All About Japan

เที่ยวชิมผลไม้และขุดฟอสซิลในฟุคุชิมะ!

อาหาร & เครื่องดื่ม ร้านอาหาร ผลไม้ พิพิธภัณฑ์ การทำฟาร์ม PR เที่ยวญี่ปุ่นช่วงสงกรานต์ Fukushima โทโฮคุ โทโฮคุฝั่งแปซิฟิค
เที่ยวชิมผลไม้และขุดฟอสซิลในฟุคุชิมะ!

จังหวัดฟุคุชิมะครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ทั้งแนวชายฝั่งและภูเขาจึงมีอะไรให้เที่ยวชมตลอดทั้งปี ดินแดนแห่งนี้มีเรื่องราวให้กลับมาสำรวจมากมาย จากผลไม้ถึงฟอสซิล และผู้คนที่นี่ไม่เคยยอมแพ้ต่อหายนะเมื่อหกปีก่อน ตอนนี้พวกเขาพร้อมแล้วที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างอบอุ่น ลองไปชมฟุคุชิมะกันนะ

สวรรค์ของสตรอว์เบอร์รีแสนหวาน: ประสบการณ์เก็บสตรอว์เบอร์รีที่โซมะ

สวรรค์ของสตรอว์เบอร์รีแสนหวาน: ประสบการณ์เก็บสตรอว์เบอร์รีที่โซมะ

ฟุคุชิมะขึ้นชื่อเรื่องผลไม้หลากหลายชนิดที่มีให้เพลิดเพลินได้ตลอดปี: สตรอว์เบอร์รีมีเยอะในช่วงเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม เชอร์รีในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม ลูกพีชช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน องุ่นและลูกแพร์ช่วงเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม และแอปเปิลช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม ไม่ว่าจะไปช่วงไหนก็มีผลไม้สดๆ ให้ได้กินตลอดปี

ในฟาร์มที่ดูแลโดย สมาคมสตรอว์เบอร์รีเพื่อการท่องเที่ยววาดะ ผู้เข้าชมสามารถเก็บสตรอว์เบอร์รีได้ถึงหกชนิดและทานได้มากเท่าที่ต้องการภายในครึ่งชั่วโมง (แน่นอนว่ามีค่าใช้จ่ายเล็กน้อย) แถมยังมีสตรอว์เบอร์รีที่เพิ่งเก็บใหม่ๆ ในตอนเช้าขายด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เข้าชมยังสามารถเพลิดเพลินกับบาร์บีคิวที่มีพร้อมทั้งผักสดและซีฟู้ด แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่าวันหยุดคนจะเยอะสักหน่อยนะ!

เขตวาดะตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งทางตะวันออกของญี่ปุ่น จึงมีอากาศที่อบอุ่นกำลังดี และขึ้นชื่อเรื่องสตรอว์เบอร์รีหวาน โดยย้อนกลับไปเมื่อปี 1988 ชาวสวนสตรอว์เบอร์รีในพื้นที่ราว 15 ครอบครัว ได้ร่วมมือกันก่อตั้งสมาคมสตรอว์เบอร์รีเพื่อการท่องเที่ยววาดะ

การเก็บสตรอว์เบอร์รีและลองชิมที่ฟาร์มสหกรณ์ของที่นี่นั้น เป็นกิจกรรมที่นิยมมาก ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวราว 30,000 ถึง 40,000 คน มาเพื่อเก็บสตรอว์เบอร์รี จนกระทั่งเกิดภัยพิบัติแผ่นดินไหวและสึนามิในปี 2011 สวนผลไม้และฟาร์มในพื้นที่ราวครึ่งหนึ่งถูกทำลายโดยแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ เมื่อคนท้องถิ่นบางส่วนเห็นท้องทุ่งถูกทิ้งร้างไม่มีใครสนใจ พวกเขาก็ตัดสินใจว่าจะไม่ยอมให้ภัยพิบัติบ่อนทำลายจิตวิญญาณของพวกตนอีก และเลือกที่จะเผชิญหน้ากับความจริงแล้วเดินหน้าต่อไป

ฟาร์มสตรอว์เบอร์รีเพื่อการท่องเที่ยววาดะ
ที่อยู่: 94 Shimoshibasaku, Wada, Soma City, Fukushima
โทร/แฟกซ์: 0244-36-5535
เวลาทำการ: เปิดทุกวัน 10 โมงเช้า - 4 โมงเย็น ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤษภาคม
ฤดูท่องเที่ยวปี 2018: 14 มกราคม - 3 พฤษภาคม; เริ่มเปิดจอง 3 มกราคม 2018
การเดินทาง: นั่งรถแท็กซี่ 10 นาทีจากสถานี Soma บนรถไฟ JR สาย Joban Line

- blog.wadakanko-ichigo.jp (ภาษาญี่ปุ่น)

Wonder Farm: ตามหารสชาติที่แท้จริงของมะเขือเทศ

Wonder Farm: ตามหารสชาติที่แท้จริงของมะเขือเทศ

ระหว่างที่ใช้ชีวิตในป่าคอนกรีตของยุคปัจจุบันนี้ เราคงไม่ได้คิดถึงที่มาของผักที่ซื้อจากซูเปอร์มาร์เก็ตหรืออาหารตามร้านสักเท่าไรนัก แต่ถ้าหากอยากได้คำตอบละก็ ที่ Wonder Farm คุณจะได้เรียนรู้ทุกเรื่องราวเกี่ยวกับมะเขือเทศ

Wonder Farm เปิดเป็นธีมปาร์คแนวเกษตรผสมผสานตั้งแต่สองปีก่อน ที่นี่คือสวรรค์ของมะเขือเทศ ผู้เข้าชมสามารถเด็ดและชิมมะเขือเทศถึง 11 ชนิดได้สดๆ จากเถาในเรือนกระจก ซึ่งเป็นสถานที่ปลูกพืชอย่างเป็นระบบแบบปลอดสารเคมี อย่าลืมแวะที่ Mori no Marche เพื่อซื้อผลไม้และผักสดๆ ที่ปลูกในพื้นที่ รวมถึงอาหารแปรรูป เช่น น้ำมะเขือเทศและแยม ส่วนที่ร้าน Mori no Kitchen ยังมีบุฟเฟต์อาหารกลางวันและอาหารเย็นซึ่งเตรียมจากผักและผลไม้ที่ปลูกในท้องถิ่นด้วย

ใครจะไปคิดว่าจะมีวิธีกินมะเขือเทศให้อร่อยได้หลากหลายขนาดนี้! ที่ต้องลองเลยคือพิซซ่าชีสมะเขือเทศอบสดใหม่จากเตา สวรรค์ชัดๆ ! คุณสามารถจองล่วงหน้าสำหรับวันหยุดสุดสัปดาห์แล้วอบพิซซ่ากินเองที่เวิร์คช็อปของครัวได้ด้วยนะ

ในสวนยังมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ไว้สำหรับจัดกิจกรรมต่างๆ ทั้งบาร์บีคิว สอนทำอาหาร และทริปเดินเขา คนท้องถิ่นมากมายขับรถมาที่นี่เพื่อทานอาหารกลางวันและเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัวและเพื่อน

ฟาร์มที่มีธีมเป็นมะเขือเทศนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาลท้องถิ่นและภาคธุรกิจเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่น หกปีหลังเกิดภัยพิบัติ สภาพในท้องถิ่นนั้นฟื้นฟูได้ดีมากๆ แทบไม่เหลือร่องรอยของความเสียหาย แต่คนท้องถิ่นโดยเฉพาะเกษตรกรยังคงลำบากเพราะข่าวเรื่องอาหารที่ผลิตในฟุคุชิมะ แต่ทุกอย่างกำลังค่อยๆ ดีขึ้น

เป้าหมายหนึ่งของฟาร์มคือนำผู้คนเข้าหาการเกษตร เพื่อให้ได้เห็น ได้สัมผัส และเรียนรู้เกี่ยวกับอาหารที่พวกเขากินอยู่ทุกวัน อย่างที่จุนอิจิ คุซาโนะ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ Wonder Farm ได้กล่าวไว้ “เมื่อลองสำรวจความเชื่อมโยงของพวกเรากับธรรมชาติอีกครั้งผ่านอาหาร เราจะรู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งต่ออาหารบนโต๊ะและเกษตรกรที่ปลูกมันขึ้นมามากกว่าเดิม”

ภัยพิบัตินำพาเกษตรกรท้องถิ่นและคนทำอาหารมาพบกัน พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างสามัคคีเพื่อแสดงให้เห็นความปลอดภัยและคุณภาพของผลผลิตจากฟาร์มท้องถิ่น มันเป็นเรื่องของการนำวัตถุดิบสดใหม่มาใช้ให้ดีที่สุดเพื่อนำรสชาติแท้จริงออกมาให้ได้ “เราอยากให้ทุกคนได้รู้สึกอีกครั้งว่ามะเขือเทศอร่อยมากแค่ไหน” คุซาโนะกล่าว “และที่สำคัญ เราอยากให้ทุกคนเห็นว่าไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไร คนที่นี่ก็พยายามอย่างหนักในทุกวัน ต่อสู้อยู่ทุกวันเพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้น”

Wonder Farm
ที่อยู่: 1 Nakajima Hiro-machi, Yotsukura Town, Iwaki City, Fukushima
โทร: 0246-38-8851
เวลาทำการ:
Mori no Kitchen
อาหารกลางวัน: 11 โมงเช้า – บ่าย 3 โมง (สั่งได้ถึงบ่าย 2 โมง)
อาหารเย็น: 5 โมงเย็น - 3 ทุ่ม (สั่งได้ถึง 2 ทุ่ม)
จองที่นั่ง: 0246-38-8853
Mori no Marche
เมษายน-พฤศจิกายน: 9 โมงเช้า - 6 โมงเย็น
ธันวาคม-มีนาคม: 9 โมงเช้า - 5 โมงเย็น

การเดินทาง: นั่งรถแท็กซี่ประมาณ 15 นาทีจากสถานี Yotsukura JR สาย Joban

- www.wonder-farm.co.jp (ภาษาญี่ปุ่น)

พิพิธภัณฑ์ฟอสซิลและถ่านหินเมืองอิวากิ: เข้าถึงใจกลางชิ้นส่วนแห่งประวัติศาสตร์

พิพิธภัณฑ์ฟอสซิลและถ่านหินเมืองอิวากิ: เข้าถึงใจกลางชิ้นส่วนแห่งประวัติศาสตร์

พิพิธภัณฑ์ฟอสซิลและถ่านหินเมืองอิวากิที่ตั้งอยู่ในภูเขาลึกท่ามกลางรีสอร์ตน้ำพุร้อนนั้นดูเรียบง่ายและไม่โอ้อวด แต่ที่นี่มีอะไรมากกว่าที่ตาเห็น พิพิธภัณฑ์ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1984 นี้มีคอลเลคชันฟอสซิลที่ค้นพบในพื้นที่มากมาย ไดโนเสาร์พันธุ์ฟุตาบะซอรัส (Futabasaurus suzukii) ที่ปรากฏตัวในการ์ตูนแอนิเมชันเรื่องโดราเอมอน และเชื่อกันว่าเคยมีชีวิตอยู่เมื่อ 85 ล้านปีก่อนถูกค้นพบราวครึ่งศตวรรษก่อนโดยนักเรียนมัธยมปลายในอิวากินี่เอง

พื้นที่นี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานด้านการทำเหมืองถ่านหิน ซึ่งช่วยอธิบายสาเหตุการค้นพบฟอสซิลจำนวนมากได้ อิวากิยังเป็นหนึ่งในสามของพื้นที่ที่ผลิตอำพันมากที่สุดในญี่ปุ่น และที่พิพิธภัณฑ์ก็มีเวิร์กชอปทำเครื่องประดับจากอำพันทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ด้วย

ในเวิร์กชอปหนึ่งชั่วโมง คุณจะได้ทำเครื่องประดับหรือของตกแต่งที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลกจากอำพัน ลองคิดดูนะ: ที่คุณนำกลับบ้านไปไม่ใช่แค่ชิ้นส่วนอัญมณี แต่เป็นช่วงเวลากว่าหมื่นปีที่แช่แข็งไว้เพื่อคุณ แบบเดียวกับแมลงที่ติดอยู่ในเรซินฟอสซิลต้นไม้นั่นละ

กระบวนการนั้นไม่ได้ซับซ้อนมาก คุณจะได้กระดาษทรายสามแผ่นสำหรับขัดอำพันดิบที่คุณเลือกไว้ให้ขึ้นเงา แต่ถ้าคุณคิดว่ามันเป็นแค่งานขัดๆ ถูๆ ละก็ คิดใหม่ได้เลย! ก่อนจะเริ่มขัด ลองคิดถึงรูปร่างหรือรูปทรงที่คุณอยากได้ตอนเสร็จแล้วดูสิ มันต้องใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์กว่าจะมองเห็นผลลัพธ์ในอำพันดิบที่ดูมัวๆ และไม่ค่อยเป็นทรง นั่นไง ต้องอดทนนะ!

กิจกรรมนี้เป็นที่นิยมมากโดยเฉพาะในหมู่เด็กๆและวัยรุ่นในช่วงปิดเทอม แต่ช่วงหลังมานี้ก็ดึงดูดใจผู้ใหญ่หลายคนเหมือนกัน ถ้าคุณอยากรู้ เจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์จะโชว์แมลงตัวเล็กๆ ในอำพันให้คุณดูผ่านกล้องจุลทรรศน์ และเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ของพื้นที่เพิ่มเติมให้อีกหน่อย

นอกจากเวิร์กชอปทำเครื่องประดับจากอำพันแล้ว พิพิธภัณฑ์ยังมีเวิร์กชอปการทำตัวอย่างฟอสซิลซึ่งผู้เข้าชมสามารถสัมผัสวิธีการทำงานของนักบรรพชีวินได้ในพื้นที่ขุดหาฟอสซิล ด้วยความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ คุณจะได้เรียนรู้วิธีแยกฟอสซิลแอมโมไนต์ด้วยการสกัดหิน วิธีระบุขอบของฟอสซิล วิธีทำความสะอาดฟอสซิลด้วยแปรงและน้ำ และวิธีบันทึกตัวอย่างอย่างเหมาะสม อาจฟังดูน่าเบื่อ แต่มันคุ้มค่าที่ได้เห็นฟอสซิลแสดงรูปร่างตามธรรมชาติของมัน และหลังจากกิจกรรมนี้ คุณน่าจะเข้าใจความหนักหนาของงานเบื้องหลังฟอสซิลไดโนเสาร์ยักษ์ที่จัดแสดงอยู่!

พิพิธภัณฑ์ฟอสซิลและถ่านหินเมืองอิวากิ
ที่อยู่: 3-1 Mukaida, Joban Yumoto Town, Iwaki City, Fukushima
โทร: 0246-42-3155
เวลาทำการ: 9 โมงเช้า - 5 โมงเย็น (ปิดทำการวันอังคารที่สามของทุกเดือนและวันปีใหม่)
การเดินทาง: เดินเท้า 10-15 นาทีจากสถานี Yumoto บนรถไฟ JR สาย Joban Line

เวิร์กชอปตัวอย่างฟอสซิลแอมโมไนต์
ค่าใช้จ่าย: ¥1,000
เวิร์กชอปทำเครื่องประดับจากอำพัน
ค่าใช้จ่าย: ¥1,500

ทั้งสองเวิร์กชอปใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงและจัดวันละสองครั้ง โดยเริ่มตอน 10 โมงเช้า และ บ่ายโมง 30 นาที ในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดราชการ ช่วงโรงเรียนปิดเทอมจะจัดทุกวัน


อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับชายฝั่งแปซิฟิคของโทโฮคุได้ที่นี่
http://tohoku-pacific-coast.com/th/

- kankou-iwaki.or.jp (ภาษาญี่ปุ่น)

know-before-you-go