เป็นสวนขนาดใหญ่ที่มีการจัดส่วนแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมอย่างสวยงาม ภายในบริเวณสวนมีสระน้ำ 6 สระ และด้านหลังของสวนเป็นวิวภูเขาชิอุน (Shiun Mountain) เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงก็จะเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่ง มีทิวทัศน์ที่รายล้อมด้วยสีแดง ส้ม เหลือง ท่ามกลางธรรมชาติของภูเขากับสระน้ำ โดยมีการจัดงานชมใบไม้แดงทั้งตอนกลางวันและกลางคืนซึ่งมีการประดับไฟอย่างงดงาม รวมทั้งมีกิจกรรมต่างๆสำหรับนักท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่นการล่องเรือชมใบไม้เปลี่ยนสี มีร้านน้ำชาให้นั่งจิบชาและดูใบไม้เปลี่ยนสีไปด้วย เหล่านี้เป็นต้น

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนพฤศจิกายน

การเดินทาง : จากสถานีหลักของจังหวัดคางาวะ JR Takamatsu ขึ้นรถไฟสาย Kotoku Line ใช้เวลาประมาณ 5 นาที มาลงที่สถานี Ritsurinkoen-kitaguchi แล้วเดินประมาณ 3 นาที

อีกหนึ่งจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงของฟุกุโอกะ ที่ศาลเจ้าดาไซฟุในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะได้พบกับทิวทัศน์ที่งดงามหลากสีสันของใบไม้เปลี่ยนสีเต็มไปทั่วทั้งบริเวณ โดยมีอาคารหลักของศาลเจ้าเป็นองค์ประกอบภาพที่ได้บรรยากาศแตกต่างไปอีกแบบ นอกจากนี้ รอบๆ พื้นที่ศาลเจ้าก็ยังเหมาะกับการเดินเล่นชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสี หากเดินจากศาลเจ้าไปเป็นเวลาประมาณ 5 นาที จะมีอีกสถานที่หนึ่งคือวัดโคเมียวเซนจิ ที่นี่ก็เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามไม่น้อยไปกว่ากัน เท่ากับว่าได้เที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีในสองสถานที่พร้อมๆ กันในครั้งเดียว

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนพฤศจิกายน

การเดินทาง : ขึ้นรถไฟสาย Nishitetsu Dazaifu Line ไปลงที่สถานี Dazaifu แล้วเดินต่ออีก 5 นาที

สถานที่แห่งเดียวในญี่ปุ่นที่มีทั้งใบไม้เปลี่ยนสีและซากุระให้ได้ชมพร้อมๆกัน โดยซากุระพันธุ์นี้มีชื่อว่า Shikizakura หรือซากุระสี่ฤดู ซึ่งในปีหนึ่งจะบาน 2 ครั้ง คือช่วงกลางเดือนมีนาคมในฤดูใบไม้ผลิตามปกติ และจะบานอีกครั้งตอนปลายเดือนพฤศจิกายนในฤดูใบไม้ร่วง
ที่เมืองโอบาระมีซากุระสี่ฤดูกว่า 10,000 ต้น โดยจะมีการจัดงานเทศกาลชมดอกซากุระและใบไม้แดงทุกปีชื่อว่า Obara Shikizakura Matsuri ซึ่งนอกจากซากุระกับใบไม้เปลี่ยนสีแล้วก็ยังมีกิจกรรมการออกร้านอาหารแผงลอยสไตล์ญี่ปุ่นตั้งขายในบริเวณงาน ตลอดจนกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : กลาง-ปลายเดือนพฤศจิกายน

การเดินทาง : จากสถานี Nagoya นั่งรถไฟใต้ดินสาย Higashiyama ไปลงที่สถานี Fushimi แล้วเปลี่ยนสายไปขึ้นรถไฟสาย Meitetsu Toyoya ไปลงสถานี Toyata-shi จากนั้นต่อรถบัส Toyota Oiden bus สาย Obara-toyota ไปลงที่ป้าย Kaminigi

สวนสาธารณะแห่งนี้ ตั้งอยู่ทางด้านหลังศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ (หรือศาลเจ้ากลางน้ำ) ที่เกาะมิยาจิมะที่คุ้นเคยกันดี เป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่คนคุ้นเคย และในบริเวณพื้นที่สวนก็จะมีต้นเมเปิ้ลญี่ปุ่นนับร้อยต้น ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็จะเป็นอีกหนึ่งจุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมอีกแห่งโดยมีจุดชมวิวที่สวยที่สุดอยู่ตรงสะพานที่ทางเข้าสวน และในทุกๆ ปีจะมีการจัดงานเทศกาลชมใบไม้แดงด้วย นอกจากจะได้ชมบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว ยังสามารถซื้อของฝากที่เป็นเอกลักษณ์ของฮิโรชิมาอย่างขนมโมมิจิมันจู หรือเค้กรูปใบเมเปิ้ลที่มีให้เลือกหลายไส้ เช่นถั่วแดงและช็อคโกแลต

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : กลาง-ปลายพฤศจิกายน

การเดินทาง : จากสถานี JR Miyajima-guchi โดยสารเรือข้ามฟากไปยังเกาะมิยาจิมะ แล้วเดินต่อไปอีก 20 นาที

วัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในเกียวโตที่มักจะติดอันดับความนิยมในการเป็นจุดชมใบไม้แดงยอดฮิตของเกียวโต เนื่องจากภายในวัดมีหุบเขาใบไม้แดงที่สวยงามตระการตา เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงโดยจะได้พบกับทิวทัศน์ของใบไม้เปลี่ยนสีจากต้นเมเปิ้ลจำนวนมากกว่า 2,000 ต้น ทำให้ทั่วบริเวณวัดดูมีสีสันสดใส โดยเฉพาะจุดชมวิวจากระเบียงที่โอบล้อมวิหารด้านใน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปชมวิวใบไม้แดงจากด้านบนได้ อีกทั้งรอบๆพื้นที่วัดก็ยังมีอาคารสถาปัตยกรรมเก่าแก่สำคัญๆ หลายจุดให้ได้ชื่นชม สักการะบูชา หรืออธิษฐานขอพรก็ได้ด้วย

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนพฤศจิกายน

การเดินทาง : ชึ้นรถไฟ Keihan line หรือ JR Nara line ไปลงที่สถานี Tofukuji แล้วเดินอีก 5 นาที

ที่นี่เป็นวัดที่มีชื่อเสียงมอกของเมืองคามาคุระโดยมีสิ่งที่น่าสนใจเช่นเจ้าแม่กวนอิมไม้ 11 พักตร์ พระพุทธรูปไม้แกะสลักที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และพิพิธภัณฑ์เจ้าแม่กวนอิม เป็นแหล่งชมดอกไฮเดรนเยียในฤดูฝน และเมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงก็ถึงคราวเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะสีสันของใบไม้เปลี่ยนสียามค่ำคืนซึ่งที่นี่จะมีงานประดับไฟ (Light up) ทุกปี ให้ได้เที่ยวชมกัน

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนพฤศจิกายน

การเดินทาง : จากสถานี Hase ของรถไฟท่องเที่ยวสาย Enoden Line ให้เดินต่อไปอีกประมาณ 5 นาที

สวนเคนโรคุเอ็น เป็น 1 ใน 3 สุดยอดสวนสวยติดอันดับในญี่ปุ่น ตั้งอยู่บริเวณรอบนอกของปราสาทคานาซาวา ภายในมีการจัดสวนแบบญี่ปุ่นและมีต้นไม้ดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ สามารถมาเที่ยวชมได้ทุกฤดูกาล เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงก็จะเข้าสู่บรรยากาศของทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีไปทั่วทั้งสวน โดยมีจุดชมใบเมเปิ้ลสีแดงที่น่าสนใจหลายจุดทั่วทั้งสวน เข่น บ่อน้ำคาสุมิกะ (Kasumiga Pond) ตะเกียงหินโคโทจิ (Kotoji Stone Lantern) น้ำตกมิโดริ สวนน้ำชา เป็นต้น อีกทั้งตอนกลางคืนก็จะมีงานประดับไฟสำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสียามค่ำคืนด้วย

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : กลาง-ปลายเดือนพฤศจิกายน

การเดินทาง : จากสถานี Kanazawa ขึ้นรถบัสสาย Hokutetsu Bus ไปลงที่ป้าย Kenroku-en Shita ใช้เวลา 15 นาที จากนั้นเดินอีก 2 นาที

ศาลเจ้าชินโตเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน ตั้งอยู่ในบริเวณเทือกเขาคิริชิมะ มีบรรยากาศที่แวดล้อมด้วยป่าเขากับธรรมชาติทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้มีความร่มรื่นสวยงามทุกฤดูกาล เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงจึงเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีอีกแห่งที่มีทิวทัศน์งดงามตระการตา โดยมีจุดชมใบไม้แดงที่เป็นไฮไลท์อย่างบริเวณใกล้เสาประตูโทริอิ นอกจากนี้ พื้นที่ใกล้เคียงศาลเจ้าก็ยังเป็นเมืองอนเซ็นกลางแจ้งนามว่าคิริชิมะอนเซ็น ที่เหมาะกับการไปแช่อนเซ็นพร้อมชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีพร้อมกันไปด้วย

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนพฤศจิกายน

การเดินทาง : จากสถานี JR Kirishima Jingu ต่อรถบัสประจำทางไปที่ศาลเจ้า ใช้เวลาประมาณ 10 นาที

ปราสาทฮิโกเนะ เป็น 1 ในเพียง 5 ปราสาทของญี่ปุ่นจากนับร้อยปราสาท ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติญี่ปุ่น ที่นี่คืออีกหนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ได้บรรยากาศแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ซึ่งจะเป็นทิวทัศน์ของใบไม้แดงเคียงคู่กับปราสาทสไตล์ญี่ปุ่น สามารถขึ้นไปชั้นบนสุดของปราสาทเพื่อชมวิวมุมสูงได้ และในบริเวณใกล้ๆ ตัวปราสาทก็มีสาธารณะเก็นคิวเอน (Genkyu-en Garden) ซึ่งมองเห็นความสวยงามของปราสาทท่ามกลางใบไม้แดงได้ชัดเจน อีกทั้ง ในตอนกลางคืน ที่สวนและปราสาทก็จะมีงานประดับไฟ (Light-up) ด้วย

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนพฤศจิกายน

การเดินทาง : จากสถานี JR Hikone เดินไปประมาณ 15 นาที

วัดพุทธนิกายเทนไดที่ตั้งอยู่กลางป่าสนบนเนินเขาในหมู่บ้านโอฮาระ (Ohara) ชานเมืองทางเหนือของเกียวโต ในอดีตเคยเป็นวัดหลวงที่พระแห่งราชวงศ์ญี่ปุ่นเดินทางมาพำนักเมื่อครั้งออกผนวช บริเวณวัดมีพื้นที่กว้างใหญ่ และรายล้อมไปด้วยป่าสนกับ สวนหย่อม สวนมอส กับดอกไม้นานาชนิด ในฤดูใบไม้ร่วงป่าที่ล้อมรอบวัดก็จะกลายเป็นสีแดง ส้ม เหลือง ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติอันเงียบสงบ มีโรงน้ำชาให้บริการนักท่องเที่ยว นอกจากนี้พื้นที่แวดล้อมอย่างหมู่บ้านโอฮาระก็มีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามอีกหลายจุดเช่นกัน

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนพฤศจิกายน

การเดินทาง : จากสถานี Kyoto ขึ้นรถบัสหมายเลข 17 ที่ ป้าย C3 นั่งไปลงสุดสายที่ป้าย Ohara ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นเดินไปที่วัดซานเซน-อิน ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที

ผู้เขียน: หนึ่ง
นักอ่านและนักเขียนที่ชอบการเดินทางไปในที่ต่างๆ โดยเฉพาะญี่ปุ่น รักการดูอนิเมะญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจ :)