ฝึกไว้ใช่ว่ากับ Skillหาของถูกแบบแม่บ้านญี่ปุ่น
ฝึกไว้ใช่ว่ากับ Skill แม่บ้านญี่ปุ่น
ได้ชื่อว่าโตเกียว เมืองที่ใครๆก็บ่นว่าของแพง แม้แต่คนญี่ปุ่นเองยังต้องประหยัดกันเลย
จะกินอิ่มหนำสำราญเหมือนอยู่ไทยก็คงไม่ไหว แต่ในความมืดมนก็ย่อมมีแสงสว่าง…
แสงสว่างที่ว่าไม่ใช่อะไร ต้องขอบคุณนิสัยคนญี่ปุ่นที่เน้นคุณภาพเป็นหลัก ของไม่ค้างคืน ไม่สดไม่ขาย ทำให้ของที่เหลือแต่ละคืนจะถูกนำมาลดราคาขายถูกๆก่อนห้างปิด นักเรียนเบี้ยน้อยหอยน้อยเลยได้อานิสงส์กับเขาบ้าง ตอนมาแรกๆยังกะเวลาไม่ค่อยถูก ไปเก้อบ้าง ไปแล้วไม่ได้ของดีราคาถูกก็บ่อยครั้ง แต่วันนี้เพื่อนๆไม่ต้องห่วง เพราะเราได้ลองรวบรวมเวลาว่าแต่ละซุปเปอร์หรือร้านสะดวกซื้อลดราคาเวลาไหนบ้าง จะได้ช่วงชิงกับแม่บ้านญี่ปุ่นได้ทันท่วงที ไปสำรวจกันเลย
เนื้อ
เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว และเนื้อปลา จะเริ่มลดราคาประมาณ 20.00 น. สังเกตง่ายๆจะมีลุงๆป้าๆมุงอยู่ตรงแผนกขายเนื้อ หรือมีพนักงานเข็นรถพร้อมที่ยิงบาร์โค้ด นั่นแหละค่ะ เป้าหมายของเรา ป้าๆบางคนยืนรอ (กดดัน) พนักงานรอให้ยิงบาร์โค้ดลดราคาปุ๊บป้าก็หยิบปั๊บเลย หลังๆนี่ก็ใช้วิธีนี้เหมือนกัน ฮ่า (ไม่อายแล้ว แรกๆอายเหมือนกัน55)
ผักสด
ผักจะค่อนข้างแตกต่างกันไปแล้วแต่ชนิดผัก แต่เท่าที่สังเกตจะลดราคาช่วงเย็น ประมาณ 18.00-19.00 น. แล้วแต่ชนิด ที่ลดราคาแน่ๆจะเป็นสลัดผักสำเร็จ ที่หั่นๆเอาไว้แล้วใส่กล่อง พวกนี้เก็บหลายวันไม่ดี เย็นๆนี่เวลาของเขาเล้ยย
ขนมปัง เค้ก
อันนี้มาแปลกจะเริ่มลด 10% ตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวัน พวกโซนเบเกอร์รี่ ขนมญี่ปุ่น เค้ก(บางวัน) ขนมปังแผ่น แต่ถ้ายังลดไม่สะใจ แนะนำให้ไปช่วงเย็นๆช่วงเวลาพร้อมๆกับเนื้อสัตว์ถ้าอยากให้ลดถึง 50% และจะมีโอกาสเจอเฉพาะบางวันที่โชคดีเท่านั้น เพราะหมดเร็วมาก
ผลไม้
มาอยู่ญี่ปุ่นอยากกินผลไม้มาก แต่ราคาแพงม๊ากกกกกกก ที่ไทยสับปะรดถุงละ 20 บาทหวานชื่นใจ คนขายยังแถมพริกกับเกลือให้อี๊ก ที่นี่กล่องเล็กๆ (จิ๋วเลยก็ว่าได้) เกือบ 200 เยนเข้าไปแล้วค่ะ ดังนั้นต้องเล็งจังหวะดีๆ ช่วงเวลาที่เจอบ่อยๆ จะเป็นช่วงค่ำๆ ประมาณ 20.00-21.00
อาหารสำเร็จรูป อาหารกล่อง
เช่น กราแตง ซูชิ ข้าวหน้าปลาดิบต่างๆ กับข้าวต่างๆ ก็ลดประมาณ 21.00 ค่ะ ก่อนห้างปิดนิดเดียว ยิ่งพวกของทอด บางซุปเปอร์เหลือชิ้นละไม่กี่สิบบาทเองค่ะ
การอ่านป้ายลดราคา
ใครที่มาญี่ปุ่นอาจงงงวยกับป้ายต่างๆที่แปะบนกล่องอาหาร มีตัวหนังสือเยอะแยะไปหมด แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าอันไหนลดราคาเท่าไรกันบ้าง มาดูตัวอย่างกันเลยดีกว่า
แบบลดเป็นจำนวนเยน
เห็นป้ายแดงๆเหลืองๆที่เรารอคอยบ้างไหม มีคำว่า 50円引き หมายถึงลดจากราคาเต็ม 50 เยน นั้นเอง วิธีสังเกตง่ายๆ คือจะมี ตัวเลข+円引き ตัวเลขดังกล่าวก็คือลดจากป้ายอีกเป็นจำนวนเท่านั้นเยนนั้นเอง
หลายๆที่จะใช้ป้ายลดราคาสีเหลืองแดงหน้าตาคล้ายๆแบบในภาพเลยค่ะ
แบบลดเป็นเปอร์เซ็นต์
แบบเป็นเปอร์เซ็นต์ ก็จะง่ายๆ เช่น ในภาพ 20% บวกกับตัวอักษร 引 ก็แปลว่าลดไป 20% จากราคาเต็มค่ะ
แต่มีวิธีเขียนอีกแบบที่แอ๊ดวานซ์ขึ้นมาหน่อย จะเป็นแบบมีคำว่า 割 ซึ่งแปลว่าหนึ่งในสิบ หากมีตัวเลขเพิ่มเติมเข้าไปเช่น 3割 ก็จะแปลว่าสามในสิบ หรือหมายถึง 30% ยังไงล่ะ หรือถ้า 4割 ก็หมายถึง 40% ง่ายนิดเดียว เอาเป็นว่าเห็นป้ายแดงๆติดอยู่ก็เป็นสัญญาณที่ดีที่เราจะได้ของลดราคาคุณภาพโอเคกลับบ้านไป คริคริ
แบบลดครึ่งราคา
ป้ายที่เรารอคอย ลดกันไปเลยครึ่งๆ มักติดป้ายแดงที่มีคำว่า 半額 อันนี้คงต้องจำหน่อย แต่ถ้าจำได้แล้วจะมีประโยชน์มากๆ เห็นป้ายแดงๆเหลืองๆ มีตัวอักษรเหมือนในรูปแล้วละก็รีบคว้ารีบหยิบให้ทันเหล่าแม่บ้านญี่ปุ่นกันนะคะ ของดีราคากันเอง คุ้มเกินคุ้ม (แต่อาจต้องรีบทานหน่อยนะคะ เพราะลดเยอะแปลว่ามักจะหมดอายุใกล้ๆกับวันที่ซื้อค่ะ)
ใครมีโอกาสแวะมาเที่ยวญี่ปุ่นก็ลองมาสำรวจเวลานาทีทองดูนะคะ เผื่อได้ของอร่อยและสบายกระเป๋าไปด้วย หรือมาดูการช่วงชิง(เล็กๆ) ของบรรดาแม่บ้าน (และดิฉันเอง) ก็ได้นะคะ สนุกดี
ทั้งหมดนี้เกิดจากสังเกตการณ์เอาเองนะคะ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับห้าง ใครมีโอกาสแวะมาเที่ยวญี่ปุ่นก็ลองมาสำรวจเวลานาทีทองดูนะคะ เผื่อได้ของอร่อยและสบายกระเป๋าไปด้วย หรือมาดูการช่วงชิง(เล็กๆ) ของบรรดาแม่บ้าน (และดิฉันเอง) ก็ได้นะคะ สนุกดี
และอีกเรื่องก็คือ ในบทความนี้ส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวจากซุปเปอร์ Itoyokado, Santoku และร้านสะดวกซื้อ Lawson store 100 ซึ่งเป็นร้านใกล้บ้านที่ดิฉันใช้ประจำค่ะ แต่ว่าจริงๆแล้วซุปเปอร์ทั่วๆไปของญี่ปุ่นแทบทุกที่ก็ล้วนมีการลดราคาของก่อนห้างปิดเช่นกันนะคะ เพื่อป้องกันของเหลือทิ้งค่ะ แต่เวลาลดราคาและของที่จะลดก็จะแตกต่างกันไปบ้าง ย้ายบ้านทีนึงก็ต้องสำรวจทีนึงค่ะ เอาเป็นว่าใครมาญี่ปุ่นไม่ว่าจะมาเที่ยวหรือมาอยู่ยาว ก็ลองสำรวจร้านใกล้ๆบ้านหรือโรงแรมดูด้วย เผื่อได้ของดีราคาถูกใจ ติดไม้ติดมือกลับไปกินค่ะ