ญี่ปุ่นคือแหล่งกำเนิดของอาหารที่หลายคนแสนคุ้นเคย (โดยเฉพาะตอนสิ้นเดือน) นั่นก็คือ "บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป" ถ้าชอบกินก็ต้องลองไปให้ถึงพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ซักครั้ง

ที่นี่จะมีการเล่าเรื่องผ่านนิทรรศการที่เข้าใจง่ายและมีสีสัน ไม่ว่าจะเป็นห้องจำลองที่คุณ Ando ได้ทำการคิดค้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, โมเดลบะหมี่นิชชินถ้วยยักษ์ที่น่าเซลฟี่, ถ้วยบะหมี่นับร้อยๆถ้วยที่เคยวางขายตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันแปะเรียงรายบนผนังให้เราได้ตะลึง

ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามานั้น มันฟรีทุกอย่างจ้า แต่ถ้าเรายอมจ่ายเพิ่มเพียง 500 เยนหรือ 300 เยนสำหรับเด็ก เราก็ยังสามารถได้สร้างสรรค์บะหมี่ถ้วยในรูปแบบของตัวเองได้เองไม่ว่าจะใส่น้ำซุป, เครื่องเคียง, และเพ้นท์ถ้วยได้ตามใจ ออกมาเป็นบะหมี่ที่มีถ้วยเดียวในโลกได้อีก น่าสนุกสุดๆ

ค่าเข้าชม: ฟรี (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหากจะทดลองทำบะหมี่ถ้วยเอง ผู้ใหญ่ 500 เยน เด็ก 300 เยน)
วันหยุด: ทุกวันอังคารและวันหยุดช่วงปีใหม่
เวลาทำการ : 9:30-16:30 น.
วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟสาย Hankyu Takarazuka Line ลงสถานี Ikeda ทางออก ประตูตะวันตก เดินต่ออีกประมาณ 7 นาที

ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งศาลเจ้าที่เก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นด้วยรูปแบบที่เรียกว่า Sumiyoshi-zukuri ที่จะมีหลังคาแบบตรงๆ ต่างจากศาลเจ้าที่อื่นๆที่เราเคยเห็นที่เป็นทรงโค้งๆ และจั่วจะถูกตกแต่งด้วยไม้ที่ลักษณะไขว้กันคล้ายรูปกากบาท

นอกจากนี้ที่นี่ยังมีชื่อเสียงมากเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้า (คามิ) โดยเฉพาะในหมู่ชาวประมงที่ให้ความนับถือเทพเจ้าองค์นี้มากๆ เพราะเชื่อว่า เทพเจ้าองค์นี้จะช่วยให้เดินทางปลอดภัยและแคล้วคลาดจากอันตราย

ค่าเข้าชม: ฟรี
วันหยุด: ไม่มีวันหยุด
เวลาทำการ : 6:00-17:00 น. (ตุุลาคม-มีนาคม: 6:30-16:30 น.)
วิธีเดินทาง: ขึ้นรถไฟสาย Nankai ลงที่สถานี Sumiyoshi Taisha แล้วเดินต่อ 5 - 10 นาที หรือขึ้นรถราง Hankai Tramway ลงที่ป้าย Sumiyoshitoriimae เดิน 3 นาที

ที่นี่เป็นเหมือนโอเอซิสของโอซาก้า เพราะว่าเป็นสวนสาธารณะใจกลางเมืองที่ถูกขนาบโดยแม่น้ำสองข้าง งดงามไปด้วยต้นไม้และดอกไม้ให้คนพื้นที่ได้มาพักผ่อนกัน

โดยเฉพาะช่วงกลางเดือนพฤษภาคมจนถึงกลางเดือนตุลาคม ที่นี่จะมีสวนกุหลาบขนาดใหญ่ที่มีกุหลาบกว่า 4,000 ต้น พากันชูช่อออกดอกให้คนได้มาถ่ายรูปกันจนเมมโมรีแทบเต็มกันเลยทีเดียว หรือในช่วงเวลาอื่นก็ยังมีความร่มรื่นของแมกไม้และดอกไม้อื่นๆให้นักท่องเที่ยวและชาวเมืองมาปั่นจักรยานรับลมเย็นๆเล่นได้ หรือถ้ามาช่วงปลายปีก็จะมีการประดับประดาภายในสวนด้วยดวงไฟจำนวนมาก เนรมิตให้ที่นี่กลายเป็นสวนในฝันของใครหลายๆคน เรียกได้ว่าใครมาโอซาก้าต้องห้ามพลาด

ค่าเข้าชม: ฟรี (ในช่วงที่มีสวนกุหลาบ จะมีค่าเข้าชมสวนกุหลาบ คนละ 500 เยน)
วันหยุด: ไม่มี
เวลาทำการ : 24 ชม.
การเดินทาง: นั่งรถไฟสาย Keihan Main Line หรือรถไฟใต้ดิน Osaka Metro สาย Sakaisuji ลงที่สถานี Kitahama เดินประมาณ 5 นาที หรือนั่งรถไฟสาย Midosuji ลงที่สถานี Yodoyabashi เดินต่ออีกประมาณ 9 นาที

ถ้าถึงฤดูชมซากุระ หรือจะมาชมใบไม้แดงคุณต้องไม่พลาดที่จะมาที่สวนแห่งนี้ด้วยประการทั้งปวง

สวนสาธารณะ Satsukiyama แห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาและมีต้นซากุระปลูกเรียงรายไปทั่ว พอช่วงซากุระบานที่นี่ก็จะอบอวลไปด้วยสีชมพูอ่อนๆ และพอช่วงฤดูใบไม้ร่วงต้นไม้ในสวนแห่งนี้ก็จะพร้อมใจกันเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแดงกันถ้วนหน้า แถมในช่วงกลางคืนก็จะมีการส่องไฟให้ละมุนขึ้นไปอีก

ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของภูเขาที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 315 ม.นอกจากที่นี่จะเป็นที่นิยมติดอันดับของนักเดินขึ้นเขาสายชิวแล้ว ที่นี่ยังมีสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่ และมีสวนสัตว์ Satsukiyama ที่เราสามารถไปเล่นกับเจ้าสัตว์ตัวน้อยที่หาชมได้ยากฟรีๆ อย่างเจ้าวอมแบต สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีกระเป๋าหน้าท้องเหมือนจิงโจ้ หรือจะไปเล่นกับอัลปาก้าในสวนสัตว์ที่เปิดให้เข้าฟรีก็ได้

ในวันที่ฟ้าเปิด เรายังสามารถขึ้นไปบนหอชมวิวเพื่อชมเมืองโอซาก้าได้แบบพาโนราม่าเลยด้วย วิวกลางคืนที่นี่จะระยิบระยับไปอีกแบบ มาที่นี่ที่เดียวรับรองทั้งฟินทั้งฟรี

ค่าเข้าชม: ฟรี
วันหยุด: ไม่มี (แต่สวนสัตว์หยุดทุกวันอังคาร)
เวลาทำการ: สวนสาธารณะเปิด 24 ชั่วโมง แต่สวนสัตว์เปิด 9:00-17:00 น.
วิธีการเดินทาง: นั่งรถไฟสาย Hankyu Takarazuka มาลงที่สถานี Ikeda แล้วเดินต่อ 15 นาที

จะเป็นประสบการณ์ที่ดีแค่ไหนที่คนจากประเทศที่ไม่ค่อยมีภัยพิบัติอย่างเราจะได้ไปสัมผัสวิถีความเป็นญี่ปุ่นผ่านการจำลองเหตุการณ์ภัยพิบัติ ซึ่งเป็นสิ่งที่เลี่ยงได้ยากของคนญี่ปุ่น

ที่นี่เราจะได้มีโอกาสเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์สมมุติและสัมผัสกับตัวเองแบบสมจริงมากๆ อย่างเช่น เราจะได้ไปอยู่ในเหตุการณ์ไฟไหม้ในตึก, อยู่ในสถานการณ์ที่ลมพายุระดับความเร็ว 32 เมตรต่อวินาทีพัดจนตัวปลิว, อยู่ในเหตุการณ์น้ำท่วมเมือง หรือได้ลองสัมผัสว่าแผ่นดินไหวที่มีระดับความรุนแรงระดับ 4-7 ตามสเกลของญี่ปุ่นมันเป็นอย่างไร เพื่อจะได้รู้ระวังในการดูแลตัวเอง รวมถึงเรายังสามารถทดลองนั่งเฮลิคอปเตอร์จำลองที่ใช้ช่วยคนในเหตุฉุกเฉินได้ด้วย ทั้งสนุกและสมจริงมากๆ ได้ทั้งความรู้ ความตื่นเต้น และที่สำคัญฟรีจ้า

ค่าเข้าชม: ฟรี
วันหยุด: ทุกวันจันทร์และวันอังคารที่สองของเดือน
เวลาทำการ : 9:00-17:00 น.
วิธีเดินทาง: ขึ้นรถไฟสาย Kintetsu Kyoto Line ลงสถานี Jujo เดินต่ออีก 8 นาทีหรือ รถบัส (สาย16,19,42 ) ลงที่ป้าน Shiminbosai Center-mae