไฟสาย JR Osaka Loop Line ลงสถานี Nishikujo เปลี่ยนมาขึ้นสาย JR Yamesaki Line ลงสถานี Universal-city จากนั้นเดินต่อไปอีกประมาณ 10 นาที

ย่านชินเซไก เป็นอีกย่านช้อปปิ้งและกินดื่มสุดปังของโอซาก้า ที่นี่มีแลนด์มาร์กชื่อดังอย่างหอคอยสึเต็นกากุ (Tsutenkaku Tower) ตั้งอยู่ตรงกลางที่พอตกกลางคืนก็เปิดไฟแสงสีสวยงาม สามารถขึ้นไปชมวิวเมืองโอซาก้าได้ ย่านชินเซไกจะมีบรรยากาศออกแนวเรโทรๆ หน่อย มีตะเกียงกระดาษรูปปลาปักเป้าลอยเด่นเป็นสัญลักษณ์ที่สะดุดตาของย่านนี้อยู่หลายร้าน และเป็นแหล่งรวมร้านอาหารขึ้นชื่ออีกอย่างของโอซาก้า ซึ่งก็คือคุชิคัตสึ (Kushi-katsu) เป็นอาหารเสียบไม้แล้วชุบแป้งทอดเป็นของกินเล่นหรือกินเป็นกับแกล้ม

เวลาทำการ
เปิดบริการทุกวันในเวลาที่แตกต่างกันไปตามร้านค้า
ค่าเข้าชม
ฟรี
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Midosuji หรือ Sakaisuji ลงที่สถานี Dobutsuen-mae แล้วเดินต่อไปประมาณ 3 นาที

เดินช้อปปิ้งกันมาเยอะแล้ว เข้าไปชมสัตว์น้ำหายากหลากชนิดในอควอเรี่ยมเย็นๆ กันบ้าง พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Osaka Aquarium Kaiyukan หรือที่เราเรียกกันสั้นๆ ว่าไคยูคัง (Kaiyukan) ตั้งอยู่ที่ Tempozan Harbor Village ใกล้กับอ่าวโอซาก้า เปิดให้บริการในปี 1990 เป็นอควาเรียมที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ภายในอควาเรียมจัดแสดงทั้งสัตว์น้ำ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สัตว์เลื้อยคลาน นก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์ไม่มีกระดูกรวมไปถึงพืชพันธุ์ต่าง ๆ มากมายในแทงก์น้ำขนาดยักษ์กว่า 15 แทงก์โดยเฉพาะแทงก์ตรงกลางที่มีฉลามวาฬอาศัยอยู่นั้นมีความลึก 9 เมตรและความยาว 34 เมตรเลยล่ะ เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของสถานที่เที่ยวที่ถ้ามาโอซาก้าแล้วต้องห้ามพลาด

เวลาทำการ
10.00 - 20.00 น. โปรดตรวจสอบตามลิงก์ (ภาษาอังกฤษ)
ค่าเข้าชม
อายุ 16 ปีขึ้นไป 2300 เยน
อายุมากกว่า 60 ปี 2000 เยน
อายุ 7-15 ปี 1200 เยน
อายุ 4-6 ปี 600 เยน
เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี ฟรี
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Chuo subway line ลงสถานี Osakako แล้วเดินต่อไปประมาณ 10 นาที

ผู้เขียน: hikawasa
นักแปลภาษาญี่ปุ่น-ไทย-อังกฤษ
นักเขียนของ AAJ
ทำงานเบื้องหลังเล็กๆ น้อยๆ เช่น รับจ๊อบรีวิวหนังสือเพื่อคัดเลือกต้นฉบับมาแปล/อีดิท/พรูฟรีด
รักการ์ตูนเรื่อง Kuroko no Basket มากทุกรูปแบบทั้งอนิเมะ มังงะ เกม กู๊ดส์