ที่เที่ยวแรกๆในฮาโกดาเตะที่อยากแนะนำก็มีดังต่อไปนี้
- ป้อมดาว 5 แฉก โกเรียวคาคุ (Goryokaku)
- โกดังอิฐแดงคาเนโมริ (Kanemori Red Brick Warehouse)
- ภูเขาฮาโกดาเตะ (Mt. Hakodate)
- ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ อาสะอิจิ (Hakodate Asaichi Morning Market)
- ยูโนะคาว่าออนเซน (Yunokawa Onsen)

ป้อมดาว 5 แฉกหรือโกเรียวคาคุ เป็นสถานที่ทำสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองฮาโกดาเตะซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย จากรูปลักษณ์ของป้อมปราการอายุกว่า 150 ปีที่ถูกออกแบบให้เป็นรูปดาว 5 แฉก เพื่อป้องกันการรุกรานของศัตรู โดยพื้นที่ของป้อมในปัจจุบันได้ถูกดัดแปลงให้เป็นสวนสาธารณะ และมีการสร้างหอคอยขึ้นในบริเวณใกล้เคียงเพื่อให้สามารถมองรูปทรงดาว 5 แฉกได้อย่างชัดเจนจากมุมสูง

นอกจากรูปลักษณ์อันแปลกตาแล้ว ป้อมดาว 5 แฉกยังถือเป็นจุดที่สามารถชมความสวยงามของฤดูกาลต่างๆ ในญี่ปุ่นได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งในฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระกว่า 1,600 ต้นในบริเวณป้อมจะผลิบานพร้อมกันจนเป็นรูปดาว 5 แฉกสีชมพู ฤดูร้อนที่พรรณไม้ในป้อมจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวชอุ่ม ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่พื้นที่ของป้อมปราการเปลี่ยนเป็นสีแดงสลับเหลือง และฤดูหนาวที่ทุกอย่างกลายเป็นสีขาวโพลนจากหิมะ

การเดินทาง : จากสถานี Hakodate ขึ้นรางไปลงที่สถานี Goryokaku Koen Mae จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที
เวลาเปิดทำการ : 09.00 – 18.00 น.
ค่าเข้าชม : บริเวณสวนเข้าชมฟรี ส่วนหอคอย Goryokaku Tower มีค่าเข้าชม 900 เยน

จากโกดังเก็บของที่สร้างขึ้นด้วยอิฐสีแดงในสมัยที่ฮาโกดาเตะยังเป็นเมืองท่าสำคัญในการติดต่อค้าขาย ปัจจุบันโกดังเหล่านี้ได้ถูกดัดแปลงให้เป็นทั้งร้านขายของ พิพิธภัณฑ์ คาเฟ่ ร้านอาหาร โรงเบียร์ รวมกันกว่า 50 ร้านภายในพื้นที่โกดังทั้งหมด 7 หลัง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับการช้อปปิ้ง ทานของอร่อยๆ และถ่ายรูปสวยๆ ได้ครบในที่เดียว บรรยากาศโดยรอบโกดังยังมีความสวยงามจากที่ตั้งซึ่งอยู่ติดกับทะเล และช่วงเวลาที่โกดังแห่งนี้จะมีเสน่ห์มากที่สุดคือระหว่างฤดูหนาวที่หิมะทับถมจนทุกอย่างเป็นสีขาวโพลน ตัดกับสีแดงสดใสของตัวโกดังแห่งนี้

การเดินทาง : จากสถานี Hakodate ขึ้นรถรางไปลงที่สถานี Jujigai เดินต่อเล็กน้อย
เวลาเปิดทำการ : 09.30 – 19.00 น. (เวลาเปิดทำการของร้านแต่ละแห่งอาจแตกต่างกันออกไป)
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี

จุดชมวิวมุมสูงของเมืองฮาโกดาเตะที่ต้องขึ้นกระเช้าในระยะทางสั้นๆ ไปที่ด้านบนภูเขา ซึ่งภาพทิวทัศน์ที่มองเห็นนั้นคือเมืองฮาโกดาเตะทั้งเมืองที่ถูกโอบล้อมด้วยทะเลจากทั้งสองด้าน และวิวทิวทัศน์ในตอนกลางคืนที่มองเห็นจากจุดชมวิวบนภูเขาแห่งนี้ ได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ใน 3 วิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่งดงามที่สุดของญี่ปุ่น ทำให้เป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดฮิตที่มักจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาสัมผัสกับบรรยากาศอันแสนงดงามและโรแมนติกนี้ด้วยตาตนเองอยู่เสมอ

การเดินทาง : จากสถานี Hakodate ขึ้นรถรางไปลงที่สถานี Jujigai จากนั้นเดินต่อไปที่สถานีรถกระเช้าอีก 10 นาที
เวลาเปิดทำการ :
25 เมษายน - 15 ตุลาคม 10.00 22.00 น.
16 ตุลาคม - 24 เมษายน 10.00 - 21.00 น.
ค่าเข้าชม : จุดชมวิวเข้าชมฟรี ส่วนค่าขึ้นกระเช้าไปกลับ 1,280 เยน

ตลาดสำคัญของเมืองฮาโกดาเตะที่จำหน่ายอาหารแทบทุกประเภท ตั้งแต่ผัก ผลไม้ ไปจนถึงอาหารทะเลซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของตลาดแห่งนี้ พื้นที่ภายในตลาดประกอบไปด้วยร้านค้ามากกว่า 250 ร้าน บรรยากาศโดยรวมนั้นคล้ายกับตลาดปลาซึกิจิในโตเกียว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาชิมเมนูอร่อยๆ มากมายได้จากร้านอาหารจำนวนหลายสิบร้านภายในตลาดแห่งนี้ และนอกจากการช้อปปิ้งและทานอาหารอร่อยๆ แล้ว ยังมีกิจกรรมยอดฮิตอย่างการ “ตกปลาหมึก” (คิดราคาเป็นตัว เริ่มต้นตัวละ 600 เยน) ซึ่งหากตกได้แล้ว ก็จะมีเชฟนำปลาหมึกนั้นไปทำเป็นซาชิมิให้ชิมกันสดๆ

การเดินทาง : ตั้งอยู่ติดกับสถานี Hakodate
เวลาเปิดทำการ : 05.00 – 15.00 น. (เวลาเปิดทำการของร้านแต่ละแห่งอาจแตกต่างกันออกไป)
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี

ยูโนะคาว่าเป็นเมืองออนเซ็นที่ตั้งอยู่ในเมืองฮาโกดาเตะ ซึ่งสามารถนั่งรถรางมาได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางออกไปนอกเมือง จุดเด่นของออนเซ็นที่นี่คือน้ำแร่ที่มาจากหินร้อนใต้มหาสมุทร ซึ่งมีส่วนผสมของเกลือคลอไรด์ซึ่งช่วยบำบัดโรคไขข้อและโรคเส้นประสาทได้ดี นอกจากนี้ทำเลของเมืองยังตั้งอยู่ติดกับทะเล ทำให้บ่อออนเซ็นของโรงแรมหลายแห่งนั้นเป็นแบบกลางแจ้งซึ่งสามารถแช่น้ำร้อนและชมวิวทิวทัศน์ของท้องทะเลได้พร้อมๆ กัน

ไฮไลท์ในช่วงฤดูหนาวของยูโนะคาว่าออนเซนคือการแวะไปดูลิงแช่ออนเซ็นในสวนพฤกศาสตร์เขตร้อน ซึ่งเป็นภาพของฝูงที่นี่นั้นก็มีความน่ารักไม่แพ้ลิงแช่ออนเซ็นอันโด่งดังที่นากาโน่เลย

การเดินทาง : จากสถานี Hakodete ขึ้นรถรางมาลงที่สถานี Yunokawaonsen จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที
เวลาเปิดทำการ : ขึ้นอยู่กับโรงแรมแต่ละแห่ง
ค่าเข้าชม : มีจุดแช่เท้าฟรีในพื้นที่สาธารณะ ออนเซ็นส่วนใหญ่จะสงวนสำหรับแขกที่เข้าพักในโรงแรมแต่ละแห่งเท่านั้น

ผู้เขียน: ชินพงศ์ มุ่งศิริ
เริ่มต้นทำงานเป็นช่างภาพอิสระหลังเรียนจบ เดินทางไปถ่ายภาพที่ประเทศญี่ปุ่นบ่อยครั้งจนครบทั้ง 4 ฤดูอันสวยงาม และเกือบครบทุกภูมิภาค มีผลงานภาพถ่ายตีพิมพ์ในไกด์บุ๊คระดับโลกอย่าง Lonely Planet ถึง 3 เล่ม คือ Discovery Japan, Japan และ Kyoto รวมถึงเว็บไซต์ท่องเที่ยวชั้นนำอย่าง National Geographic Traveler UK, BBC Travel, Travel+Leisure, TIME และอีกมาก
นอกจากการถ่ายทอดความสวยงามของประเทศญี่ปุ่นผ่านภาพถ่าย ปัจจุบันยังหันมาถ่ายทอดเรื่องราวผ่านทางตัวอักษรทั้งในฐานะนักเขียนและนักแปลควบคู่กันไปอีกด้วย