6 เทคนิคกินซูชิจานหมุนแบบคนญี่ปุ่น
ซูชิจานหมุนหรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า kaiten-zushi นี้มีอยู่ทุกหัวมุมถนน เป็นร้านซูชิที่ปั้นซูชิใส่จานและนำไปวางบนราง ลูกค้าก็นั่งรอบๆ รางและหยิบเฉพาะของที่อยากกินมากิน จัดว่าเป็นร้านที่เข้าไปกินง่ายเนื่องจากถึงไม่รู้จักชื่อซูชิก็สามารถเลือกกินได้จากหน้าตา และรู้ราคาก่อนกินแน่นอน โดยส่วนใหญ่แล้วก็จะราคาไม่แพง และสนุก อย่าลืมไปลองกินเป็นประสบการณ์
1. ประจำที่
เมื่อได้ที่นั่งแล้ว ก็เข้าประจำที่กันเลย โดยก่อนที่จะเริ่มคว้าจานซูชิที่หมุนอยู่บนรางนั้น ให้สำรวจของที่วางอยู่ตรงเคาน์เตอร์ที่นั่งก่อน ปกติแล้วพนักงานก็จะมาต้อนรับเราด้วยเซ็ทกระดาษเปียกเช็ดมือและตะเกียบ บางร้านก็จะใส่ตะเกียบไว้ในลิ้นชัก และจะมีถ้วยชาคว่ำอยู่ใกล้ๆ และมีกระปุกผงชาเขียวให้ตัก ปกติแล้วผงชา 1-2 ช้อนเล็กๆ ก็เพียงพอต่อ 1 แก้วแล้ว หลังจากนั้นก็กดน้ำร้อนใส่ ส่วนใครต้องการน้ำเปล่าก็สามารถขอจากพนักงานได้ เทโชยุใส่ถ้วยโชยุให้พร้อม แล้วก็ลุยได้เลย ส่วนใครอยากได้วาซาบิเพิ่มให้บอกพนักงานว่า Wasabi kudasai (ขอวาซาบิหน่อยครับ/ค่ะ)
2. ดูจานดีๆ ก่อนหยิบ
บางร้านก็จะมีเรทตายตัวคือทุกจานราคาเท่ากัน แต่บางร้านก็จะมีหลายราคา โดยให้สังเกตุที่จาน สีของจานจะบอกราคาของซูชิซึ่งจะแตกต่างกันไปตามร้าน และมักจะมีราคาเขียนกำกับอยู่ตามเมนูหรือฝาผนัง ถ้าใครช้อปจนตังค์เกลี้ยงแล้ว อย่าลืมสำรวจราคาดีๆ ก่อนค่อยหยิบ ทั้งนี้ เป็นมารยาทว่า หยิบแล้วก็ต้องกิน ไม่ควรใส่กลับไปที่เดิม ฉะนั้นตัดสินใจดีๆ ก่อนค่อยหยิบ มองไกลๆ จะได้มีเวลาคิดนานๆ
3. ประโยชน์ของขิงดอง
ขิงดองจะช่วยลบรสชาติที่ตกค้างอยู่ในปากระหว่างแต่ละจานซูชิได้ ฉะนั้นกินหมดหนึ่งจาน แล้วก็ตามด้วยขิงดอง ก่อนเริ่มจานใหม่จะช่วยทำให้รับรู้รสชาติซูชิแต่ละจานได้ดีขึ้น ทั้งนี้ไม่ควรใช้ขิงโปะหน้าซูชิเป็นท็อปปิ้ง แต่สามารถใช้ขิงจิ้มโชยุและมาป้ายบนเนื้อปลาบนซูชิได้ เป็นเทคนิคที่เหมาะกับซูชิที่คีบยากๆ หรือคนที่ใช้ตะเกียบไม่ค่อยคล่อง ทั้งนี้ในร้านซูชิส่วนใหญ่ ขิงดองเป็นของฟรี กินได้ไม่อั้นอยู่แล้ว
4. ซูชิแบบร้อนๆ ก็มี
ถ้าเป็นซูชิแบบที่ต้องเผา ย่าง หรือต้ม ให้สั่งใหม่ร้อนๆ เลยจะดีกว่ากินที่หมุนอยู่บนราง เพราะจะได้รสชาติที่ดีกว่า อย่างเช่นซูชิแซลมอนย่าง หรือที่เรียกว่า Aburi Salmon ที่จะถูกเผาร้อนๆ ที่ด้านบน และด้านล่างยังดิบอยู่ โดยรสชาติจะผสมผสานกันลงตัว ทั้งรสและผิวสัมผัส นุ่มละลายในปาก
5. สั่งที่อยากกินได้เลย
ถ้าไม่เจอของที่อยากกิน ก็สามารถสั่งได้เลย อย่าเกรงใจกินเท่าที่วิ่งมาบนสายพาน เพราะซูชิอร่อยๆ มากมายนอนรออยู่ในตู้ บางร้านเดี๋ยวนี้ก็จะมีหน้าจอให้กดสั่งได้แล้วพร้อมรูปประกอบเข้าใจง่าย หรือถ้าต้องสั่งกับคนปั้นซูชิ ก็ให้บอกว่า Sumimasen (ขอโทษนะคะ/ครับ) แล้วพูดชื่อของที่อยากกิน ตามด้วย Kudasai (please)
6. ถ้าไม่แน่ใจ...
เวลาที่มีปลาประเภทเดียวกันแต่เรียงต่อๆ กันมาหลายๆ แบบ แล้วไม่แน่ใจจะกินแบบไหน ขอให้ลองเลือกแบบที่เขียนว่า Fatty เลย เพราะยิ่งมีมันมาก ก็ยิ่งอร่อย (ตรงนี้คำแนะนำส่วนตัวนะ) อย่างเช่น Fatty Maguro คือเนื้อมากุโร่ที่มีมันเยอะ มันเยอะหรือน้อยให้ดูที่สีเนื้อก็พอเข้าใจได้ไม่ยาก อย่างปลามากุโระที่เป็นเนื้อล้วนมักจะมีสีแดงสด ส่วนชิ้นที่มีสีขาวแทรกตามเนื้อนั้น ก็มักจะเป็นเนื้อที่ติดมัน มีความมันมากกว่าเนื้อล้วน นุ่มอร่อย แทบละลายในปาก เพียงแต่ส่วนใหญ่ปลาส่วนที่ติดมันเยอะนี้ราคาก็มักจะสูงตามกันไป