13 ซูชิสำหรับนักชิมเลเวลสูง
นักชิมซูชิเลเวลแรกๆ ขอแนะนำให้กินซูชิที่กินง่ายๆ แบบไข่หวาน แซลมอน หรือมากุโร่ไปก่อน เมื่อมั่นใจว่าจะสามารถข้ามขั้นได้แล้ว ขอให้ลองตามไปชิมซูชิในลิสต์ทั้ง 13 แบบนี้ดู แล้วจะเรียกว่าสามารถเข้าถึงความเป็นซูชิญี่ปุ่นมากยิ่งขึ้น ขอบอกว่ายิ่งอันดับสูง ก็ยิ่งโหด แต่ก็ยิ่งอร่อยเด็ดเช่นกัน พร้อมยัง? ไปกันเลย
13. Uni
Uni หรือรู้จักกันดีในนามซูชิไข่หอยเม่น (จริงๆ แล้วมันคือ อัณฑะกับรังไข่ของหอยเม่น) ฟังดูโหด แต่ถ้าได้ไปกินร้านที่ของสดๆ แล้วจะรู้เลยว่าต่างกับที่เคยกินในเมืองไทยขนาดไหน เพราะว่าไม่มีกลิ่นคาวแม้แต่นิดเดียว และผิวสัมผัสแบบหลอมละลายในปาก รสชาติเข้มข้น กินแล้วจะหลงรัก
12. Tobiko
Tobiko Nigiri ไม่ใช่ไข่กุ้งอย่างที่เข้าใจกัน แต่เป็นซูชิโปะหน้าไข่ของปลาบิน ตามปกติจะมีสีส้มแดง รสออกเค็มอ่อนๆ แต่บางครั้งก็มีการนำไปย้อมเป็นสีอื่น เช่น ย้อมวาซาบิได้ไข่สีเขียว ย้อมขิงได้ไข่สีส้ม หรือย้อมกับหมึกของปลาหมึกจะได้สีดำ
11. Engawa
Engawa เป็นส่วนครีบ (หรือส่วนที่เป็นกล้ามเนื้อ) ของปลาพวกปลาลิ้นหมา จึงสามารถเคี้ยวได้อย่างกรุบกรับ อร่อยเพลิดเพลิน เป็นหนึ่งในซูชิยอดฮิตของคนญี่ปุ่นเลยทีเดียว
10. Hotate
Hotate หรือหอลเชลล์ เนื้อหวาน แน่น นุ่ม เป็นหนึ่งในสุดยอดซูชิห้ามพลาดเลยทีเดียว เราสามารถทานได้อย่างเอร็ดอร่อยตลอดทั้งปี แต่จะอร่อยมากเป็นพิเศษในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม
9. Anago
Anago เป็นปลาไหลน้ำเค็ม หน้าตาและการปรุงรสจะคล้ายๆ ปลาไหลน้ำจืดอย่าง Unagi แต่โดยตัวเนื้อของ Anago จะมีมันน้อยกว่าและกินได้ง่ายกว่า ไม่เลี่ยน และราคาถูกกว่า Unagi เยอะเลย
8. Gindara Nigiri
Gindara Nigiri หรือซูชิปลาหิมะนั่นเอง อย่างที่ทราบว่าปลาหิมะมีเนื้อที่มีรสชาติหวานอร่อย เนื้อแน่นและนิ่ม ยิ่งถ้าเป็นซูชิเนื้อปลาหิมะสดๆ แล้วจะยิ่งผสมผิวสัมผัสที่นุ่มเนียน เคี้ยวเพลิน อร่อยจนลืมแบบต้มหรือย่างไปเลย
7. Shirasu
ปลา Shirasu หรือปลาซาร์ดีนจิ๋ว หนึ่งขยุ้มโปะบนข้าวพันสาหร่าย มาเป็นตัวๆ จ้องตาเราเป๋งแบบนี้หลายๆ คนอาจจะกินไม่ลง แต่จริงๆ แล้วช่างหวานอร่อยและอุดมไปด้วยแคลเซียมและแร่ธาตุมากมายเลยล่ะ
6. Shako Nigiri
ซูชิกั้ง กั้งที่บ้านเราก็กินดองกินดิบๆ กันแต่ต้องเอาไปแช่น้ำปลาหรือเอาไปยำแซ่บๆ ก่อน แต่ของญี่ปุ่นเขาต้องเอาไปต้มก่อนนำมาทำเป็นซูชิ มีรสออกหวาน เนื้อจะยุ่ยกว่ากุ้งนิดหน่อย หากินยากแต่ถ้าได้เจอก็อยากจะให้ลอง เพราะว่ากั้งญี่ปุ่นก็อร่อยไม่แพ้กุ้งปูเลยทีเดียว
5. No-re so-re
No-re so-re เป็นซูชิลูกปลาไหลทะเล ตัวใสมองทะลุได้เลย เสริฟมาแบบพันสาหร่าย เคี้ยวได้กรุบกรับกว่าที่คิดแต่ก็ไม่ค่อยมีรสชาติเท่าไหร่ ออกหวานเพียงนิดหน่อย แต่เรียกว่ากินเอาความรู้สึกในการเคี้ยวเพลินมากกว่า
4. Natto Maki
ซูชินัตโตพันสาหร่าย สำหรับคนที่มาญี่ปุ่นจนชินกับนัตโตแล้ว เมนูนี้อาจจะไม่มีปัญหา และอาจจะเป็นเมนูโปรดของคุณไปแล้ว แต่สำหรับมือใหม่ ขอบอกเลยว่าโหดดิบ ทั้งกลิ่น (แรง!) ทั้งผิวสัมผัส (หยืด ยืด เหนอะ) ของถั่วหมักนั้น ไม่กลายเป็นฝันดีก็ฝันร้ายไปเลย เพราะแม้แต่คนญี่ปุ่นเอง คนชอบก็ชอบ คนเกลียดก็เกลียดจริงๆ
3. Sakura Nigiri
Sakura ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงดอก sakura หรอก แต่มันเป็นคำเรียกซูชิเนื้อม้าดิบๆ เพราะคนญี่ปุ่นบอกว่าเนื้อเป็นสีชมพูเหมือนซากุระ (อืม ก็ไม่เหมือนนะ แต่ช่างเถอะ) ใช่แล้ว...เนื้อม้า แถมดิบด้วย เพิ่มดีกรีความโหดแบบทวีคูณ โดยต้นตำรับเปิปพิสดารนี้อยู่ที่จังหวัด Kumamoto ใครสนใจเชิญได้เลย
2. Namako
Namako หรือแปลไทยได้ว่า ปลิงทะเลนั่นเอง ซูชิปลิงทะเล...เพราะว่าแค่ปลาทะเลมันอ่อนหัดเกินไปไงล่ะ โดยจะมีรสชาติเปรี้ยวนิดๆ ผิวสัมผัสหนึบๆ หน่อย ถ้าก้าวผ่านหน้าตาน่าสยองขวัญแบบนี้ไปได้แล้ว รับรองว่ากินแล้วจะติดใจรสชาติ
1. Funazushi
Funazushi เป็นซูชิแบบพิเศษ หากินยาก เป็นซุชิแบบ narezushi หรือซูชิที่ใช้ปลาหมัก (คล้ายๆ ปลาร้านั่นเอง) โดยจะต้องเป็นปลา Nigororobuna ที่พบในทะเลสาบ Biwa ในจังหวัด Shiga เท่านั้น โดยเป็นเมนูที่ทำโดยเชฟซูชิตระกูล Kitamura ที่สืบทอดต่อกันมาถึง 8 รุ่น (ตั้งแต่ปี 1619 เลยทีเดียว)