เมืองไทยโชคดีที่ไม่มีหิมะ
ตอนย้ายมาอยู่โตเกียวใหม่ ๆ เคยคุยกับสามีว่าใกล้หน้าหนาวแล้ว อยากเดินลุยหิมะหน้าบ้านไว ๆ จังเลย สามีหันหน้ามามองพร้อมพูดว่า “โตเกียวหิมะไม่ตกหรอกนะ” (OuO”) สตั้นไป 5 วินาที เพิ่งรู้ว่าปกติแล้วโตเกียวไม่มีหิมะตกจ้า อย่างมากก็ปรอย ๆ ไม่กี่วัน พอตกพื้นก็ละลายไปกับพื้น ไม่ได้ตกแบบกองพูน ๆ อย่างฮอกไกโด
แต่ด้วยความอยากเห็นหิมะครั้งแรกในชีวิต สามีผู้มีเมตตาจึงขับรถไปเที่ยวทางเหนือของญี่ปุ่นซึ่งมีหิมะกัน ปรากฎว่าสิ่งที่หวังกับความเป็นจริงนั้นสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง ยูกิซัง คุณหลอกดาว! สิ่งสวยหรูที่เห็นในรูปนั่นคืออะไร? มาดูกันดีกว่าทำไมประเทศไทยและโตเกียวโชคดีแค่ไหนที่ไม่มีหิมะ
ใส่หนาเป็นชาวเอสกิโม
เมื่อคุณต้องเผชิญหน้ากับหิมะและอุญหภูมิติดลบ -10 องศา ฮีทเทคลดราคา สารพัดแฟชั่นที่สรรหามาโปะบนตัวคุณก็ไม่สามารถช่วยให้คุณรู้สึกอุ่นได้ ทำได้เพียงบรรเทาความหนาวและรีบกลับเข้าไปอยู่ในที่อบอุ่น เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเมื่อคุณย้ายตัวเองเข้าไปในที่อบอุ่นแล้ว คุณจะพบว่ามันร้อนเกินไปเพราะใส่หลายชั้นเกิน เสื้อกันหนาวชั้นใน เสื้อโค้ทชั้นนอก ถุงมือ ผ้าพันพอ ที่ปิดหู หมวก หน้ากาก สิ่งเหล่านี้ส่วนใหญ่จะถูกถอดออกเมื่ออยู่ที่อบอุ่น และต้องสวมใส่มันอีกครั้งเมื่อคุณต้องออกไปผจญสภาพอากาศอันเลวร้ายอีกครั้ง แค่ข้อแรกก็ลำบากขนาดนี้ การใช้ใช้ชีวิตกับหิมะนั้นไม่ง่ายเลย
เปลืองแก๊ส เปลืองไฟมาก
เวลาอยู่ประเทศไทย ถ้าร้อนก็แค่เปิดแอร์ แต่ถ้าคุณอยู่ในเมืองที่มีหิมะตกแล้ว แค่ฮีทเตอร์นั้นไม่พอนะ
ทำไมไม่พอ ? ก่อนอื่นลองจินตนาการดูว่าคุณต้องล้างจานกับน้ำที่เย็นเหมือนกับเข็มนับพันเล่มคอยทิ่มแทงมือและนิ้วของคุณ เข้าห้องน้ำนั่งชักโครกที่เย็นเจี้ยบ และอาบน้ำที่หนาวเย็นพอ ๆ กับตอนที่แจ๊คเกาะไม้กระดานห้อยต่องแต่งในน้ำแข็งเพื่อช่วยโรส หรือนอนบนเตียงที่กรุบกรอบเพราะความชื้นเกาะผ้าจนกลายเป็นแผ่นน้ำแข็งบาง ๆ แต่แน่นอนว่าคุณคงไม่ต้องเผชิญชะตากรรมดังกล่าวถ้าคุณมีเครื่องทำน้ำอุ่น ฮีทเตอร์ ที่ปรับอุญหภูมิน้ำในบ้าน และฝารองนั่งชักโครกที่ทำความร้อนได้
แต่แน่นอนว่ามันมาพร้อมค่าแก๊สค่าไฟที่ต้องจ่ายต่อเดือนมากมายมหาศาล แถมก่อนใช้งานต้องมาเปิดสักพักเพื่อปรับอุญหภูมิให้สูงขึ้นก่อนด้วย เปลืองเงินแค่ไหนถามใจดู
ป่วยบ่อย
อากาศเปลี่ยน ร่างกายพัง แม้แต่คนญี่ปุ่นหลาย ๆ คนเกิดและเติบโตในเมืองที่มีหิมะตก ก็ยังยอมรับว่าป่วยบ่อยเพราะอากาศหนาว แถมบอกว่าประเทศไทยโชคดีที่มีอากาศร้อนตลอดปี จึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องป่วยเพราะสภาพอากาศ อยู่ไทยป่วยน้อยยิ่งกว่าตอนอยู่ญี่ปุ่น
แต่ส่วนใหญ่เห็นว่าจะป่วยเพราะอาหารเป็นพิษแทน อากาศประเทศไทยร้อนของจึงเสียหรือบูดง่ายล่ะนะ กลายเป็นแบบนั้นไป
เคลียร์หิมะวนไปค่ะ
ไม่ใช่ว่าเวลาหิมะตกแล้วจะเปิดฮีทเตอร์ชิว ๆ อยู่ในบ้าน บางครั้งที่หิมะตกหนักมากจะเห็นคนญี่ปุ่นออกมาทำความสะอาด เคลียร์หิมะบนหลังคา หน้าบ้าน และทางเดิน เพราะเคยมีเหตุการณ์หลังคาบ้านถล่มเพราะหิมะตกหนาเกินไปทำให้หลังคารับน้ำหนักไม่ไหว โดยเฉพาะตามต่างจังหวัดที่เป็นบ้านโบราณซึ่งมีอายุเก่าแก่ ทำให้วัสดุผุพังไม่แข็งแรงไปตามกาลเวลา
รถไฟหยุดวิ่ง
ญี่ปุ่นมีระบบขนส่งสาธารณะที่ถูกและดีอย่างรถไฟ ทำให้คนญี่ปุ่นนิยมเดินทางโดยรถไฟมาก บางครั้งเราก็จำเป็นต้องออกไปทำธุระยามที่หิมะตก แต่บางครั้งถ้าหิมะตกหนักมากจนรถไฟก็ไม่สามารถใช้งานได้ หรือจำเป็นที่จะต้องระงับการเดินทางด้วยรถไฟชั่วคราว แน่นอนว่าสร้างความลำบากอย่างมากกับคนที่มีนัด หรือนักท่องเที่ยวที่ต้องเดินทางไปสนามบินภายในเวลาที่กำหนด
ประเทศไทยโชคดีกว่าเยอะเพราะไม่มีหิมะคอยขัดขวางการเดินทาง แต่บางครั้งก็ดีเลย์หรือใช้บริการไม่ได้เพราะเหตุผลอื่นๆที่ไม่สมควร อันนี้ก็ต้องทำใจล่ะนะ
สัญจรลำบาก
นอกจากการคาดเดาการขนส่งสาธารณะไม่ได้แล้ว การเดินทางโดยยานพาหนะส่วนตัวก็ลำบาก
อย่างการเดิน ถ้าเราใส่รองเท้าทั่วไปก็อาจจะเดินสะดุดหรือลื่นบนผิวทางที่เป็นแผ่นน้ำแข็ง การเดินทางโดยจักรยานที่ต้องฝ่าลมหนาวและกองหิมะที่มองไม่เห็นพื้น การเดินทางไกลโดยรถยนต์ ถ้าหิมะตกหนามากจำเป็นที่จะต้องใส่โซ่ที่ล้อรถเพื่อกันลื่นหรือสไลด์ และท้องถนนที่ทางเมืองต้องคอยเคลียร์หิมะในทุกเส้นทางสัญจรตลอดเวลา บางครั้งคนงานต้องทำงานกลางหิมะแบบไม่ได้พักผ่อนติดต่อกันก็มี
ขายของก็ลำบาก
เวลาไปซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านค้าต่างๆช่วงที่มีหิมะตก คนจะน้อยมาก ๆ ส่วนหนึ่งเพราะเดินทางลำบาก บวกกับคนไม่อยากฝ่าลมหนาวและหิมะออกมาถ้าไม่จำเป็น ปกติแล้วคนญี่ปุ่นจะนิยมซื้อของสำหรับทำอาหารวันต่อวัน ไม่นิยมซื้อตุนไว้ในตู้เย็นเยอะ ๆ เพื่อความสดใหม่ของวัตถุ แต่ช่วงไหนที่หิมะตกคนก็จะไม่ค่อยออกมา บางคนถึงกับบอกว่ายอมกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ในบ้านมากกว่าจะออกมากินที่ร้านแบบปกติ ร้านค้าทุกประเภทลูกค้าจะน้อยลง ได้รับผลกระทบกันไปตาม ๆ กัน
ภัยพิบัติจากหิมะ
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีภัยพิบัติต่าง ๆ มากมายด้วยสภาพที่เป็นเกาะ หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากนั่นคือภัยพิบัติจากหิมะถล่มค่ะ ทั้งที่ลานสกี หรือบ้านเรือนที่อยู่บริเวณติดกับภูเขา ซึ่งเป็นอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันและยากที่จะหลีกเลี่ยง ดังนั้นเราจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับการสูญเสียอยู่เป็นระยะ ๆ
ข้อดีของการอยู่ในพื้นที่ที่มีหิมะตก (ซึ่งไม่ต้องรู้ก็ได้)
มีการสำรวจพบว่าคนฮอกไกโดหรือคนที่อยู่ในจังหวัดที่มีหิมะตกและอากาศหนาวอุญหภูมิติดลบส่วนใหญ่ไม่เคยพบเห็นแมลงสาบตัวเป็น ๆ นั่นเพราะอากาศที่หนาวเหน็บอาจจะทำให้ประชาชนชาวแมลงสาบไม่นิยมอยู่ก็เป็นได้ (นับเป็นข้อดีแต่ดูไม่มีประโยชน์อะไรขนาดนั้นนะ)
เห็นหรือยังคะว่าประเทศเมืองร้อนอย่างไทยนั้นโชคดีขนาดไหนที่ไม่มีหิมะตก ขนาดอากาศเย็นลงในช่วงที่ผ่านมายังทำให้ใครหลาย ๆ คนไม่อาบน้ำ (ฮั่นแน่) หรือมีการบ่นคิดถึงที่รองนั่งชักโครกอุ่นร้อนได้แบบญี่ปุ่น ก็ยังรู้สึกลำบากเล็กน้อยในการใช้ชีวิต แต่ถ้าต้องย้ายไปอยู่ในที่ ๆ มีหิมะตกเป็นประจำนี่ต้องปรับตัวขนานใหญ่เลยค่ะ ส่วนตัวถ้าให้แม่บ้านเมกุโระเลือกระหว่าง 30 องศาหรือ 0 องศา ขอเลือกยอมเสียค่าแอร์ดีกว่าค่ะ หรือใครไม่เห็นด้วย เห็นว่าอยู่ที่ที่มีหิมะดีกว่าลองคอมเม้นต์กันมาได้นะคะ!