วัดแห่งสีสันของเมืองเซนได "ซุยโฮเดน"

ซุยโฮเดน

ซุยโฮเดน (瑞鳳殿) เป็นสุสานที่มีความสำคัญที่สุด ในฐานะที่ฝังศพของขุนพลผู้เก่งกาจแห่งภาคเหนือและเจ้าเมืองเซนไดคนแรก ดาเตะ มาซามุเนะ ครับ หลายๆคนที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ การ์ตูน นิยาย หรือเกมของญี่ปุ่นนั้นคงจะเคยได้ยินชื่ออย่างแน่นอน เพราะเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่แม้แต่คนสมัยนี้ก็ยังนิยมนำไปสร้างเป็นตัวละครครับ

รูปภาพบริเวณทางเข้า

ตัวอาคารใช้สถาปัตยกรรมที่เน้นสีดำและทอง และใครที่เคยไปนิกโก้มาก่อนอาจจะสังเกตุได้ว่ามีลักษณะคล้ายๆกันกับศาลเจ้านิกโก้โทโชกู สถานที่ฝังอัฐิของโชกุนโตกุกาว่า อิเอยาสุ นั่นก็เพราะสถาปนิกและทีมงานผู้ก่อสร้างหลายๆคน มาจากกลุ่มคนเดียวกันนั่นเองครับ

ดาเตะ มาซามุเนะเป็นเจ้าเมืองอีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบในวัฒนธรรมต่างประเทศ เรียกได้ว่าเป็นคนหัวก้าวหน้าที่สุดคนนึงของญี่ปุ่นในสมัยนั้น เห็นได้จากการที่มีการส่งทูต
ของตัวเอง ฮาเซคุระ สึเนนากะ ไปเจริญสัมพันธไมตรีกับยุโรปครับ และสิ่งที่ได้กลับมานั้นก็มีหลายอย่าง รวมถึงรสนิยมในสถาปัตยกรรมแปลกๆ แบบที่คนญี่ปุ่นยุคนั้นยังไม่เคยเห็นมาก่อน เป็นต้นครับ

คงพูดได้อย่างเต็มปากว่า นี่เป็นโบราณสถานที่มีสีสันสวยงามสุดๆ แห่งหนึ่งในญี่ปุ่นอย่างไม่ต้องสงสัย

ซึ่งสิ่งที่เราควรรู้ก็คือ นี่ไม่ใช่อาคารดั้งเดิมตั้งแต่หลายร้อยปีก่อน แต่เป็นอาคารใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นหลังจากอาคารดั้งเดิมถูกทำลายลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองครับ แต่ทั้งนี้ ผู้สร้างใหม่ก็ได้รักษาหน้าตาของอาคารเอาไว้ให้เหมือนเดิมทุกประการ แม้แต่สีที่เอามาทาก็ยังใช้วิธีสกัดแบบดั้งเดิมครับ อย่างเช่นสีเขียวนั้นก็ไม่ได้ใช้สีเขียวแบบในยุคปัจจุบัน แต่ใช้สีสกัดจากแร่มาลาไคต์หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกว่าหินนกยูง ซึ่งไกด์ที่นี่ได้บอกผมมาว่า การจะทาสีเขียวสกัดจากมาลาไคต์ลงบนพื้นที่ขนาดเท่ากระดาษ A4 นั้น ต้องใช้เงินถึง 45000เยนเลยทีเดียว บอกได้เลยว่าญี่ปุ่นนี่ทุ่มไม่อั้นจริงๆ เพื่อการอนุรักษ์ประวัติศาสตร์ของตนเอง

ที่นี่เป็นที่ๆทำให้รู้สึกได้ถึงความพยายามในการอนุรักษ์โบราณสถานของญี่ปุ่น แบบที่หาดูที่อื่นไม่ได้เลยครับ

คันเซนเดน

คันเซนเดน(感仙殿) เป็นอีกหนึ่งอาคารที่อยู่ใกล้กัน สร้างขึ้นเพื่อดาเตะ ทาดามุเนะ เจ้าเมืองเซนไดรุ่นที่สองครับ

เซนโนเดน

เซนโนเดน(善応殿) เป็นอีกหนึ่งอาคารที่อยู่ใกล้กัน สร้างขึ้นเพื่อดาเตะ สีนะมุเนะ เจ้าเมืองเซนไดรุ่นที่สามครับ

แต่ว่าตั้งแต่รุ่นที่สี่เป็นต้นไป ไม่ได้มีศาลเจ้าหลากสีแบบนี้อีกแล้วครับ เป็นเพียงป้ายหินธรรมดาๆเท่านั้น น่าเสียดาย

พิพิธภัณท์

บริเวณใกล้ๆกัน มีพิพิธภัณท์ที่เก็บโบราณวัตถุที่่ขุดพบในสุสานครับ ซึ่งภายในพิพิธภัณท์นี้ห้ามถ่ายรูป จะน่าสนใจแค่ไหนก็ต้องลองดูเองนะครับ

สถานีเซนได

การเดินทางที่ง่ายที่สุดคงหนีไม่พ้นสถานีเซนไดครับ เพียงนั่งชินกังเซ็นมาลงที่สถานีเซนได แล้วต่อรถบัส Loople หรือ Sendai City Loop Bus ก็สามารถไปลงได้ง่ายๆที่ป้ายหมายเลข4 Zuihoden Mausoleum ครับ