สถานีแรกที่อยากเสนอคือสถานีที่น้อยคนจะเคยได้ยินชื่อ และน้อยยิ่งกว่าที่จะเคยไป สถานีชิโมะนาดะ สถานีที่หันหน้าออกทะเล ตัวสถานีเป็นเพียงเพิงสั้นๆและเก้าอี้สองตัวเท่านั้น

เท่าที่มีข้อมูล มีหนังญี่ปุ่น ละคร และรายการโทรทัศน์รวมอย่างน้อย 7 เรื่องที่เคยมาใช้สถานีนี้เป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำ ในฉากสุดโรแมนติกทั้งหลายมักจะมีคู่รักมานั่งอยู่ที่สถานีเงียบๆแห่งนี้เพียงสองคน

สถานีนี้คนที่คิดจะเที่ยวหรือเคยเที่ยวญี่ปุ่นในโซนฮกคุริคุ หรือจะไปต่อที่ชิราคาว่าโก น่าจะเคยผ่านตามาบ้าง เพราะเป็นสถานีสำคัญในจังหวัดอิชิคาวะ หรือใครที่จะไปเที่ยวชิราคาว่าโกก็มักจะมาต่อรถบัสกันที่นี่

หากมาถึงแล้วสิ่งที่ขาดไม่ได้คือการถ่ายรูปคู่กับโครงสร้างไม้ทรงโค้งที่เรียกว่า ซึซึมิ ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของสถานีแห่งนี้

ลืมไม่ได้กับสถานีดังที่แทบไม่ต้องแนะนำตัว เพราะสถานีโตเกียวเป็นจุดขึ้นรถไฟความเร็วสูงชิินคันเซ็น ใครที่จะเดินทางไปจังหวัดอื่นๆจากโตเกียวยังไงก็ต้องแวะมาใช้ซักครั้ง แต่นอกจากความสำคัญในฐานะสถานีใหญ่แล้ว ก็ยังมีร้านค้าภายในมากมาย แถมหากเดินออกมาข้างนอกซักหน่อยก็จะสามารถชมอาคารอิฐแดงดั้งเดิมได้อีก (ซ่อมแซมจนเหมือนใหม่แล้ว)

ประตูที่จะออกมาสู่ฝั่งที่เป็นอาคารอิฐสีแดงได้คือ ประตูมารุโนะอุจิ (Marunouchi) ซึ่งมีทั้งเหนือ กลาง ใต้ จะออกมาอันไหนก็ได้ทั้งนั้น ออกมาแล้วเลือกมุมถ่ายรูปที่ชอบได้เลย แต่แนะนำว่าต้องลองออกประตูกลางซักครั้ง แล้วเดินห่างออกมาไกลๆซักหน่อย เพื่อถ่ายภาพหน้าตรงของสถานีแบบเต็มๆไว้ซักภาพแบบนี้

อยู่บนสายรถไฟเอโนะเด็นที่เราจะต้องขึ้นเวลาไปเยี่ยมชมสถานที่อย่างเช่นวัดหลวงพอโตที่คามาคุระ และเกาะเอโนชิมะเป็นต้น นอกจากจะเป็นสถานีที่สวยติดอันดับแล้ว ยังมีที่เที่ยวรอบๆมากมายที่น่าไปด้วย ทำให้สามารถใส่ไว้ในแปลนเที่ยวได้ไม่ยาก

ความสวยของที่นี่ว่ากันว่าไม่ใช่ตัวสถานีแต่เป็นวิวที่เห็นจากสถานี เพียงแค่ลงไปนั่งรอรถไฟตรงเก้าอี้บนชานชาลา เราจะเห็นเหมือนกับว่าด้านหน้าของเรามีเพียงแค่ทะเลและท้องฟ้าเท่านั้น นอกจากนี้ก็ยังเป็นหนึ่งในฉากดังของการ์ตูนเรื่องสแลมดังก์อีกด้วย

สถานีนิชิโอยามะเป็นสถานีรถไฟที่อยู่ใต้ที่สุดของญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมวิวของฟูจิเล็กแห่งคิวชูที่มีชื่อว่า ภูเขาไคมงดาเกะ ที่เห็นชัดที่สุดอีกด้วย โดยสามารถมองเห็นภูเขาเต็มๆ ได้จากบนชานชาลาเลย

เนื่องจากรถไฟน้อยแต่หลายๆคนชอบลงไปถ่ายรูปกับภูเขาเป็นที่ระลึก ทำให้รถไฟจอดที่สถานีนี้นานกว่าปกติเล็กน้อย เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถลงไปถ่ายรูปและกลับขึ้นมาบนรถคันเดิมได้