All About Japan

บันทึกการเดินทางริมฝั่งแปซิฟิกที่โทโฮคุ

ถ้ำ ชายฝั่ง ชายทะเล เรือ ทัวร์ ชายฝั่ั่ง Sanriku PR Sendai Aomori Iwate Miyagi โทโฮคุ โทโฮคุฝั่งแปซิฟิค
บันทึกการเดินทางริมฝั่งแปซิฟิกที่โทโฮคุ

ในฐานะบรรณาธิการบริหารของ All About Japan ฉบับภาษาอังกฤษ การรู้จักประเทศญี่ปุ่นในทุกซอกทุกมุมจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก และวิธีที่ดีที่สุดก็คงหนีไม่พ้นการออกเดินทางท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสกับสิ่งมหัศจรรย์ด้วยตัวเอง เมื่อคิดได้ดังนี้จึงรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากกับการออกเดินทางครั้งใหม่ไปยังภูมิภาคโทโฮคุ ดินแดนฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือสุดของเกาะหลักญี่ปุ่น

สถานีฮาชิโนเฮะ

สถานีฮาชิโนเฮะ

https://en.wikipedia.org/wiki/Hachinohe_Station#/media/File:JRE-Aoimoritetsudou_HachinoheStation-West.jpg

วันที่ 1
ขึ้นรถไฟชินคันเซ็น (รถไฟหัวกระสุน) พร้อมกับเพื่อนใหม่อีก 15 คนจากหลากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสเปน เอสโตเนีย มาเลเซีย จีน เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย รัสเซีย และอินโดนีเซีย เพื่อมุ่งหน้าไปสำรวจมุมมองใหม่ของพื้นที่ริมฝั่งแฟซิฟิกในแถบโทโฮคุ

หลังจากมาถึงเมืองฮาชิโนเฮะและแวะทานอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิมเป็นมื้อเที่ยงแสนอร่อยเรียบร้อยแล้ว เราจึงเริ่มออกทัวร์และรู้สึกโชคดีที่ทานมื้อเที่ยงรองท้องไว้ก่อนแล้ว เพราะแหล่งท่องเที่ยวแรกของเราคือโรงกลั่นสาเก!

โรงกลั่นสาเกฮาชิโนเฮะ ชูโซะ

โรงกลั่นสาเกฮาชิโนเฮะ ชูโซะ

เราเปิดฉากทริปทัวร์โทโฮคุครั้งนี้ด้วยการไปเยี่ยมชมโรงกลั่นสาเกฮาชิโนเฮะ ชูโซะ โดยมีคุณมิยาโมโตะ เจ้าหน้าที่ตัวแทนผู้แสนกระตือรือร้นออกมากล่าวต้อนรับและให้ความรู้สั้นๆ เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของโรงกลั่นตลอดจนกรรมวิธีในการผลิตก่อนที่จะให้เราลองชิมผลิตภัณฑ์ของที่นี่กัน ในช่วงแรก เราได้ชิมสาเกกันถึง 4 ชนิด ทั้งสาเกให้สัมผัสนุ่มละมุน หวานจับใจ ไปจนถึงแบบไม่มีความหวาน ให้รสชาติเข้มข้น แต่ในระหว่างที่ทุกคนกำลังจิบสาเกจากแก้วใบเล็กอยู่นั้นเอง มิยาโมโตะซังก็เซอร์ไพรส์พวกเราด้วยการหยิบสาเกมาเพิ่มอีก 2-3 ขวด ทั้งสาเกที่มีจำหน่ายจำกัดและสาเกผสมโซดา กิจกรรมนี้จึงทำให้เราได้ทั้งความรู้และความตื่นเต้น อีกทั้งยังเป็นโอกาสดีๆ ให้พวกเราได้ทลายกำแพงและทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมทริปคนอื่นๆ

- hachinohe-kanko.com (อังกฤษ)

เรือบ้านนิอิดะ มารุ

เรือบ้านนิอิดะ มารุ

หลังจากได้ยิ้มได้หัวเราะในระหว่างที่พูดคุยเรื่องสาเกกันไปแล้ว จุดท่องเที่ยวถัดไปในทริปนี้ก็คือ ท่าเรือฮาชิโนเฮะ ที่ที่เรามีโอกาสได้ขึ้นเรือบ้านนิอิดะ มารุ เรือลำนี้มีลักษณะต่างจากเรือนำเที่ยวทั่วไปค่อนข้างมาก เพราะบนเรือมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายจนทำให้เรารู้สึกว่าที่นี่เป็นเหมือนบ้านมากกว่าเรือ ผู้โดยสารสามารถร้องคาราโอเกะหรือให้อาหารนกนางนวลบนดาดฟ้าเรือก่อนที่จะลงมานั่งทานมื้อเย็นบนเรือด้วยกัน แถมที่นี่ยังมีเครื่องดื่มไว้คอยให้บริการ ทำให้เรือลำนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่จัดปาร์ตี้ที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย

- niidamaru.com (ภาษาญี่ปุ่น)

ตลาดปลา มุทสึ มินาโตะ เอคิมาเอะ อาไซจิ

ตลาดปลา มุทสึ มินาโตะ เอคิมาเอะ อาไซจิ

วันที่ 2

หลังจากตื่นแต่เช้าตรู่ เราจึงเริ่มต้นวันที่ 2 กันที่ตลาดปลา มัทสึ มินาโตะ เอคิมาเอะ อาไซจิ หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า ตลาดเช้า เมื่อกลิ่นของอาหารทะเลสดๆ เข้ามาเตะจมูกในแวบแรก ทำให้ผมเกือบนึกถึงทริปเยือนตลาดปลาซึกิจิในโตเกียวเลยล่ะ แต่เมื่อก้มลงมองราคา คุณจะรู้ได้ทันทีว่าคุณไม่ได้อยู่ในโตเกียวอีกต่อไป เพราะราคาของสินค้าที่นี่ถูกมากจนผมคงต้องซื้อของติดไม้ติดมือสักสองสามอย่างแน่ๆ (ถ้าไม่ติดว่าเรากำลังอยู่ในทริปทัวร์) ความพิเศษของทริปนี้ไม่ได้มาจากราคาสินค้าถูกๆ เท่านั้น เพราะพ่อค้าแม่ค้าที่นี่ก็พิเศษไม่แพ้กัน ทุกคนเป็นมิตรมากครับ แถมยังใจดีให้เราชิมอาหารฟรีอีกด้วย นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นสถานที่หาทานมื้อเที่ยงง่ายๆ ราคาสบายกระเป๋าได้ไม่ยาก

- hachinohe-kanko.com (อังกฤษ)

ชายฝั่งทาเนสะชิ

ชายฝั่งทาเนสะชิ

ชายฝั่งทาเนสะชิเป็นที่เที่ยวที่สวยมากๆ พื้นที่กว้างใหญ่ริมแนวชายหาดที่เต็มไปด้วยพืชพันธุ์เขียวขจีน่าจะทำให้ที่นี่เป็นจุดชมวิวสุดโรแมนติกที่เหมาะแก่การออกเดทมากที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดอาโอโมริ ถ้ามีโอกาส ผมสามารถเดินสำรวจดินแดนเขียวชอุ่ม สูดรับอากาศบริสุทธิ์หอมสดชื่นได้ตลอดทั้งวันเลยทีเดียว อย่าลืมเดินชิวๆ ไปแวะชมวิวชายฝั่งสวยๆ บนดาดฟ้าชมวิว 360 องศา (ในภาพด้านบน) กันด้วยนะครับ

- hachinohe-kanko.com (อังกฤษ)

ย่านมิโรคุ โยโกโจ เมืองฮาชิโนเฮะ

ย่านมิโรคุ โยโกโจ เมืองฮาชิโนเฮะ

ไฮไลท์ของวันนี้คงจะหนีไม่พ้นการทานมื้อเย็นที่ย่านมิโรคุ โยโกโจ เมืองฮาชิโนเฮะ มุมดีๆ เล็กๆ ในจังหวัดอาโอโมริที่เต็มไปด้วยร้านค้าและเต็นท์จำหน่ายอาหารเล็กๆ ที่ลูกค้าเข้าไปนั่งกินดื่มได้แค่ครั้งละไม่กี่คนเท่านั้น สำหรับเต็นท์ที่เราไปแวะกันคราวนี้ มีเชฟที่ทั้งตลกและใจดีสุดๆ แถมยังพูดคุยกับเพื่อนร่วมทริปคนอื่นๆ เป็นภาษาอังกฤษได้อีกด้วย ส่วนอาหารก็อร่อยถูกปากอย่างที่เราคาดหวังได้เมื่อมาเยือนโทโฮคุ ต้องบอกเลยว่า อยากให้นักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางมาภูมิภาคนี้แวะทานอาหารกันที่จุดท่องเที่ยวแสนครึกครื้นในฮาชิโนเฮะแห่งนี้จริงๆ ครับ

- hachinohe-kanko.com (อังกฤษ)

รถไฟศูนย์การเรียนรู้เหตุแผ่นดินไหวบนรถไฟสายซันริคุ

รถไฟศูนย์การเรียนรู้เหตุแผ่นดินไหวบนรถไฟสายซันริคุ

วันที่ 3

แม้ว่าชื่อโทโฮคุจะไม่เป็นที่รู้จักนอกญี่ปุ่นมากนัก แต่พื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะหลักประเทศญี่ปุ่นแห่งนี้คือจุดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางภาคตะวันออกของญี่ปุ่นในปี 2554 ทำให้พื้นที่แถบนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุการณ์สึนามิครั้งนั้น อย่างไรก็ตาม รถไฟสายซันริคุ การรถไฟสายเล็กๆ ในท้องถิ่นที่เพิ่งเปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อปี 2557 กำลังทำหน้าที่ส่งเสริมการเตรียมความพร้อมรับมือเหตุแผ่นดินไหวในพื้นที่ด้วยการเปิดรถไฟศูนย์การเรียนรู้ป้องกันเหตุภัยพิบัติ สิ่งที่ทำให้ประสบการณ์ครั้งนี้น่าจดจำอย่างมาก คือ การได้ชมวิวทิวทัศน์ทั้ง 2 ฝั่งไปด้วยในระหว่างที่เรากำลังเรียนรู้เทคนิคที่เป็นประโยชน์ต่อการเตรียมตัวรับมือเหตุแผ่นดินไหวหรือสึนามิ แม้ว่าคุณอาจต้องมีมัคคุเทศน์หรือเพื่อนชาวญี่ปุ่นคอยช่วยเรื่องภาษาญี่ปุ่น แต่นี่ก็ยังถือเป็นความทรงจำที่คุ้มค่า โดยเฉพาะเมื่อคุณมีโอกาสได้เห็นถึงความพยายามในการฟื้นฟูพื้นที่ตลอดแนวชายฝั่ง

อ่านบทความเต็ม: allabout-japan.com (อังกฤษ)

หน้าผาคิตะยามาซากิ

https://www.youtube.com/watch?v=6RkdfgMADV4&feature=youtu.be

หลังจากนั่งรถไฟเติมความรู้กันไปแล้ว ก็ได้เวลาชมวิวกันอีกสักหน่อย และหนึ่งในสถานที่ดีๆ ที่เหมาะแก่การชมความงามของธรรมชาติในโทโฮคุนั่นก็คือ หน้าผาคิตะยามาซากิ หน้าผาคิตะยามาซากิเป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกในจังหวัดอิวาเตะ มีจุดชมวิวสุดประทับใจให้นักท่องเที่ยวเดินสำรวจกันถึง 2 จุดด้วยกัน คุณสามารถเดินลงริมฝั่งเพื่อไปเดินปีนเขาบนชายหาดแนวหิน และเข้าไปเดินสำรวจถ้ำชิวๆ ภายในถ้ำต่างๆ ที่ตั้งอยู่ริมแนวชายหาด แต่ถ้าคุณมีไฟฉายและไม่กลัวน้องค้างคาวขี้อายไม่กี่ตัวที่เกาะอยู่เหนือศีรษะ คุณก็จะได้สัมผัสกับวิวสวยๆ ของสวรรค์ที่สุดปลายถ้ำแห่งนี้

แต่ที่ด้านบนของหน้าผา คุณจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์ชายฝั่งในมุมที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง เพราะที่จุดชมวิวคิตะยามาซากิ จะมีดาดฟ้าชมวิวถึง 3 จุด ให้คุณได้ชมวิวดีๆ ของโขดหินรูปทรงสวยงามทางด้านล่าง ไปจนถึงเหยี่ยวฮอว์คและเหยี่ยวออสเปรทางด้านบน ตลอดจนหมู่นกนางนวลที่เรียกขานชายฝั่งแห่งนี้ว่าบ้าน

อ่านบทความเต็ม: allabout-japan.com (อังกฤษ)

ถ้ำริวเซ็นโด

ถ้ำริวเซ็นโด

หลังจากมื้อเที่ยง เราจึงได้ออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังสถานที่โปรดของผมในญี่ปุ่น นั่นก็คือถ้ำริวเซ็นโด ถ้ำริวเซ็นโดเป็นหมู่ถ้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ทอดยาวกินพื้นที่ถึงประมาณ 5,000 เมตร (16,404 ฟุต) แม้ว่าพื้นที่ 3,600 เมตรของถ้ำจะได้รับการสำรวจแล้ว แต่ปัจจุบันยังเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้เพียง 700 เมตรเท่านั้น สิ่งที่ผมชอบที่สุดในถ้ำเหล่านี้ คือสีสันที่สวยสดตลอดทั้งพื้นที่ แสงสีฟ้านัวๆ ที่ส่องมาจากไฟ LED ทั่วทั้งถ้ำจะทำให้คุณได้เห็นสีสันตระการตาตลอดทั้งการสำรวจนี้ ลองชมวิดีโอด้านล่างเพื่อตามรอยประสบการณ์เที่ยวถ้ำริวเซ็นโดของผมครั้งนี้กันแบบเน้นๆ ดูนะครับ

อ่านบทความเต็ม: allabout-japan.com (อังกฤษ)

โรงแรมทาโระ คันโค

โรงแรมทาโระ คันโค

อีกหนึ่งสถานที่สำคัญที่ไม่ควรพลาดชมเมื่อมาเยือนโทโฮคุ คือ จุดต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิ และหนึ่งในสถานที่พิเศษที่น่าไปเยือนคือ โรงแรมทาโระ คันโค เมืองมิยาโกะ สิ่งที่ทำให้โรมแรมแห่งนี้เป็นสถานที่พิเศษ คือบริเวณชั้นบนสุดของโรงแรมเป็นพื้นที่ที่รอดพ้นจากภัยสึนามิมาได้ เจ้าของโรงแรมจึงได้เห็นภาพของคลื่นที่ซัดเข้ามาผ่านทางหน้าต่างบานหนึ่ง และยังบันทึกภาพวิดีโอไว้ได้อีกด้วย กิจกรรมทัวร์โรงแรมจะทำให้เราได้รู้ถึงข้อได้เปรียบของโรงแรม ตลอดจนบทเรียนสำคัญที่เราได้รับจากเหตุน้ำท่วมครั้งนั้น เนื่องจากตัวผมเองก็มาจากพื้นที่หนึ่งในสหรัฐฯ ที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์เฮอร์ริเคนและน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี ผมจึงมีความเข้าใจเป็นอย่างดีและเคารพในความทุ่มเทของชาวญี่ปุ่นที่นอกจากจะพยายามฟื้นฟูพื้นที่แล้ว ยังมีการให้ความรู้แก่คนทั่วไปอีกด้วย นอกจากความงามของธรรมชาติในภูมิภาคนี้แล้ว ผมจึงอยากให้นักท่องเที่ยวทุกท่านที่เดินทางมาโทโฮคุหาโอกาสมาชื่นชมความพยายามในการฟื้นฟู ตลอดจนความเข้มแข็งของผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่

หาดโจโดงาฮามะ

หาดโจโดงาฮามะ

วันที่ 4

หลังจากได้พูดคุยถึงทริปทัวร์ที่ผ่านมากับทุกคนในกลุ่มผ่านบทสนทนาบนโต๊ะกลม ในวันปิดฉากทริปนี้ เราจึงได้ไปเยือนอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสุดโปรดของผมในญี่ปุ่น หาดโจโดงาฮามะเป็นชายหาดแนวหินที่ปกคลุมไปด้วยน้ำทะเลสีฟ้าครามและอุดมไปด้วยเหล่านกนางนวล และเช่นเดียวกับที่หน้าผาคิตะยามาซากิ คุณสามารถเลือกดื่มด่ำกับดินแดนสวยๆ แห่งนี้ได้ถึง 2 วิธี วิธีแรก คือการผ่อนคลายริมชายหาด โดยบริเวณใกล้ๆ ชายหาดยังมีร้านค้าเล็กๆ ร้านจำหน่ายสินค้ากระจุกกระจิก และร้านอาหารหากคุณอยากได้อะไรมาเติมความชุ่มฉ่ำสักเล็กน้อย วิธีที่สองคือการขึ้นเรือที่มีให้บริการในพื้นที่ เพื่อไปชมแนวหินกันแบบใกล้ๆ และเป็นส่วนตัว แม้ว่าเรือนำเที่ยวลำใหญ่จะออกตามกำหนดเวลา แต่ก็ยังมีเรือลำเล็กๆ ให้เช่าด้วยเช่นกัน ถ้าโชคดี คุณอาจจะได้ลอดเข้าไปในถ้ำสีฟ้าครามที่สามารถเข้าไปได้ด้วยเรือเท่านั้น แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกดื่มด่ำในรูปแบบไหน ก็รับประกันได้ว่าคุณจะมีช่วงเวลาอันแสนวิเศษที่หาดโจโดงาฮามะและทุกสถานที่ท่องเที่ยวในโทโฮคุอย่างแน่นอน

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับชายฝั่งแปซิฟิคของโทโฮคุได้ที่นี่
http://tohoku-pacific-coast.com/th/

know-before-you-go